จำได้ว่า
วันแรกที่ผมเดินทางมาถึงห้องทำงานที่ว่าการอำเภอเวียงแหง เป็นเดือนพฤศจิกายน2528 หัวหน้าหน่วยงานแนะนำให้รู้จักเจ้าหน้าที่งานต่างๆ ดูหน้าตาใครอาวุโสกว่าผม ผมยกมือไหว้ก่อนแล้วทักทาย
ใครหนุ่มกว่าก็ทักทายเพียงวาจา ทุกคนอัธยาศัยดี เป็นกันเอง เด็กหนุ่มผิวเข้มคนหนึ่งทราบภายหลังว่าเป็นชาวกรุงเทพฯ ชื่อ ธาตรี ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ยกมือไหว้ผม และกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ” ผมรับไหว้กล่าวคำสวัสดีเช่นกัน
เด็กหนุ่มคนนี้พบกันครั้งแรกก็ถูกชะตา แกคงรู้สึกเช่นเดียวกัน คงเป็นจริงดังคำเขาว่า การพบกันครั้งแรกสำคัญ จะคบกันยืดไม่ยืดกัน ประทับใจกันหรือไม่ก็ตรงนี้
เวลาต่อมา ธาตรีคนนี้กลายเป็นน้องที่ชอบพอสนิทสนมกันกับผมตลอดเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่เวียงแหง...
ในปี พ.ศ.2528
เวียงแหงยังเป็นกิ่งอำเภอเวียงแหง ตำแหน่งนายอำเภอยังไม่มี มีแต่ปลัดอาวุโสปฏิบัติหน้าที่ประจำกิ่งอำเภอ
แต่ข้าราชการในที่ว่าการกิ่งอำเภอ ประชาชนทั่วไปยังคงเรียกว่า “ท่านนายอำเภอครับ” ท่านไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับ แต่สีหน้าดูสดชื่น ส่วนในหน่วยงานของผม ไม่มีตำแหน่งหัวหน้าการ แต่มีผู้ช่วยหัวหน้าการจากอำเภออื่นมาทำหน้าที่หัวหน้าการ เจ้าหน้าที่ตำแหน่งอื่นนั้นต้องคัดครูที่เก่งในโรงเรียนมาทำหน้าที่แทนผู้ดำรงตำแหน่งจริงไปพลางก่อน เช่น หัวหน้าการเงิน เจ้าหน้าที่บริหารทั่วไป นักวิชาการ ฯลฯ ตำแหน่งนักวิชาการนี้เป็นตำแหน่งจริงของผม
สองสามคืนแรก
ผมพักที่บ้านพักหัวหน้าการธาตรีได้พักที่นี่ก่อนแล้ว กิ่งอำเภอเวียงแหงขณะนั้นไม่มีร้านอาหาร หัวหน้านำทีมนำอาหารเย็นที่เหลือจากมื้อเช้ามาอุ่นกินกันสามคน มื้อกลางวันกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านสองสามีภรรยา เจ๊อี๊ดกับอาโก ซึ่งเป็นร้านเดียวในอำเภอ ในวันแรกเมื่อกินข้าวเย็นเสร็จ ผมยืนหน้าบ้านมองดูของสวยๆ งามๆ
ธาตรีเดินมาข้างหลังกอดเอวผมยกขึ้น ผมดิ้นกระแด่วๆ พร้อมกับหัวเราะ
“ปล่อยพี่เถอะ พี่แก่แล้ว กระดูกกระเดี้ยวมันกรอบ เดี๋ยวหักหมด”
ธาตรีหัวเราะยิงฟันขาว ตัดกับหน้าดำเปรอะเม็ดสิว ไม่ถึงวันกระแสความเป็นมิตรกระชับเกลียวยิ่งขึ้น
วันที่สี่
ของการทำงานที่กิ่งอำเภอเวียงแหง ตอนเช้าตื่นขึ้น ผมได้ยินเสียงคล้ายเป่าเขาปู้น ๆ ๆ จับทิศทางไม่ได้
นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง “ไวกิ้ง” นำแสดงโดย โทนี่ เคอร์ติส, เคิร์ก ดักลาส เห็นภาพชายชาวไวกิ้งยืนเป่าเขาบนหน้าผาสูงต้อนรับเรือไวกิ้ง ที่กำลังแล่นตามร่องน้ำเข้ามาช้าๆ ระหว่างหน้าผาเข้าสู่หมู่บ้านของตน กล่าวกันว่าไวกิ้งเป็นบรรพบุรุษของชาวสแกนดิเนเวีย ผมพรวดลุกขึ้นเรียกหาธาตรี ธาตรีหัวเราะ
“เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปดู ขอผมล้างหน้าก่อน...”
ธาตรีพามาหน้าร้านเจ๊อี๊ด เห็นแกกำลังชำแหละเนื้อหมูบนตั่ง เนื้อหมูสดๆ ที่ชำแหละแล้ววางกระจายเต็มตั่ง อาโก สามีสวมหมวกสักหลาดสีน้ำตาลแก่ยืนข้างๆ ผมยืนมองยังมีอาการงงงัน
สักครู่ อาโกหยิบเขาควายขึ้น ยกส่วนปลายที่เล็กเป็นรูจ่อปากปลายเขาส่วนใหญ่โค้งชี้ขึ้น แกเป่าลมลงไป เสียงปู้นๆ ก็ดังขึ้น
“ปู้นๆๆๆ....” เสียงเป่าเขาควายดังกระจายรอบหมู่บ้าน
อาโกนั่นเองเป็นผู้เป่าไวกิ้งแห่งเวียงแหง ครู่เดียวผู้คนต่างพากันทยอยมาซื้อเนื้อหมู
ผมนึกว่าง่าย ขออนุญาตอาโกเป่าบ้าง อาโกยิ้มยื่นให้ผมเป่าลมลงไป ไม่มีเสียงปู้นได้ยินแต่เสียงลมฟู่ๆ แม้จะใช้แรงเป่ามากแค่ไหนก็ไม่ดัง ธาตรีลองเป่าไม่ได้ผลเช่นกัน
มันคงเหมือนคนเป่าแตรหากเป่าไม่เป็นมันจะไม่ดัง...ไม่เชื่อลองดูซิครับ.