คือแม่น้ำและขุนเขาอันขรึมขลัง
คือพลังคีตกานท์อันหวานไหว
คือหนึ่งจิตวิญญาณล้านนาไทย
คือดอกไม้สวยสะคราญบานนิรันดร์
คือความจริงความงามคือความดี
คือมณีแวววับประดับฝัน
คือความรักความซื่อตรงคงกระพัน
คือศรัทธาแม่นมั่นไม่ผันแปร
คือดวงดาวแห่งฟากฟ้าของป่าเหนือ
แสงส่องเอื้อเพื่อคนดีที่พ่ายแพ้
คือดวงตาคุณธรรมชำเลืองแล
ผู้อ่อนแอต่ำต้อยด้อยราคา
คือผู้หลงรักตำนานแห่งปางบรรพ์
คือผู้ฝันถึงเอื้องผึ้งและจันผา
คือผู้หลงใหลเสียงซึงเสียงกีตาร์
คือผู้ฝากเพลงล้ำค่าแด่แผ่นดิน
ไม่เหมือนใคร ไม่อาจมีใครเหมือน
งามดั่งเดือนเคียงคู่ภูผาหิน
คือ จรัล มโนเพ็ชร แก้วกวิน
ศิลปินทระนงผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา.
3 กันยายน 2554 ปีนี้
นับป็นเวลาครบรอบ 10 ปีของการจากไปของคุณ จรัล มโนเพ็ชร ปีนี้นอกจากทางร้านสายหมอกกับดอกไม้ ของ คุณอันยา โพธิวัฒน์ คนข้างเคียงของคุณจรัลจะจัดงานรำลึกถึงเหมือนทุกปีที่ผ่านมาตั้งแต่คุณจรัลจากไปจนกลายเป็นขนบ ปีนี้นอกจากจะมีนักดนตรีหลายท่านมาเล่นเพลงของคุณจรัลในเวอร์ชั่นต่างๆแล้ว
ยังมีการรำลึกถึง แซม กัลยาณี มิตรสหายนักถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับชายแดนและสงคราม ที่เสียชีวิตวันเดียวกับคุณจรัลเมื่อปีที่แล้ว โดยนำประวัติผลงานที่หาดูได้ยากของเขามาฉายให้ชมกัน และมีการเสวนาเสวนาเรื่องมิดะ โดยดร.เพ็ญสุภา ภักคตะ ใจอินทร์ กวิณี นักโบราณคดี คอลัมนิสต์มติชนสุดสัปดาห์ จากสันกำแพง และ ดร.อุดร วงษ์ทับทิม นักมานุษย์วิทยา นักเขียน นักแปล รองคณะบดี วิทยาลัยนานาชาติลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยราชฎัฏเชียงราย และเปิดตัวหนังสือชื่อ “ภารกิจปิดฝังมิดะ” ที่เกิดจากกรณีพี่น้องชาวอาข่าออกมาปฏิเสธกับสังคมว่า มิดะ ไม่มีจริง และเรียกร้องให้แบนเพลงนี้ ที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวสดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
หนังสือเล่มนี้ มี ไพฑูรย์ พรหมวิจิตร อันยาโพธิวัฒน์ เป็นผู้นำริ้วขบวนเขียน ประตูศักดิ์สิทธิ์กับหางของงูพิษ และติดตามด้วยข้อเขียนของมวลมิตรสหายและพี่ๆน้องๆ ดังนี้
อัคนีมูลเมฆ / ว่าด้วยความขัดแย้งทางวัฒนธรรมกรณีมิดะ
วิจิตร ไชยวัณณ์ / ห้าสิบปีผ่านมากับชาวเขาเผ่าอีก้อหรืออาข่า
แพร จารุ / ปรากฏการณ์มิดะเพลงต้องห้ามและสิบปี จรัล มโนเพ็ชร
ละไมหมอก / มิใช่ใครๆก็เป็นมิดะได้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว / เพลงของจรัลทุกเพลง เล่นได้หมด ยกเว้นเพลง มิดะ
พฤศจิกาสภาวะ / จรัล มโนเพ็ชร เป็นนักแต่งเพลงที่มีไว้ฟังเพลินๆ เท่านั้นรึ
กิติคุณ ประพิณ / บนฟ้ามีเมฆลอยบนดอย (ไม่) มีเมฆบัง
อุดร วงษ์ทับทิม / วิถีแห่งธรรมชาติ วิถีแห่งมิตรภาพ วิถีแห่งคนลุงลัง
งานนี้ มีอาหารและเรื่องดื่มแบบบุบเฟ่ต์ไว้บริการแขกทุกท่านฟรี ยกเว้นเครื่องดื่มและอาหารตามสั่ง และทุกท่านยังมีสิทธิ์โชคดีได้จับฉลากรับรางวัลหนังสือ “ภารกิจปิดฝังมิดะ” คนละ 1 เล่ม จากรางวัล 20 เล่ม งานเริ่มเวลา 16.30 น. ที่ร้านสายหมอกกับดอกไม้ ถนนวงแหวน 700 ปี หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ท่านผู้ใดอยากมาร่วมงานนี้ เชิญเลยนะครับ
หมายเหตุ; หมายเหตุบทกวีรำลึกถึงคุณจรัลที่เอามาลงนำบทความนี้ เป็นบทกวีที่ผมเขียนและนำมารำลึกถึงคุณจรัลในวาระครบรอบการจากไปของในวันที่ 3 กันยายน ได้สองหรือสามปีแล้ว ปีนี้ก็นำบทกวีบทนี้มารำลึกถึงเขาอีก เพราะไม่สามารถเขียนบทกวีถึงเขาได้ดีกว่านี้อีก แต่ที่นำมาลงปีนี้ ผมได้แก้ขัดเกลาถ้อยคำให้กระชับขึ้นสองสามแห่ง ท่านผู้ใดที่จะนำบทกวีบทนี้ไปเผยแพร่ต่อ ขอความกรุณาใช้ต้นฉบับตามนี้ด้วยนะครับ / ถนอม ไชยวงษ์แก้ว.
28 กันยายน 2554
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตเอย
เหตุใดเล่า
เจ้าจึงเศร้าโศกเสียใจร้องไห้คร่ำครวญ
ให้กับบางสิ่งที่เจ้าได้สูญเสียมันไป
เหมือนนมที่หกออกจากแก้วไปแล้ว...ตกลงบนพื้นดิน
วันแล้ววันเล่า
ไม่รู้จักจบสิ้น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
12 เมษายน 2545
วันครบรอบวันเกิด...ที่แสนจะเจ็บปวด ขณะนั่งรถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่กับคู่หู ขับรถผ่านไปทางบ้านพ่อแม่ผู้พัน นายเก่าที่มาหยิบยืมเงินเราแล้วไม่ยอมใช้คืน เมื่อสองสามปีที่แล้ว พอเจอหน้า จอดรถจะเข้าไปถาม นายกลับรีบเดินหนี อนิจจา ! นายเอ๋ยนาย...ดอกไม่ต้องขอเพียงแค่ต้นคืนได้ไหม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
7
ครับ
รายละเอียดเรื่องราวของเขา ที่ผมอยากรู้อยากเห็นเหลือเกิน เริ่มปรากฏอยู่ในบันทึกหน้านี้นี่เอง และเมื่อหยิบหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ที่เขาถ่ายสำเนาจากหนังสือนิตยสาร “ชีวิตรัก” มาให้ผม ซึ่งเป็นหน้า คอลัมน์ - ในช่วงที่เขาได้แบกเป้ออกไปตะลอนทัวร์ ช่วยคุณวนัสนันท์ ตามที่เขาตั้งปณิธานเอาไว้ออกมาอ่าน
เพื่อทำความรู้จักทั้งคอลัมน์และตัวตนของคุณวนัสนันท์ ที่นำมือแห่งความเมตตาของคุณวรรณและคุณแขคนไทยในต่างประเทศ มาฉุดเขาขึ้นมาตจากขุมนรกอันลึกล้ำดำมืดแห่งหนี้สิน และมือแห่งความเมตตาอีกมากมายที่หลั่งไหลติดตามมา...
ผมพบว่าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
6 หลังจากงานศพของพ่อแล้ว เขาก็เริ่มตกเข้าไปอยู่ในวังวน - ของการหมกมุ่นครุ่นคิด...เป็นทุกข์อยู่กับหนี้สินอีก และพยายามต่อสู้กับตัวเองอย่างถึงที่สุด ระหว่างการคิดทำลายตัวเองตามพ่อไป เพื่อหนีความทุกข์ปัญหาอันหนักหนาสาหัส และการพยายามคิดหาเหตุผลต่างๆนานาที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
30 ตุลาคม 2539
วันนี้ นายเรียกข้าราชการตำรวจทั้งโรงพักมาประชุม เพื่อร่ำลาไปรับตำแหน่งใหม่ เห็นพวงมาลัย...ที่นายดาบหัวหน้าสายแต่ละสาย เตรียมมาให้นายแล้ว ได้แต่นึกเสียดาย... ท่านมากอบโกย...แล้วก็ไป
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
3.
เขากลับกรุงเทพฯไปได้หนึ่งอาทิตย์กว่าๆ
ผมก็ได้รับกล่องพัสดุขนาดใหญ่ หนักเกือบสองกิโลกรัมจากเขา เมื่อแกะกล่องออกมา ผมก็พบแฟ้มเก็บต้นฉบับที่เขาถ่ายสำเนามาจากหน้าคอลัมน์ “สะพานบุญ” ที่เขาเคยเขียนในนิตยสาร “ย้อนรอยกรรม”และ จากหน้าคอลัมน์ “ศาลาแรงบุญ” ในนิตยสาร “แรงบุญแรงกรรม” ที่เขาเขียนอยู่ในปัจจุบัน นับรวมกันได้ 60 กว่าเรื่อง หนาประมาณ 200 กว่าหน้ากระดาษ A4 รวมทั้งสำเนาต้นฉบับที่เขาถ่ายจากหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์ จากหนังสือ “ ชีวิตรัก” 15 แผ่น และจากกรอบหน้าคอลัมน์หนังสือพิมพ์รายวันที่เขียนยกย่องชื่นชมเขา 3 - 4 แผ่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1.
จินตวีร์ เกียงมี
หรือที่มีชื่อเต็มยศว่า จ.ส.ต.จินตวีร์ เกียงมี ซึ่งปัจจุบันรับราชการตำรวจ ตำแหน่ง งานธุรการอำนวยการกองวิจัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ใครต่อใครต่างรู้จักกันทั่วไปทั้งประเทศ และเลื่องลือไปถึงเมืองนอกเมืองนาในวันนี้ ในฐานะ จ่าตำรวจใจบุญ ที่แบกเป้เที่ยวตะลอนๆ ไปช่วยเหลือคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก แทบทุกหนทุกแห่งในประเทศ ที่ส่งเสียงร้องทุกข์โอดโอยมาให้เขาได้ยิน ซึ่งเราได้รับรู้เรื่องราวของเขาจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร อินเตอร์เน็ต ฯลฯ และที.วี.แทบทุกช่องที่นำเรื่องราวของเขา มาบอกเล่าแก่สาธารณะชน
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
สมัยที่ผมยังทำงานเป็นนักดนตรีประจำร้าน สายหมอกกับดอกไม้ ของคุณอันยา โพธิวัฒน์ คู่ชีวิตของคุณจรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก่อนจะออกมาทำงานเขียนและงานเกี่ยวกับหนังสืออย่างเต็มตัวในทุกวันนี้ ผมจำได้อย่างแม่นยำว่า ภายในร้านสายหมอกกับดอกไม้ นอกจากเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับตกแต่งภายใน ที่ประกอบด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ที่เป็นเครื่องไม้ ภาพเขียน รูปปั้น และ ข้าวของเครื่องใช้ ผลงานเพลงของคุณจรัลในตู้โชว์ ตลอดจนรูปภาพของคุณจรัลตามฝาผนังห้องในอิริยาบถต่างๆแล้ว ยังมีกระจกเงาเก่าแก่บานหนึ่ง กว้างประมาณ สองฟุต สูงท่วมหัว ประดับอยู่ตรงมุมห้องโถงด้านขวามือใกล้ๆกับเวทีเล่นดนตรี…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
3 กันยายน 2552 ปีนี้
นอกจากจะเป็นวันรำลึกครบรอบการจากไปของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาแล้ว วันนี้ยังมาตรงกับวันจัดงาน " แอ่วสันป่าตอง " ซึ่งเป็นงานของโครงการย้อนยุคอำเภอสันป่าตอง ที่มีเป้าหมายที่จะแนะนำอำเภอสันป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีสภาวัฒนธรรมอำเภอเป็นตัวหลักในการจัดงาน ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมากมายหลายองค์กร ฯลฯ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ก่อนอาทิตย์ตกในไร่ข้าวโพดสีส้มโชติโชนอยู่อีกครู่ใหญ่แผ่ร่มเงาความเวิ้งว้างกว้างออกไปอีกหนึ่งวันกลืนวันวัยในวันนี้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ฉันเอยฉันทลักษณ์
ยากยิ่งนักจะประดิษฐ์มาคิดเขียน
เป็นบทกวีงามวิจิตรสนิทเนียน
มิผิดเพี้ยนตามกำหนดแห่งกฎเกณฑ์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิ่งมิตร
เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น
ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน
ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม