ผมนั่งรถประจำทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งสู่อำเภอแม่ริม รถวิ่งราว 16 กิโลเมตรก็ถึงอำเภอ ผมลงตรงหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ริม เดินเข้าซอยข้างๆ สถานีตำรวจ มือหิ้วกระเป๋าเดินทาง เพื่อเข้าไปในค่ายดารารัศมี ซึ่งเป็นค่ายของตำรวจตระเวนชายแดน โดยมีจุดมุ่งหมาย จะขอโดยสารไปกับเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ ที่มีราชการไปอำเภอเวียงแหง โดยเราเพียงบอกว่า เป็นข้าราชการทำงานในอำเภอ ทางเจ้าหน้าที่รับทราบก็จะอนุเคราะห์ทุกครั้ง เป็นการช่วยเหลือในวงราชการด้วยกัน ผมเดินไปครู่เดียวก็ถึง เห็นเฮลิคอปเตอร์ลายเขียวน้ำตาลจอดอยู่ลำหนึ่ง ผมชำเลืองดูรอบบริเวณ เห็นมีผู้คนจะขึ้นไปด้วย 3-4 คน กระเป๋าและสัมภาระวางบนพื้นระเกะระกะ ผมไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาก็พยักหน้าอนุญาต และให้กรอกชื่อ ตำแหน่ง หน่วยงานของตน ในสมุดที่วางบนโต๊ะ ผมหาที่นั่งคอยเวลาขึ้นเครื่องบิน ความคิดล่องลอยไปถึงวันแรกที่ผมเดินทางไปทำงานที่เวียงแหง
ในวันแรก
ผมจำได้ว่าเป็นปี พ.ศ.2528 ผมนั่งรถโดยสารจากเชียงใหม่ ไปลงที่บริษัทดาวทอง ก่อนถึงโรงพยาบาลเชียงดาวเล็กน้อย ลงรถแล้วต่อรถโดยสารขึ้นเวียงแหง รถวิ่งผ่านโรงพยาบาลเชียงดาว แล้วเลี้ยวเข้าปากทางเมืองงาย รถแล่นไปจนถึงปากทางแม่จา เลี้ยวซ้ายแล้วจอด ตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาตรวจ ต่อจากนั้นรถวิ่งต่อเพื่อสู่กิ่งอำเภอเวียงแหง ถนนเปลี่ยนจากราดยางเป็นดินแดง...ก่อนมาเป็นนักวิชาการ เดิมผมเป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิชาการ สอนในโรงเรียนประจำอำเภอ ติดถนนเชียงใหม่-ฝาง ไปมาเชียงใหม่สะดวก กลับบ้านได้อย่างสบาย มีคนหลายคนในวงการครูบอกว่า
"คิดดีแล้วหรือ อยู่โรงเรียนดีๆ ไม่ชอบ ชอบไปอยู่ป่าอยู่ดอย ?"
"คิดทบทวนดีแล้วครับ ผมตัดสินใจแล้ว หลังใคร่ครวญมานานพอสมควรแล้วครับ"
เป็นคำพูดที่ผมตอบ ตัดสินใจแล้ว ไม่เคยคิดเสียใจภายหลัง ยินยอมรับสภาพที่เกิดขึ้น แต่เหตุผลลึกๆ มีอีก ผมอยากได้ประสบการณ์ชีวิตทางวิชาการให้กว้างขึ้น อยากเรียนรู้ในโลกกว้าง โบยบินเหมือนนกสู่ฟ้าอันไพศาล ประการสำคัญคงจะมีผลต่อการสอบเรียนต่อของผม มีผลดีต่ออนาคตของผมอย่างไรนั้น จะขอกล่าวต่อไป นึกถึงข้าราชการที่ทำงานด้วยกัน เวลานี้อาจารย์วิชาญ นักวิชาการหน่วยงานเดียวกับผมคงกำลังเตรียมงานอบรมครู...ความคิดล่องลอย ถูกดึงกลับมาสู่ปัจจุบัน ผู้โดยสารมาเพิ่มอีก 2-3 คน รวมเป็น 7-8 คน นักบินอีก 3 คน ประกอบด้วย นักบิน 1 คน ผู้ช่วยอีก 2 คน เครื่องบินจะขึ้นไหวไหมหนอ นักบินบอกว่า
"ลองยกขึ้นดูก่อน ไหวหรือไม่ไหว?"
หมายถึง ลองบินแล้วยกตัวเครื่องบินขึ้นขณะบรรทุกข้าวสารหนักแปล้ไว้แล้ว 2 กระสอบ ถ้ายกขึ้นไหว ผู้โดยสารก็สามารถขึ้นเครื่องได้ เสียงเครื่องบินดังก้องไปทั่วบริเวณ มันค่อยๆ ยกตัวขึ้น ทรงตัวได้ดี จากนั้นเครื่องบินก็หย่อนตัวจอดนิ่ง เจ้าหน้าที่บอกทุกคนขึ้นเครื่องได้ แม้ไม่มั่นใจเต็มที่นัก ไม่มีทางเลือก ผมคว้ากระเป๋า เดินก้มตัวก้าวขึ้นเครื่องพร้อมกับคนอื่น เครื่องบินยกตัวขึ้นด้วยน้ำหนักที่มากกว่าเดิม มันยกขึ้นได้ช้าๆ ผมลอบถอนหายใจ พอได้ระดับ เอียงตัวบินโค้งรอบสนามหนึ่งรอบ แล้วดิ่งหัวแมงปอยักษ์ของมันสู่ท้องฟ้าทิศเหนือทันที เห็นหลังคาบ้าน ตึก เล็กลงกว่าเดิม หมู่บ้านในอำเภอค่อยๆ เล็กลงๆ ห่างไกลออกไปเบื้องหลังทุกที
แมงปอยักษ์ดิ่งตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ภูมิประเทศเบื้องล่างเริ่มเป็นป่า สักครู่ทิวป่าสนเริ่มปรากฏมองจากที่สูงเป็นต้นเล็กนิดเดียว เจ้าแมงปอเหล็กบินตามร่องน้ำที่เห็นคดเคี้ยว เบื้องล่างบางแห่งเป็นดินแดง ต้นไม้ถูกโค่นราบ ดอยที่เรามองเห็นจากพื้นราบ เห็นเป็นสี้น้ำเงินเข้ม ดูไกลๆ ทึบไปด้วยต้นไม้ พอเรามองจากเฮลิคอปเตอร์ เห็นต้นไม้หรอมแหรม สลับกับหน้าดินรุกเข้ามา เหมือนคนผมบาง เนิ่นนานไปผมยิ่งร่วงหล่นมากขึ้น ไม่ผิดพื้นที่ดินที่ขยายรุกเข้ามาแทนที่ต้นไม้มากขึ้นๆ เฮลิคอปเตอร์เอียงตัวไปตามร่องน้ำเบื้องล่าง ลำตัวมันสูงกว่าขอบดอยเล็กน้อย บางครั้งลดระดับ วิ่งเลาะไปตามหุบดอย ตื่นเต้นดีเหมือนกัน พอพ้นหุบเหวผ่านแนวดอยเหล่านั้น มันก็ตั้งตัวตรงนิ่ง มุ่งสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เห็นบ้านเรือนผู้คนเบื้องล่าง ผมยกนาฬิกามิโด้ขึ้นดู ใช้เวลาบิน 29 นาที เครื่องบินวูบลงและยกตัวขึ้น ผมเกิดอาการเสียววาบในท้อง แล้วเครื่องบินก็ปรกติอย่างนี้สองสามครั้ง เรียกว่า "ตกหลุมอากาศ" ผมเห็นบางคนจับขอบประตูแน่น หน้าตาไม่ดี คงเตรียมกระโดด กระโดดลงไปก็ตาย ผมตอบในใจ
เข้ามาถึงกิ่งอำเภอเวียงแหงแล้ว เครื่องบินผ่านทุ่งหญ้าข้างล่าง ผู้คนเดินตามถนน ได้ยินเสียงใบพัดเหนือศีรษะพัดตีอากาศดังปับๆ สม่ำเสมอ เครื่องบินดิ่งหัวลงเป้าหมายกากบาทสีขาวที่สนามข้างที่ว่าการกิ่งอำเภอ ฝุ่นเบื้องล่างฟุ้งกระจาย ต้นไม้ใหญ่น้อยถูกลมตีเหมือนเกิดพายุใหญ่ มันค่อยหย่อนตัวลงอย่างนิ่มนวลแล้วจอดนิ่ง เครื่องยังติดอยู่ ผมรีบลง ยกมือไหว้คนขับ กล่าวขอบคุณแทบไม่ได้ยินเสียงตนเอง เสียงใบพัดตีอากาศก้องไปหมด ผมก้มตัวเดินปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น สู่อาคารที่ว่าการกิ่งอำเภอ ตามหน้าต่างเห็นบางคนยืนมอง เจ้าหน้าที่บางคนเตรียมตัวขึ้นเครื่องบินกลับลงไป ผมเดินต่อไปยังห้องทำงาน หูยังได้ยินเสียงแมงปอยักษ์ ดังก้องฟ้าจากข้างกิ่งอำเภอ มันขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว เสียงดังไปทางทิศตะวันตก ไกลออกไปทุกที จากนั้นค่อยเบาลงและเงียบหายไปจากโสตประสาท.