Skip to main content
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง


อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า จนหลายคนสงสัยว่า นี่เธอมาอยู่ปีเดียวเองหรือ มันมากกว่าคนอยู่สิบปีที่นี่อีกนะ ฉันได้แต่หัวเราะ



ร้อน ร้อน ร้อน เวลาได้กินน้ำเย็นแล้วชื่นใจ ในหัวก็อดคำนวณเป็นตัวเลขไม่ได้ ถ้าเดือนหนึ่งซื้อน้ำแข็งกินทุกวัน วันละห้าบาทสิบบาท เดือนหนึ่งตกประมาณร้อยห้าสิบบาทหรือสองร้อย เอ้า! คิดไว้ที่สองร้อย มันก็เปลืองอยู่นา ถ้ามีตู้เย็น ค่าไฟก็คงประมาณนี้แหละ แต่ว่าจะได้แช่อาหารอื่นๆ กินได้ด้วย ข้าวของไม่บูดไม่เสีย ไม่เปลือง


ความอยากมีตู้เย็นทำให้คิดทบทวนไปมาหลายทีว่าจะกลับไปเอาตู้เย็นดีไหมนี่


วันหนึ่ง หลังจากดื่มน้ำเย็นๆ ไปแล้ว ฉันจึงมานั่งตรองใจดูว่ามันจำเป็นต้องมีตู้เย็นไหม ถ้ามีกับไม่มีมันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร


แน่นอน ถ้าไม่มี - ข้อดีข้อแรกคือ ฉันไม่ต้องไปสรรหาภาระมาเพิ่ม โดยเฉพาะความที่ยังไม่พร้อมจะปักหลักตรงไหนทั้งนั้น


ข้อดีต่อมา ไม่เปลืองไฟ อันนี้ยิ่งชัวร์เพราะฉันไม่อยากให้มีการสร้างเขื่อนมาก การที่ไม่มีตู้เย็นก็ช่วยลดค่าไฟลงได้หน่อยหนึ่งละ

แล้วข้ออื่นล่ะ

อืมม์...


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันต้องขวนขวายหาอาหารสดกินทุกวัน ไม่ว่าเย็นบางวันอาจต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปหาซื้อปลาริมท่าน้ำบางหมู่บ้าน หรือบางวันอาจได้กุ้ง หรือไข่มดแดง ยิ่งช่วงนี้ผักหวานกำลังหวานอร่อย แกงใส่ไข่มดแดง อร่อยเหาะ และดีต่อสุขภาพ (หลายคนบอกกับฉันว่า ไม่ว่าปลาหรืออาหารอื่นๆ ถ้าแช่เย็นแล้วมันจะเสียรสชาติไประดับหนึ่ง ซึ่งจะดีกว่าถ้าเราได้มาใหม่ๆ และปรุงกินเลย)


ปลาแถวนี้ราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก เพราะชาวบ้านหากันเอง ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าคนกลางมารับซื้อ ดังนั้น ฉันจึงได้ราคาปลาในราคาขายส่ง เมื่อมาบ่อย คนหาปลาคุ้นหน้าก็เกิดมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน


หรือบางทีฉันก็จะเดินไปเก็บผักบุ้งในหนองน้ำที่เริ่มเหือด เป็นผักบุ้งพันธุ์พื้นเมือง เด็ดเฉพาะยอดอ่อนของมันซึ่งขึ้นกันสลอน ไม่ว่าจะเอามาแกงหรือมาผัด อร่อยมาก อร่อยกว่าผักบุ้งจีนอีก


หรือบางที ฉันอาจตำน้ำพริก และเดินเก็บยอดผักรอบศูนย์ฯ (ตอนนี้ฉันย้ายจากบ้านเช่ากลับมาอยู่ที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านอีกครั้ง ซึ่งอยู่ไกลจากตัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ๑๖ กิโลเมตร และไกลจากอำเภอโขงเจียม ๑๘ กิโลเมตร ระยะทางห่างไกลเช่นนี้จึงไม่อาจพึ่งตลาดสดของอำเภอเป็นหลักได้อย่างแต่ก่อน) ซึ่งมีผักพื้นบ้านสารพัดชนิดกินได้ รับรองปลอดสารพิษและอุดมไปด้วยตัวยาหรือที่เรามักพูดกันว่า "สมุนไพร"


เมื่อต้องทำกับข้าวด้วยอาหารสดในแต่ละวัน หากวันไหนทำเยอะ รู้ดีว่ากินไม่หมด ฉันก็จะต้องเทียวหาคนโน้นคนนี้แบ่งใส่ถ้วยให้ไปกิน เพราะไม่อย่างนั้นของกินก็จะบูดเปล่าๆ น้ำใจถูกแจกจ่าย คนได้รับก็ย่อมรู้สึกดีกับเรา


ส่วนผลไม้ เมื่อไม่มีตู้เย็นไว้แช่ส้ม แอ๊ปเปิ้ล ผลไม้ที่อยากกินตามท้องตลาด ฉันก็ต้องหาผลไม้เท่าที่มีรอบศูนย์ฯ ตอนนี้มันก็จะมีมะม่วงดิบ (กินกับกะปิเปล่าๆ หรือทำน้ำปลาหวานกิน) มีสมอ กินแล้วระบายท้องดีนัก มีอ้อยดำ ซึ่งอร่อยมากๆ ปลูกไว้เยอะเลย หากอยากกินผลไม้รสหวานเมื่อไหร่ก็จะเดินไปตัดอ้อยมากิน


ส่วนข้อเสียน่ะหรือ?


ใช่ ฉันเหนื่อยขึ้น แทนที่จะออกไปหาซื้อปลาวันหนึ่งกินได้สองสามวัน หรือซื้อผักสดมาแช่ตู้เย็นไว้จะได้กินหลายๆ วันแต่กลายเป็นว่ากินได้มื้อเดียวหรือวันเดียวเท่านั้น ทว่าฉันก็พบข้อดีอีกด้านว่า หากวันไหนฉันได้ปลามาเยอะ ฉันก็จะทำปลาแดดเดียว เก็บไว้กินวันอื่นๆ ได้ด้วย ปลาแดดเดียวทำเอง ปลอดผงชูรสและได้ความรู้สึกที่ดีกับตัวเองว่าฉันก็ถนอมอาหารเป็นเหมือนกันนะ


นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนเขียนหนังสืออย่างฉันคือ การที่ฉันออกไปซื้อปลาบ่อย หรือการได้ไข่มดแดง กะปอม มา หรือออกไปซื้อน้ำแข็ง ไข่ไก่ หอม กระเทียม ตามร้านค้าชาวบ้าน มันทำให้ฉันมีวิสาสะกับคนในชุมชนมากขึ้น เพราะโดยนิสัยรักสันโดษของฉันแล้ว หากฉันมีทุกอย่างพร้อมที่บ้าน ฉันสามารถอยู่อย่างนั้นได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องออกคุยกับใครเลย และอยู่อย่างมีความสุขมากด้วย ฉันจะนั่งเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ ทำกับข้าว ฟังเพลงไป จิตใจเบาสบาย ไม่ต้องวุ่นวายมาก นี่คือนิสัยที่ไม่ค่อยสุงสิงใครมาแต่ไหนแต่ไร แต่มันจะทำให้ฉันขาดความใกล้ชิดชุมชนและรับรู้มิติชีวิตด้านอื่นของคนอื่น แล้วฉันจะเอาอะไรมาเขียนล่ะ ถ้าสบายเกินไปอย่างนั้น


นอกจากขาดการวิสาสะกับคน ฉันก็ยังขาดการวิสาสะกับธรรมชาติอีก เพราะหากอยากกินอะไร ฉันก็แค่เปิดตู้เย็น อะไรๆ ก็อยู่ในนั้นแล้ว แทนที่จะได้เดินเก็บเอาตามต้นไม้ ในดินในหนอง หรือต้องออกแรงแหย่เอารังไข่มดแดง เก็บผักหวานกับมือ หรือไปยืนชมแม่น้ำขณะขอซื้อปลา ได้ทั้งข้อมูลงานเขียนและจิตใจเบิกบานงามสงบ


เมื่อไม่มีตู้เย็น ฉันยังได้เรียนรู้อีกว่า ทุกเช้าจะมีรถขายของสดแวะมาที่ศูนย์ ในรถคันนั้นจะมีของกินขายหลายอย่าง กับข้าวใส่ถุง เนื้อย่าง หมูย่าง ขนมหวาน หรือพวกของสดอย่างหมู เนื้อ ปลาทู กระเทียม หอมแดง พริกแห้ง มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว ต้นหอมผักชี ของสดต่างๆ ที่จะนำมาทำกับข้าวได้


และยามเช้าของวันจันทร์และศุกร์ หมู่บ้านใกล้ๆ ก็จะมีตลาดนัดขายทั้งของกิน ของสด และของใช้ จนเอาเข้าจริง ที่เคยคิดว่ามันหาของกินลำบาก แท้จริงไม่ได้ลำบากอะไรเลย


พออยู่ไป ฉันก็รู้เองว่าชีวิตมีทางเลือกและมีทางออกเสมอ ก็เหมือนกับปัญหามากมายในโลกนี้ที่หากยืนมองห่างๆ ก็อาจคิดว่ามันเป็นทางตัน ไม่มีทางแก้ไขได้ แต่ที่จริง ใช้เวลากับมันสักพักเราก็จะเห็นเอง


แน่นอน ถ้าฉันตื่นสาย ไม่ทันรถขายของหรือถ้าฉันขี้เกียจออกไปหา (ซื้อ) ปลามากิน ฉันอาจต้องกินมาม่า ปลากระป๋อง บ้าง เป็นบางมื้อ


แต่จะเป็นไรไป อยู่ในเมืองหลวง ของกินมีสารพัด เราก็ยังต้องตุนมาม่าไว้เลย หรือบางทีไปนั่งร้านอาหารเสียดิบดี เราก็ยังสั่งยำปลากระป๋องมากิน


นั่งใคร่ครวญข้อดีข้อเสียอยู่เป็นนานสองนาน ฉันก็หัวเราะหึๆ ให้ตัวเอง


ความคิดอยากมีตู้เย็นเกิดขึ้นยามเหนื่อย ขี้เกียจ หรือบางทีอยากได้อะไรที่ดีกว่าเดิม แต่บางทีเราก็ลืมสิ่งที่ได้ในมิติยากไร้ และลืมไปว่าในความสะดวกสบายนั้น บางทีเราก็สูญเสียอะไรไปไม่น้อยเช่นกัน


คิดได้เช่นนี้ก็ปลงตกว่า ไม่มีตู้เย็นก็มีข้อดีตั้งเยอะเลยแน่ะ

ก็แค่ขยันไปซื้อน้ำแข็งกินทุกวันแก้ร้อนในช่วงนี้ มันจะเป็นไรไป

 

 

 

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
  ๑.ผูกพัน เป็นชื่อเพลงเพลงหนึ่งไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ฟังเพลงสักเพลงแล้วมันตรึงเราให้อยู่นิ่งๆ ตั้งอกตั้งใจฟังจำได้ว่า วันนั้นฉันนอนเปลที่ผูกเข้ากับเสาอาคารและต้นไม้ข้างศูนย์ฯ มีกิจกรรมค่ายของน้องๆ วัยมัธยมและมหาวิทยาลัยราวสี่สิบคน บรรดาพี่เลี้ยงเป็นคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนล้วนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ โดยเฉพาะ แคน และน้องผู้ชายอีกคนจำชื่อไม่ได้ (มาจากแก่งเสือเต้น) ดำเนินกิจกรรมให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีสาระและสนุกสนาน เรียกว่าเอาอยู่ เก่งมากๆ
สร้อยแก้ว
 หน้าบ้านดอกโมกบานก่อนเพื่อนดอกมะลิตามมาดอกคูนเริ่มผลิไสวลั่นทมสี่ต้นที่เคยปลูกเองกับมือก็ผลิดอกให้ชมเร็วทันใจปีที่แล้วนี้เอง, ตอนนั้นเอามาปลูกกับเด็กหญิงไพจิตรพายุคะนองทำให้กิ่งก้านใหญ่ของลั่นทมหน้าศูนย์ฯ หักฉันแบ่งออกเป็นสี่กิ่งปลูกรอบบ้านดินไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่บ้านหลังนี้ลั่นทมกลิ่นหอม ชอบเด็ดมาดมดอกพุก ไม้ยืนต้นก็บานแล้วสีขาวดอกยอกขี้หมาส่งกลิ่นหอมจากคืนถึงเช้ามันเป็นดอกที่ชื่อกับตัวไม่เข้ากันเลยยอกขี้หมาสีขาวร่วงหล่นบนพื้นสีขาวเกลื่อนทางเดินดูสวยดียามเช้าตื่นมาเดินเล่น สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้แสนสดชื่นเย็นวันนี้…
สร้อยแก้ว
แม้ม็อบเสื้อสีๆ จะซาลงไปแล้ว (ซาแต่นามภาพ-รูปธรรม แต่ในความรู้สึกนั้นยังคงไหลแรง) แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าคนที่เข้าร่วมแต่ละกลุ่มย่อมมีความคิด มีทัศนคติที่ชัดเจนของตนเอง อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้วว่าฉันจะนำความคิดของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที มานำเสนอ เพราะเห็นว่าวิธีคิดของเขาน่าสนใจมาก ซึ่งแม้ปัจจุบันฉันจะยังอยู่ขอบปลายชายแดนอีสาน ไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับตัวตนจริงๆ ของเขา และบทสัมภาษณ์ที่คัดลอกมาฝากนี้ก็เคยผ่านหน้านิตยสารมาบางส่วนแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากให้ใครอีกหลายๆ ที่อาจยังไม่ได้ผ่านตากับความเห็นเหล่านี้ได้ลองอ่านเล่นๆ ดูบ้าง
สร้อยแก้ว
ไม้หนึ่ง ก. กุนที - เป็นใคร? สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานเขียนประเภทกวีนิพนธ์หรืองานวรรณกรรม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะตั้งคำถามนี้ แต่สำหรับแวดวงนักเขียนหรือคนที่สนใจงานวรรณกรรม ย่อมรู้จักเขาดีว่าเขาคือหนึ่งในกวีหัวก้าวหน้าที่มีความสามารถสูงในด้านฉันทลักษณ์จนก้าวพ้นกรอบกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ไปได้อย่างสง่างามและพยายามที่จะให้ฉันทลักษณ์รับใช้ศิลปะ มีชีวิตชีวา มากกว่าเพียงแค่ถ้อยคำไพเราะเพราะพริ้ง
สร้อยแก้ว
แมนยูฯ คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ศูนย์ฯ คือ ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูนฉันย้ายจากบ้านเช่าในเมืองโขงเจียมมาอยู่บ้านดินของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูน ได้ ๑ เดือนเต็มๆ แล้วและนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ภายในบ้านที่มีโทรทัศน์ใส่กล่องกระดาษตั้งอยู่ มันก็มีหน้าที่เป็นพนักพิงยามเขียนหนังสือ (กับโต๊ะญี่ปุ่น) ให้เท่านั้น ฉันขอความร่วมมือจากคนร่วมชายคาบ้านว่าหากอยากดูข่าวสารจากโทรทัศน์ก็ช่วยออกแรงเดินสักร้อยกว่าเมตรไปดูในห้องทำงานของศูนย์ฯ เถอะนะ ซึ่งที่นั่นจะมีน้องชายอ้วนดูอยู่เป็นประจำ (และนอนที่นี่) คนอาศัยชายคาเดียวกันก็นับว่ามีน้ำใจยิ่ง ให้ความร่วมมือกับคนเรื่องมากอย่างฉันโดยดี
สร้อยแก้ว
ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงเล้ยยยยย... จริงๆ พับเผื่อยซิ วันประชุมสมัชชาคนจน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เจ้าแมวตัวนี้นอนซุกอยู่ในรองเท้าเจ้าอ้วน - เด็กอ้วนแห่งรายการวิทยุชุมชน เด็กๆ แถวนี้บอกว่าพี่น้องมันตายไปหมดแล้ว หมาฟัดเรียบฉันได้แต่ฟังเขาพูด ไม่ได้ขึ้นไปฟังเขาประชุมด้วย เลยไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของมันแต่ว่าพอบ่ายแก่ๆ ก็มีมือดีจับใส่กระเป๋าเสื้อเดินมาให้ที่บ้านดิน"อยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะถูกหมาฟัดตาย"เจ้าของเสียงดึงมันออกมา ตัวเล็กๆ อยู่ในอุ้งมือเดียวเท่านั้นของชายหนุ่มฉันมองแล้วทั้งยิ้มทั้งถอนใจ
สร้อยแก้ว
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อนสิรินธรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้จัดงานรำลึก ๑๕ ปีในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในบริเวณแถบอีสานใต้นี้ นับว่ามีปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐอยู่หลายโครงการ เอาแค่ใกล้ๆ ที่ฉันอยู่ มีปัญหาจากการสร้างเขื่อนอยู่สามโครงการคือ เขื่อนสิรินธร เขื่อนปากมูน และเขื่อนราษีไศล
สร้อยแก้ว
  "ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมาเสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน
สร้อยแก้ว
ฉันมีโอกาสไปดูงานรณรงค์เลิกเหล้าของหมู่บ้านคำกลาง ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อหลายเดือนก่อน ตำบลนี้มีกำนันคนเก่งเป็นผู้หญิงชื่อ รัตนา สารคุณ ก่อนนี้แม่กำนันเคยเป็นนักเลงสุรา ดื่มเหล้าหนัก แม่กำนันดื่มเหล้าเพียวและดื่มน้ำตบตูดแบบเดียวกับที่ผู้ชายพื้นบ้านนิยมดื่มกัน และแม่คอแข็งชนิดผู้ชายต้องยอมแพ้ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป กาลเวลาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอได้มากกว่าการพิสูจน์ความกินทนกินนาน ใจป้ำ ใจแกร่ง ในวงสุรา แม่กำนันก็เห็นโทษของการดื่มสุรา และหันมารณรงค์ให้ลูกบ้านลดละเลิกเหล้า
สร้อยแก้ว
  นึกไม่ออกแล้วว่าเคยไปร่วมงานวันเด็กครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่พยายามนึก...ลูกก็ยังไม่มี หลานรึ ก็ไม่เคยได้พาไป เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านงานวันเด็กครั้งสุดท้ายของตัวเองน่าจะเป็นตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.๖ นั่นแหละ เพราะหลังจากนั้น พอขึ้นชั้น ม.๑ ความแก่แดดแก่ลมของฉันก็พลันให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ไม่ใช่เด็ก จึงไม่เคยไปวอแวงานวันเด็กอีก ไม่อย่างนั้น เค้าจะหาว่าเด็กจนปีใหม่นี้ฉันมีโอกาสไปนอนมองพระจันทร์กลางทุ่งนา มองฟ้าพร่างดาวเคลื่อนคล้อยข้ามคืนข้ามปีในช่วงปีใหม่ที่อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ก็เลยได้อยู่ยาวมาเรื่อยจนถึงงานวันเด็กของหมู่บ้าน