Skip to main content

ในวัยราว 6 ขวบ

พ่ออุ้มผมที่บาดเจ็บตรงสะบ้าหัวเข่า เดินท่องน้ำที่กำลังท่วมผ่านสนามโรงเรียน ไปส่งห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นบาดแผลเกิดจากคมมีดที่ผมฟันกิ่งไม้แห้ง แล้วแฉลบมาโดนจนเนื้อแหว่ง ต้องทายาพันผ้ายาวคืบกว่า ตอนเย็นพ่อก็ไปรับอุ้มกลับบ้านอีกรอบ พ่อแม่ญาติพี่น้องให้ผมหยุดโรงเรียน แต่ผมรบเร้าจะไปโรงเรียนให้ได้


ฤดูหนาว

เวียนมาถึง อากาศหนาวเย็น การอาบน้ำตอนเย็นเป็นเรื่องอิหลักอิเหลื่อของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ย่าตักน้ำใส่คุวางไว้กลางข่วงบ้าน (ลานบ้าน) ตั้งแต่เที่ยงวัน ตักอาบน้ำตอนเย็นจะได้อุ่น ใครขยันหน่อยตักน้ำใส่ปี๊บแล้วต้ม เป็นช่วง 40 กว่าปีมาแล้วยังไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เวลาเย็นลงแล้ว ผมลำบากใจเรื่องอาบน้ำ วิ่งเล่นถ่วงเวลาจนมืดค่ำ พ่อเรียกอาบน้ำหลายครั้งก็ทำเฉยๆ ขั้นสุดท้ายพ่อไล่จับผมจนชุลมุนไปหมด


พอจับได้ก็จับผมเปลือยกาย รดน้ำบนหัวโครมๆ น้ำเย็นจะตาย ผมเริ่มร้องไห้เล็กน้อย มือซ้ายพ่อจับข้อมือขวาผม นิ้วมือขวาพ่อจับที่ข้อมือซ้ายผมเป็นวงกลม รูดปรู๊ดไปรักแร้ผม รูดไปรูดมา 2-3 ครั้ง ผมจั๊กจี้หัวเราะคิกๆ ปนสะอื้น พ่อเม้มปากกลั้นหัวเราะ แกล้งครางฮื่อๆ ขู่ขวัญ รูดมาถูกรักแร้ขวาอีก ผมหัวเราะมองหน้าพ่อ พ่อทำหน้าตาย นี่เป็นวิธีขัดขี้ไคลของพ่อ ยังไม่พอพ่อเอามือมาขัด ตรงซอกโคนขาทั้งสองข้าง ใกล้ๆ ปืนประจำกายของผม ผมหนีบขาหัวเราะ พ่อถูสบู่ทั่วตัวแล้วราดน้ำ คลี่ผ้าขนหนูห่มตัวให้ ผมยืนกอดอกปากคอสั่นหนาว ก้าวขึ้นบันไดบ้าน ผ่านพ้นการอาบน้ำที่ทรมานไปอีกวัน


พ่อตัดเล็บ

ให้เป็นประจำ ตัดเล็บสั้นมากจนติดเนื้อ วันใดพ่อตัดเล็บให้ วันนั้นผมคดข้าวในก่องข้าวกินไม่ได้ มันเจ็บตรงปลายเล็บ ยังไม่พอ ตอนผมเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ่อซักเสื้อกางเกงนักเรียนให้ กางเกงนักเรียนเมื่อซักสะอาดแล้ว พ่อจะนำไปแช่ลงในน้ำแป้ง เรียกว่า “ลงแป้ง” แล้วนำเสื้อกางเกงไปตากแดดจนแห้งสนิท เมื่อรีดจะได้กลีบแข็งคงทน ตรงเป้ากางเกงข้างในแข็งไปด้วย ยามเดินมันเสียดสีต้นขาผมจนแสบไปหมด ผมต้องแก้ไขโดยเดินขาถ่างเล็กน้อย ลดการเสียดสีของผ้าตรงต้นขา


พ่อผมเป็นภารโรง

ของธนาคารซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ พ่อได้ทำงานเพราะความซื่อสัตย์ของพ่อ ผู้จัดการธนาคารเรียกชื่อสั้นๆ ว่า “คุณชาย” นำพ่อมาทำงาน ท่านเป็นผู้ดี พูดจาดีมาก ไม่ดูถูกผู้ด้อยกว่า เมื่อผมโตจนเป็นผู้ใหญ่ ได้สอบบรรจุเป็นข้าราชการครู จากนั้นสอบเรียนต่อปริญญาตรีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ เจ้าหน้าที่ธนาคารพูดจากับพ่ออย่างดูหมิ่น วางท่า ต่อหน้าผมว่า

ลูกลุงสอบเข้า มช. ได้จริงหรือไม่น่าเชื่อ ?”

ผมจ้องมองดูผู้พูดเขม็ง เลือดในกายร้อนวูบวาบวิ่งขึ้นใบหู

ทำไม? ลูกภารโรงจะสอบไม่ได้ ลูกลุงสอบได้ไหมล่ะ” ด้วยมารยาทผมโต้ตอบได้เพียงในใจ


ผมทำให้พ่อ

น้ำตาตกครั้งหนึ่ง เพียงเห็นน้ำตาผมได้สำนึก เสียใจมากที่สุด จนต้องก้มกราบขอโทษ พ่อผมเสียชีวิตแล้วเมื่ออายุเพียง 52 ปี ก่อนสิ้นใจบอกผม ดูแลแม่บ้าง สั้นๆ แค่นั้นจริงๆ

ในวันที่ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติกำลังจะมาถึง ไปกราบพ่อกันเถอะครับ และดูแลท่านให้ดีตลอดชีวิตที่เหลือ เพื่อกตัญญู เพื่อจิตสำนึกของมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง และทำดีเพื่อดี


พ่อผม

แม้เป็นเพียงภารโรง ไม่อาจยืนอยู่ปลายแถวของบุคลากรธนาคาร ไม่อาจยืนแม้แถวหลัง ต้องยืนสงบเสงี่ยมตามมุมห้อง แต่ท่านก็เป็นพระองค์อร่ามบนหิ้งบูชาของผมเสมอจนนิรันดร์ เรารู้สึกอบอุ่นเมื่อรู้จักความร้อนหนาว รับรู้ความคิดถึงเมื่อพลัดพรากจากกัน


ผมอยากกอดพ่อ กอดแน่นๆ สักครั้ง.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง