Skip to main content

7.เสรีภาพในการแสดงออก การสอดส่องของรัฐ และการควบคุมเนื้อหา  

          ในยุคโลกาภิวัตน์ที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีการพัฒนาอย่างไร้พรมแดนส่งผลกระทบต่อสื่อในฐานะที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ทำให้ในปัจจุบันและในอนาคตพื้นที่สื่อกลายเป็นสิ่งที่รัฐพยายามที่จะเข้าไปมีอิทธิพลต่อสื่อมากยิ่ง

            กรณี “ซิงเกิลเกตเวย์” ในปี 2558 แสดงถึงแนวคิดโครงการของรัฐที่อาจกระทบต่อเสรีภาพในการสื่อสารและสิทธิส่วนบุคคลในข้อมูล โครงการดังกล่าวถูกคัดค้านจากหลายภาคส่วนทั้งองค์กรสิทธิ องค์กรธุรกิจ และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไป หนึ่งในผลกระทบที่หลายฝ่ายกังวล นอกจากการ “สอดส่อง” ก็คือการ “เซ็นเซอร์” ที่อาจตามมา ไม่นานหลังจากกรณีดังกล่าว เมื่อต้นปี 2559 ยังปรากฏความพยายามใหม่ของรัฐในการร้องขอผู้ให้บริการอย่างกูเกิล “ลบ” ข้อมูล หรือ “ถอด” เว็บไซต์บางอย่างออกจากการเข้าถึงของผู้ใช้งานทั่วไป

          หน่วยงานของรัฐในประเทศต่างๆ มีคำร้องขอให้ผู้บริการ “ลบ” ข้อมูลหรือ “ถอด” เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาขัดต่อกฎหมายอยู่บ่อยครั้งจนแทบเป็นเรื่องปกติ ปลายเดือนมกราคม 2559 ปรากฏข่าวว่าหน่วยงานของไทยเจราจาเรียกร้องลักษณะนี้กับกูเกิล เรื่องนี้เริ่มต้นเผยแพร่มาจากสื่อสังคมออนไลน์ของเพจเฟสบุ๊กกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway: Thailand Internet Firewall #opsinglegateway กลุ่มสนับสนุนสิทธิเสรีภาพออนไลน์ ได้เผยแพร่เอกสารหลักฐานที่ปรากฏความพยายามของรัฐในการร้องขอกูเกิลให้ “ลบ” ข้อมูลนั้นคือ “สรุปผลการประชุมคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการสื่อสารมวลชน สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ครั้งที่ 11” ซึ่งปัจจุบันยังเผยแพร่อยู่ในเว็บไซต์ของสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ เอกสารนี้แสดงการพูดคุยระหว่างคณะกรรมาธิการฯ กับตัวแทนกูเกิล โดยทางฝ่ายไทย “ขอ” ให้ทางกูเกิลช่วย “ถอดเว็บไซต์” ที่มีเนื้อหากระทบความมั่นคงขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยในกรณีเร่งด่วนอาจขอให้ถอดโดย “ไม่ต้องมีคำสั่งศาล” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐ ซึ่งเรียกร้องให้กูเกิล นำเนื้อหาข้อมูลออกจากระบบที่กูเกิลควบคุมดูแลอยู่ เพื่อมิให้ประชาชนเข้าถึงหรือรับรู้ข้อมูลนั้น โดยอ้างเหตุผลว่าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลผิดกฎหมาย

          ความพยายามของรัฐในการขอให้​ “ลบ” หรือ “ปิดกั้น” เนื้อหาข้อมูลเป็นการเรียกร้อง สิทธิที่จะถูกลืม (Right to be Forgotten)บนวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ที่ต่างไปจากการที่บุคคลธรรมดาขอใช้สิทธิที่จะให้โลกออนไลน์ “ลืม” ข้อมูลของตนในการรักษาศักดิ์ศรีของบุคคล เนื่องจากสิทธิดังกล่าวโดยสภาพแล้วเป็นสิทธิที่มีรากฐานจากสิทธิมนุษยชน เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล จึงเป็นสิทธิของประชาชนคนธรรมดา ในขณะที่การเรียกร้องของรัฐเป็นการพยายามบังคับใช้กฎหมายบางอย่างที่โดยสภาพแล้วเป็นการจำกัดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิด การปิดกั้นข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต เนื่องจากการขอให้กลไกการค้นหาต่างๆลบลิงค์ที่นำไปสู่แหล่งข้อมูล ก็เท่ากับเป็นการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลนั้นได้

 

8.ความเป็นกลางของเทคโนโลยี: รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ความเป็นนิรนาม และปัญญาประดิษฐ์

               ในปัจจุบันการเพิ่มความสามารถให้ประชาชนเข้าถึงสิทธิในการสื่อสารนั้นเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มความสารถแข่งขันโดยเพิ่มโอกาสให้เข้าถึงเทคโนโลยีสื่อสารขั้นสูงย่อมเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้มากขึ้น รูปแบบธุรกิจของกูเกิลที่มีอิทธิพลแพร่หลายในตลาดทำให้เกิดการผูกขาดและกีดกันในการเข้าถึงทรัพยากรในรูปแบบของอินเทอร์เน็ต
               
               กรณี Google Monopoly Case กูเกิลได้ใช้อำนาจผูกขาดในลักษณะที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตและคู่แข่งทางการตลาด โดยเจ้าหน้าที่ FTC ตรวจพบหลักฐานว่ากูเกิลได้ใช้กลยุทธ์ที่ต่อต้านการแข่งขันทำร้ายคู่แข่งเช่น Yelp และ Trip Adviso ที่บริษัทกูเกิลได้เสนอบริการและโปรแกรมปฏิบัติการต่างๆของตนให้ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต เพื่อรวบรวมและดูดข้อมูลจากเว็บไซต์จำนวนมากของผู้บริโภค เพื่อแสดงไว้ในผลการค้นหาของกูเกิล ทำให้กูเกิลมีฐานข้อมูลจำนวนมากกว่าบริษัทที่เป็นคู่แข่งทางการตลาดในอินเทอร์เน็ตรายอื่นๆ 

            ในบริการ Google Shopping ที่แสดงภาพและราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา พร้อมทั้งชื่อของร้านค้าและคะแนนรีวิว ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสินค้าของบริษัทคู่แข่ง ส่วนรายละเอียดที่ปรากฎใน Google Shopping ที่ระบุว่า เป็นสินค้าที่ "จ่ายค่าโฆษณา" จะถูกจัดอันดับการค้นหาไปไว้ที่ตำแหน่งบนสุด ซึ่งสะท้อนว่าผลการสืบค้นข้อมูลของบริการนี้จะแสดงเฉพาะสินค้าที่จ่ายค่าโฆษณาให้กูเกิลเท่านั้น ต่างจากผลการสืบค้นตามปกติที่สร้างขึ้นเพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้าที่มักจะแสดงราคาสินค้าจากร้านค้าของกูเกิลในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าออนไลน์เจ้าอื่นอยู่เป็นประจำ จึงผิดกฎหมายการผูกขาดการค้าของสหภาพยุโรป  จากเหตุดังกล่าวหน่วยงานกำกับดูแลด้านการค้าของสหภาพยุโรปจึงสั่งปรับกูเกิลเป็นจำนวนเงิน 2,400 ล้านยูโร หรือกว่า 84,000 พันล้านบาท ฐานผูกขาดการขายสินค้าบนเครือข่ายออนไลน์

            เห็นได้ว่ากูเกิลเป็นผู้ให้บริการที่มีฐานข้อมูลผู้ใช้บริการจำนวนมากที่แสดงให้เห็นถึงอำนาจเหนือตลาดของบริษัทกูเกิลเพราะมีฐานข้อมูลเพื่อปรับปรุงบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้นถือเป็นการละเมิดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการผูกขาดตลาด การละเมิดสิทธิของผู้บริโภคและการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อีกทั้งการที่กูเกิลสามารถควบคุมช่องทางการไหลเวียนข้อมูลในอินเทอร์เน็ตได้ ถือเป็นการเพิ่มการผูกขาดอำนาจในการจัดการข้อมูลอีกด้วย

รูปภาพจาก เว็บไซต์ https://www.sarahdayan.com/blog/the-new-google-logo-why-it-is-a-success-despite-what-everybody-thinks

เขียนโดย นางสาววรินทรา ศรีวิชัย

อ่านตอนที่ 1 https://blogazine.pub/blogs/streetlawyer/post/6321

อ่านตอนที่ 2 https://blogazine.pub/blogs/streetlawyer/post/6322

แหล่งอ้างอิง

https://prachatai.com/journal/2016/01/63752

https://thainetizen.org/2016/02/state-right-to-be-forgotten/

https://www.facebook.com/OpSingleGateway/

http://money.cnn.com/2015/03/19/technology/google-monopoly-ftc/index.html

http://www.bbc.com/thai/international-40415852

 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
มาตรการสำหรับการแก้ปัญหาความอดอยากหิวโหยที่เกิดจากภัยพิบัติธรรมชาตินั้นสามารถดำเนินการได้ใน 3 ช่วงเวลา ก็คือ การเตรียมตัวก่อนภัยพิบัติจะเกิด การบรรเทาและแก้ไขปัญหาในขณะเกิดภัยพิบัติ การเยียวยาและฟื้นฟูหลังภัยพิบัติผ่านไปแล้ว   ในบทความนี้จะนำเสนอมาตรการและกรณีศึกษาที่ใช้ในการขจัดความหิว
ทศพล ทรรศนพรรณ
มาตรการทั่วไปที่ใช้ในการประกันความอิ่มท้องของประชากรในประเทศตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติที่รัฐบาลไทยประกาศสมาทานยึดถือนั้น ตั้งอยู่บนหลักกฎหมายสิทธิมนุษยชนเรื่องสิทธิด้านอาหาร นั้นหมายถึงรัฐไทยต้องมีมาตรการเคารพ ปกป้อง และส่งเสริมสิทธิประกอบด้วย กรอบทางกฎหมาย   กรอบทางนโย
ทศพล ทรรศนพรรณ
อุดมการณ์ที่เป็นสาเหตุของปัญหาแรงงานที่เกิดขึ้นทั่วโลกอยู่นั้น มีจุดก่อตัวมาจากระบบเศรษฐกิจการเมืองแบบเสรีนิยมใหม่ที่เข้ามาพร้อม ๆ กับกระแสแห่งการพัฒนาของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ ที่ทำให้เกิดเสรีทางการลงทุนจนนำมาซึ่งรูปแบบการจ้างงานรูปที่มีความยืดหยุ่นต่อการบริหารจัดการของบรรษัท และสามารถตอบโจทย์นักลงทุ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินจำเป็นต้องวางแผนในการดำเนินการด้วยความเข้าใจพื้นฐานที่ว่า ความขัดแย้งเป็นสิ่งธรรมดาสามัญที่เกิดขึ้นได้ หากต้องการผลักดันข้อบัญญัติท้องถิ่นให้สำเร็จจึงต้องสามารถทำความเข้าใจลักษณะของข้อพิพาทที่มักเกิดขึ้นในการจัดการที่ดิน   และมีแนวทางในการข
ทศพล ทรรศนพรรณ
 ลู่ทางส่งเสริมการการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหามลพิษ มีดังต่อไปนี้
ทศพล ทรรศนพรรณ
ปัญหาสิ่งแวดล้อมมักสร้างผลกระทบในระยะยาว ไม่ได้เกิดการบาดเจ็บ เสียหาย ทันทีทันใด   ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีการพิสูจน์ว่าความเจ็บป่วย เสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมีผลมาจากปัญหาสิ่งแวดล้อมจริง   สิ่งที่เราต้องทำคือการเก็บหลักฐานอย่างต่อเนื่องและชัดเจนเพื่อนำไปใช้เป็นพยานหลักฐาน &n
ทศพล ทรรศนพรรณ
การจัดชุมนุมสาธารณะย่อมเป็นที่สนใจของสังคมตามความประสงค์ของผู้จัด จึงมีสื่อมวลชนที่เข้าร่วมทำข่าวทั้งที่เป็นสื่อมวลชนอาชีพที่มีสังกัดประจำหรือสื่อพลเมืองที่ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์และรายงานข่าวตามภูมิทัศน์เทคโนโลยีสื่อสารที่ปรับตัวไป 
ทศพล ทรรศนพรรณ
การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธมีข้อจำกัดที่อาจถูกรัฐเข้าระงับหรือแทรกแซงการใช้สิทธิได้ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ข้อ 4 ในสภาวะฉุกเฉินสาธารณะที่คุกคามความอยู่รอดของชาติที่ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาญาจักไทย พุทธศักราช 2560 กำหนดถึงเหตุที
ทศพล ทรรศนพรรณ
การชุมนุมโดยสงบเป็นเครื่องมือที่ทำให้บุคคลทั้งหลายสามารถแสดงออกร่วมกันและมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง ให้ปัจเจกสามารถแสดงความเป็นตัวตนของตัวเองร่วมกับผู้อื่น   โดยการเลือกสถานที่การชุมนุมอยู่ภายใต้หลักมองเห็นและได้ยิน (sight and sound) ทั้งนี้ผู้ชุมนุมต้องอยู่ในที่ที่มองเห็นและสาธารณชนต้อ
ทศพล ทรรศนพรรณ
ขบวนการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น ในบริบทโครงสร้างทางอำนาจในสังคมที่ไม่เท่าเทียมกัน การรวมศูนย์อำนาจหรือการครอบงำทางวัฒนธรรมโดยใช้วัฒนธรรมเดียว สิทธิชุมชนจึงเป็นการต่อสู้เพื่อปรับสัมพันธภาพทางอำนาจ สร้างตำแหน่งแห่งที่ให้ชุมชนให้เกิดความเป็นธรรมและเคารพในความหลากหลาย โดยท้องถิ่นมีเสรีภาพในการกำหนดกติกา
ทศพล ทรรศนพรรณ
ข้อกล่าวอ้างสำคัญของรัฐบาลไทยในการเพิ่มศักยภาพในด้านข่าวกรองและออกกฎหมายที่ให้อำนาจสอดส่องการสื่อสารของประชาชน คือ “ถ้าประชาชนไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไร” โดยมิได้คำนึงหลักการพื้นฐานเบื้องต้นว่า แม้ประชาชนมิได้ทำผิดกฎหมายอันใดก็มีสิทธิความเป็นส่วนตัว ปลอดจากการแทรกแซงการสื่อสาร อันเป็นสิทธิพื้นฐานตามกฎ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การพัฒนารัฐที่ใช้กฎหมายเป็นหลักประกันสิทธิมนุษยชนของประชาชน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมืองในประเด็นสาธารณะของผู้ตื่นตัวทางการเมืองในลักษณะ “นิติรัฐอย่างเป็นทางการ” แตกต่างจากความสัมพันธ์ทางอำนาจแบบ “ไม่เป็นทางการ” ที่รัฐอาจหลีกเลี่ยงการใช้อำนาจปกครองภายใต้กรอบของกฎหมายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพต