Skip to main content

  

เมื่อตอน

ที่ผมเรียนชั้นมัธยมต้น ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย สนามฟุตบอลของโรงเรียนได้ใช้เป็นสถานที่จัดงานสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่เสมอๆ เช่น การแข่งขันกีฬากรีฑานักเรียน การจัดงานวันปิยมหาราช จัดงานฤดูหนาวในอดีต ก่อนย้ายไปจัดที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดการแข่งขันฟุตบอลประชาชนของเชียงใหม่ และที่กรุงเทพฯ ก็มีการจัดแข่งขันฟุตบอลประชาชน แบ่งทีมเป็นถ้วย ก, ข, ค และ ฯลฯ ถ้วย ก. นั้นผู้เล่นมีฝีเท้าจัดระดับทีมชาติ ที่กระจายไปเล่นในทีมต่างๆ จำได้ว่ายุคนั้น ทีมทหารอากาศดังมาก เป็นแชมป์ถ้วย ก.หลายปีติดต่อกัน ที่เชียงใหม่ ก็จัดการแข่งขันฟุตบอลประชาชนที่สนามโรงเรียนยุพราชฯ เช่นกัน การแข่งขันมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ทีม "ธนาคารออมสินภาค 5" ได้ชิงชนะเลิศกับทีม "เอราวัณ"

 

ทีมธนาคารออมสินภาค 5 มีผู้เล่นที่เป็นชาวเชียงใหม่หลายคน อีกหลายคนเป็นผู้เล่นจากต่างจังหวัด ที่มีฝีเท้าจัดจ้าน ที่สำคัญมีผู้เล่นจากทีมทหารอากาศแชมป์ถ้วย ก.ของประเทศไทยหลายคน มีคนหนึ่งเล่นกองหลัง ตำแหน่งเซนเตอร์ รูปร่างกลมแน่น ขาล่ำบึกกล้ามขาเป็นมัดๆ สวมแว่นตาแต่ไม่มีกระจกมีแต่โครงเปล่าๆ ขณะเล่น จนกรรมการสั่งให้ถอดออก เวลาแกถูกกระแทกล้ม แกจะกลิ้งไปกับพื้นหลายทอดโดยแขนแนบกับลำตัว เป็นการผ่อนแรงกระแทกพื้นสนาม เทคนิคสูง เล่นฟุตบอลยียวนและรุนแรงมาก ชอบเตะแบบคาบลูกคาบดอก คือเตะลูกบอลกึ่งเตะคน แกฉลาดพอตัว ใครกะเตะรวบแกไม่มีทางสมใจ ถ้าจำไม่ผิดแกชื่อ "ดาบ สร้อยสิงห์" จำได้ว่าผู้จัดการทีม "ธนาคารออมสินภาค 5" ชื่อคุณ "สกล ศาสตราภัย" ทีมธนาคารออมสินภาค 5 เล่นกันเป็นทีม เล่นทั้งลูกเลียดลูกโด่ง ชั้นเชิงสูง เป็นทีมตัวเก็งจะได้แชมป์ ส่วนทีม "เอราวัณ" ผู้เล่นเป็นลูกหลานคนเมืองเชียงใหม่ทั้งทีม มีนักเรียนยุพราชฯ เล่นในทีม 2 คน ขออนุญาตเอ่ยชื่อคือ "คุณสุทัน" และ "คุณนิเวศน์" ทั้งสองคนได้เสื้อสามารถของโรงเรียนยุพราชฯ แต่ได้คนละปี ผู้ฝึกสอนขอเอ่ยนามด้วยความเคารพยิ่งชื่อ "ครูเกษม อุดมเศรษฐ์" (เสียชีวิตแล้ว)

 

ก่อนแข่งขัน

ผู้เล่นทีม "เอราวัณ" ได้ไปบนบานที่ "เจดีย์กิ่ว" ขอให้ทีมชนะ ถ้าชนะแล้วจะถวายของมากมาย ในเย็นวันแข่งขันครั้งสำคัญ "ทีมเอราวัณ" ใช้การเล่นแบบวิ่งจี้ติดตัวแบบตัวต่อตัว ไม่ให้ผู้เล่นตรงข้ามเล่นได้สบายๆ วิ่งแย่งฟุตบอลแบบสุดชีวิต ผู้เล่นทีม "ธนาคารออมสิน" เล่นไม่ได้ตามเกมของตน ยิงลูกอย่างไรก็ไม่เข้าประตูทีม "เอราวัณ" ยิงถูกคานประตูบ้าง ถูกเสาประตูบ้าง ยิงออกบ้าง เมื่อหมดเวลาแข่งขัน 90 นาที ทีม "เอราวัณ" ชนะทีม "ธนาคารอออมสินภาค 5" ชนะกี่ประตูผมจำไม่ได้ ใครอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นอาจจำได้ ช่วยบอกที ผมจำแบบเลือนรางๆ เหมือนชนะ 1 ต่อ 0 ทำนองนี้

 

ทราบต่อมาว่า

ทางผู้บนบาน "เจดีย์กิ่ว" ได้นำของไปถวายแก้บนมากมาย ทีมชนะฉลองกันเต็มที่ ในปัจจุบันรอบๆ ฐานเจดีย์กิ่ว สังเกตให้ดีจะมีกรวยดอกไม้วางให้เห็น บางสิ่งบางอย่างในโลกนี้ ยังมีอีกมากที่เราไม่รู้ บอกไม่ได้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ แล้วแต่ศรัทธาและความเชื่อก็แล้วกันครับผม.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    นอสตราดามุส (ค.ศ. 1502-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เรียนจบปริญญาตรีคะแนนดีเยี่ยม จึงโดดเรียนปริญญาเอกจนจบสาขาแพทย์ ได้ทำนายไว้ว่า  “ ...วันเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นยุคเก่าและการมาถึงของยุคใหม่...กำลังจะเข้ามาปรากฏแก่สังคมโลกมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งคาดตามตรรกะจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 23 ปีข้างหน้านี้ คือระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ.2023...” (หนังสือนอสตราดามุส โดย ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 363)  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมปลดกระเป๋าหนังสะพายบ่า เปิดกระเป๋าหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ดูท่านยิ้มเหมือนพึงพอใจ ชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่งแล้วบอกว่า นั่นเป็นชื่อของท่านที่เขียนเรื่องนั้น ผมหัวเราะแก้เขินที่จุดไต้ตำตอ ถือโอกาสย้ำถาม “ ท่านชื่อคุณอดิศร ฟุ้งขจรหรือครับ ? ขอโทษผมไม่ทราบจริงๆครับ.” เราทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กัน เราเริ่มคุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น คงจะจริงนะ ที่ว่าการพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากอัธยาศัยต้องกัน หรือที่พูดกันว่า ถูกชะตากัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก มิตรภาพงอกงามรวดเร็ว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  24 พฤษภาคม 2554
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เพลงที่ 11 ลืมไม่ได้เด็ดขาด ชื่อเพลง “ศรัทธา” ขับร้องโดยคุณโป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ ก่อนเปลี่ยนเป็นวง The Son ทราบว่าเพลงของวงนี้ เขาแต่งเนื้อร้องทำนองเองหมด คุณโป่งเป็นนักร้องร็อคระดับต้นแบบ หรือ Idol ของใครอีกมากมายที่เดินตามในถนนสายดนตรี เสียงมีพลัง มีความหนักแน่น เป็นเพลงประเภทให้กำลังใจต่อสู้ ให้มุมมองชีวิต ให้ความคิด เนื้อเพลงบางท่อนกลายเป็นวลีฮิตติดปากไปแล้ว เนื้อเพลงบางตอน              …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย “ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...” เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใกล้เที่ยงในโรงอาหารมีคนพลุกพล่าน พินิจดูเป็นเด็กหนุ่มสาว อาจเป็นระดับอาชีวะ หรือมหาวิทยาลัยราวปี 1 , 2 มีโต๊ะยาววางถ้วยจานแก้วน้ำ หน้าโรงอาหาร มีเจ้าหน้าที่บริการ 2 คน ผมเดินไม่รู้ไม่ชี้มองหาเจ้าหน้าที่บ้านวัยทองนิเวศน์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมเดินออกจากสำนักงาน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมบอกให้ลูกจอดรถ ที่ถนนทอดสู่ตัวอาคารสำนักงาน บอกให้แกพาแม่ไปเยี่ยมยายที่บ้านปง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ราว 3 กิโลเมตรเศษ ประมาณ 11 โมงให้กลับมารับพ่อ ผมเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคาร พบเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยกมือไหว้เมื่อเห็นหน้าผม เธอมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสันมหาพน หมู่บ้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสันมหาพนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ฟากถนนทิศตะวันตก โรงเรียนนี้อยู่ห่างที่ว่าอำเภอไปทางทิศใต้ไม่ถึง 100 เมตร ผมเคยสอนโรงเรียนนี้นาน 12 ปี ผมบอกเธอว่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ปีนี้ พ.ศ.2554 จะยังมีกิจกรรมดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ? หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ไทยนิวส์” ฉบับวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ได้ลงข่าวหน้า 1 ว่า “ จัดดำหัวผู้ว่าฯสานประเพณี เปลี่ยนชื่องานใหม่ สระเกล้าฯป้อเมือง .” โดยมีเนื้อหาข่าวบางตอนดังนี้ครับ “เมื่อ 30 มีนาคม 2554 นายวรการ ยศยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่เมืองล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นงาน สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ …