เราต่างรู้ชัดแจ้งเห็นจริงว่า บนดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลก อันมีสันฐานเป็นทรงกลมคล้ายผลส้มใบนี้มีน้ำมากกว่าพื้นดิน แต่สิ่งหนึ่งที่เราหลายคนอาจไม่รู้คือ เรื่องการแบ่งพรมแดนแผ่นดินโดยใช้แม่น้ำเป็นเส้นแบ่ง คนในยุคสมัยก่อนคิดได้ยังไงว่า แม่น้ำส่วนไหนเป็นของประเทศใด เพราะธรรมชาติแม่น้ำมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ในเอเชียของเรามีแม่น้ำหลายสายที่ถูกขีดแบ่งเป็นเส้นพรมแดน ไม่ว่าจะเป็นเส้นแบ่งหมู่บ้านกับหมู่บ้าน ตำบลกับตำบล จังหวัดกับจังหวัด และประเทศกับประเทศ และบ่อยครั้งที่การแบ่งแม่น้ำออกเป็นพรมแดน คนที่อยู่ริมน้ำไม่เคยได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง เพราะโดยมากการแบ่งแม่น้ำเป็นเส้นพรมแดนนั้น ล้วนแต่ผู้มีอำนาจไม่ว่าจะเป็นอำนาจทางการเมือง อำนาจทางการปกครองแบ่งให้แทบทั้งสิ้น
มีบางคนเคยถามผมว่า ขณะมายืนอยู่ริมแม่น้ำรู้สึกยังไงที่ข้ามแม่น้ำไปไม่ได้?
ผมไม่ตอบ เพียงแต่ชี้ชวนให้เขาดูนกที่กระพือปีกบินข้ามแม่น้ำไปยังอีกฝั่ง
บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่ตอบได้ยากเช่นกันว่า เราคิดเช่นไร แต่หากมองด้วยมุมที่หลากหลาย เราจะไม่เห็นความดีของการใช้แม่น้ำเป็นเส้นพรมแดนเลยหรือ แน่ละบางทีการใช้แม่น้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดน การไปมาหาสู่กันระหว่างผู้คนที่อยู่คนละฝั่งน้ำจะง่ายกว่าการที่เราต้องเดินข้ามแผ่นดินไปหากัน เพราะบนแผ่นดินกับดักสามารถวางได้ง่ายกว่า
ใช่ว่าการใช้แม่น้ำเป็นเส้นแบ่งพรมแดนสมมติจะมีแต่เรื่องดี เรื่องร้ายก็ยังมีให้ปรากฏ เพราะบ่อยครั้งเช่นกันที่แม่น้ำอันเป็นเส้นแบ่งพรมแดนได้พาผู้คนข้ามเส้นขอบแดนไปสู่หายนะ ไม่ว่าจะเป็นการอับปางลงของเรือเดินทะเล การลักลอบขนผู้คนอีกฝั่งน้ำข้ามมายังอีกฝั่งน้ำเพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่าชีวิตที่ดีกว่าคือการเดินทางไปสู่วันสุดท้ายของชีวิต
ในสายตาของเด็กๆ ยามที่พวกเขาเริงร่าอยู่ตามหาดทรายชายฝั่งแม่น้ำ เขาเหล่านั้นจะจินตนาการถึงเส้นพรมแดนที่เขาเองไม่อาจก้าวข้ามไปได้นั้นในรูปแบบใด มันคงเป็นเรื่องยากยิ่งที่ผู้ใหญ่จะสามารถรับรู้ได้
หากลองมองย้อนกลับไปดูเบื้องหลังการแบ่งแม่น้ำออกเป็นฝักฝ่าย แม่น้ำบ้างสาย เช่น แม่น้ำโขงหรือแม่น้ำสาละวิน คนท้องถิ่นล้วนไม่มีส่วนร่วมในการแบ่งแม่น้ำให้แก่กันและกัน แต่แม่น้ำในมุมมองของคนสองฝั่งน้ำกลับหมายถึงพื้นที่ในการหาอยู่หากินร่วมกัน แล้วแม่น้ำในความหมายของผู้แบ่งเส้นพรมแดนละคือสิ่งใดกัน
เบื้องหลังการแบ่งแม่น้ำโขงออกเป็นสองฝั่งของเจ้าอาณานิคมเช่นฝรั่งเศส หากเราย้อนมองกลับไปดูจะพบว่า การแบ่งเช่นนี้ล้วนเพื่อการปกครองที่ง่ายขึ้น และเพื่อกอบโกยเอาผลประโยชน์แทบทั้งสิ้น
หลังการแบ่งผู้คนออกเป็นสองส่วน การข้ามเส้นพรมแดนมาเจอกันจึงเป็นเรื่องยาก และในการข้ามเส้นพรมแดนมาเจอกัน กฎหมายเพื่อการกดขี่จึงปรากฏรูปโฉมอันชั่วร้ายของมันขึ้นมา มันจะมีประโยชน์อันใดเล่าหากเราคิดแบ่งแม่น้ำแล้วสร้างพรมแดนสมมติขึ้นมาเพื่อกดขี่ผู้คนด้วยกัน
เมื่อแม่น้ำถูกทำให้เหมือนพรมแดนแผ่นดิน คนกับคนจึงถูกตัดแบ่งออกจากกัน แต่ใช่ว่าผู้คนท้องถิ่นจะเป็นดั่งวิถีทางที่ผู้มีอำนาจอยากให้เป็น คนล้านช้างยังคงสัมพันธ์กับคนล้านนา คนเวียงจันยังคงเป็นพี่น้องกับคนอีสาน คนริมน้ำกระบุรีที่ระนองยังคงเป็นพี่น้องกับคนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ คนไทเลยริมน้ำเหืองยังคงเป็นพี่น้องกับคนเมืองแก่นท้าว-ปากลาย
แม้ว่าชนชั้นปกครองจะแบ่งผู้คนออกเป็นสองฝากได้ แต่สิ่งที่ชนชั้นปกครองไม่สามารถแบ่งได้คือวัฒนธรรมของผู้คนสองฝากฝั่งแม่น้ำ ถึงแม่น้ำจะเป็นเหมือนเส้นพรมแดนดินอย่างไรก็ตาม แต่วัฒนธรรมของผู้คนบนเส้นพรมแดนสมมติยังคงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแนบแน่นและยาวนาน และที่นอกเหนือไปกว่านั้น มันยากยิ่งที่จะแบ่งวัฒนธรรมของผู้คนคุ้นเคยออกจากกันอย่างสิ้นเชิง