Skip to main content

สัปดาห์ที่ 80 จากการจองจำที่แสนนานนับจากวันที่ 30 เมษายน 2554

วันที่ 23 ธันวาคม 2555

สวัสดีจ้ะพี่ยศ

ผ่านอาทิตย์ที่แสนยุ่งเหยิงนี้ไปซะที จุ๊บเหนื่อยมากๆจากกการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆเพื่อรณรงค์ให้ปล่อยตัวพี่ร่วมกับเพื่อนๆและหน่วยงานต่างๆทั้งในและต่างประเทศ ทุกๆคนร่วมกันเอาใจช่วยพี่ให้ได้รับการพิพากษาเพื่อยุติการจองจำอันแสนยาวนานถึง 20 เดือนเสียที แต่ศาลก็ยังไม่สามารถพิพากษาได้เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงองค์คณะใหม่และต้องใช้เวลาในการศึกษาเอกสารพยานต่างๆ จึงได้นัดพิพากษาในวันที่ 23 มกราคม 2556 เวลา 9.00 น. ก็ยังดีที่เราได้ทราบกำหนดวันที่แน่นอนซะที ไม่ต้องเลื่อนไปอีกแล้ว อะไรจะเกิดก็ทำใจแล้ว ที่ผ่านมาจุ๊บคิดว่าทุกๆคนได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เสียดายที่พี่จะไม่ได้ไปเยี่ยมยายกับตาพร้อมกับพวกเราในวันปีใหม่ ยายถามถึงพี่ทุกครั้งที่จุ๊บกลับไปหา แต่ตาจำอะไรไม่ได้แล้ว ยายบอกจุ๊บเสมอว่าอย่าทิ้งพี่นะ ให้ดูแลกันด้วย

พี่คงเห็นแล้วว่าวันที่ 19 ธค.ที่ผ่านมามีคนมาให้กำลังใจและสังเกตการณ์มากขนาดไหน น่าจะเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียวสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา ที่ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตอะไร ทุกๆคนมาด้วยใจจริงๆ จุ๊บคิดว่าเขาคงอยากมาพิสูจน์ว่าความยุติธรรมยังมีอยู่หรือไม่และมาเป็นพยานในการพิพากษาที่อาจจะมีขึ้น จุ๊บเห็นว่ามีสัญญาณที่ดีหลายๆอย่างที่น่าจะทำให้ผลการพิพากษาออกมาไม่แย่จนเกินไป แต่ก็ไม่อยากคาดหวังมากไป พยายามทำใจให้อยู่ในความสงบแต่ก็ไม่ท้อและจะไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน หลายๆคนเข้าไปทักทายจับมือและแสดงความห่วงใยต่อพี่ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่พี่ทำยืดมั่นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ตอนนี้คงต้องเร่งการทำแถลงปิดคดีให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ จุ๊บได้โทรตามคุณสุวิทย์แล้วเขารับปากว่ากำลังแก้ไขให้ตามที่พี่เสนอประเด็นไปและจะอุดช่องโหว่และเสริมจุดแข็งจากคำให้การของพยานปากต่างๆทั้งสองฝ่าย ดูแล้วก็น่าที่จะมีสิทธิลุ้นอยู่มากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อมีคำพิพากายกฟ้องก่อนหน้านี้ในกรณีที่บรรณาธิการไม่ต้องรับผิดชอบต่อบทความที่เป็นของนักเขียนคนอื่น ศาลก็น่าที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานในการพิพากษาคดีของพี่ด้วยเช่นกัน

จุ๊บเพิ่งได้ไปดูหนังกับลูกๆหลังจากไม่ได้ดูหนังโรงมานานมาก ตอนแรกว่าจะดูอีกเรื่องหนึ่งแต่ไทแนะนำ Life of Pi ซึ่งได้รับคำวิจารณ์ที่ดี ก็เลยเปลี่ยนใจกัน ดูแล้วประทับใจมาก เป็นเรื่องของเด็กหนุ่มชาวอินเดียชื่อพายเป็นลูกเจ้าของสวนสัตว์ที่ต้องย้ายบ้านไปอยู่แคนาดาแต่ขณะเดินทางโดยเรือก็เกิดอุบัติเหตุเรืออับปางลง พ่อแม่และพี่ชายเสียชีวิตเหลือแต่ตัวเขากับสัตว์ที่เอามาด้วย สุดท้ายต้องอยู่กับสัตว์ร้ายอย่างเสือเบงกอล การต้องใช้ชีวิตกับศัตรูที่คอยจ้องกินเราตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเพื่อนร่วมชะตากรรมดเดียวกันกับพาย ถ้าพายไม่ได้มองโลกในแง่บวกและสิ้นศรัทธาในชีวิต เขาก็คงตกเป็นเหยื่อของทะเลคลั่งหรือเป็นอาหารของเสือไปแล้ว แต่นี่พายไม่เคยมีความคิดท้อแท้เลย หลายครั้งเขาพูดถึงความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป โดยคอยปลุกปลอบใจตัวเองเสมอว่าจงอย่าสิ้นหวัง ในที่สุดเขาก็สามารถเอาชีวิตรอดตายจากสัตว์ร้าย คลื่นลมที่โหมกระหน่ำกลางทะเลลึกมาได้ มาถึงตอนนี้จุ๊บคิดว่าการที่พี่ไม่เคยยอมแพ้หรือสิ้นหวังเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ทางข้างหน้าก็เหลืออีกไม่ไกลนัก ขอให้พี่จงอย่าสิ้นหวังเช่นเดียวกับพาย

คิดถึงเสมอ

จุ๊บ

23 ธันวาคม 2555 เวลา 18.53 น. 

 

ที่มาภาพ: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=560364743992667&set=a.379734388722371.101267.100000574403352&type=1&theater

บล็อกของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข

สมยศ พฤกษาเกษมสุข
 
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
หมายเหตุ -  ปณิธาน พฤกษาเกษมสุข หรือ ไทบุตรชายของสมยศ พฤกษาเกษมสุข อ่านบทความของพ่อชิ้นนี้ภายในงานเสวนา “การปฏิรูปกระบวนการประกันตัวของผู้ต้องหาคดีความมั่นคงของชาติ” ที่จัดขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 3 ปีแห่งการถูกคุมขังของสมยศ จัดที่มหาวิทยาธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
งาช้างไม่งอกจากปากสุนัขฉันท์ใด การปฏิรูปไม่อาจงอกมาจากพวกปฏิกูลการเมืองที่กำลังปิดกรุงเทพ นำความหายนะมาสู่สังคมไทยในขณะนี้
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
 “พวกเราใช้ชีวิตบั้นปลายในเรือนจำก็เพราะเราคัดค้านแนวคิดการพัฒนาอย่างแบ่งแยก ซึ่งทำให้เรากลายเป็นคนต่างด้าวในประเทศของเราเอง”