Skip to main content
ถ้าฉันพูดว่า อย่าเอาดอกไม้มาให้ฉันถ้าเธอไม่ได้ปลูกเอง เธออย่าโกรธฉันนะ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง วันหนึ่งก่อนฤดูฝน ฉันเดินทางไปหมู่บ้านหลังดอยอินทนนท์

 

ฉันพบผู้ชายคนหนึ่ง เขาพูดว่า

"เอาดอกไม้ของฉันออกจากหน้าอกเธอ"

หนุ่มใหญ่คนหนึ่งพูดขึ้น หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจคงสงสัยว่าเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ จึงไม่ยอมเอาดอกไม้ออกจากกระเป๋าเสื้อ

"เอาออกเถอะ" เขายืนยันอีกครั้ง แต่หญิงสาวยังไม่ทำตาม ยังคงเอาดอกไม้เหน็บในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกต่อ

ในที่สุดเขาก็บอกว่า " มันอันตราย ดอกไม้ฉันมีแต่ยา"

\\/--break--\>

คราวนี้เธอรีบเอาดอกไม้ออกและค่อย ๆ วางลงบนพื้น ก่อนจะเดินไปบอกเพื่อน ๆ ที่เอาดอกไม้สวย ๆ มาเสียบผมให้เอาดอกไม้ออกจากผม

 

ดอกไม้มีสีสวยเป็นอันตราย มียาฆ่าแมลงและสารเคมีเคลือบแฝงอยู่คนปลูกดอกไม้บอกเช่นนั้น

 

ครั้งแรกที่เห็นดอกไม้มากมายมารวมกันอยู่ที่นี่ พวกเธอตรงเข้าไปหาดอกไม้ และเก็บดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ที่ไม่ได้ขนาด ดอกไม้ที่ก้านซ้ำก้านหัก มารวมไว้เป็นของตัวเอง

 

ทุกคนต่างมีดอกไม้คนละกำมือ ฉันเองเอามาถือไว้ดอกหนึ่งเหมือนกัน วัยเยาว์ ฉันปลูกดอกไม้ชนิดนี้เหมือนกันแต่ดอกเล็กมากไม่สวยสมบูรณ์เท่าแบบนี้ ดอกไม้สวยสมบูรณ์ ดอกใหญ่ สีสด แต่เอามาแนบกับหน้าอกยังไม่ได้ เสียบผมก็ไม่ได้

 

สงสารคนปลูกดอกไม้ขึ้นมาจับใจ ถ้าไม่ให้ปุ๋ย สารเคมี ยาฆ่า ดอกมันจะไม่สวย ต่อไปชายหนุ่มนำดอกไม้มาให้หญิงสาว ภาพที่หญิงสาวยกดอกไม้ขึ้นหอมชื่นใจคงไม่มี คิดถึงงานแต่งงานที่มีดอกไม้มากมายมาประดับประดา คิดถึงงานตายดอกไม้ถูกนำมาเคารพร่าง เจ้าภาพนั่งประนมมือสูดกลิ่นยาฆ่าแมลงอ่อน ๆ เข้าไป

 

 

ฉันเคยได้ยินมาว่า กุหลาบกลิ่นหอมแต่อย่าดมถ้าเราไม่ปลูกเอง เพราะกุหลาบฉีดยาฆ่าแมลงและสารเคมีเยอะ เรียกว่าต้องพ่นยากันบ่อย ๆ แต่เพราะความงามของกุหลาบทำให้เราอดไม่ได้ที่ต้องเอาจมูกไปแตะเบา ๆ มะลิก็เหมือนกันอย่าเอามาอบไว้ในห้องนอนหรือห้อยแขวนคอ แต่ไม่คิดว่าเยอร์บีร่าก็เหมือนกัน

 

เคยได้ยินแต่ว่า "สวยแต่รูปจูบไม่หอม" เป็นความหมายถึงผู้หญิงสวยแต่ไม่มีคุณสมบัติอื่น ๆ

แต่ครั้งนี้เราต้องยอมรับกับคำใหม่ สวยทั้งรูปจูบก็หอมแต่อย่าเข้าใกล้ดีกว่า อันนี้หมายถึงดอกไม้สวย ๆ บางอย่างที่เราไม่แน่ใจว่ามาจากไหน

 

เพื่อนที่ไปด้วยกันเธอเป็นพยาบาล เธอไม่ได้สนใจดอกไม้ เธอหลีกไปนั่งคุยกับคนแก่คนหนึ่งอยู่ที่ม้านั่งด้านหน้า เมื่อฉันเล่าให้เธอฟังว่า เธอบอกว่า เพราะคนต้องการมากเกินไป เกินกว่าธรรมชาติจะให้ได้

 

จริงของเธอ ดอกไม้สวยอยู่แล้วแต่เราไม่พอใจอยากให้มันสวยเข้าไปอีก อยากให้ดอกโต อยากให้สีสดที่สุด อยากให้ก้านแข็ง

 

บ้านที่เรามาพัก เป็นบ้านรับซื้อดอกไม้ มีดอกไม้หลากหลายชนิด มีคนนำดอกไม้มาขายตลอดเวลา ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เด็ก ๆ ก็แบกดอกไม้มาข้างหลังเหมือนกัน ฉันถามเจ้าของบ้านว่า ดอกไม้ทุกดอกต้องปลูกด้วยยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีทั้งนั้นหรือ เธอบอกว่าไม่ทุกอย่าง และชี้ให้ดูดอกไม้ชนิดไหนบ้างที่แข็งแรงไม่ต้องพ่นยาหรือพ้นแต่น้อย

 

บ้านเธอรับซื้อดอกไม้และส่งต่อไปขายที่ตลาดดอกไม้ในเมืองเชียงใหม่และบางส่วนถูกส่งไปที่ตลาดปากคลองตลาดที่กรุงเทพฯ เธอไม่ได้ส่งดอกไม้ทุกวัน สามวันส่งครั้งหนึ่ง นั่นคือสามวันดอกไม้มาที่นี่ครั้งหนึ่ง วันนี้ตรงกับวันส่งดอกไม้

 

ก่อนส่งต้องคัดเลือกดอกไม้อีกครั้ง และมัดเป็นกำ ๆ วางรวมไว้ก่อนจะทำเป็นมัดใหญ่ ๆ อีกครั้ง

คนขายดอกไม้ก็เอาดอกไม้มาส่ง ชายหนุ่มที่ห้ามหญิงสาวไม่ให้เอาดอกไม้เสียบกระเป๋าเสื้อเขาก็มาขายดอกไม้เหมือนคนอื่น


สำหรับฉันมันเป็นเรื่องน่าประทับใจจริง ๆ ก่อนเขาเดินทางกลับถามเขาว่าบ้านอยู่ตรงไหน

"เดินขึ้นไปตรงด้านบนโน้น" เขาตอบและออกปากชวนไปบ้านเขา


เช้าวันต่อมาเราจึงปีนป่ายเดินไปบ้านของเขา ที่บ้านของเขาปลูกดอกชบาไว้หน้าบ้านชบาดอกใหญ่สีชมพูสวยงามเหลือเกิน กลีบซ้อนกันเหมือนดอกโบตัน

 


เขาอยู่กับภรรยาสองคนกำลังเตรียมตัวไปไร่ ผู้หญิงกำลังห่อข้าวด้วยใบไม้ เพื่อนพยาบาลคุยกับเขา ส่วนเพื่อนคนอื่น ๆ ก็ถ่ายรูปกัน ตัวฉันไปขอชิมข้าวหุงร้อน ๆ กับปลาย่างในครัววันนี้เธอมีปลาย่าง กับน้ำพริกแดง เธอพูดอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่องเพราะเธอพูดภาษาของเธอแต่เข้าใจว่า เธอบอกให้ฉันกินปลาแต่ปลาเธอมีนิดเดียวฉันจึงกินแต่น้ำพริก มิตรภาพบางครั้งก็ไม่ต้องพูด ฉันจับมือเธอเป็นการกล่าวคำสวัสดีและขอบคุณ


ช่วงฝนใกล้มาทุกบ้านไปไร่ ที่นี่ปลูกข้าวและดอกไม้ ไม่นานหมู่บ้านก็เงียบจนกว่าจะถึงยามเย็นใกล้มืดพวกเขาจึงกลับมา ก่อนไปไร่เขาบอกให้พวกเราพักที่บ้านเขาก็ได้


"นอนที่นี้ได้เลย ไม่ต้องกลัว"

เขายืนยันความปลอดภัย เช้านี้ฉันรู้สึกว่า ชีวิตนี้ยังสวยงาม

 

 

 

 

 

บล็อกของ แพร จารุ

แพร จารุ
ถ้าฉันพูดว่า อย่าเอาดอกไม้มาให้ฉันถ้าเธอไม่ได้ปลูกเอง เธออย่าโกรธฉันนะ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง วันหนึ่งก่อนฤดูฝน ฉันเดินทางไปหมู่บ้านหลังดอยอินทนนท์  ฉันพบผู้ชายคนหนึ่ง เขาพูดว่า"เอาดอกไม้ของฉันออกจากหน้าอกเธอ"หนุ่มใหญ่คนหนึ่งพูดขึ้น หญิงสาวมีสีหน้าแปลกใจคงสงสัยว่าเธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจ จึงไม่ยอมเอาดอกไม้ออกจากกระเป๋าเสื้อ "เอาออกเถอะ" เขายืนยันอีกครั้ง แต่หญิงสาวยังไม่ทำตาม ยังคงเอาดอกไม้เหน็บในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอกต่อ ในที่สุดเขาก็บอกว่า " มันอันตราย ดอกไม้ฉันมีแต่ยา"
แพร จารุ
หมู่บ้านหายโรงเรียนร้าง เดือนก่อนฉันเดินทางไปที่หมู่บ้านหนึ่ง แถวเชียงดาว ไกลเข้าไปในป่า พบโรงเรียนร้างไม่มีเด็ก ไม่มีครู โรงเรียนถูกปิดเพราะไม่มีเด็กเรียน และไม่ใช่แค่โรงเรียนร้างเท่านั้น หมู่บ้านก็หายไปด้วย  ผู้ชายคนหนึ่งเล่าให้ฉันฟังว่าหมู่บ้านนี้ถูกซื้อไปแล้ว "จริงเหรอ เหมือนโฆษณาเลย โฆษณาอะไรนะ ที่ผู้ชายคนหนึ่งถามซื้อเกาะให้ผู้หญิง" ใครคนหนึ่งพูดขึ้น"ไม่ใช่แค่โฆษณาหรอก ละครโทรทัศน์ก็มีเหมือนกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งเขาซื้อเกาะให้หญิงสาวเป็นของขวัญหากเธอแต่งงานกับเขา" ฉันบอกพวกเขา
แพร จารุ
แปลกใจใช่ไหมค่ะ ต้นไม้ใหญ่ อ่างเก็บน้ำและหมีแพนด้า  มันเกี่ยวกันอย่างไร  เรื่องมันเป็นอย่างนี้ค่ะ  เดือนฉันก่อนไปศาลากลางมา  ที่หน้าศาลากลางมีคนมากมาย มีชาวบ้านมาประท้วงเรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำ 
แพร จารุ
ในขณะที่ผู้คนที่มาดูต้นไม้ ต่างตื่นเต้นกับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ใหญ่ที่สุดที่นี่คือต้นจามจุรีหรือต้นก้ามปูที่สโมสรเชียงใหม่ยิมคานา เป็นสนามกอล์ฟเก่า เขาเล่ากันว่าต้นไม้นี้มีอายุมากกว่าร้อยปี ส่วนสูง 15 เมตร ผ่านการประกวดต้นไม้ใหญ่ที่ได้รับรางวัลของเทศบาลมาแล้ว
แพร จารุ
"ที่ซึ่งหนุ่มสาวหอบฝันมาทิ้ง" ฉันบอกเพื่อน ฟังดูน่าตกใจและดูจะเป็นคนใจร้ายไปสักหน่อย และหากว่าน้อง ๆ หนุ่มสาวที่นี่ได้ยินฉันพูดทำนองนี้ พวกเธออาจเสียกำลังใจ เพราะการเดินทางครั้งนี้เราพบหนุ่มสาวพวกที่ฉันคิดว่าเป็นพวก"หอบความฝัน"มากมายหลายคนทีเดียว
แพร จารุ
"ปายแบบเมื่อก่อนจะไม่กลับมาอีกแล้ว เรามาค้นหาคุณค่าใหม่กันเถอะ" เพื่อนคงรำคาญที่ฉันพร่ำเพ้อถึงความหลังครั้งก่อน (ฉันเขียนมาถึงตอนนี้เมื่อฉบับที่แล้ว )  เราได้เพื่อนใหม่ทันที เธอชื่อเนเน่ เธอบอกว่า เธอเดินทางมาที่นี่ปีละหลาย ๆ ครั้ง และแม้ปายจะเปลี่ยนไปอย่างไรเธอก็ยังชอบปาย เธอมาเพื่อหาที่นั่งอ่านหนังสือสบาย ๆ ช่วง เย็น ๆ ก็ออกเดินเล่นไปตามถนน เดินคุยกับคนโน้นคนนี้เพราะผู้คนส่วนมากเป็นมิตร
แพร จารุ
  1 ปาย เปลี่ยนไปมาก และที่ฉันไม่กล้าไปปายก็เพราะกลัวความเปลี่ยนแปลง กลัวจะเสียใจกับความเปลี่ยนแปลงก็เลยพยายามจะลืมปายทำเหมือนหนึ่งว่าไม่เคยมี ไม่เคยไป
แพร จารุ
"ป้าไฟไหม้ ไฟไหม้ " หลานสาวส่งเสียงอยู่หน้าบ้าน "ไฟไหม้ที่ไหน" ฉันถาม เดี๋ยวนี้อาการตื่นกลัวเรื่องไฟไหม้ป่าหลังบ้านลดลงไปแล้ว หากเป็นเมื่อสองปีก่อน ฉันจะกลัวมาก กลัวจนตัวสั่นและรีบโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายทันที และบางครั้งก็ลงมือดับไฟเองก่อนที่รถดับเพลิงจะมา พร้อมกับบ่นด่าคนที่ทำไฟไหม้ คนที่มาเก็บของกินในสวนร้างแต่ไม่เคยสนใจหน้าแล้งยามที่ไม่ค่อยมีอะไรเก็บกิน และเจ้าของสวนที่ทิ้งสวนตัวเองไว้แล้วไม่มาดูแล  รวมถึงดับเพลิงที่มาช้าไม่ทันใจ
แพร จารุ
"อย่าลืมเอาถุงผ้าไปซื้อของ" ฉันเคยบอกใครต่อใครจนเขาเบื่อหน่ายกันแล้ว "อย่าเอาถุงพลาสติกเข้าบ้านถ้าไม่จำเป็น"และทุกครั้งที่ฉันเห็นถุงพลาสติกที่ใส่อาหารแล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะ ก็จะรู้สึกโกรธขึ้นมาทันทีและรีบเก็บแต่ถุงพลาสติกก็ไม่เคยหมดไปจากบ้านฉัน มันวางอยู่ตรงโน้นตรงนี้เสมอ ๆ
แพร จารุ
ผู้ชายคนหนึ่งนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาขยันมาก นั่งทำงานทุกวัน เขามีเมียขี้คร้านกับหมาพุดเดิ้ลตัวเล็ก ๆ ที่ส่งเสียงเห่าแหลมเล็กทั้งวันทั้งคืน เสียงหมาเห่าดังมาก  แต่เขายังนั่งทำงานอย่างไม่สนใจ  เมียเขานอกจากขี้คร้านแล้วขี้รำคาญด้วย เธอจึงลุกขึ้นไปที่ประตูอย่างหงุดหงิดรำคาญใจเพราะเธอกำลังนอนอ่านหนังสืออย่างสำราญอยู่ ประตูบ้านยังไม่ปิด บ้านนี้ประตูจะไม่ปิดจนกว่าเจ้าของบ้านจะนอน  ลักษณะพิเศษคือเจ้าของบ้านไม่ชอบปิดประตู เปิดไว้ทั้งวันทั้งคืน
แพร จารุ
 หน้าร้อนใคร ๆ ก็ไม่อยากมาเชียงใหม่ อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวเลย คนที่อยู่เชียงใหม่ที่พอออกจากเมืองได้ก็จะพากันออกจากเมืองไปพักผ่อนที่อื่นฉันเป็นคนหนึ่งที่หนีออกจากเมืองเชียงใหม่ในช่วงหน้าร้อนเสมอ ให้เหตุผลกับตัวเองว่า ถือโอกาสกลับใต้ เป็นการกลับบ้านปีละครั้ง
แพร จารุ
“บ้านฉันไม่ได้อยู่ใกล้สถานบันเทิงเลยค่ะ แต่หนวกหูมากเหมือนกัน” ฉันบอกเพื่อนที่โทรศัพท์มาปรึกษาเรื่องที่บ้านของเธออยู่ใกล้สถานบันเทิง หลังจากที่ ฟังเธอบ่นปรับทุกข์ เรื่องเสียงเพลงหนวกหูจากสถานบันเทิง เธอเล่าว่าย้ายบ้านจากกรุงเทพฯ มาอยู่ต่างจังหวัดได้ไม่นาน ร้านอาหารคาราโอเกะก็มาเปิดข้างบ้าน