Skip to main content
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง


อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า จนหลายคนสงสัยว่า นี่เธอมาอยู่ปีเดียวเองหรือ มันมากกว่าคนอยู่สิบปีที่นี่อีกนะ ฉันได้แต่หัวเราะ



ร้อน ร้อน ร้อน เวลาได้กินน้ำเย็นแล้วชื่นใจ ในหัวก็อดคำนวณเป็นตัวเลขไม่ได้ ถ้าเดือนหนึ่งซื้อน้ำแข็งกินทุกวัน วันละห้าบาทสิบบาท เดือนหนึ่งตกประมาณร้อยห้าสิบบาทหรือสองร้อย เอ้า! คิดไว้ที่สองร้อย มันก็เปลืองอยู่นา ถ้ามีตู้เย็น ค่าไฟก็คงประมาณนี้แหละ แต่ว่าจะได้แช่อาหารอื่นๆ กินได้ด้วย ข้าวของไม่บูดไม่เสีย ไม่เปลือง


ความอยากมีตู้เย็นทำให้คิดทบทวนไปมาหลายทีว่าจะกลับไปเอาตู้เย็นดีไหมนี่


วันหนึ่ง หลังจากดื่มน้ำเย็นๆ ไปแล้ว ฉันจึงมานั่งตรองใจดูว่ามันจำเป็นต้องมีตู้เย็นไหม ถ้ามีกับไม่มีมันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร


แน่นอน ถ้าไม่มี - ข้อดีข้อแรกคือ ฉันไม่ต้องไปสรรหาภาระมาเพิ่ม โดยเฉพาะความที่ยังไม่พร้อมจะปักหลักตรงไหนทั้งนั้น


ข้อดีต่อมา ไม่เปลืองไฟ อันนี้ยิ่งชัวร์เพราะฉันไม่อยากให้มีการสร้างเขื่อนมาก การที่ไม่มีตู้เย็นก็ช่วยลดค่าไฟลงได้หน่อยหนึ่งละ

แล้วข้ออื่นล่ะ

อืมม์...


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันต้องขวนขวายหาอาหารสดกินทุกวัน ไม่ว่าเย็นบางวันอาจต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปหาซื้อปลาริมท่าน้ำบางหมู่บ้าน หรือบางวันอาจได้กุ้ง หรือไข่มดแดง ยิ่งช่วงนี้ผักหวานกำลังหวานอร่อย แกงใส่ไข่มดแดง อร่อยเหาะ และดีต่อสุขภาพ (หลายคนบอกกับฉันว่า ไม่ว่าปลาหรืออาหารอื่นๆ ถ้าแช่เย็นแล้วมันจะเสียรสชาติไประดับหนึ่ง ซึ่งจะดีกว่าถ้าเราได้มาใหม่ๆ และปรุงกินเลย)


ปลาแถวนี้ราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก เพราะชาวบ้านหากันเอง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางมารับซื้อ ดังนั้น ฉันจึงได้ราคาปลาในราคาขายส่ง เมื่อมาบ่อย คนหาปลาคุ้นหน้าก็เกิดมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน


หรือบางทีฉันก็จะเดินไปเก็บผักบุ้งในหนองน้ำที่เริ่มเหือด เป็นผักบุ้งพันธุ์พื้นเมือง เด็ดเฉพาะยอดอ่อนของมันซึ่งขึ้นกันสลอน ไม่ว่าจะเอามาแกงหรือมาผัด อร่อยมาก อร่อยกว่าผักบุ้งจีนอีก


หรือบางที ฉันอาจตำน้ำพริก และเดินเก็บยอดผักรอบศูนย์ฯ (ตอนนี้ฉันย้ายจากบ้านเช่ากลับมาอยู่ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ซึ่งอยู่ไกลจากตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ๑๖ กิโลเมตร และไกลจากอำเภอโขงเจียม ๑๘ กิโลเมตร ระยะทางห่างไกลเช่นนี้จึงไม่อาจพึ่งตลาดสดของอำเภอเป็นหลักได้อย่างแต่ก่อน) ซึ่งมีผักพื้นบ้านสารพัดชนิดกินได้ รับรองปลอดสารพิษและอุดมไปด้วยตัวยาหรือที่เรามักพูดกันว่า "สมุนไพร"


เมื่อต้องทำกับข้าวด้วยอาหารสดในแต่ละวัน หากวันไหนทำเยอะ รู้ดีว่ากินไม่หมด ฉันก็จะต้องเทียวหาคนโน้นคนนี้แบ่งใส่ถ้วยให้ไปกิน เพราะไม่อย่างนั้นของกินก็จะบูดเปล่าๆ น้ำใจถูกแจกจ่าย คนได้รับก็ย่อมรู้สึกดีกับเรา


ส่วนผลไม้ เมื่อไม่มีตู้เย็นไว้แช่ส้ม แอ๊ปเปิ้ล ผลไม้ที่อยากกินตามท้องตลาด ฉันก็ต้องหาผลไม้เท่าที่มีรอบศูนย์ฯ ตอนนี้มันก็จะมีมะม่วงดิบ (กินกับกะปิเปล่าๆ หรือทำน้ำปลาหวานกิน) มีสมอ กินแล้วระบายท้องดีนัก มีอ้อยดำ ซึ่งอร่อยมากๆ ปลูกไว้เยอะเลย หากอยากกินผลไม้รสหวานเมื่อไหร่ก็จะเดินไปตัดอ้อยมากิน


ส่วนข้อเสียน่ะหรือ?


ใช่ ฉันเหนื่อยขึ้น แทนที่จะออกไปหาซื้อปลาวันหนึ่งกินได้สองสามวัน หรือซื้อผักสดมาแช่ตู้เย็นไว้จะได้กินหลายๆ วันแต่กลายเป็นว่ากินได้มื้อเดียวหรือวันเดียวเท่านั้น ทว่าฉันก็พบข้อดีอีกด้านว่า หากวันไหนฉันได้ปลามาเยอะ ฉันก็จะทำปลาแดดเดียว เก็บไว้กินวันอื่นๆ ได้ด้วย ปลาแดดเดียวทำเอง ปลอดผงชูรสและได้ความรู้สึกที่ดีกับตัวเองว่าฉันก็ถนอมอาหารเป็นเหมือนกันนะ


นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนเขียนหนังสืออย่างฉันคือ การที่ฉันออกไปซื้อปลาบ่อย หรือการได้ไข่มดแดง กะปอม มา หรือออกไปซื้อน้ำแข็ง ไข่ไก่ หอม กระเทียม ตามร้านค้าชาวบ้าน มันทำให้ฉันมีวิสาสะกับคนในชุมชนมากขึ้น เพราะโดยนิสัยรักสันโดษของฉันแล้ว หากฉันมีทุกอย่างพร้อมที่บ้าน ฉันสามารถอยู่อย่างนั้นได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องออกคุยกับใครเลย และอยู่อย่างมีความสุขมากด้วย ฉันจะนั่งเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ ทำกับข้าว ฟังเพลงไป จิตใจเบาสบาย ไม่ต้องวุ่นวายมาก นี่คือนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงใครมาแต่ไหนแต่ไร แต่มันจะทำให้ฉันขาดความใกล้ชิดชุมชนและรับรู้มิติชีวิตด้านอื่นของคนอื่น แล้วฉันจะเอาอะไรมาเขียนล่ะ ถ้าสบายเกินไปอย่างนั้น


นอกจากขาดการวิสาสะกับคน ฉันก็ยังขาดการวิสาสะกับธรรมชาติอีก เพราะหากอยากกินอะไร ฉันก็แค่เปิดตู้เย็น อะไรๆ ก็อยู่ในนั้นแล้ว แทนที่จะได้เดินเก็บเอาตามต้นไม้ ในดินในหนอง หรือต้องออกแรงแหย่เอารังไข่มดแดง เก็บผักหวานกับมือ หรือไปยืนชมแม่น้ำขณะขอซื้อปลา ได้ทั้งข้อมูลงานเขียนและจิตใจเบิกบานงามสงบ


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันยังได้เรียนรู้อีกว่า ทุกเช้าจะมีรถขายของสดแวะมาที่ศูนย์ ในรถคันนั้นจะมีของกินขายหลายอย่าง กับข้าวใส่ถุง เนื้อย่าง หมูย่าง ขนมหวาน หรือพวกของสดอย่างหมู เนื้อ ปลาทู กระเทียม หอมแดง พริกแห้ง มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ต้นหอมผักชี ของสดต่างๆ ที่จะนำมาทำกับข้าวได้


และยามเช้าของวันจันทร์และศุกร์ หมู่บ้านใกล้ๆ ก็จะมีตลาดนัดขายทั้งของกิน ของสด และของใช้ จนเอาเข้าจริง ที่เคยคิดว่ามันหาของกินลำบาก แท้จริงไม่ได้ลำบากอะไรเลย


พออยู่ไป ฉันก็รู้เองว่าชีวิตมีทางเลือกและมีทางออกเสมอ ก็เหมือนกับปัญหามากมายในโลกนี้ที่หากยืนมองห่างๆ ก็อาจคิดว่ามันเป็นทางตัน ไม่มีทางแก้ไขได้ แต่ที่จริง ใช้เวลากับมันสักพักเราก็จะเห็นเอง


แน่นอน ถ้าฉันตื่นสาย ไม่ทันรถขายของหรือถ้าฉันขี้เกียจออกไปหา (ซื้อ) ปลามากิน ฉันอาจต้องกินมาม่า ปลากระป๋อง บ้าง เป็นบางมื้อ


แต่จะเป็นไรไป อยู่ในเมืองหลวง ของกินมีสารพัด เราก็ยังต้องตุนมาม่าไว้เลย หรือบางทีไปนั่งร้านอาหารเสียดิบดี เราก็ยังสั่งยำปลากระป๋องมากิน


นั่งใคร่ครวญข้อดีข้อเสียอยู่เป็นนานสองนาน ฉันก็หัวเราะหึๆ ให้ตัวเอง


ความคิดอยากมีตู้เย็นเกิดขึ้นยามเหนื่อย ขี้เกียจ หรือบางทีอยากได้อะไรที่ดีกว่าเดิม แต่บางทีเราก็ลืมสิ่งที่ได้ในมิติยากไร้ และลืมไปว่าในความสะดวกสบายนั้น บางทีเราก็สูญเสียอะไรไปไม่น้อยเช่นกัน


คิดได้เช่นนี้ก็ปลงตกว่า ไม่มีตู้เย็นก็มีข้อดีตั้งเยอะเลยแน่ะ

ก็แค่ขยันไปซื้อน้ำแข็งกินทุกวันแก้ร้อนในช่วงนี้ มันจะเป็นไรไป

 

 

 

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
อืมม์... ดูเหมือนยุคนี้คนฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจะกลายเป็นอาชญากร ไม่น่าคบไปเลยจริงๆ เมื่อฉันจัดการทุบหัวปลาโป๊กๆ สีหน้าน้องผู้หญิงบางคนเหยเก เบะปาก “กินไหมเล่า!” ฉันเอ็ดเอา “กินอ่ะ” “เออ ถ้าจะกินอย่าทำหน้าอย่างนั้น คนฆ่าเสียเซลฟ์เหมือนกัน” อืมม์... แต่จะว่าไปก็ฆ่าตัวเป็นๆ ซะหลายตัว จะไม่ให้น้องมันทำหน้าเบ้ได้ไง กับคนรู้จักมักคุ้นฉันมักออกตัวเสมอว่า ฉันไม่ใช่คนเรียบร้อยใจดีนะ ฉันเป็นคนที่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตได้โดยไม่รู้สึกผิดเลย ตกปลาฆ่าปลาได้ ยิงหนังกะติ๊กเอานกมาย่างไฟได้ ฆ่าตั๊กแตน ฆ่าแมลงต่างๆ ได้ จับปูเป็นๆ เผาบนเตาถ่านได้ หรือจับปูเป็นๆ โขลกในครกได้ (การทำน้ำปู๋ของคนเหนือ)…
สร้อยแก้ว
ถ้าไม่ใช่คนอีสาน จะมีใครบ้างหนอ รู้จักแมงหัวหงอก ? โอ้! จ๊อด มันน่าตื่นตาตื่นใจเสียจริง ขนาดว่าฉันโตมากับป่าเขา ใช้ชีวิตอย่างคนบ้านนอกเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าบ้านนอกทุกพื้นที่จะเหมือนกันเสียเมื่อไหร่ แมงหัวหงอกพากันมาจับต้นไม้ไร้ใบ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทันมีใครสังเกต เห็นอีกที มันก็ขาวเต็มต้นแล้ว แรกทีเดียวฉันคิดว่าเป็นครั่งเสียอีก แต่ไม่ใช่ มันเป็นแมลงเล็กๆ ขาวสะอาดทั้งตัว มีขนสีขาวตรงกลางหลังชี้ออกเหมือนขนหางนกยูง กระโดดได้ เวลาจับตัวมันไว้ในอุ้งมือมันจะกระโดดไปมาแรงทีเดียว ต้องจับลงถังน้ำ ถึงจะหมดความสามารถในการกระโดด แม้จะเป็นแมลงที่ดูสวยงาม น่ารัก แต่ว่าในเมื่อมันกินได้…
สร้อยแก้ว
แมงกุดจี่ทั้งเคยได้ยิน ทั้งเคยฟังเพลง และเคยกินมาก่อน แต่ยามได้เดินถือกระแป๋งตามเด็กสองคนไปขุดหาแมงกุดจี่ในยามเช้า ก็ยังรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้เห็นพวกมันผลุบๆ โผล่ๆ ในรู ดาวใจเป็นพี่สาวของไพจิตร เธอขุดแมงกุดจี่พลาดโดนตัวมันหลายครั้ง ทำให้ฉันขัดใจน่าดู “มา มา ขอพี่ทำหน่อยซิ” ฉันว่าฉันมือเบาน่าจะขุดได้ดี แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่ ฉันสับเอาแมงกุดจี่หัวขาด ตัวขาด รุ่งริ่ง เสียจนน่าเวทนา เด็กหญิงไพจิตรร้องเสียงหลงทุกทีที่ฉันยั้งมือไม่ทัน คมเสียมสับลงกลางตัวแมงสีดำๆ นั้นเสียแล้ว
สร้อยแก้ว
เดือนเมษายน เมื่อฉันกลับไปยังศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ภาพของผืนดินแล้ง หญ้าแห้ง และต้นไม้ใบร่วงยืนโดดเดี่ยวเดียวดายที่เห็นชินตาก็แปรเปลี่ยนไปสายฝนที่สาดเทลงมาเพียงไม่กี่ครั้งได้ลบล้างโลกสีน้ำตาลให้หายไป สองข้างทางระหว่างที่รถสามล้อเครื่องนำพาไปมีทิวหญ้าสีเขียวระบัดใบตลอดทาง ต้นไม้ใบแห้งผลิใบเขียวชะอุ่ม และผืนดินแล้งก็มีพุ่มไม้ใบขึ้นเป็นกอเล็กกอน้อยนับว่าชวนตื่นตาตื่นใจไม่น้อยสำหรับเวลาที่หายไปเพียงยี่สิบวัน ผืนดินก็เปลี่ยนแปลงได้เพียงนี้