Skip to main content

  

ผมขับรถจักรยานยนต์
ยามาฮ่าสีแดง ซึ่งเป็นรถสำหรับผู้หญิงใช้งาน จากบ้านที่อำเภอแม่แตง เดินทางสู่กิ่งอำเภอเวียงแหง สวมรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ เสื้อกางเกงเนื้อหนาราคาถูก สีทึมทึบ หมวก แว่นตา และถุงมือ เป็นอันว่าครบชุดออกเดินทางเวลาบ่ายโมงเศษ กินข้าวที่เชียงดาว แล้วพารถสู่ปากทางบ้านแม่จา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางไปกิ่งอำเภอเวียงแหง นำรถจักรยานยนต์ไปครั้งนี้ เพื่อไว้ใช้งานในเรื่องต่างๆ เช่น เยี่ยมโรงเรียน ไปเยี่ยมครูตามบ้านพักหลังเวลาราชการ ครูพักค้างกันตามบ้านพัก เราไปเยี่ยมพูดคุยกับเขา บรรยากาศแบบกันเอง มีอะไรก็นำมารับประทานด้วยกัน พูดคุยกันเรื่องผ่อนคลาย โดยหัวหน้าการของผมนำคณะเราไป คณะครูต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส มีเรื่องคับข้องใจ มีปัญหาอะไร เขาก็กล้าคุยกับคณะของเรา

มันเป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก

เครื่องไม่แรงเท่าไร ตอนไหนทางชัน รถพาเราขึ้นไม่ไหว ก็ลงรถเร่งเครื่องส่งแล้วดันขึ้นไป มีโค้งหักศอกสามสี่แห่ง โค้งแรกผมขับรถขึ้นไป เร่งเครื่องรถตะแคงล้ม มันเป็นฝุ่นละเอียดเหมือนแป้งกองใหญ่ ไม่เจ็บเท่าไร ท้องฟ้าครึ้มอีกแล้ว ลมพัดหวู่หวิว ผมพยายามทำเวลา วิ่งบ้างพักบ้าง จนมาถึงแม่น้ำแตะ แม่น้ำสายสำคัญของกิ่งอำเภอเวียงแหง ฝนเริ่มโปรยปรายลงมา และหนักขึ้นตามลำดับ ผมลงรถ ดันรถข้ามน้ำ โดยยังติดเครื่อง มือขวาหมุนเร่งเครื่องส่ง ตลิ่งเริ่มเป็นโคลนเละเหลว รองเท้าเปียกน้ำและเปรอะโคลน เสื้อเปียกชุ่มด้วยสายฝน ลามเปียกไปยังโคนขากางเกง มันเป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว สักครู่ก็ดันรถขึ้นไปบนฝั่งได้ จอดรถพักเหนื่อยสักครู่

 

ความมืดครอบคลุมทั่วบริเวณ

อย่างรวดเร็ว ผมรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง บริเวณรอบตัวก็มืดลงสู่ยามต้นของกลางคืนแล้ว

เวลาแห่งรัตติกาลเริ่มขึ้น มองเห็นต้นไม้สูงต่ำตะคุ่มๆ สูงขึ้นไปท้องฟ้ายังเป็นสีขาว จักจั่นกรีดเสียงประสานกันเซ็งแซ่ไปทั้งราวป่า นั่นอะไร...โฉบจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง จากหนึ่งกลายเป็นสอง จนเต็มไปทั่วบริเวณป่าริมน้ำ ผมรู้สึกระทึกใจ...เสียงแมลงกลางคืนชนิดอื่นส่งเสียงระงมก้องไปทั้งป่าประกาศความเป็นเจ้าของป่ายามราตรีของมัน มันจู่โจมขวัญผมให้กระเจิดกระเจิงอย่างรวดเร็ว รู้สึกว้าเหว่ เหมือนอยู่คนเดียวในโลก อยากได้ใครสักคนมาอยู่ใกล้ๆ ความหวาดหวั่นคืบคลานเข้ามาหา... ผมพยายามข่มใจอย่างยากลำบาก เพ่งมองดูสิ่งเหล่านั้น มันใช้วิธีพุ่งจากตำแหน่งสูงของต้นไม้ แล้วโผพุ่งต่ำไปอีกต้น รู้แล้ว มันคือบ่างออกหากินยามกลางคืน รูปร่างมันคล้ายกระรอก แต่มีพังผืดสองข้างลำตัว ผมพยายามทำใจให้เข้มแข้ง ตบปืนพกขนาด .38 ในซองข้างรักแร้ซ้าย ปลุกเรียกความห้าวหาญ

 

ใจผมเยือกเย็นมากขึ้น

บอกตนเองว่า มันเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้น มันทำอะไรเราไม่ได้ ถ้ารำคาญเสียงมัน ลั่นไกปืนสักเปรี้ยง ขี้คร้านมันจะเงียบเหมือนปิดวิทยุปลอบใจได้แล้ว ผมก็นั่งบนจักรยานยนต์เพื่อนยามราตรีสู่เวียงแหงต่อ วิ่งมาได้สักครู่ ผมรู้สึกอากาศร้อนอบอ้าวพิกล ขับต่อมาอีก โอ...นั่นอะไรกัน ป่าข้างทางด้านขวา เห็นเปลวไฟลุกโชติช่วง เป็นแนวยาวเหยียด ฝั่งตรงข้ามก็กำลังลุกไหม้เช่นกัน เสียงไม้แตกดังเปรี๊ยะๆ ขี้เถ้าลอยขึ้นข้างบน ผมร้อนจนทนแทบไม่ไหว ตกใจจนคุมสติไม่อยู่ ขับรถพุ่งอย่างเร็วตามถนน หวังฝ่ากองไฟทะลุให้พ้น ร่างกายร้อนขึ้นๆ เหมือนตัวเองเป็นไก่กำลังถูกอบในตู้ หายใจติดขัด ขับต่อไปถูกเผาตายแน่นอน บังคับรถเลี้ยวกลับ วิ่งย้อนออกมาจนพ้นแนวไฟ จอดรถ กระโดดลงรถ ปัดเนื้อตัว มือตบถูกหลวงพ่อทวดที่อกอย่างบังเอิญ สติค่อยกลับมา ใจเริ่มเยือกเย็นอีกครั้ง ควบคุมอารมณ์ให้ปรกติโดยเร็ว การกระทำอะไรขณะตื่นตระหนก ไม่เกิดผลดีแน่ ความเยือกเย็น มีสติต่างหากที่ทำให้เกิดปัญญา ใจผมนิ่งขึ้น มองเปลวไฟสองข้างทาง มันเป็นเหตุการณ์ปรกติ ไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง หากมันไหม้ลามมาหา ผมก็ขยับห่างก็ไม่เห็นเป็นอะไร หากมันไหม้จนหมดเชื้อไฟ มันก็ดับเอง ผมลุกขึ้นเดินมาที่รถ หยิบขวดน้ำขึ้นดื่ม ล้างหน้า มือ และหยิบถุงใส่อาหารมานั่งกินอย่างใจเย็น เปลวไฟป่าลดลงตามลำดับ เห็นแต่ควันลอยกรุ่น

 

กินข้าวเสร็จ

ดื่มน้ำแล้วล้างมือ หวีผม ผมขับรถผ่านกองไฟที่มอดแล้วทั้งสองข้างถนนอย่างปลอดโปร่ง การเดินทางคราวนี้ ผมได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝน ได้รับการทดสอบ เป็นสถานการณ์ที่มีค่ายิ่ง และผมรู้สึกเข้มแข็งขึ้น.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ขออภัย ผมปัสสาวะบ่อย หลายครั้งต่อวัน บางครั้งกลั้นไม่อยู่ อยากฉี่เต็มที ต้องรีบปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน บางครั้งอยากฉี่โดยไม่เลือกที่เลือกเวลา   ร่างกายเราควบคุมมันไม่ได้เสียแล้ว กำลังคุยกันหลายคนเสียด้วย ต้องรีบขอตัวเข้าห้องน้ำ   บางทีก่อนออกบ้านได้ไปทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ขับรถยนต์เข้าเชียงใหม่   เวลาผ่านไปไม่เท่าไร อยากไปห้องน้ำอีกแล้ว โธ่ๆ...เป็นไปได้    เป็นบ่อยเข้า ผิดปรกติแน่นอน จึงเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาลสวนดอก(โรงพยาบาลมหาราช)    
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      13 ตุลาคม 2553
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมวิ่งขึ้นบันไดบ้าน มือขวาถือรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล ถึงบนบ้านวางกระเป๋าหนังสือเรียนชั้น ป.3 ข้างเสา วางรองเท้าที่ว่างข้างบันได นั่งถอดถุงเท้าที่ชุ่มเหงื่อวางผึ่งบนรองเท้า กวาดตามองหาย่า ได้ยินเสียงในห้องครัว ส่งเสียงเรียกย่า ย่าเดินถือถ้วยใส่ขนมมาให้เหมือนทุกวัน ผมเดินสูดขี้มูกไปหา ยกชายเสื้อกล้ามเช็ดเหงื่อแถวหน้าผากและหัว แมวสีดำขาขาวเหมือนสวมถุงเท้าวิ่งมาพันแข้งขา ผมหยุดก้มดูส่งเสียงไล่ตะเพิด 1 ครั้งมันยังคลอเคลีย 2 ครั้ง มันยังคงร้องเหมียวๆ ระหว่างขา ผมรับถ้วยขนมเดินกลับมาหามุมเหมาะๆ จะกินขนมให้อร่อยลิ้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    วัดประทานพรนั้น จะอยู่แถวย่านโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ซู่จิ้งบอกตำแหน่งวัดที่คาดว่าผมจะตามไปหาของสำคัญมักติดตามกันยากจริงๆ เหมือนตามหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในภาพยนตร์ฝรั่ง ผมเดินหน้าเยิ้มเหงื่อ หลังชุ่มเปียกกลับมาหาภรรยา ที่กำลังคีบก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยใหญ่เข้าปากสบายอารมณ์ ดูเธอไม่สนใจคำตอบผมเท่าไร ผมชักไม่มั่นใจการตามหาอิฐสำคัญจะสมหวัง...ใครก็ได้ช่วยตามหาให้หน่อยเถอะ อยากเห็นนักรูปร่างลักษณะจะเป็นอย่างไร  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  26 สิงหาคม 2553 ได้ไปหาคุณวิจิตร ไชยวัณณ์ อดีตนักหนังสือพิมพ์คนเมือง โดยผมขับรถไปหาคุณลุงวิจิตรที่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านนี้อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวร์ไปอีกราว 5 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสนามกีฬาพอดี คุณลุงอายุ 86 ปีแล้ว ท่านบอกผมด้วยสีหน้าปรกติว่า ลุงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อีก 3 ปีจะตาย  พอจบคำพู  ผมค่อยผ่อนลมหายใจยาว ไม่น่าเชื่อคนที่รู้ว่าตนเองกำลังใกล้ตายจะมีทีท่าปรกติ  บอกเรื่องร้ายแรงเหมือนเรื่องปรกติธรรมดา…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ร้านหนังสือที่แปลกตา  ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน   เป็นห้องสี่เหลี่ยม   บนโต๊ะกลางห้องมีหนังสือวางเรียงราย  ด้านข้างที่ติดหน้าร้านนั้น มีหนังสือวางบ้างตั้งบ้าง   ด้านนี้เห็นมีหนังสือของคุณ รงค์ วงษ์สวรรค์   วางทักทายแฟนหนังสือหลายเล่ม   หนังสืออื่นๆเช่น ราหูอมจันทร์   สวนนักเขียน   รวมทั้งกลุ่มหนังสือใต้ดิน   ในตู้หลายใบ   ที่วางห่างเป็นระยะ   เป็นหนังสือชั้นดีทั้งระดับต่างประเทศ ที่แปลแล้ว และหนังสือในประเทศ เขียนโดยนักเขียนมีชื่อเสียง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เดินทางจากบ้าน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่   ขับรถกระบะสีเขียวเข้าเมืองเชียงใหม่   อายุใช้งานย่างเข้าปีที่ 16 แล้ว ถ้าเป็นคนก็เริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว   อยากเปลี่ยนใหม่เหมือนกัน   แต่ไม่มีเงินพอซื้อ   ภรรยานั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ   บอกก่อนว่า   เธอไม่ได้มาคุมประพฤติอะไรทั้งสิ้น ผมขับรถมักง่วงเป็นประจำ   ต้องมีคนคอยกระตุ้น   ให้ประสาทต่างๆตื่นตัวเสมอ   กินกาแฟพอช่วยได้บ้าง  ถ้ากินประเภทเครื่องดื่มชูกำลัง   กลับทำให้ใจเต้นแรง กระสับกระส่าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผู้ซื้อขายลำไยบางราย มีทีมงานเก็บลำไย  เป็นต้นว่า  ครูกำพลนำชาวเขาเผ่ามูเซอร์จากอำเภอไชยปราการมาเก็บลำไย โดยเช่าบ้านที่หัวบ้านทุ่งแป้งให้พักอาศัย มูเซอร์มาด้วยกัน 5 ครอบครัว สองคู่มีลูกเล็กตามมาด้วย  ยังไม่พอลูกในท้องอีกคน  อีกสามคู่อยู่ในวัยหนุ่มสาว  ยังไม่มีลูก  การแต่งตัว ทรงผม เหมือนวัยรุ่นเชียงใหม่  ขับขี่จักรยานยนต์โฉบไปมารวดเร็ว ถ้าครูกำพลเหมาซื้อลำไยแห่งใด กลุ่มนี้จะไปรับจ้างเก็บลำไย  หากครูกำพลยังไม่มีงาน อนุญาตให้ไปรับจ้างเก็บลำไยรายอื่นได้   ผู้ซื้อเหมาสวนลำไย  จะจ่ายค่าขึ้นเก็บลำไย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กาแฟห้องเช่า ร้านประจำของผมปิดร้านได้ 4 วันแล้ว ไม่เคยปิดนานเท่านี้ หรือจะพาไปภรรยาไปเกิดลูก เพราะเห็นเธอท้องใหญ่เบ้อเริ่ม สวมชุดคลุมท้องด้วย ผัดหน้าตาผุดผ่อง หรือปิดร้านไปงานศพในหมู่บ้าน หรือจะมาเปิดร้านสายเป็นบางวัน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ผมคาดคะเนไปหลายทิศทาง  เหมือนตำรวจตั้งประเด็นกรณีเกิดอาชญากรรม  ผมขับรถยนต์เก่าอายุใช้งาน 16 ปีช้าๆ  แล่นมาตามถนนข้างตลาดต้นแหน  ตลาดนี้จะขายของตอนเย็น ลูกค้าอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น  บ้านต้นแหนน้อย บ้านต้นแหนหลวง  บ้านสันป่าสัก บ้านทุ่งแป้ง  ตาผมมองเฉียงไปยังห้องแถวเช่าชั้นเดียวขวามือ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ข้อความที่ได้รับ คล้ายที่ลงในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 ดังนี้ ข้าวไม่ต้องหุงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวพัฒนา   โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   จากข้าว 4 พันธุ์คือ   ข้าวดอกมะลิ 105   กข 39   ข้าวหลวงสันป่าตอง   และขาหนี่   เพื่อความสะดวกในการเตรียม   ให้เป็นอาหารพร้อมสำหรับบริโภค   โดยใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและประหยัดพลังงานในการทำให้สุก   ภายใต้กระบวนการแปรรูป   ให้เป็นข้าวที่นึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ   ลดความชื้น   และนำไปสีเป็นข้าวสาร …