Skip to main content
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง


อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า จนหลายคนสงสัยว่า นี่เธอมาอยู่ปีเดียวเองหรือ มันมากกว่าคนอยู่สิบปีที่นี่อีกนะ ฉันได้แต่หัวเราะ



ร้อน ร้อน ร้อน เวลาได้กินน้ำเย็นแล้วชื่นใจ ในหัวก็อดคำนวณเป็นตัวเลขไม่ได้ ถ้าเดือนหนึ่งซื้อน้ำแข็งกินทุกวัน วันละห้าบาทสิบบาท เดือนหนึ่งตกประมาณร้อยห้าสิบบาทหรือสองร้อย เอ้า! คิดไว้ที่สองร้อย มันก็เปลืองอยู่นา ถ้ามีตู้เย็น ค่าไฟก็คงประมาณนี้แหละ แต่ว่าจะได้แช่อาหารอื่นๆ กินได้ด้วย ข้าวของไม่บูดไม่เสีย ไม่เปลือง


ความอยากมีตู้เย็นทำให้คิดทบทวนไปมาหลายทีว่าจะกลับไปเอาตู้เย็นดีไหมนี่


วันหนึ่ง หลังจากดื่มน้ำเย็นๆ ไปแล้ว ฉันจึงมานั่งตรองใจดูว่ามันจำเป็นต้องมีตู้เย็นไหม ถ้ามีกับไม่มีมันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร


แน่นอน ถ้าไม่มี - ข้อดีข้อแรกคือ ฉันไม่ต้องไปสรรหาภาระมาเพิ่ม โดยเฉพาะความที่ยังไม่พร้อมจะปักหลักตรงไหนทั้งนั้น


ข้อดีต่อมา ไม่เปลืองไฟ อันนี้ยิ่งชัวร์เพราะฉันไม่อยากให้มีการสร้างเขื่อนมาก การที่ไม่มีตู้เย็นก็ช่วยลดค่าไฟลงได้หน่อยหนึ่งละ

แล้วข้ออื่นล่ะ

อืมม์...


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันต้องขวนขวายหาอาหารสดกินทุกวัน ไม่ว่าเย็นบางวันอาจต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปหาซื้อปลาริมท่าน้ำบางหมู่บ้าน หรือบางวันอาจได้กุ้ง หรือไข่มดแดง ยิ่งช่วงนี้ผักหวานกำลังหวานอร่อย แกงใส่ไข่มดแดง อร่อยเหาะ และดีต่อสุขภาพ (หลายคนบอกกับฉันว่า ไม่ว่าปลาหรืออาหารอื่นๆ ถ้าแช่เย็นแล้วมันจะเสียรสชาติไประดับหนึ่ง ซึ่งจะดีกว่าถ้าเราได้มาใหม่ๆ และปรุงกินเลย)


ปลาแถวนี้ราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก เพราะชาวบ้านหากันเอง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางมารับซื้อ ดังนั้น ฉันจึงได้ราคาปลาในราคาขายส่ง เมื่อมาบ่อย คนหาปลาคุ้นหน้าก็เกิดมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน


หรือบางทีฉันก็จะเดินไปเก็บผักบุ้งในหนองน้ำที่เริ่มเหือด เป็นผักบุ้งพันธุ์พื้นเมือง เด็ดเฉพาะยอดอ่อนของมันซึ่งขึ้นกันสลอน ไม่ว่าจะเอามาแกงหรือมาผัด อร่อยมาก อร่อยกว่าผักบุ้งจีนอีก


หรือบางที ฉันอาจตำน้ำพริก และเดินเก็บยอดผักรอบศูนย์ฯ (ตอนนี้ฉันย้ายจากบ้านเช่ากลับมาอยู่ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ซึ่งอยู่ไกลจากตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ๑๖ กิโลเมตร และไกลจากอำเภอโขงเจียม ๑๘ กิโลเมตร ระยะทางห่างไกลเช่นนี้จึงไม่อาจพึ่งตลาดสดของอำเภอเป็นหลักได้อย่างแต่ก่อน) ซึ่งมีผักพื้นบ้านสารพัดชนิดกินได้ รับรองปลอดสารพิษและอุดมไปด้วยตัวยาหรือที่เรามักพูดกันว่า "สมุนไพร"


เมื่อต้องทำกับข้าวด้วยอาหารสดในแต่ละวัน หากวันไหนทำเยอะ รู้ดีว่ากินไม่หมด ฉันก็จะต้องเทียวหาคนโน้นคนนี้แบ่งใส่ถ้วยให้ไปกิน เพราะไม่อย่างนั้นของกินก็จะบูดเปล่าๆ น้ำใจถูกแจกจ่าย คนได้รับก็ย่อมรู้สึกดีกับเรา


ส่วนผลไม้ เมื่อไม่มีตู้เย็นไว้แช่ส้ม แอ๊ปเปิ้ล ผลไม้ที่อยากกินตามท้องตลาด ฉันก็ต้องหาผลไม้เท่าที่มีรอบศูนย์ฯ ตอนนี้มันก็จะมีมะม่วงดิบ (กินกับกะปิเปล่าๆ หรือทำน้ำปลาหวานกิน) มีสมอ กินแล้วระบายท้องดีนัก มีอ้อยดำ ซึ่งอร่อยมากๆ ปลูกไว้เยอะเลย หากอยากกินผลไม้รสหวานเมื่อไหร่ก็จะเดินไปตัดอ้อยมากิน


ส่วนข้อเสียน่ะหรือ?


ใช่ ฉันเหนื่อยขึ้น แทนที่จะออกไปหาซื้อปลาวันหนึ่งกินได้สองสามวัน หรือซื้อผักสดมาแช่ตู้เย็นไว้จะได้กินหลายๆ วันแต่กลายเป็นว่ากินได้มื้อเดียวหรือวันเดียวเท่านั้น ทว่าฉันก็พบข้อดีอีกด้านว่า หากวันไหนฉันได้ปลามาเยอะ ฉันก็จะทำปลาแดดเดียว เก็บไว้กินวันอื่นๆ ได้ด้วย ปลาแดดเดียวทำเอง ปลอดผงชูรสและได้ความรู้สึกที่ดีกับตัวเองว่าฉันก็ถนอมอาหารเป็นเหมือนกันนะ


นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนเขียนหนังสืออย่างฉันคือ การที่ฉันออกไปซื้อปลาบ่อย หรือการได้ไข่มดแดง กะปอม มา หรือออกไปซื้อน้ำแข็ง ไข่ไก่ หอม กระเทียม ตามร้านค้าชาวบ้าน มันทำให้ฉันมีวิสาสะกับคนในชุมชนมากขึ้น เพราะโดยนิสัยรักสันโดษของฉันแล้ว หากฉันมีทุกอย่างพร้อมที่บ้าน ฉันสามารถอยู่อย่างนั้นได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องออกคุยกับใครเลย และอยู่อย่างมีความสุขมากด้วย ฉันจะนั่งเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ ทำกับข้าว ฟังเพลงไป จิตใจเบาสบาย ไม่ต้องวุ่นวายมาก นี่คือนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงใครมาแต่ไหนแต่ไร แต่มันจะทำให้ฉันขาดความใกล้ชิดชุมชนและรับรู้มิติชีวิตด้านอื่นของคนอื่น แล้วฉันจะเอาอะไรมาเขียนล่ะ ถ้าสบายเกินไปอย่างนั้น


นอกจากขาดการวิสาสะกับคน ฉันก็ยังขาดการวิสาสะกับธรรมชาติอีก เพราะหากอยากกินอะไร ฉันก็แค่เปิดตู้เย็น อะไรๆ ก็อยู่ในนั้นแล้ว แทนที่จะได้เดินเก็บเอาตามต้นไม้ ในดินในหนอง หรือต้องออกแรงแหย่เอารังไข่มดแดง เก็บผักหวานกับมือ หรือไปยืนชมแม่น้ำขณะขอซื้อปลา ได้ทั้งข้อมูลงานเขียนและจิตใจเบิกบานงามสงบ


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันยังได้เรียนรู้อีกว่า ทุกเช้าจะมีรถขายของสดแวะมาที่ศูนย์ ในรถคันนั้นจะมีของกินขายหลายอย่าง กับข้าวใส่ถุง เนื้อย่าง หมูย่าง ขนมหวาน หรือพวกของสดอย่างหมู เนื้อ ปลาทู กระเทียม หอมแดง พริกแห้ง มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ต้นหอมผักชี ของสดต่างๆ ที่จะนำมาทำกับข้าวได้


และยามเช้าของวันจันทร์และศุกร์ หมู่บ้านใกล้ๆ ก็จะมีตลาดนัดขายทั้งของกิน ของสด และของใช้ จนเอาเข้าจริง ที่เคยคิดว่ามันหาของกินลำบาก แท้จริงไม่ได้ลำบากอะไรเลย


พออยู่ไป ฉันก็รู้เองว่าชีวิตมีทางเลือกและมีทางออกเสมอ ก็เหมือนกับปัญหามากมายในโลกนี้ที่หากยืนมองห่างๆ ก็อาจคิดว่ามันเป็นทางตัน ไม่มีทางแก้ไขได้ แต่ที่จริง ใช้เวลากับมันสักพักเราก็จะเห็นเอง


แน่นอน ถ้าฉันตื่นสาย ไม่ทันรถขายของหรือถ้าฉันขี้เกียจออกไปหา (ซื้อ) ปลามากิน ฉันอาจต้องกินมาม่า ปลากระป๋อง บ้าง เป็นบางมื้อ


แต่จะเป็นไรไป อยู่ในเมืองหลวง ของกินมีสารพัด เราก็ยังต้องตุนมาม่าไว้เลย หรือบางทีไปนั่งร้านอาหารเสียดิบดี เราก็ยังสั่งยำปลากระป๋องมากิน


นั่งใคร่ครวญข้อดีข้อเสียอยู่เป็นนานสองนาน ฉันก็หัวเราะหึๆ ให้ตัวเอง


ความคิดอยากมีตู้เย็นเกิดขึ้นยามเหนื่อย ขี้เกียจ หรือบางทีอยากได้อะไรที่ดีกว่าเดิม แต่บางทีเราก็ลืมสิ่งที่ได้ในมิติยากไร้ และลืมไปว่าในความสะดวกสบายนั้น บางทีเราก็สูญเสียอะไรไปไม่น้อยเช่นกัน


คิดได้เช่นนี้ก็ปลงตกว่า ไม่มีตู้เย็นก็มีข้อดีตั้งเยอะเลยแน่ะ

ก็แค่ขยันไปซื้อน้ำแข็งกินทุกวันแก้ร้อนในช่วงนี้ มันจะเป็นไรไป

 

 

 

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
นั่งดูบอลคู่นี้อย่างไม่ตั้งใจนัก เผอิญว่ากดรีโมทโทรทัศน์มาเจอเข้าพอดี เลยคิดว่าอยากจะเชียร์บอลไทยสักหน่อย ดูเวลาการแข่งขันตอนนั้นก็เข้าสู่นาทีที่เจ็ดสิบกว่าแล้ว ไทยนำอยู่ 2-1 ดูไปได้ไม่ทันไร ก็มาถึงจังหวะการกระโดดแย่งบอลกันกลางอากาศ นักเตะไทยเป็นฝ่ายกระโดดได้สูงกว่าและโดนลูกบอล แต่เมื่อเท้าแตะถึงพื้น นักเตะไทยวิ่งต่อ ส่วนนักเตะเลบานอนลงไปนอนกับพื้น เอากุมหัว ดิ้นอย่างเจ็บปวดสักพักเมื่อเขาลุกขึ้น สิ่งที่เห็นก็คือเลือดอาบหน้าและสองมือที่กุมเอาไว้ เลือดออกเยอะมากขนาดที่เห็นแล้วต้องเบะปาก ขณะที่เพื่อนร่วมทีมวิ่งมาดู นักเตะไทยเดินยิ้ม ยักไหล่ แพทย์สนามก็มาช้าเหลือเกิน เกมรึ…
สร้อยแก้ว
หลังการจากไปของพี่ปุ๋ย (นันทโชติ ชัยรัตน์) วันหนึ่งของต้นฤดูหนาว พี่แป๊ะ ภรรยาพี่ปุ๋ยก็มีดำริจะปลูกบ้านเป็นของตัวเองเสียที โดยพี่แป๊ะได้ซื้อไม้จากบ้านเก่าหลังหนึ่งไว้ ก่อนการเริ่มต้นปลูกบ้าน พี่แป๊ะจึงต้องหาคนมารื้อเอาไม้จากบ้านเก่าก่อน ซึ่งก็ได้น้องนุ่งแรงดีจากลุ่มน้ำมูนและหนุ่มในเมืองอย่างเอก และผู้อาวุโสแต่หัวใจวัยรุ่นอย่างพ่อถาหนึ่งในแกนนำปากมูน แห่งบ้านนาหว้า มาช่วยกันคนละไม้ละมือ
สร้อยแก้ว
(ขอความกรุณาสวมเสื้อขาว, สีฟ้า หรือสีที่ดูเหมาะสม ยกเว้นอย่าสวมเสื้อสีเหลืองหรือสีแดง เพราะจะทำให้แตกสามัคคี) ข้อความในวงเล็บนี้ทำเอาฉันอมยิ้มจนเกือบเผลอหัวเราะนี่คือจดหมายเชิญเดินเทิดพระเกียรติของชมรมผู้สูงอายุตำบลหารแก้วที่ประธานชมรมถึงกับควบมอเตอร์ไซค์แถดๆ มาหาพ่อถึงบ้าน
สร้อยแก้ว
 ฉันมีโอกาสไปร่วมงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ ๑๐ ปีนี้ เลยทำให้อดคิดไม่ได้ว่า รางวัล มีความหมายอย่างไรต่อชีวิตคนบ้าง ลองเปิดพจนานุกรมฉบับบัณฑิตยสถานดู เขาก็บอกว่ารางวัลคือ สิ่งของหรือเงินที่ได้มาจากความดี ความชอบ หรือความสามารถย้อนทบทวนตอนเด็กๆ รางวัลแรกของฉันมาจากการวิ่งได้ที่ ๓ จากการวิ่งแข่งกันสี่คน (เกือบไป!) โชคดีได้ขึ้นแท่นรับรางวัลกับเขา ยิ้มแก้มแทบปริ และเมื่อถึงบ้านก็รีบเอาสมุดดินสอมาให้พ่อกับแม่ดู
สร้อยแก้ว
ไม่รู้ทำไม จู่ๆ ภาพของเพื่อนสนิทคนหนึ่งในวันที่เข็นรถเด็กที่มีเด็กหญิงวัยแปดเดือนนั่งยิ้มแฉ่งเดินเล่นยามเย็นนอกเมืองก็โผล่ขึ้นมาในห้วงคำนึงในวันฝนตก ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลยสักนิด เธอดูมีความสุขปลอดโปร่งใจดีเหลือเกิน เธอบอกฉันว่า แต่ก่อน เธอมองชีวิตแบบเอ็นจีโอ ใส่เสื้อผ้าฝ้าย ใช้ข้าวของอย่างประหยัด หน้าตาไม่แต่ง เธอเชื่อมั่นในวิธีคิดแบบนั้น ศรัทธาคนเหล่านั้น แต่วันเวลาก็ทำให้เธอเห็นว่าคนเหล่านั้นก็เป็นเพียงปุถุชนธรรมดาๆ เท่านั้น พวกเขาไม่ได้ดีอย่างที่เรามอบความศรัทธาให้ เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงใช้ชีวิตตามแนวคิดอย่างนั้นได้อย่างเชื่อมั่นอยู่ตั้งหลายปี…
สร้อยแก้ว
สำหรับนักเขียน ยามคอมพิวเตอร์มีปัญหานับว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว เพราะแต่ละวันไม่ว่ายังไงก็ต้องได้ลูบๆ เคาะๆ วันละนิดละหน่อยจนเคยชิน ครั้นเมื่อมันเกิดปัญหาขลุกขลัก แม้จะรู้สึกเซ็งๆ แต่ก็ต้องทนหอบหิ้วมันไปหาช่าง – คนที่เราคิดว่าเขารู้ดีกว่าเราแต่การเลือกช่างก็เหมือนการเลือกหมอรักษาอาการป่วยของเรานั่นแหละ หากยามใดเราไปเจอหมอที่วินิจฉัยโรคเราผิด จากที่ไม่ได้เป็นอะไรเลยแต่กลับบอกว่าเป็นโรคร้ายต้องผ่าตัดไปหลายยก เจ็บกาย เสียเวลา เสียเงิน เพื่อที่จะพบว่า ที่แท้เราไม่ได้เป็นอะไรเลย ความรู้สึกโกรธและไม่อาจทำใจยอมรับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านห้วยสะคามตื่นเต้น ใช้ไฟฟรี ประหยัดกันยกใหญ่! อยากให้พาดหัวข่าวแบบนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์บ้างจัง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กมากของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ขัดแย้งใหญ่หลวงของบ้านเมืองยามนี้ นโยบายอะไรๆ ของรัฐบาลก็ไม่ดีทั้งนั้น ในฐานะที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรมากเกี่ยวกับนโยบายประชานิยม แต่ว่าพอเข้าใจหัวจิตหัวใจของชาวบ้านตาดำๆ ซึ่งเวลาลงคะแนนเลือกตั้งเสียงของเขาก็มีค่าเท่ากับศาสตราจารย์หรือด๊อกเตอร์ในเมืองไทย เขาก็มองเห็นผลดีผลได้เท่าที่จับต้องได้ ไม่ต้องอ้างเอ่ยว่าเขาซื้อเสียงง่ายหรอก แต่เขาเห็นว่าเขาได้อะไรจากรัฐบาลชุดที่แล้ว (ยุคทักษิณ) เขาถึงเลือกและชอบ
สร้อยแก้ว
ภาพจาก http://www.blogth.com/blog/ddimg/uploadimg/20070514/093435918.jpgอาจไม่ต้องถึงขั้นเป็นคอบอล เป็นแค่ผู้นิยมกีฬาฟุตบอลก็คงต้องอยากดูเกมระหว่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กับเชลซีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมาว่าจะเป็นอย่างไร เปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก เชลซีเดินหน้าชนะทุกนัดเก็บมาได้เก้าคะแนนเต็ม เป็นการออกสตาร์ทที่สวยงามและทั้งนักเตะทั้งแฟนบอลเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ขณะที่แชมป์เก่าอีกทั้งยังเป็นแชมป์ถ้วยฟุตบอลสโมสรยุโรปซะด้วย กลับเก็บมาได้เพียงสี่คะแนน แพ้บ้าง เสมอบ้าง จนแฟนๆ ชักใจคอไม่ดี แม้ฤดูกาลที่แล้วก็ออกสตาร์ทไม่ดีเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ได้ถ้วย…
สร้อยแก้ว
โขงเจียมคือชื่ออำเภอหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี อันเป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นเมืองที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นก่อนใครในสยามเพราะอยู่ทิศตะวันออกสุดของประเทศ และยังเป็นที่รู้จักอีกในฐานะที่มีแม่น้ำสายสำคัญของอีสานสองสายมาบรรจบคือแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง จุดที่บรรจบกันนั้นเรียกกันอย่างไพเราะว่า แม่น้ำสองสี โขงสีขุ่น มูลสีคราม (แต่ตอนนี้ขุ่นทั้งคู่ หากอยากเห็นมูลสีครามน่าจะเป็นช่วงหน้าแล้ง) โขงเจียมมีฐานะเป็นอำเภอ แต่อำเภอนี้เล็กเหมือนหมู่บ้าน ค่ำมาราวสักสองทุ่มก็เงียบแล้ว บางบ้านเข้านอน บางบ้านอาจจะยังนั่งพูดคุยกันอยู่หน้าบ้าน แต่คุยกันอย่างเงียบๆ ไม่กระโตกกระตาก สงบดีเหลือเกิน…
สร้อยแก้ว
ฤดูฝน นาพ่อสนเขียวไสวด้วยต้นข้าว ยามเช้าน้ำค้างชุ่มหญ้า ชุ่มพุ่มไม้ ครั้นเมื่อแสงแดดโผล่พ้นจากหมู่เมฆ ท้องนาสีเขียวยิ่งดูกระจ่างตา เหลียวมองรอบๆ แสนสบายตาสบายใจ เอ แล้วดอกอะไรกันหนอสีแดงขาว เป็นพุ่มไม้ใหญ่อยู่หน้าเถียงนาอีกแห่งนั่น ? เห็นแล้วก็อดคว้ากล้องเดินย่ำน้ำค้างบนคันนาไปหาดอกไม้นั้นไม่ได้ ไพจิตรเห็นก็วิ่งตามโดยทันใด เธอไม่ใส่รองเท้า ฉันบอกระวังหนาม ไพจิตรเงยหน้าขึ้นมองไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้ม เธอทำให้ฉันอดคิดถึงครั้งหนึ่งเมื่อเราไปเที่ยวช่องเม็ก ด่านชายแดนลาวด้วยกัน
สร้อยแก้ว
ฉันถ่ายรูปไพจิตรไว้หลายรูปทีเดียว จนอดไม่ได้ที่จะเขียนถึงเธออีกครั้ง ด้วยความที่เธอบริสุทธิ์เหลือเกิน บ้านของไพจิตรอยู่ในหมู่บ้าน แต่เธอและครอบครัวมักชอบไปนอนเถียงนาที่มีวัว ควาย หมู หมา ไก่ เป็นเพื่อน ในหมู่บ้าน บ้านเรือนมักจะปลูกติดๆ กัน อันเป็นธรรมดาของสังคมหมู่บ้าน ซึ่งสมัยก่อน บ้านเรือนอาจปลูกไม่ชิดกันมากขนาดนี้ แต่เมื่อลูกหลานสร้างครอบครัวกันขึ้นมาใหม่ เริ่มปลูกบ้านหลังใหม่เพิ่ม ลักษณะหมู่บ้านจึงดูหนาแน่นขึ้น ครอบครัวของพ่อสนซึ่งรักความสันโดษเลยพากันไปนอนเถียงนาที่แสนจะเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย และฉันก็มักไปนอนที่นั่นด้วยบ่อยๆ
สร้อยแก้ว
ดาวใจและไพจิตร เป็นชื่อของเด็กหญิงสองพี่น้อง ลูกสาวแม่พร พ่อสน คนดูแลสวน-สถานที่ของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน พ่อสนมีลูกทั้งหมดสิบคน ลูกชายสองคนก่อนหน้าดาวใจ ไพจิตร ชื่อไมโคร และ นูโว นัยว่าพ่อท่าจะชอบเสียงเพลงมากถึงตั้งชื่อลูกเป็นชื่อศิลปินนักร้อง ตอนนี้ลูกๆ ของพ่อสนที่ไม่ได้เอ่ยนามล้วนออกเรือน มีครอบครัว บ้างเสียชีวิต ลูกๆ ที่ยังอยู่กับพ่อสน แม่พร จึงมีสี่คนที่ว่า (ส่วนลูกชายอีกคนหนึ่งของพ่อสนที่เคยโด่งดังในม็อบปากมูนเมื่อหลายปีก่อน จนหนังสือพิมพ์หลายฉบับต่างเขียนถึงและลงบทสัมภาษณ์ คือดาวไฮปาร์คเด็กที่ชื่อ เปาโล ตอนนี้เปาโลโตเป็นหนุ่ม แต่งงานมีลูกแล้ว) ดาวใจกับไพจิตร เป็นเด็กหญิงที่ร่าเริง…