Skip to main content

  

ผมสามคน

ธาตรี วิชาญ และผม กินข้าวเดือนที่ร้านอาโกกับเจ๊อิ้ดทุกวัน อาหารมื้อละ 3 อย่าง มีข้าราชการอำเภอเวียงแหง มากินข้าวเดือนเช่นเดียวกันอีกหลายชุด เรากินไปคุยกันไป ฟังโต๊ะอื่นคุยกันแบบไม่ตั้งใจฟังเท่าไร ด้วยเสียงที่คนนั้นพูดดังพอสมควร บางเรื่องทำให้เราตื่นเต้น อยากรู้ ตั้งใจฟังจนเอียงตัวเข้าไปใกล้ แกล้งเคี้ยวอาหารทำไม่สนใจ บางเรื่องก็ธรรมดาทั่วๆไป

เจ๊อิ้ดเดินมาเสิร์ฟอาหารและเอ่ยขึ้นว่า

"มีคนขับรถของบริษัทดาวทอง มาแวะกินข้าวเย็นเมื่อวาน เล่าให้ฟังว่า รถถูกปล้นเมื่อวานนี้ตอนบ่ายๆ" เจ๊อิ้ดชำเลืองดูผู้ฟัง เมื่อเห็นทุกคนตั้งใจฟัง ก็เล่าต่อ

รถโดยสารของบริษัทดาวทองค่อยๆ ไต่ขึ้นทางที่ชัน ขึ้นไปช้าๆ เสียงคำรามของมันดังก้องทั่วราวป่า รถวิ่งมาได้ครึ่งทางของระยะทั้งหมด อีกสิบเมตรจะถึงทางหักข้อศอก สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีชาย 3 คน ถือปืนเอ็มสิบหกโผล่ออกมา ศีรษะสวมหมวกไหมพรมสีดำ จ้องปืนมายังรถ คนตรงกลางยกมือข้างหนึ่งขึ้น เป็นเครื่องหมายให้หยุด รถโดยสารหยุดกึก ชายป่าหลังรถปรากฏ ชายสวมหมวกไหมพรมอีก 3 คน บนเนินดอยด้านหัวท้ายรถ มีพวกมันดูต้นทางอีกจุดละ 1 คน ทั้ง 6 คนเดินมาล้อมรถ บอกให้ผู้โดยสารลงรถ ผู้เป็นหัวหน้า รูปร่างสูงล่ำ สั่งให้ผู้โดยสารทุกคนมาเข้าแถวเรียงหนึ่งข้างถนน ผู้โดยสารเดินมาเข้าแถวด้วยท่าทางตื่นตระหนก พวกมันอยู่หน้าแถว 3 คน หลังแถว 3 คน

หัวหน้าโจรสั่ง

"ทุกคน ปลดสร้อย แหวน ของมีค่าออกมาให้หมด" เสียงดังเหี้ยมๆ เถื่อนๆ แต่ไม่ค่อยชัดนัก

"ใส่ลงในกระเป๋าให้หมด ใครขัดขืน...ตาย" แม้ถ้อยคำจะไม่ชัด แต่ความหมายชัดเจนยิ่ง มันหันไปสั่งการลูกน้อง ชายรูปร่างสันทัดวิ่งไปที่ท้ายแถวผู้โดยสารเคราะห์ร้าย มันเปิดกระเป๋ารอรับของมีค่าจากผู้โดยสารอย่างรวดเร็ว

"เฮ้ย...เร็วๆ"

ผู้โดยสรรหยิบสิ่งของในตัวให้โดยดี เมื่อครบคนแล้ว หัวหน้าโจรสั่งให้ผู้โดยสารถอดรองเท้า ลูกน้องอีกคนตรวจดู มีผู้โดยสารสองคนซ่อนเงินในถุงเท้า ถูกตบหัวอย่างแรงคนละที จากนั้นมันสั่งให้ทุกคนอ้าปาก ทุกคนอ้าปากเร็วบ้าง ช้าบ้าง มันเดินตรวจดูด้วยท่าทางน่ากลัวกว่าเดิม ป้าคนหนึ่งอมสร้อยซ่อนไว้ในปาก ถูกตบปากเลือดซึมมุมปากทันที แกร้องไห้กระซิกๆ ทั้งกลัวทั้งเสียดาย ลูกน้องที่เก็บเงินวิ่งมากระซิบบอกหัวหน้ามันเบาๆ หัวหน้าโจรหันมาหาคนขับรถโดยสาร ซึ่งอยู่หัวแถว


"ออกมา !" เสียงเฉียบขาดกว่าเดิม

คนขับท่าทางหวาดหวั่น เดินมายืนที่กลางถนน เจ้าหัวหน้ายกเท้าขวาเตะเข้ากลางหลังดังโครมใหญ่ แรงเตะหนักจริงๆเหมือนนักมวยเตะ คนขับทรุดลง หัวเข่ากระแทกพื้นถนนทันที

"คราวหน้าพกเงินติดตัวให้มากกว่านี้ คนขับรถพกเงินแค่ 30 บาท มันไม่เหมาะกับหน้าตามึงโว้ย!"


มันให้สัญญาณลูกน้องถอย สั่งให้ผู้โดยสารนอนคว่ำหน้า ครู่เดียวเมื่อผู้โดยสารทุกคนเงยหน้าและลุกขึ้น พวกมันหายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    นอสตราดามุส (ค.ศ. 1502-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เรียนจบปริญญาตรีคะแนนดีเยี่ยม จึงโดดเรียนปริญญาเอกจนจบสาขาแพทย์ ได้ทำนายไว้ว่า  “ ...วันเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นยุคเก่าและการมาถึงของยุคใหม่...กำลังจะเข้ามาปรากฏแก่สังคมโลกมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งคาดตามตรรกะจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 23 ปีข้างหน้านี้ คือระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ.2023...” (หนังสือนอสตราดามุส โดย ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 363)  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมปลดกระเป๋าหนังสะพายบ่า เปิดกระเป๋าหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ดูท่านยิ้มเหมือนพึงพอใจ ชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่งแล้วบอกว่า นั่นเป็นชื่อของท่านที่เขียนเรื่องนั้น ผมหัวเราะแก้เขินที่จุดไต้ตำตอ ถือโอกาสย้ำถาม “ ท่านชื่อคุณอดิศร ฟุ้งขจรหรือครับ ? ขอโทษผมไม่ทราบจริงๆครับ.” เราทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กัน เราเริ่มคุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น คงจะจริงนะ ที่ว่าการพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากอัธยาศัยต้องกัน หรือที่พูดกันว่า ถูกชะตากัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก มิตรภาพงอกงามรวดเร็ว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  24 พฤษภาคม 2554
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เพลงที่ 11 ลืมไม่ได้เด็ดขาด ชื่อเพลง “ศรัทธา” ขับร้องโดยคุณโป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ ก่อนเปลี่ยนเป็นวง The Son ทราบว่าเพลงของวงนี้ เขาแต่งเนื้อร้องทำนองเองหมด คุณโป่งเป็นนักร้องร็อคระดับต้นแบบ หรือ Idol ของใครอีกมากมายที่เดินตามในถนนสายดนตรี เสียงมีพลัง มีความหนักแน่น เป็นเพลงประเภทให้กำลังใจต่อสู้ ให้มุมมองชีวิต ให้ความคิด เนื้อเพลงบางท่อนกลายเป็นวลีฮิตติดปากไปแล้ว เนื้อเพลงบางตอน              …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย “ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...” เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใกล้เที่ยงในโรงอาหารมีคนพลุกพล่าน พินิจดูเป็นเด็กหนุ่มสาว อาจเป็นระดับอาชีวะ หรือมหาวิทยาลัยราวปี 1 , 2 มีโต๊ะยาววางถ้วยจานแก้วน้ำ หน้าโรงอาหาร มีเจ้าหน้าที่บริการ 2 คน ผมเดินไม่รู้ไม่ชี้มองหาเจ้าหน้าที่บ้านวัยทองนิเวศน์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมเดินออกจากสำนักงาน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมบอกให้ลูกจอดรถ ที่ถนนทอดสู่ตัวอาคารสำนักงาน บอกให้แกพาแม่ไปเยี่ยมยายที่บ้านปง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ราว 3 กิโลเมตรเศษ ประมาณ 11 โมงให้กลับมารับพ่อ ผมเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคาร พบเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยกมือไหว้เมื่อเห็นหน้าผม เธอมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสันมหาพน หมู่บ้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสันมหาพนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ฟากถนนทิศตะวันตก โรงเรียนนี้อยู่ห่างที่ว่าอำเภอไปทางทิศใต้ไม่ถึง 100 เมตร ผมเคยสอนโรงเรียนนี้นาน 12 ปี ผมบอกเธอว่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ปีนี้ พ.ศ.2554 จะยังมีกิจกรรมดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ? หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ไทยนิวส์” ฉบับวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ได้ลงข่าวหน้า 1 ว่า “ จัดดำหัวผู้ว่าฯสานประเพณี เปลี่ยนชื่องานใหม่ สระเกล้าฯป้อเมือง .” โดยมีเนื้อหาข่าวบางตอนดังนี้ครับ “เมื่อ 30 มีนาคม 2554 นายวรการ ยศยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่เมืองล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นงาน สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ …