Skip to main content

 

โดย ฮิโตมิโตกูฉะดะ

วันนี้จะมานำเสนอหนังที่ไม่มีฉากโป๊ แต่มีประเด็นเกี่ยวกับหนังเอวีกันบ้าง เป็นหนังฉายโรงในญี่ปุ่นทั่วไปที่มีชื่อว่า I Just Didn't Do It (それでもボクはやってない) เพราะคาบเกี่ยวอย่างยิ่งกับหนังแนวจิคันที่ได้นำเสนอไปเมื่อโพสต์ที่แล้ว

(เป็นหนังที่ดูมานานแล้ว ต้องขออภัยหากจำรายละเอียดผิดพลาดนะครับ)
(คำเตือน - มีเผยเหตุการณ์สำคัญของหนัง)

มันน่าจะเป็นเหมือนวันอื่นๆ เช่นทุกวันของเทปเป้ หนุ่มวัยทำงานที่นั่งรถไฟโดยสารไปสัมภาษณ์งาน แต่ทันทีที่เขาถูกจับข้อมือโดยสาวมัธยมคนหนึ่งเพื่อแจ้งจับกับพนักงานรักษาความปลอดภัยว่าเป็นคนลวนลามเธอ ชีวิตของเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ชายหนุ่มไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นคนทำ เพราะเขาไม่ได้ลวนลามใคร แต่ทันทีที่เขาถูกตั้งข้อหาดังกล่าว เขาก็มีสภาพไม่ต่างจากคนผิด พนักงานรถไฟ ตำรวจ, ทนายจากรัฐ ไม่มีใครมองว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ สายตาทุกคนมองเขาเป็นโรคจิตที่ชอบลวนลามผู้หญิงบนรถไฟ ที่เรียกว่า จิคัน ซึ่งตามสถิติ หญิงสาววัยเรียนถูกลวนลามขณะโดยสารกว่า 2 ใน 3

เช่นเดียวกับในหนังเอวีแนวจิคัน ตัวละครฝ่ายชายและตัวประกอบทั้งหลายมักเป็นผู้กระทำต่อหญิงสาวอย่างที่พวกเธอไม่มีโอกาสโต้ตอบ แต่ในอีกด้าน เมื่อใดก็ตามที่มีผู้ชายถูกจับกุมและถูกกล่าวหาว่าลวนลามพวกเธอ สังคมญี่ปุ่น และสายตาผู้คนก็จะไม่เปิดโอกาสให้มองเป็นอื่นได้นอกจากกลายเป็นอาชญากร คนนอกของสังคมไปโดยทันที

แต่เทปเป้ยังยืนกรานว่าเขาไม่ผิด เขาตัดสินใจจ้างทนายขึ้นศาลเพื่อบอกพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นคนผิด แม้ว่าโอกาสชนะจะริบหรี่อย่างยิ่ง ทั้งสถานะของตนเองที่ตกงาน การถูกรื้อค้นจากตำรวจและพบหลักฐานเป็นหนังเอวีแนวจิคันในบ้านอีกด้วย ยิ่งแสดงให้เห็นแนวโน้มว่าเขามีโอกาสเป็นโรคจิตตามที่สังคมตัดสิน หากทนายที่ทำคดีให้ก็เลือกใช้หลักฐานเชิงประจักษ์อื่นๆ ทั้งการจำลองสถานการณ์บนรถไฟที่จำเลยอธิบายเหตุการณ์ได้แม่นยำว่าเขาทำอะไรขณะเกิดเหตุบนรถไฟ หาพยานที่เห็นเหตุการณ์มาเท่าที่ทำได้ และยิ่งการทำคดีผ่านไป เทปเป้ก็พบว่าเขาไม่เดียวดาย มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยเลยที่ตกเป็นจำเลยสังคมถูกกล่าวหาว่าเป็นจิคัน ทั้งที่ตนเองบริสุทธิ์

ซึ่งหากพิจารณาจริงๆ ในรถไฟที่คนเบียดเสียดกันแน่น การจับผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้กระทำผิดจริงก็ย่อมมีได้เช่นกัน

I Just Didn't Do It เป็นหนังแนวขึ้นโรงขึ้นศาล(Courtroom Drama) ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงที่ภายหลังผู้ที่ถูกกล่าวหาในคดีนี้ได้รับการตัดสินว่าบริสุทธิ์หลังจากสู้คดีมานานถึง 5 ปี ติดตามชีวิตของชายที่ถูกกล่าวหาในคดีที่ดูเผินๆ เป็นคดีเล็กๆ แต่แท้จริงกลับสะท้อนให้เห็นถึงข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นที่มักบีบบังคับให้ผู้ถูกกล่าวหาว่ามีความผิดไม่มีสิทธิปกป้องตนเองอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งสะท้อนลักษณะของสังคมญี่ปุ่นอีกด้วย

น่าสนใจคือที่หนังประเด็นแรงๆ และมีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่งแบบนี้ กลับทำเงินได้อย่างน่าพอใจในญี่ปุ่น และเป็นตัวแทนส่งเข้าชิงออสการ์สาขาหนังภาษาหนังต่างประเทศของญี่ปุ่นใน ปี ค.ศ.2008 อีกด้วย

มาซายุกิ สุโอะ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติจาก Sumo Do, Sumo Don't และ Shall We Dance ? โดยเฉพาะเรื่องหลังที่ทำเงินและกวาดรางวัลในญี่ปุ่นถล่มทลาย เขาทำหนังที่ดูมีเนื้อหาเคร่งเครียดตั้งแต่ต้นจนจบ ผิดกับแนวทางที่ถนัดคือหนังตลกได้อย่างสนุก และจบอย่างทรงพลัง โดยเป็นงานที่ห่างจากผลงานก่อนหน้าถึงสิบปี แสดงให้เห็นว่านี่เป็นงานที่เขาสนใจในเรื่องดังกล่าวอย่างแท้จริง เพราะในอีกด้านหนึ่งสุโอะเติบโตมาในฐานะคนทำงานเขียนบทหนังโป๊ญี่ปุ่นในอดีตที่เรียกว่า พิงค์ฟิล์ม โดยเขามีงานกำกับชิ้นแรกเป็นหนังพิงค์ฟิล์มขึ้นหิ้งเรื่อง Abnormal Family: Older Brother's Bride ในปี ค.ศ.1984 หนังของเขาเองก็มักตั้งคำถามถึงระเบียบอันเคร่งครัดตายตัวของสังคมญี่ปุ่น ไม่แปลกอย่างใดที่เขาจะมองคดีนี้ในประเด็นเดียวกันคือผู้คนที่ถูกลดทอนคุณค่าจากกลไกบางอย่างในสังคม

สื่อลามก อย่างหนังเอวีแม้ในสังคมญี่ปุ่นที่เปิดโอกาสให้ผลิตกันอย่างถูกกฎหมาย หากก็ถูกมองเป็นผู้ร้ายในสายตาของเจ้าหน้าที่รัฐเหมือนเดิม มากกว่าจะมองว่ามันคือเครื่องมือสำหรับระบายความใคร่ แต่มองมันเป็นเครื่องมือกระตุ้นยั่วยุให้ผู้ต้องหากระทำผิตตามเนื้อหาในหนัง

ศาล (ในหนังเรื่องนี้) ซึ่งเป็นผู้ตัดสินคดี และถูกมองเป็นหนึ่งในอำนาจสำคัญของรัฐถูกให้ภาพที่เบื้องหลังกลับมีการคอรัปชั่น ไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออย่างแท้จริง ขณะที่ทนายของเทปเป้กำลังติดต่อเจ้าหน้าที่ในศาล หนังก็พาเราไปเห็นเจ้าหน้าที่ในสถาบันแห่งนี้กำลังคุยกันแบบวงในถึงการจ่ายเงินเพื่อได้ตำแหน่งราวกับเป็นเรื่องปกติ เมื่อหนังจบที่การสู้คดีของเทปเป้แพ้อย่างน่ากังขา หากในมุมมองของเขาได้เปลี่ยนไปสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นสถานที่สำหรับการพิสูจน์ความเป็นจริงอีกต่อไป อาคารของศาลถูกถ่ายอย่างไม่ได้ดูสง่างาม เป็นเพียงตึกสีมอๆ เก่าๆ

หากในใจของเขาเชื่อมั่นว่าตนไม่ได้กระทำอย่างถูกกล่าวหา และนั่นต่างหากคือความเป็นจริง

ข้อมูลจาก
imdb.com
https://www.japantimes.co.jp/…/…/soredemo-boku-wa-yattenai/…

โป๊ศาสตร์ความรู้คู่กามารมย์

 

บล็อกของ กลุ่มนักโป๊ศาสตร์

กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
**
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
แปลและเรียบเรียง
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
บทความโดย นักโป๊ศาสตร์ท่านหนึ่ง
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
เรียบเรียงจาก Sarah Leonard. 2006. “pornography and obscenity.” In Palgrave Advances in the Modern History of Sexuality, edited by Matt Houlbrook and Harry Cocks, 180-205. London: Palgrave Macmillan.แปลและเรียบเรียงโดย orgasmography
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
เรียบเรียงจาก Sarah Leonard. 2006. “pornography and obscenity.” In Palgrave Advances in the Modern History of Sexuality, edited by Matt Houlbrook and Harry Cocks, 180-205. London: Palgrave Macmillan.แปลและเรียบเรียงโดย orgasmography 
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
ประวัติย่อว่าด้วยการศึกษา “ประวัติศาสตร์สื่อโป๊” ในโลกวิชาการสากล (2): ยุคแรกเริ่ม
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
ประวัติย่อการศึกษา “ประวัติศาสตร์สื่อโป๊” ในโลกวิชาการสากล (1): บทนำ
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
แปลและเรียบเรียงโดย PORN-TRIP
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
แปลและเรียบเรียงโดย PORN-TRIP
กลุ่มนักโป๊ศาสตร์
เกริ่นนำ - โป๊ศาสตร์