Skip to main content
ระยะนี้

กลางคืนนอนกรนตื่นง่ายตื่นนอนตอนเช้า มีอาการไม่ดี คล้ายหลับไม่อิ่ม เหมือนจะเป็นไข้เล็กน้อย ผมอยากนอนต่ออีกสักงีบ ขอสัก 20-30 นาทีน่าจะดีคิดถึงระยะทางจากบ้านถึงที่ทำงานแล้วท้อใจ จากบ้านอำเภอแม่แตงถึงอำเภอฝาง ที่ทำงานราว 111 กิโลเมตร พาหนะเป็นรถกระบะ พวงมาลัยธรรมดาปวดบ่าเอวไม่น้อยเลย สังขารผ่านวัยหนุ่มมาแล้ว อาการดังกล่าวเป็นบ่อยๆบางครั้งต้องโทรลาปรึกษาภรรยาแล้วไปหาหมอตรวจรักษาดีกว่า ไปคลินิกที่โรงพยาบาลมหาราช
เร็วดี ยาดี แม้จะแพงก็ยอม

เล่าอาการให้หมอฟัง
หมอให้ยามากินและนัดดูอาการราวเดือนครึ่ง ได้ไปหาหมอ หมอสอบถามผลการรักษา แล้วให้ยามารับกิน ทำอย่างนี้หลายครั้งแต่ละครั้งให้ไปเจาะเลือด ตรวจสมอง(MRI) ตรวจน้ำในหู ตรวจหัวใจ ปรากฏว่า ปรกติหมด หมอคนสุดท้าย ตัดผมสั้น พูดน้อยห้วนๆ ตรวจข้อมูลรักษายาวเหยียด สรุปด้วยเสียงหนักแน่นเด็ดขาดดุจนายทหารว่า

"ปรกติดี ไม่มีอะไร อย่าวิตกกังวล หลับให้สนิทจะหายไปเอง" หมอบอกอย่างมั่นใจ
"อีกอย่าง ควรไปตรวจอาการนอนกรนเพิ่มเติมด้วย"

ผมกลับมา
ที่โรงพยาบาลมหาราช โรค หู คอ ปาก ชั้น 7 ผมเล่าอาการนอนกรนให้หมอฟัง หมอนัดนอนโรงพยาบาล ภรรยาที่แสนดีมานอนเป็นเพื่อน คืนนั้นราวสองทุ่มเศษ แพทย์หญิงมาติดเครื่องฟังนอนกรนของผม เป็นตลับสี่เหลี่ยม โตขนาดฝ่ามือ มีแถบสายผูกติดหน้าอก หลัง ตำแหน่งตลับอยู่ตรงหัวใจพอดี แพทย์หญิงบอกว่า จะวัดความดังของเสียงกรน และช่วงหยุดหายใจ ผมนอนไม่หลับเพราะเกะกะเครื่องวัดนอนกรน ใกล้สว่างงีบได้นิดเดียว ราวตีห้าแพทย์หญิงมาแกะเครื่องออก
เฉลยว่า ตั้งแต่ใช้เครื่องนี้มายังไม่มีใครนอนหลับได้เลย...
อีกราวหนึ่งเดือนมาฟังผลปรากฏว่า การกรนของผมอยู่ในระดับ รุนแรงปานกลาง ไม่หยุดหายใจ แต่หายใจเบามาก หมอบอกอีกว่า "การนอนกรนทำให้หลับไม่สนิท ไม่หลับลึก ตื่นตอนเช้าจะอ่อนเพลีย ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และเสียงกรนรบกวนผู้อื่น" หมอนัดวันผ่าตัด

วันผ่าตัดมาถึง
แพทย์หญิงผู้ผ่าตัดบอกว่า
"จะผ่าตัดนอนกรนโดยวิธีฉายคลื่นที่เรียกว่า เรดิโอฟรีเควนซี่ (radiofrequency) โดยหมอจะฉายคลื่นไปตำแหน่งซ้ายขวาของลิ้นไก่คนป่วย ใช้เวลาราว 30 นาที ถ้าคุณเมื่อยบอกหมอ"
การผ่าตัดดำเนินไป เมื่อเสร็จพากลับห้องพัก รับยาแล้วกลับบ้าน อีก 1 เดือนมาดูอาการ ผมรู้สึกไม่เจ็บเท่าไร อ้าปากดูแผล ปรากฏวงกลมเล็กๆสีขาว ที่ข้างซ้ายขวาของลิ้นไก่

ผมมาพบหมอ
บอกหมอว่า อาการนอนกรนดีขึ้นเล็กน้อย ความดังเสียงกรนลดลง ไม่หยุดหายใจ หมอตรวจดูแผลข้างลิ้นไก่บอกว่า แผลดีมาก หมอเช็คน้ำหนัก บอกว่า น้ำหนักเกินต้องลด ถ้าลดน้ำหนักแล้ว จะลดอาการนอนกรนได้ สูง 170 เซนติเมตร น้ำหนักตามสูตรต้องประมาณ 65 กิโลกรัม น้ำหนักผม 74 กิโลกรัม หมอแนะนำให้ผมไปปรึกษานักโภชนาการโรงพยาบาล นักโภชนาการแนะนำให้กิน ผัก ผลไม้ งดอาหาร หวาน มัน เค็ม ตอนเช้าบริหารร่างกายตามแผ่นพับที่แจกให้...
1 เดือนผ่านไป น้ำหนักผมเหลือ 68 กิโลกรัมหมอชมว่าเก่ง และบอกทิ้งท้ายว่า การรักษาผมสิ้นสุดลงแล้ว

ผมคิดว่า
ผมคงหลับอิ่ม นอนสบายเสียที เสียงกรนคงไม่รบกวนใครอีก โดยเฉพาะภรรยานอนข้างๆที่เคยบ่นสองสามครั้ง ช่วง 2-3 ปีก่อน แต่ยังมีคนไม่พอใจเผยออกมา ภรรยาผมเอง เธอบอกว่า
"น้องนอนไม่ค่อยหลับ...พี่ไม่กรนดัง เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง"
"โอๆ...เสียงกรนกลายเป็นเสียงกล่อมเธอนอน...ไม่เป็นไร พี่ยินดีบริการอย่างสุดพลังกรนต่อไป"

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    นอสตราดามุส (ค.ศ. 1502-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เรียนจบปริญญาตรีคะแนนดีเยี่ยม จึงโดดเรียนปริญญาเอกจนจบสาขาแพทย์ ได้ทำนายไว้ว่า  “ ...วันเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นยุคเก่าและการมาถึงของยุคใหม่...กำลังจะเข้ามาปรากฏแก่สังคมโลกมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งคาดตามตรรกะจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 23 ปีข้างหน้านี้ คือระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ.2023...” (หนังสือนอสตราดามุส โดย ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 363)  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมปลดกระเป๋าหนังสะพายบ่า เปิดกระเป๋าหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ดูท่านยิ้มเหมือนพึงพอใจ ชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่งแล้วบอกว่า นั่นเป็นชื่อของท่านที่เขียนเรื่องนั้น ผมหัวเราะแก้เขินที่จุดไต้ตำตอ ถือโอกาสย้ำถาม “ ท่านชื่อคุณอดิศร ฟุ้งขจรหรือครับ ? ขอโทษผมไม่ทราบจริงๆครับ.” เราทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กัน เราเริ่มคุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น คงจะจริงนะ ที่ว่าการพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากอัธยาศัยต้องกัน หรือที่พูดกันว่า ถูกชะตากัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก มิตรภาพงอกงามรวดเร็ว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  24 พฤษภาคม 2554
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เพลงที่ 11 ลืมไม่ได้เด็ดขาด ชื่อเพลง “ศรัทธา” ขับร้องโดยคุณโป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ ก่อนเปลี่ยนเป็นวง The Son ทราบว่าเพลงของวงนี้ เขาแต่งเนื้อร้องทำนองเองหมด คุณโป่งเป็นนักร้องร็อคระดับต้นแบบ หรือ Idol ของใครอีกมากมายที่เดินตามในถนนสายดนตรี เสียงมีพลัง มีความหนักแน่น เป็นเพลงประเภทให้กำลังใจต่อสู้ ให้มุมมองชีวิต ให้ความคิด เนื้อเพลงบางท่อนกลายเป็นวลีฮิตติดปากไปแล้ว เนื้อเพลงบางตอน              …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย “ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...” เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใกล้เที่ยงในโรงอาหารมีคนพลุกพล่าน พินิจดูเป็นเด็กหนุ่มสาว อาจเป็นระดับอาชีวะ หรือมหาวิทยาลัยราวปี 1 , 2 มีโต๊ะยาววางถ้วยจานแก้วน้ำ หน้าโรงอาหาร มีเจ้าหน้าที่บริการ 2 คน ผมเดินไม่รู้ไม่ชี้มองหาเจ้าหน้าที่บ้านวัยทองนิเวศน์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมเดินออกจากสำนักงาน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมบอกให้ลูกจอดรถ ที่ถนนทอดสู่ตัวอาคารสำนักงาน บอกให้แกพาแม่ไปเยี่ยมยายที่บ้านปง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ราว 3 กิโลเมตรเศษ ประมาณ 11 โมงให้กลับมารับพ่อ ผมเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคาร พบเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยกมือไหว้เมื่อเห็นหน้าผม เธอมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสันมหาพน หมู่บ้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสันมหาพนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ฟากถนนทิศตะวันตก โรงเรียนนี้อยู่ห่างที่ว่าอำเภอไปทางทิศใต้ไม่ถึง 100 เมตร ผมเคยสอนโรงเรียนนี้นาน 12 ปี ผมบอกเธอว่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ปีนี้ พ.ศ.2554 จะยังมีกิจกรรมดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ? หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ไทยนิวส์” ฉบับวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ได้ลงข่าวหน้า 1 ว่า “ จัดดำหัวผู้ว่าฯสานประเพณี เปลี่ยนชื่องานใหม่ สระเกล้าฯป้อเมือง .” โดยมีเนื้อหาข่าวบางตอนดังนี้ครับ “เมื่อ 30 มีนาคม 2554 นายวรการ ยศยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่เมืองล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นงาน สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ …