Skip to main content

 

 

สวัสดีปีใหม่ 2553
ถึงโลกยังทรามสังคมยังบัดสี
ไม่เป็นไร เรายังพอ
...มีความดี
ณ วัน เดือน ปีใหม่
...มอบให้กัน

นั่นคือพระวัจนะจากพระคริสต์
ทรงลิขิตมาฝังฝากจากสรวงสวรรค์
ว่า “จงรักเพื่อนบ้าน เหมือนดั่งรักตัวเอง” ทุกสิ่งอัน
มาแบ่งปันเป็นพรพรรณเพริศพิไล

ไปสถิต ณ ดวงจิต ทุกๆท่าน
ที่ได้อ่านบทกวีนี้ขานไข
ท่ามกลางการเมืองเหลือร้าย สังคมแตกแยก เศรษฐกิจย่ำแย่
- ในสังคมไทย
ขอรักในพระคริสต์ธรรม
- ช่วยนำทาง

พาทุกท่านพ้นผ่านกาลวิกฤต
คลาดแคล้วพิษจากเภทภัยทุกก้าวย่าง
ตราบอรุณสมัยยุคใหม่ได้รุ่งราง
สะอาด สว่าง สงบสุข ทุกมุมเมือง
.

(
ไชโย ไชโย ไชโย โห่ฮิ้ว !)

 

 

หมายเหตุ ; ครับ สวัสดีปีใหม่ 2553 ผมขอมอบคำสอนที่เป็นแก่นของคริสต์ศาสนา ที่ได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่โรแมนติกและอบอุ่นที่สุดในโลก เพราะเน้นในเรื่องความรัก ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับพระเจ้ากับสรวงสวรรค์ ( ด้วยบทเรียนอันเจ็บปวด ที่ชาวคริสเตียนได้รับจากผลของความเกลียดชังและเข่นฆ่ากัน...อย่างใหญ่โตมโหฬารในสงครามคูเสด ซึ่งเป็นสงครามศาสนาอันยาวนานระหว่างชาวคริสต์และอิสลาม เมื่อครั้งอดีตกาลอันไกลโพ้น... ) เป็นพรปีใหม่แด่ทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนกระท่อมทุ่งเสี้ยว ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองในบ้านเรา ที่ยังฟาดฟันกันอย่างไม่ลดละ ระหว่างผู้นำกับผู้นำและพวกพ้องบริวาร ทำให้สังคมแตกแยก เศรษฐกิจย่ำแย่ ความเกลียดชัง ความหวาดระแวง แผ่คลุมไปทุกสัดส่วนในโครงสร้างของสังคม ตั้งแต่ชั้นบนสุดแทรกซึมลงมาจนถึงชั้นรากหญ้า ฯลฯ

ใช่ ในสังคมที่เป็นเช่นนี้ แม้แต่ท่านนายกรัฐมนตรีผู้นำของประเทศ จะไปไหนมาไหน ก็ยังหาความอบอุ่นปลอดภัยในชีวิตไม่พบ สำมะหาอะไรกับลิ่วล้อประชาชนคนเดินดินอย่างเรา
( น่ากลัวจริงๆ )

และขอความรักอันยิ่งใหญ่จากพระคริสต์ธรรมนี้

จงปรากฏเกิด ณ ดวงจิตดวงใจอันแห้งเหี่ยวๆของผู้เขียนด้วยเถิด
( ฮา ) เพราะนับวันความรักในเพื่อนมนุษย์ของผู้เขียนเอง ก็ชักจะลีบเรียวเหลือน้อยลงทุกวันๆ เพราะความยากลำบากในการต่อสู้เพื่อการอยู่รอดของชีวิต - ในสังคมแบบตัวใครตัวมันที่ป่วยไข้ และเปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง...จนน่าทุบทิ้งนี้ มันทำให้เราต้องมัวคิดถึง...แต่การต่อสู้เพื่อการอยู่รอดของตัวเอง จนลืมคนรอบข้างไปหมด

และให้ตายสิ
...แม้แต่ตัวเอง ก็ยังลืมรักตัวเองออกบ่อยครั้ง ( จริงๆนะ ) บางที...พอตั้งสตินึกขึ้นมาได้ว่า เราต้องรักตัวเองนะ ก็ต้องมานั่งทบทวนความจำอีกว่า การรักตัวเองนั้น ควรจะปฏิบัติแก่ตัวเองอย่างไร เพราะมัวเคร่งเครียดอยู่กับการต่อสู้เพื่อปากและท้อง และ และ และ... จนลืมรักตัวเองนานไปหน่อย โธ่เอ๋ย...

อาเมน
!

22 - 23 ธันวาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
หล่อนเป็นผู้หญิง พาร์ทเน่อร์หรือบุตรีนักปราชญ์ หล่อนก็เป็นผู้หญิง รายละเอียดของชีวิตเท่านั้นที่อาจแตกต่างกัน แต่หล่อนก็เป็นผู้หญิง ผู้หญิงในยุครุ่งเรืองของพาราณศรี ผู้หญิงนุ่งบิกินีแถวริเวียร่า หรือผู้หญิงนั่งอยู่ในซ่องราคายี่สิบบาท หล่อนเป็นผู้หญิง มันเป็นความผิดหรือ ถ้าคุณจะรักผู้หญิงสักคน.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  มาดามสนิทใจมีความสุขมาก เมื่อวันที่พ้องกลับจากทำงานพร้อมด้วยข่าวดี “คณะกรรมการบริษัทเห็นต้องกัน เลือกบทละครเรื่องยาวของผม” เขาบอกหล่อน “เห็นไหมหนิท นี่เช็คเงินสดห้าพันบาท ค่าล่วงหน้ายี่สิบห้าเปอร์เซ็น” พ้องชูแผ่นกระดาษที่มีความหมายนั้นขึ้นให้หล่อนดู กวัดแกว่งมันอย่างร่าเริง และส่งให้เมีย “ดิฉันดีใจด้วยค่ะ เงินจำนวนนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเรามากทีเดียว” “นั่นแล้วแต่หนิทจะจัดการอย่างไร”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ครับ หัวชื่อเรื่องข้างบนนี่ มิใช่เรื่องที่ผมจะเขียน แต่เป็นชื่องานแสดงภาพถ่ายขาวดำและประวัติผลงาน ’รงค์ วงษ์สวรรค์ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ ที่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้คนหนุ่มสาวมากมายหลายคน และหลายรุ่น เดินเข้ามาสู่ถนนสายวรรณกรรม ซึ่งล่วงลับไปเมื่อต้นปีที่แล้ว และผมเลือกให้ฉายาแก่เขาว่า “พ่อมดแห่งภาษากวีมาดวิไลจากบ้านสวนทูนอิน”
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    สวัสดีปีใหม่ 2553 ถึงโลกยังทรามสังคมยังบัดสี ไม่เป็นไร เรายังพอ...มีความดี ณ วัน เดือน ปีใหม่...มอบให้กัน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ผีเสื้อสีขาว จะบินไปไหน ไปหาดอกไม้ ใช่ไหมผีเสื้อ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  พระองค์ทรงตรัสกับสาวกของพระองค์ว่า อย่ากระวนกระวายถึงชีวิตของตน ว่าจะเอาอะไรกิน และอย่ากระวนกระวายถึงร่างกายของตน ว่าจะเอาอะไรมานุ่งห่ม เพราะว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่าอาหาร และร่างกายสำคัญยิ่งกว่าเครื่องนุ่งห่ม จงพิจารณาดูอีกา มันมิได้หว่านมิได้เกี่ยว และมิได้มียุ้งฉาง แต่พระเจ้ายังทรงเลี้ยงมันไว้ ท่านทั้งหลายประเสริฐกว่านกกามากทีเดียว มีใครในพวกท่านโดยความกระวนกระวาย อาจต่อชีวิตให้ยาวออกไปอีกศอกหนึ่งได้หรือ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
    คืนดำ พายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ฉันได้แต่นั่งซุกกายอยู่ในกระท่อม ณ ท่ามกลางปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่เกิดขึ้น เฝ้ามองดูพายุฝนเกรี้ยวกราดโหมกระหน่ำซัดสาดสรรพสิ่ง เฝ้ามองดูสายฟ้าแล่บแปลบปลาบ เฝ้ามองดูสายฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง ณ ซอกมุมที่อบอุ่นและปลอดภัยที่สุด
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ครั้งหนึ่ง ชายคนหนึ่ง ขุดรูปสลักหินอ่อนที่สวยงามอย่างยิ่ง ได้จากท้องทุ่ง เขาจึงนำมันไปหานักสะสมของเก่า ซึ่งรักของสวยๆงามๆ และเสนอขายให้แก่เขา นักสะสมก็ซื้อไปในราคาสูง แล้วคนทั้งสองก็จากกัน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ปลายปีที่แล้ว ผมได้รับข่าวฝากประชาสัมพันธ์การแสดงภาพเขียนสีน้ำของพิบูลศักดิ์ ละครพล ชื่อ "ภาพประทับจากการแรมทาง" จากหอศิลป์ริมน่าน จังหวัดน่าน ผ่านมาจนถึงปลายปีนี้ ผมก็ได้รับข่าวคราวการแสดงงานของเขาอีกครั้งหนึ่งจากคุณนิลจากร้านหนังสือ "2521" จังหวัดภูเก็ต ส่งอีเมล์ มาฝากข่าว เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์มาว่า
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  1.  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเป็นดอกไม้ริมทาง เบ่งบานอ้างว้างอยู่นอกรั้วบ้าน ไม่สวยแจ่มใสไม่งามตระการ ด้วยเกิดมาเบ่งบานตามบุญตามกรรม