พื้นที่ป่าในประเทศไทย เป็นพื้นที่ที่มีคนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว โดยเฉพาะชุมชนชาวเขาทั้งหลายที่อาศัยก่อน ต่อมาพื้นที่ป่าก็ถูกประกาศเป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติ หลายแห่งที่พยายามเอาคนออกจากป่า ตัวอย่างการย้ายคนออกจากพื้นที่เดิมมีอยู่หลายแห่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนที่ถูกย้ายและสังคมโดยรวมเป็นอย่างมาก เพราะทำให้เกิดปัญหาการย้ายถิ่นจากชนบทสู่เมือง การอพยพแรงงาน และปัญหาอื่นๆ ติดตามมาอีกมากมาย ทางออกหนึ่งก็คือการสนับสนุนให้คนที่อยู่ในป่าได้อยู่ในพื้นที่เดิมและดูแลป่าด้วยดังนั้น การทำความเข้าใจ ให้คนอยู่กับป่าได้และดูแลป่า น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
มีคำถามว่า คนที่อยู่ในป่าเขาควรจะได้ใช้ทรัพยากรหรือไม่
ทรัพยากรเป็นสิ่งที่ต้องใช้ ทุกคนต่างใช้ทรัพยากรธรรมชาติกันทั้งนั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนของประเทศ แต่จะใช้อย่างไรให้ยั่งยืน หรือใช้อย่างไรไม่ให้หมด นี่เป็นคำถามที่ทุกคนต้องตอบ
เช่นเดียวกับคนที่อยู่ในป่า เขาก็ต้องใช้ประโยชน์จากป่า เราจะให้เขาเฝ้าป่าอยู่เฉยๆ ได้อย่างไร ป่าจึงต้องมีไว้กิน
ทุกชีวิตต้องอยู่รอด ต่างพยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด อย่างเช่นการเข้าป่าเพื่อไปล่าสัตว์ หรือการนำนักท่องเที่ยวเข้าไปล่าสัตว์ป่า ตลอดจนการบุกเบิกป่าเพื่อเปิดพื้นที่ทำกินเพิ่มขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งของการยังชีพเพื่อการอยู่รอด
หากศึกษาเรื่องราวที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างใช้ความเข้าใจเราก็จะพบว่า มีปัจจัยต่าง ๆ อีกมากมายที่เราต้องทำความเข้าใจและเอื้อเฟื้อต่อกันเพื่อการอยู่ร่วมในสังคมที่เป็นสุข
หมู่บ้านในดอยอินทนนท์
ที่ดอยอินทนนท์มีหมู่บ้านอยู่หลายหย่อมบ้าน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ แยกออกมาเป็นหย่อมๆ หมู่บ้านที่ฉันเดินทางไปในปี 2551 ชื่อหมู่บ้านตีนผา
หมู่บ้านตีนผา
มารู้จักหมู่บ้านตีนผากันก่อน
หมู่บ้านตีนผา เดิมชื่อหมู่บ้าน ห้วยห้อม เพราะมีลำห้วยและเครือห้อมอยู่มากมาย ห้อมใช้สำหรับย้อมผ้า แรกเริ่ม มีคนอยู่ด้วยกันไม่มากนัก เพียงสามหลังคาเรือน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านผาล้อม ที่ได้ชื่อหมู่บ้านผาล้อมเพราะมีแต่หน้าผาล้อมเอาไว้ ทุกครอบครัวเลี้ยงชีพด้วยการทำไร่หมุนเวียนเท่านั้น
![](http://blogazine.prachatai.com/upload/praejaru/praejaru_20081030-165923.jpg)
แปลงผักของพ่อ
ต่อมาหมู่บ้านนี้ได้ชื่อใหม่อีกครั้งว่า “บ้านตีนผา”
บ้านตีนผา มีผู้คนมากขึ้น เพราะมีคนจากหมู่บ้านใกล้ๆ โยกย้ายเข้ามาอยู่ด้วย จำนวนหลังคาเรือนเพิ่มขึ้น ประชากรเพิ่มขึ้น และมีโบสถ์ ทุกวันนี้ผู้คนนับถือศาสนาคริสต์
![](http://blogazine.prachatai.com/upload/praejaru/praejaru_20081030-170447.jpg)
ดอกไม้ริมทาง
ปัจจุบันที่หมู่บ้านตีนผา มี 43 ครอบครัว มีไฟฟ้าใช้ แต่ชาวบ้านตีนผาใช้แบบประหยัด ในบ้านใช้ไฟฟ้าเพียงดวงเดียว ไม่มีแม้แต่ไฟห้องน้ำ และยังคงหุงหาอาหารด้วยฟืนตามเดิม ในบ้านแต่ละหลังไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ใช้ไฟฟ้าแต่อย่างใด หรือมีน้อยมาก และไม่เปิดไฟตามถนน
นี่แสดงว่าชาวตีนผารู้จักพอเพียง คือรู้จักใช้เท่าที่จำเป็น