Skip to main content

 

 
 
 
            @    สวัสดี อรุณรุ่ง พฤหัสบดี  ๑๒  กรกฏาคม ๒๕๕๕
 
                                 - - -           สวัสดีเพื่อนพ้องน้องพี่
                                   ทุกชีวี มิห่างเหิน
                                    ก้าวไป  หยัดยืนเดิน
                                    มินาน เนิ่น  สมใจปอง ฯ
              
             สวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่      ทุกๆ  ชีวิต
             สวัสดี ต้นไม้ใบหญ้า  โต๊ะ   เตียง   ตั่ง    Note  Books  
            สวัสดี เพื่อน สกุณี สกุณา  อันเจื้อยแจ้วบรรเลงเพลงยามเช้า
 
                           . . .  Good  Morning - - -
 
             “ Liza   BIRD ”
 
                   “   Khrew ”
 
                  “    Cattherin …   แมว  ”
 
                             E t c   …   E t c  …  E t c …
 
          ผองเพื่อนฝรั่ง คนหนุ่มสาว ผู้งดงามใจงาม  ที่ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม ให้มวลมนุษยชาติ บนดาวโลกดวงนี้ !  ที่พวกเธอ มาทำงานที่เมืองไทยสมมุติ ที่นี่
 
               . . .   สวัสดี พี่น้องปากมูน  ราศีไศล    บ่อนนอก  - หินกรูด     , จนะนะ – สงขลา   พี่น้องอุธยานแห่งชาติ แม่วงศ์ ที่กำลังจะถูกเขื่อนรุกราน  ,  พี่น้องชายหาดภาคใต้ ที่กำลังถูกโครงการ เชฟร่อน สร้างท่าเรืออ่าวน้ำลึก ( ปู ปลา กุ้ง หอย  และวิถีชิวิต ฉิบหายหมด ฯลฯ )
 
                    สวัสดี ผองเพื่อนพี่น้อง สิทธิมนุษยชนที่ทำงานอย่างแข็งขันทั่วโลก
                     สวัสดี  พี่น้อง “ นักรบสายรุ้ง   … Rainbow   Warriors ”
 
                                    ฯลฯ  … ฯลฯ … ฯลฯ  …
 
                         @  เช้า   ตื่นขึนมาตอนตีสี่ครึ่ง   ความอ่อนเพลียของร่างกายเมื่อวันวาน เรื่มหายไป      …  ความสดชื่น  แจ่มใส  เริ่มมาเยือน
 
                               - - -   เดินลงไปยังลานโล่งกว้างของสำนักงา น  ฯ      ท้องฟ้าโปร่ง   คารวะ ดาว  เดือน  ท้องนภา ฯลฯ “ ดวงดาวประกายพรึก ”   ทอแสงทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ    บ้างก็เรียกว่า”  ดาวประจำเมือง “    ขึ้นทางทิศตะวันตก  ชาวบ้านเรียก  “ ดาวหมูกอง”   ชาวน้านสมัยก่อนทั้งในเมือง และ บ้านนอก  เลี้ยงหมู เกือบทุกครัวเรือน  พอยามเย็นย่ำค่ำคืน  น้องหมู ก็จะส่งเสียงร้องลั่นบริเวณ  ร้องกินข้าว 
 
                  … “ อู๊ดดดดดด     อู๊ด  ๆๆๆ   ดังลั่นทั่งปริมณฑล  หมู เธอหิวข้าวนั่นเอง  (  ”กอง”   ภาษาล้านนาเหนือ หมายถึง  “  คิดถึงหา”   คิดถึงหาอยู่นั่นเหละ  หมูกอง ก็หมายถึงน้องหมู กองหาข้าวมื้อเย็น! )
 
                         พระจันทร์   คืนนี้ครึ่งเสี้ยว  ทำให้นึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ  “ จันทร์เสี้ยว ” ….  “   The           Crescent   Moon  ”    ของ  “  ระพินทร์นาถ  ตะกอร์ ”    นักเขียนชาวอินเดีย  ที่เคยได้รับรางวัล    Nobel  Prize   จากหนังสือ “ คีตาญชลี ”     …  ภาษาของท่านงดงามมาก  เป็นภาษกวี  กวีแฝงปรัชญญาชีวิต   งดงามดังเช่นภาษาเขียนของ  “  คาริล    ยิบราล ”    นักเขียนชาวเลบานอน
 
                 …    พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว    หากได้โอบกอดดวงดาว สักดวง  ก็งดงามาก ดังเช่นเครื่องหมายเดือนเสี้ยว โอบกอดดวงดาว ที่เป็นสัญญลักษณ์ศาสนาอิสลามของพี่น้องมุสลิม
 
                          - - -   และทำให้นึกถึง หนังสือชื่อ  “  เคียว เกี่ยว ดาว ”   ที่สองสหาย ร่วมกันแต่ง … “ ประเสริฐ   จันดำ ”   ( ลาโลกไปแล้ว)   และ  “ สมคิด  สิงสง ”    ( ผู้แต่งเพลง “ คน กับ ควาย ”     )  อดีตสองนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ   หนังสือ “เคียวเกี่ยวดาว” ชื่องามมาก    … สองสหาย ร่วมกันลงสู่ชนบท  ช่วงหลังเหตุการณ์ โค่นล้มเผด็จกการทหาร     ๑๔   ตุลาคม ๒๕๑๖   โดยนักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาขน ฯลฯ  สองสหายนักเขียน นักต่อสู้  ก็  เข้าสู่ที่หมู่บ้านซับแดง   อำเภอมันจาคีรี  ขอนแก่น  อิสาน  ตั้ง    “  หมู่บ้านซับแดง”  ร่วมทำนา ร่วมวิถีชีวิตกับพี่น้องชาวบ้าน จนถูก เพ่งเล็งจากทางการว่าเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์…   พอเกิดเหตุการณ์   ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙   มหาโหด        ที่นักศึกษาประชาชน ถูก  เข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยมทารุณ   แขวนคอ  เผา  ฯลฯ     จากพวกขวาจัด (ไม่ต้องถามว่า พวกขวาจัด  ประกอบด้วย คนพันธุกรรมใดบ้าง?   ซึ่ง ณ  ปรัตยุบันนี้   ก็ยังมี สลอนอยู่        )   ใจกลางเมืองหลวง เมืองศูนย์กลางพระพุทธศาสนา  แห่งประเทศไทยสมมุติ    ณ ท้อง สนามหลวง – สนามราษฏร์  และ ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   ซึ่งเหตุการณ์  มหาโหดนั้น ก็  ก็โหดไม่แตกต่างจาก   เหตุการณ์  พฤษภาโหดปี ๒๕๓๕  ที่รัฐบาล สุจินดาสั่งลุย …  และก็มหาโหด ไม่แตกต่างจากพี่น้องพันธมิตรฯ เสื้อเหลืองสมมุติ ถูกลุย ปี๔๙  ในรัฐบาลพลเรือน สมัยนั้น ….     และก็มหาโหด ไม่แตกต่างจาก พี่น้อง นปช.  สีเหลืองสมมุติที่ถูกลุยที่ราชประสงค์ ปี ๕๓  จากรัฐบาลพลเรือน จารีตนิยม          “อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ    
 
                        - -  -    ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือ รัฐบาลที่มาจากปากกระบอกปืน (รัฐประหาร  ล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตย  )   ทีอำมหิตหฤโหด   เราต้องต่อต้านและคัดค้าน  การกระทำทารุณกรรมเช่นนี้ ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายสมมุติใด  ๆ  ให้เอาตัวเราเข้าวัด  ถ้าเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้องลูกเมียเราฯลฯ  เราจะรู้สึกอย่างไร   เมื่อต้องสูญเสีย  เราพึง “ เอาใจเขา  มาใส่ใจเรา”   … เพราะผู้ที่สูญเสีย ล้มหายตายจาก  ล้วนก็คือเพื่อนมนุษยชาติ ร่วมโลกร่วมแผ่นดินของเรา   ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในประเทศสมมุติไหน  ทวีปใด …
                      . . .   ฉั น   สูดลมหายใจ ลึก  -  ลึก  เข้าปอด    เอา ออกซิเจน เข้าไ ป    คลาย คาร์บอนไดอ๊อกไซด์  ออกมา  …  ฉั น   เดินออกกำลังกาย ยามเช้า ด้วยดวงใจ หฤหรรษ์… “ อีดำ”   กับ    “ อีเทา  ”    ฉัน  เรียกชื่อ   ตามขนสีของเธอ   …. แมวดำ และ แมวเทา เดินตามหลัง…  จากนั้น ฉั น   เดินจงกรม  … “  ยุบหนอ   - พองหนอ ”   …  หายใจเข้า   หายใจออก 
 
                                   - - -  ราตรี    สงบ     ดวงใจฉัน  เย็น   นิ่ง    ลึก  ฯลฯ   ความสงบเงียบ   ทำให้เรามีสมาธิ  มีสติ  กำหนดจิต   คิดอะไรได้หลายอย่าง     พร้อมดวงใจแผ่เมตตา ให้ สรรพสิ่ง  สรรพชีวิต   จิต ก็  ประภัทรสร   ชื่นเบิกบาน 
 
                                   . . .     ย่างเท้า เข้า ห้องครัว  ทำน้ำมะนาวกิน ดื่ม   เช้านี้ กับช่วงต่อไป  นี้   จักงดดื่มน้ำมังสะวิรัติ …  ฉั น  เรียกน้ำสุราว่า  “น้ำมังสะวิรัติ”    เพราะเป็นเหล้าต้มบริสุทธิ์     มีแป้งเหล้า  ผสมสมุนไพรหลายอย่างอันเป็นภูมิปัญญาของ พ่ออุ๊ย  แม่อุ๊ย  ปู่ ย่า  ตา  ยาย   ทวด ฯลฯ   นำมาต้ม  กลั่นเป็น “น้ำมังสะวิรัติ” บริสุทธิ์ รสหอมหวานละมุน  ว๊อดก้า  ก้อ ว๊อดก้า เหอะ  อาจชิดซ้าย … ha  ha …
 
                        พูด เล่า สรรพคุณ เช่นนี้   คงมีคนอยาก ตำจอก กะ ข้าพระพุทธเจ้า
 
                                     - - -  ยัง  ยัง  ยังก่อนจ้า   มีริทึ่ม จังหวะ งามๆ  ค่อยว่ากันนะ เจ้าค่ะ @
 
 อรุณรุ่ง  ๑๓  กรกฏาคม  ๒๕๕๕  ,   เชิงดอยสุเทพ,  ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่.
 
 
                               
 
 
             

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉั น นั่งคุยกับ อ. เปี๊ยก(เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ณ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน" ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน แต่ "อ.คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เ ดื อ น - ดา ว งามแจ่มฟ้าลาวัณย์แ ร ม - เรืองรองพลันบรรเจิดจ้าป ระ กา ย - เดือนดาวแห่งคืนวันดับวูบ แล้วเฮยเ รื อ ง - เรื่อเหลืองอร่ามแล้วอาบโลก งามนิรันดร์ ฯน้ อ ง ชา ย....ยินข่าวเจ้ากลับคืนสู่ผืนดินข่าวคราวจากผองเพื่อนแห่งล้านนาฉัน งงงวย และใจหายต่อมา... เริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์จิตสมาธิ* " ต ถา ตา .... มันเป็นไปเช่นนั้นเอง "
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1) ธ ร ร ม ชา ติบ่า ยในห้วงฤดูฝนนี้ ณ "สุดสะแนน"ฟ้าครื้มเมฆ ใบไม้ไม่ไหวติง ผีเสื้อยังคงเริงรำร่อนดูดดื่มเกสรดอกไม้ ไก่แจ้บางตัวคุ้ยเขี่ยหาอาหาร บางตัวก็พักผ่อนไซร้ขนนอนหลับ แม่ไก่ที่นี่มีสามสี่ครอก งดงามนักน่าขำและงดงามไก่แจ้ครอกหนึ่งมีแม่สองตัวช่วยกันเลี้ยง ถาม "อ้ายฮวก"เจ้าของร้านสุดสะแนนเธอบอกว่า "แม่ไก่สองตัวช่วยกันฝัก" งดงามมากเลย... ผีเสื้อสีน้ำเงินบินมาเกาะที่แก้วน้ำฉันฉันนั่งอยู่ใต้ร่มไม้มะม่วงอันร่มรื่น มดแดงมาเกาะที่แขนฉันฉันค่อยๆจับเขาไปปล่อยเกาะที่ร่มมะม่วง
แสงดาว ศรัทธามั่น
 (1)พรรษาราตรีพรรษาฤดูฉันนั่ง ณ ลานโล่งกว้างแห่งเมืองใหญ่ยามราตรีนี้ทุ่งฟ้าดูมิสดใสด้วยเมฆฝนทว่า...เป็นครรลองของธรรมชาติที่เป็นไปเช่นนั้นเอง“ตถาตา”
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ดอรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนูแมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่างคางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้าไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไรฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอบ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว…
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม     …
แสงดาว ศรัทธามั่น
Up fighting together for "FRIEND OF BURMA" and give power heart hug for.......FRIEND SENDING  STRENGTH TO NAGIS VICTIMS"พ ลั ง ใ จและโอบกอดแด่การ ลุ ก ขึ้ น สู้ของพี่น้องชนเผ่า และป ระ ชา ช น ชา วพ ม่า (มิใช่ชนชั้นปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์มิยันม่าร์) และพี่น้องที่ถูกพายุนากิส โหมซัดกระหน่ำทำให้ต้องตายนับแสนๆ คนและสูญหายอักนับหมื่นคน******
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2301645201/  ..... เ พ ลง ROCK ผสานเพลง เ ร ก เ ก้"บอบมาเล่ย์" and WE CAN PLAY พริ้งผ่องใสทั้ง ไทย - สากล - ลูกทุ่ง ...COUNTRY SIDEทั้ง เพลง ฉ่ อ ย ชื่นฉ่ำไล้ เพลง ร อ ง เ ง็ งเพลง ลำ เพ ลิ น เพลง จ๊ อย ซ อเพลง ป ว่า เ ก อ ญ อ พลิ้วบรรเลงเพลง รั ก โ ล ก เฉิดเชวงคือ บทเพลง แห่ ง รั ก อั น งด งา ม !!!For Humanity friend on Earth ... We Love Y ou !!!!คิมหันตฤดู, 22 เมษายน 2551"สุดสะแนน", ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
* @ " ปุ๋ ย ... นั น ท โ ช ติ  ชั ย รั ต น์ "เพื่อนแจ่มชัด สู้เพื่อโลก - ประชาชนได้สุขสันต์พริ้มบทเพลงกล่อมเห่เป็นนิรันดร์พลิ้วเพลงฝันกล่อมโลก กล่อมชีวี- - - ชั่วชีวาแห่งเธอแกร่งกล้างามเสมอนั้นเหลือที่คุณค่า คงมั่น หยัดยืน ณ ปฐพีร่วม " ลุ ก ขึ้ น สู้ " เพื่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ ... ประชาชน... เ ธ อ มี จิ ตวิ ญ ญา ณ สะอาดสดใสงา ม ด ว ง ใ จ เ จิ ด จ้าแจ่มเหลือล้นแห่งเพื่อนพี่น้อง " ส มั ช ชา ค น จ น "เพื่อ ผู้ทุกข์ทน ทุกข์ยาก ได้กำ ชั ย !!!... พริ้ มตาหลับลงเถิด เพื่อนแก้วเอ๋ยสายลมโชยพัดรำเพย อวยพรให้ผีเสื้อ แมลงปอ แล ดอกไม้โ ล ก เ อ กภ พ จั ก ร วาล ฉ่ำไล้ โอบกอด เ ธ อ** จิ ต วิ ญญา ณ- เ ธ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
"ท่าน ค า ลิ ล ยิ บ ร า น "คือหนึ่งในมหาปราชญ์กวีแห่งโลกหล้าปลุกปลอบเพื่อนมนุษยชาติให้งดงามจิตวิญญาณ์หลอมคุณค่าชีวีโลกให้ ฉ่ำ บา น !
แสงดาว ศรัทธามั่น
*** "มองดูความจริงซีพี่ น้องผองเพื่อน"มองดูแล้วย้ำเตือนคนหนุ่มสาวโลกร้อนแล้งเลวร้ายเนิ่นนานยาวทั้งเหน็บหนาวปวดร้าวทุกคราวครั้ง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ - - - ป รา ก ฏ กา ร ณ์ธรรมชาติดูเหี้ยมโหดเกรี้ยวกราดโกรธทำลายไปทั่วดิน ฟ้า อากาศ ดูน่าสะพรึงกลัวแตกตัว เติบใหญ่ ไปทุกที่ลูกเอ๋ย... แม่ก็รู้ ลูกเจ็บปวดร้าวรวด ทุกข์ทรมาน เหลือที่ก็ แ ม่ ก็ อยู่ ของ แ ม่ อยู่ ดี ดีแล้ว ลู ก อัปรีย์ ไยมาย่ำยีกดขี่ข่มเหง แ ม่ ทำ ไม ?แ ม่ เองก็เจ็บปวดรวดร้าวนักเหน็บหนาว รุ่มร้อนประจักษ์ เจ็บป่วยไข้ไฉนเล่ามาเฆี่ยนโบยตี มาสุมไฟรุกไล่ ทำลาย ล้างผลาญเจ้า ลู ก ริ ยำ เอ๋ย ...ไย เ ธ อ ไม่รู้ ?อวิชชาพรั่งพรูกรูกลบหมดสิ้นโลภ โกรธ หลง เมามัว เข่นฆ่าแ ผ่ น ดิ นพังภินท์ไปหมดทั่วเอกภพ จักรวาลลูกหลานเอ๋ย ... แ ม่ก็ปวดเจ็บ ...หนาวเหน็บเมื่อม า ร ลู ก มาล้างผลาญหยุดเถิดยังมิสาย…