Skip to main content
 
 
มิตรสหายไทงง


1
ปกติ เดือนธันวาคมมีวันหยุดมากมายอยู่แล้วทั้งต้นเดือนปลายเดือน    ยังไม่พอ   ยังไม่หนำใจมีลดแลกแจกแถม   มีวันหยุดชวนปวดประสาทจากสุเทพ เชือกสุบรรณ   และวันหยุดจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยผู้ฝักใฝ่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสมทบอีกขบวนหนึ่ง เอาเป็นว่า ไม่ต้องทำการทำงานกันล่ะ แต่ทว่า ไม่ประกาศหยุดรับเงินเดือน

2
ในวันที่บรรดาคนดีผู้มีความรักล้นเหลือกำลังคิดหนักว่า  จะล้างบางกอกที่พวกเขาใช้อารยะขัดสนจนเลอะเทอะเปรอะเปื้อนด้วยมืออันแสนดีนี้อย่างไรนั้น    เราอยากบอกว่า  "มีคนตาย"  เพื่อสังเวยความดีของพวกคุณตั้ง 5 ศพ และยังมีหลายชีวิตถูกคุมขังและยังไม่ได้รับอิสรภาพเพราะพวกเขาแสดงออกด้วยเหตุจูงใจทางการเมืองเมื่อเมษายน - พฤษภาคม 2010

3
หลังจากถอยสุดซอยแล้ว   บรรดาม็อบนกหวีดเองก็เดินหน้าสุดแรงด้วยอุดมการณ์ชาตินิยมสุดขั้วเหมือนกัน   หากเป็นการร้องเพลงชาติไทยหน้าเสาธงแล้วละก็   คนชักธงก็คงชักจนสุดเสาแล้ว   แต่คนร้องไม่ยอมหยุดร้อง ก็เลยต้องชักขึ้นชักลง

จนในที่สุดก็ "ชักงง" ว่า ตกลงคุณจะต่อต้านหรือจะระรานกันแน่?

4
ต้องขอบคุณ  "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"  นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยที่เลือกทางแห่งสันติมากกว่านองเลือด ขอบคุณที่เธอไม่เลือกปราบปราบประชาชนที่ออกมาต่อต้านเธอด้วยปิยวาจาเท่าที่สติปัญญาและจริตจะก้านของผู้ดี ผู้มีการศึกษาจะสรรหามาได้

ความเห็นส่วนตัวของผม นายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนและยึดโยงกับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่าเพิ่งยุบสภา อย่าเพิ่งลาออกนะครับ ไม่เช่นนั้นไอ้พวกไอ้ห้อยอีโหน พวกนั่งร้านรัฐประหารทั้งหลายมันจะฉวยโอกาสมานั่งปฏิบัติการเขียนกติกาล้าหลังที่สุดครั้งล่าสุดของจักรวาลเป็นแน่แท้

คุณยิ่งลักษณ์ต้องกำหนดวาระประเทศไทยเพื่อสร้างกติกาใหม่ แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ให้เป็นเสรีประชาธิปไตย ให้เป็นไปในแนวทางที่ยึดโยงกับประชาชนมากขึ้นและตัวแสดงทางการเมืองเองก็ต้องตระหนักต่อจากนี้ว่า พวกท่านจะต้องเห็นหัวประชาชนมากขึ้นด้วยเช่นกัน

แหงนมองฟ้าแล้วอย่าลืมก้มมองดิน
ดินอันเป็นที่มั่นที่คุณเหยียบยืนนั่นแหละที่ทำให้คุณอยู่ได้อย่างมั่นใจ

5
พฤศจิกาโกลาหลผ่านพ้นอย่างงงงวยแบบช่วยไม่ได้ แต่กองทุนช่วยเหลือครอบครัวผู้ต้องขังคดีการเมืองเสื้อแดงอุบลราชธานี ยังมีความเคลื่อนไหว

วานนี้ เสนาะ เจริญพร และเสาวนีย์ ตรีรัตน์ อเลกซานเดอร์ ผู้เพิ่งลัดฟ้าจากอเมริกามาเพื่อฟังการประกาศชัยชนะแบบงงงันนั้นได้เบิกเงินกองทุนเพื่อมอบให้ครอบครัวผู้ต้องขัง คดีการเมือง 4 คน ครอบครัวละ 2,000 บาท คือ ครอบครัวของปัทมา มูลมิล ธีรวัฒน์ สัจสุวรรณ สนอง เกตุสุวรรณ์และสมศักดิ์ ประสานทรัพย์ และโอนให้ครอบครัวของแกนนำชาวบ้านสกลนครที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีเมื่อคราวอภิสิทธิ์และสุเทพใช้กระสุนจริงและสไนเปอร์สลายการชุมนุมเมื่อเมษา - พฤษภา 2010 รวมเป็นเงิน 10,000 บาท

6
หลังจากวันที่ 6 พฤศจิกายน 2013 เป็นต้นมา มีความเคลื่อนไหวในแดนบวกของบัญชีกองทุนฯ 4 รายการ คือ

1) วันที่ 14 พฤศจิกายน 400 บาท
2) วันที่ 15 พฤศจิกายน 93,416 บาท
3) วันที่ 16 พฤศจิกายน 2,000 บาท
4) วันที่ 27 พฤศจิกายน 20,000 บาท

รวมเงินเข้าบัญชี 115,816 บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นห้าพันแปดร้อยสิบหกบาทถ้วน) รวมกับเงินเก่า บัญชีกองทุนของเรามีเงินเหลือ 232,050.87 บาท (สองแสนสามหมื่นสองพันห้าสิบบาทแปดสิบเจ็ดสตางค์) และหน้าบัญชีธนาคารล่าสุดก็ได้แสดงตัวต่อหน้ามิตรสหายไทงงกันแล้ว

หากต้องเบิกเพื่อมอบให้ครอบครัวผู้ต้องขังเดือนละ 10,000 บาท ก็จะอยู่ได้อีกประมาณ 23 เดือนหรือเกือบ 2 ปี

7

เงินบริจาคในบัญชีอาจช่วยเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวผู้ต้องขังคดีการเมืองได้นิดหน่อยเท่านั้น และดูเหมือนว่า พวกเขาไม่ต้องการมันเลยหากแลกกับการที่คนของครอบครัวพวกเขาได้รับอิสรภาพ

เราจึงพร่ำบอกเสมอว่า
อย่าลืมว่าพวกเขาถูกขัง
อย่าขังพวกเขาจนถูกลืม
คืนพวกเขาให้ครอบครัว
คืนความยุติธรรมในสังคม

ประชาชนจงเจริญ

ธีร์ อันมัย
4 ธันวาคม 2013
 
 
 
 
 
 
 
 
 

บล็อกของ Redfam Fund

Redfam Fund
ช่วงนี้ในบล็อกของกลุ่มเราคงนำเสนอข่าวคราวเกาะกระแสนิรโทษกรรมประชาชน นะครับ
Redfam Fund
หากเราสนใจทุกอย่าง เราคงทำอะไรไม่ได้ดีสักอย่าง คงต้องมีบางอย่างที่เราเลือกจะสนใจมัน ใส่ใจและให้เวลากับมัน คุณคิดว่าเรื่องสำคัญอย่างที่ว่านั้นมีอะไรอยู่ในหัวคุณบ้าง?  
Redfam Fund
 การเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งในบ้านนี้เมืองนี้เป็นเรื่องยากลำบากกว่าที่เราคิด
Redfam Fund
"อาจเป็นเพราะข่าวดีที่ม็อบน้ำแข็งสลายการชุมนุมไปเมื่อวานก่อนค่ำ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า แนวทาง 3 ข้อที่จตุพร ประกาศไว้ คือ เดินหน้าแก้ รัฐธรรมนูญ ผลักดันเรื่อง ICC และนิรโทษกรรมนักโทษการเมืองจากเหตุการณ์ปี 53 ในส่วนที่เป็นประชาชนคนรากหญ้า จะเริ่มผลักดันกันอย่างจริงจังมันอาจกลายเป็นเพียงความหวังเดียวในขณะนี้ของพวกเขาทั้ง 4 ที่เฝ้ารอมานานกว่า 2 ปี นับจากวันที่พวกเขาถูกจับกุมคุมขัง และยังรอวันกลับบ้านอยู่ทุกวัน ทุกวินาที
Redfam Fund
 พอจะลงมือเขียนอะไรก็มีเหตุให้ต้องครุ่นคิดระแวดระวังเสียมากมายแต่หากไม่เขียน ใครเลยจะรู้เรื่องราวที่เราอยากบอกหรือแม้แต่ได้เขียนออกไป ใครเลยจะสนใจรื่องราวที่เราอยากบอก
Redfam Fund
นี่คือวิธีคิดของ "คนที่ถูกกล่าวหา"ว่า "เผาบ้าน เผาเมือง" ไม่มีสักคำที่เขาจะบอกว่า ต้องยึดอำนาจ ต้องรัฐประหาร ต้องใช้กำลัง เหมือนวิธีคิดของชนชั้นกลวง นักวิชาการ สื่อที่อ้างความดีแต่กระหายเลือด  รวมทั้งนักกิจกรรมทางสังคมที่อยู่ห่างไกลจากหลักการ เสรีประชาธิปไตย
Redfam Fund
 จดหมายระบายทุกข์จากนักสู้เพื่อประชาธิปไตย เมืองดอกบัว