Skip to main content

ลูกเสือ

ทุกหมู่ช่วยกันกางเต็นท์ ประกอบอาหาร มองเห็นควันไฟลอยกรุ่นสู่เบื้องบน ได้ยินลูกเสือพูดคุยกันแว่วมา นอกจากครูวีรภาพ และครูภาสกร ที่เป็นผู้กำกับลูกเสือแล้ว ยังมีท่านอื่นทำหน้าที่รองผู้กำกับลูกเสือ

เริ่มมืดค่ำลงแล้ว แสงสว่างจากหลอดไฟฟ้าที่แขวนเป็นจุดๆ ทั่วค่ายลูกเสือส่องสว่างพอประมาณ เนื่องจากแขวนสูงและวางจุดห่างกันมาก สถานที่นี่เรียกกันว่าหน่วยอุทยานแห่งชาติศรีลานนา หรืออุทยานห้วยกุ่ม กิโลเมตรที่ 65 ฝั่งตะวันออกถนนเชียงใหม่-ฝาง


ครูชาย

ตั้งวงโขกหมากรุก เป็นกีฬาที่ครูชายในโรงเรียนกำลังนิยมไม่เว้นแม้ภารโรง เนื่องจากครูที่ย้ายมาใหม่จากกรุงเทพฯ ชื่อ “ภักดี” มีฝีมือทางหมากรุกขั้นเซียนนำมาเผยแพร่ ทุกคนมีฝีมือหมากรุกไล่เลี่ยกัน การแข่งขันนั้นหากผู้แข่งขันฝีมือสูสีกัน การเล่นย่อมออกรสชาติ ทั้งผู้เล่น ผู้ชม ครูวีรภาพกับครูภาสกรคว้ากระดานหมากรุกได้ก่อนผู้อื่น จึงได้เป็นมวยคู่แรก ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน แต่มักมีข้อโต้แย้งขัดคอกันเสมอ


คนหนึ่งว่าขาว อีกคนต้องว่าเทา แต่ไม่ถึงห้ำหั่นให้พังไปข้าง ประเภทเพื่อนรักเพื่อนแสบ

วันนี้อย่าเป็นหมูเปื่อยอย่างวันนั้นเสียล่ะ เหงื่อไม่ทันออกวิ่งจู๊ดไปเลย ฮะฮ่า...”

ครูภาสกรเริ่มราดน้ำปลาบนแผลเก่า

ระวังหมูจะชนต้นกล้วย วันนี้กันจะใช้มือซ้ายข้างเดียวเดิน มือขวาสูบบุหรี่สบายๆ ก็ชนะแบบไม่ต้องลุ้น”

ครูวีรภาพสวนเผ็ดร้อนพอกัน


ครูภาสกรใช้วิธียั่วโมโหคู่ต่อสู้ ภารโรงสุนทรขาดชมไม่ได้เด็ดขาด ยกเขียงมาวางข้างครูภาสกรทีมเดียวกัน ภารโรงสุนทรใช้ผ้าขี้ริ้วเก่าวางรองเขียงเวลาลาบจะได้ไม่มีเสียงดัง หยิบเนื้อควายวางบนเขียงลงมือสับเนื้อไป ตาดูหมากรุกไปประเภทใจอยู่ทาง มือไปทาง ผ้าขี้ริ้วขยับไปตามแรงสับ บางส่วนแลบเข้าไปที่เนื้อบนเขียงถูกคมมีดตัดปะปนไปกับเนื้อควายหลายส่วน เนื้อที่เลอะมาขอบเขียงบ้าง กระเด็นมาที่ผ้าขี้ริ้วบ้าง ภารโรงสุนทรปาดไว้บนเขียงตามเดิม ไม่มีใครสนใจ สมาชิกทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวบนกระดานหมากรุก แทบลืมหิว ลืมเวลา

เมื่อเนื้อเหนียวได้ที่ ภารโรงสุนทรนำไปปรุง ฝีมือลาบของเขาเป็นที่ยอมรับของคณะครู ภารโรงสุนทรใช้นิ้วหยิบลาบมาชิม ผงกหัวใช้ได้ มันมีบางอย่างติดฟันดึงออกมาพินิจพิจารณา ตายแน่ นี่มันผ้าขี้ริ้วชัดเจนจะคุ้ยออกให้หมดคงไม่ทันการ ลาบเต็มกะละมัง ถึงเวลาต้องยกไปให้คณะครู ชั่งใจครู่หนึ่งตัดสินใจเสี่ยงตายตักลาบใส่ถ้วยแบ่งไปวางเตรียมไว้ที่กองกลางส่วนหนึ่ง อีกถ้วยยกไปวงหมากรุก ยกมาให้ครูภาสกรทีมเดียวกันชิมก่อน สุนทรรู้สึกอัดอัดหายใจขัดๆ พิกล ครูภาสกรหยิบช้อนตักลาบเข้าปาก สักครู่หันมามองภารโรงสุนทร สุนทรอยากกลั้นใจตายจริงๆ


คำพิพากษาดังขึ้น

รสชาติดีแต่เหนียวไปหน่อยนะ”

ภารโรงสุนทรค่อยๆ ระบายลมหายใจภาวนาให้ครูภาสกรกลืนลงไปให้หมดเสียเร็วๆ ครูภาสกรกลืนลงไปแล้วเหมือนรู้ใจ ครูวีรภาพชิมบ้าง

อือๆ รสชาติดีใช้ได้เหนียวดีเคี้ยวมัน”

สุนทรโล่งอกไปอีกครั้ง เคี้ยวมันก็กลืนลงไปเสียเถอะพระคุณท่าน ขอร้องมีสิ่งใดติดฟันอย่าดึงออกมาเด็ดขาด ความลับถูกกลืนหายลงคอไปอีกครั้ง


อาหารมื้อเย็น

ที่กองกลางของคณะครูที่นำนักเรียนมาอยู่ค่ายพักแรม ใครๆ ชมว่าลาบอร่อย ไม่มีใครรู้ผ้าขี้ริ้วสีดำแสนสกปรกที่เป็นความลับของสุนทรถูกกลืนเก็บไว้ในกระเพาะผู้กินจนหมดสิ้น.



บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง