Skip to main content
โดย : ฮิโตมิโตกูฉะดะ

ค่าย S1 ผู้ผลิตหนังเอวีในเครือโฮคุโตะ คอปอเรชั่น ได้กำหนดวางแผงหนังเอวีเรื่องสุดท้ายของ อากิโฮ โยชิซาวะ ในชื่อ The Final แล้วในวันที่ 7 มีนาคม 2019 เป็นการอำลาอาชีพดาราเอวีที่เธออยู่ในสถานะแนวหน้ามาตลอด 15 ปี หลังจากที่เธอประกาศมาก่อนหน้าแล้วตั้งแต่ตุลาคมในปีที่ผ่านมาว่าเธอจะเล่นหนังเอวีเรื่องสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2019 (คาดว่าจะมีหนังจากทางค่าย Maxing อีกเรื่องเป็นผลงานเรื่องสุดท้าย) ปิดฉากอาชีพนี้ด้วยวัย 35 ปี น่าจะนับได้ว่าเป็นดาราเอวีที่ยึดอาชีพหน้ายาวนานที่สุดคนหนึ่ง

อากิโฮ โยชิซาวะ เกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1984 ที่กรุงโตเกียว เริ่มต้นจากการเป็นนางแบบกราเวียร์ในปี ค.ศ. 2002 โดยในปีต่อมาเธอก็เริ่มเข้าสู่วงการหนังเอวีกับสองค่ายได้แก่ Alice Japan และ Max-A โดยมีผลงานต่อเนื่องกับทั้งสองค่ายทุกเดือนตลอด 3 ปี และเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล X City Grand Prix Awards สาขาดาราหน้าใหม่ในปี ค.ศ. 2003 อีกด้วย ก่อนที่ในช่วงปลายปี ค.ศ.2006 เธอจะย้ายไปเล่นให้กับค่าย Maxing และ S1 โดยมีผลงานออกทั้งสองบริษัททุกเดือนจนถึงปัจจุบัน

ไม่ได้เพียงแค่เล่นหนังเอวี แต่อากิโฮได้มีโอกาสเล่นหนังพิงค์ฟิล์ม, หนังอีโรติก, หนัง V-Cinema(ภาพยนตร์ที่ผลิตสำหรับตลาดวิดีโอ), ปรากฎในวิดีโอเกม, รายการโทรทัศน์ ซึ่งเธอแทบจะเรียกว่ามีผลงานในส่วนนี้ควบคู่กับอาชีพการเป็นดาราเอวีมาตั้งแต่ต้น ในปี ค.ศ.2012 เธอได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 3 ในการจัดอันดับดาราเอวียอดเยี่ยมตลอดกาลของทางเว็บไซต์ DMM และจนถึงปัจจุบันเธอปรากฎในหนังเอวีมากกว่า 1,000 เรื่อง(รวมผลงานหนังประเภทรวมฮิตด้วย)

จุดเปลี่ยนจริงๆ ของอากิโฮ คงไม่พ้นการย้ายมาอยู่กับสังกัด S1 ค่ายที่รวมดาราเอวีที่โดดเด่นทั้งรูปร่างหน้าตามาอยู่รวมกันมากที่สุดตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง ก่อนจะนำไปสู่การตั้งวง Ebisu Muscat วงดนตรีแนวเจป๊อปที่เริ่มก่อตั้งขึ้นปี ค.ศ.2008(ปัจจุบันไม่ได้มีผลงานแล้ว) แต่มีความพยายามจะปั้นวง โดยมีสมาชิกวงเป็นดาราเอวี ร่วมกับนางแบบกราเวียร์หมุนเวียนในวง และสามารถทำให้วงการหนังเอวีถูกพูดถึงและกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้ชื่อของเธอโด่งดังมาพร้อมๆ กับสมาชิกที่โดดเด่นในวงอย่าง โซระ อาโออิ, ยูมะ อาซามิ, ไอโนะ คิชิ และ ริโอะ

ค่าย S1 ยังเป็นคล้ายแรกๆ ที่เริ่มใช้โมเสคบาง ถ่ายทำให้เห็นว่าฉากร่วมประเวณีทั้งหลายในเรื่องมีการสอดใส่กันจริงๆ ไม่ได้เสียบหลอก หรือมีโมเสคหนาๆ มาคอยกวนใจ(แม้จะไม่ใช่ค่ายแรกก็ตาม) ทำให้ช่วงที่อากิโฮย้ายค่าย มีการปรับภาพลักษณ์จากดาราเอวีแนวไอดอลให้ดูโฉบเฉี่ยว เซ็กซี่ชัดเจนขึ้น เข้ากันดีกับนัยน์ตาดุๆ ของเธออยู่ทีเดียว

โดยทางค่ายยังโปรโมตให้เธออยู่ในสถานะไอดอลสำคัญของทางค่ายมาตลอดเวลา 15 ปี มีดาราหน้าใหม่เข้ามาแล้วก็จากไป แต่อากิโฮยังคงยืนโดดเด่นโดยท้าทาย(ว่าไปโน่น)ไม่เคยห่างจากหนังรวมดาราประจำปี หรือเป็นแม่งานในงานอีเวนต์ต่างๆ เสมอ โดยเฉพาะหลังการอำลาวงการของ ยูมะ อาซามิ ในแง่หนึ่งดาราเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจหนังโป๊เหล่านี้

แต่ถ้าจะถามนักดูหนังเอวีแล้วถึงผลงานของเธอ ผมมักได้คำตอบคล้ายๆ กันเสมอๆ คือไม่ค่อยได้ดูกันสักเท่าไหร่(อ้าว) เนื่องจากปริมาณหนังที่เยอะแต่เนื้อหาวนเวียนอยู่กับการเปลี่ยนอาชีพและฐานะให้เธอตั้งแต่ นักเรียน, พยาบาล, ครู, แม่บ้าน, สายลับ, ผู้จัดการ, ประธานบริษัท, ทนายความ, คอสเพลย์, คุณนาย, เจ้าสาว มีตั้งแต่จำยอม, ถูกข่มขืน, สมยอม, ไปจนบทที่เป็นฝ่ายรุกผู้ชาย แต่ด้วยลุคของเอวีไอดอลที่เป็นมาตั้งแต่ต้น เธอจึงไม่ได้เลือกเล่นบทที่โหดเถื่อน หรือรับทุกบทบาทแบบนักแสดงสายแพลนนิ่งที่พอมาทำอาชีพนี้ก็ต้องสามารถเล่นได้ทุกแนว อากิโฮจึงไม่เคยมีหนังที่ต้องเล่นกับคนผิวสี, ชายชราหน้าหื่น, การร่วมเพศทางประตูหลัง, หรือแม้แต่การร่วมเพศแบบหลั่งข้างในจนถึงที่สุด เพราะน่าจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของเอวีไอดอลไปได้ ประกอบกับหน้าตาที่แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้แลดูน่ารัก ตาหวาน แบบสายไอดอล หุ่นสมส่วน แต่ก็ไม่ได้มีส่วนไหนที่โอฬารจนเตะตาชายไทย

แล้วในแง่ดาราเอวีความโดดเด่นของ อากิโฮ อยู่ตรงไหน ?

จากการติดตามวงการและบทบาทของเธออาจแบ่งความโดดเด่นของเธอที่น่าสนใจอยู่ 3 อย่าง

1. ฝีมือการแสดง - อากิโฮแม้จะไม่ได้เล่นบทที่เน้นฉากร่วมเพศอันท้าทายมากนัก และเธอเองก็ไม่มีผลงานในสายดราม่าที่ต้องเล่นหนังเอวีมีเนื้อเรื่องแบบค่าย Attackers แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในโอกาสอันน้อยนิดสำหรับแสดงอารมณ์ต่างๆ จากหนังเอวีหลายเรื่อง เธอทำหน้าที่ได้อย่างดี โดยเฉพาะบทประเภทสาวใหญ่คุณนายสุดเนี้ยบที่กลายเป็นทาสกามที่ระยะหลังผู้สร้างผูกขาดให้เธอบ่อยๆ เธอเล่นได้อย่างน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง

2.การเป็นมาตรฐานของเอวีไอดอลในการรับบทต่างๆ - อย่างที่ได้อธิบายไปว่าดาราเอวีจำนวนหนึ่งสุดท้ายแล้วก็ต้องเลือกเล่นทุกบท ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ไปจนบทวิตถารต่างๆ ซึ่งแต่เดิมหากย้อนกลับไปสิบห้าปีก่อน บทที่ดาราเอวีระดับแนวหน้านั้นมักมีจำกัดไม่ต่างกันนัก แต่ละปีค่ายหนังเหล่านี้มักจะต้องคิดซีรี่ส์เรื่องใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากเบื่อหน่ายกับคนดู ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่อากิโฮรับเล่น ก็เป็นเสมือนมาตรฐานให้ดาราเอวีคนอื่นในสังกัดเช่นกัน ว่าถ้าระดับตัวแม่ที่เลือกงานอย่างเธอ ยอมรับเล่นแนวไหน คนอื่นก็ควรกล้ารับงานซีรี่ส์เดียวกันนั้นได้เช่นกัน

3.การเป็นไอคอนให้กับดาราเอวีคนอื่น - สถานะของอากิโฮ ไม่ใช่เพียงดาราเอวแถวหน้า แต่นั่นรวมถึงการประสบความสำเร็จในการมีผลงานบันเทิงอื่นๆ ที่ไม่ต้องไปจบชีวิตด้วยการขายบริการทางเพศ เธอจึงเป็นเหมือนไอคอน อาจจะด้วยการผลักดันของทางบริษัทเองก็ตาม หากในอีกทางก็ต้องยอมรับวินัยในการทำงานของเธอ ที่สามารถออกผลงานมาได้ตลอด 15 ปีต่อเนื่องอย่างไม่มีพัก รักษาหุ่นและผิวพรรณได้อย่างชนิดที่เพื่อนร่วมรุ่นวัยเดียวกันหลายคนที่แจ้งเกิดมาพร้อมๆ กันได้แต่เหลียวมอง

สถานะการเป็นไอคอนของอากิโฮดังกล่าวนี่เองที่เป็นเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็งที่ได้แต่คิดว่าดาราเอวีคนใดจะสามารถไปอยู่ในตำแหน่งเธอเป็นคนต่อไป ? ซึ่งนับว่ายากยิ่งในยุคที่ธุรกิจกลุ่มนี้เข้าสู่จุดเปลี่ยน

หลายคนคาดการณ์ไว้ว่าเธอน่าจะเดินตามรอยความสำเร็จของดาราเอวีชื่อดังที่อำลาวงการก่อนหน้าอย่าง มาเรีย ทาคางิ, โฮโนกะ, โซระ อาโออิ และมิฮิโระ ที่หันเหไปในวงการบันเทิงปกติได้ จากปกติที่เธอเองมีผลงานโดดเด่นในสายนี้อยู่ก่อนแล้ว

ก็ขอให้เธอประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่ต่อไป
 
โป๊ศาสตร์ พิศวาสความรู้คู่กามารมณ์


ข้อมูลจาก Tokyokinky, และ S1

 

บล็อกของ กลุ่มนักโป๊ศาสตร์

กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิกูฉะดะยูอิ อุเอฮาระ โชคชะตาของเอวีหน้าเหมือนดาราดัง
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิกูฉะดะFaleno + โทรุ มุรานิชิ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะหากจะนับว่าหนังเรื่องไหนได้รับการยกให้เป็นหนังอีโรติก หรือพิงค์ฟิล์มเรื่องแรกของญี่ปุ่น คำตอบคือผลงานของ ซาโตรุ โคบายาชิ ในปี 1962 ที่ชื่อว่า 肉体の市場(Nikutai no Ichiba) หรือ Flesh Market ที่อาจตั้งชื่อไทยได้ว่า "ตลาดโลกีย์"
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
 ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ.
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ.
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ..
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ(ขึ้นต้นชื่อเรื่องอาจทำให้เข้าใจผิด ปัจจุบันเธอหายแล้วนะครับ).