ดูข่าวจากโทรทัศน์
ตอนเช้าวันนี้(20 ส.ค.52) ข่าวคนชอบสัตว์ นำหมีมาเลี้ยงโดยขังในกรง มันอยู่รวมกันหลายตัวต่อสู้กัน เจ้าของจับถอดเล็บ ป้องกันมันทำร้ายกัน บางตัวตัดขาออกข้างหนึ่งเหลือเพียงสามขา ฟังข่าวไม่ทัน ตัดขาเพราะอะไร ยังไม่พอ เจ้าของทอดทิ้งปล่อยมันผจญชีวิตเองตามยถากรรม มันถูกถอดเล็บ ไม่มีอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิต เกาะขึ้นต้นไม้ไม่ได้ หาอาหารเองไม่ได้ ปล่อยสู่ธรรมชาติไม่ได้ ขาดเล็บอาวุธป้องกันตัว หมีตอนเล็กๆ รูปร่างอ้วนๆ ป้อมๆ คงน่ารักมาก
ความน่ารักของมัน คงเหมือนลูกหมาอ้วนตะลุกปุ๊ก ขนฟูสะอาด อวดลิ้นเล็กๆ สีชมพู วิ่งเล่นไปมา บางทีก็ล้มคว่ำล้มหงาย น่าอุ้มน่าเอ็นดูไม่น้อย พอมันโตขึ้น ความน่ารักของมันลดลงและอาจหายไปหมด คนรักมันจริงๆ ก็คงหาอาหาร หาขนมอร่อยๆ ให้มันกินเช่นเดิม ลูบหัวกอดมัน มันเจ็บป่วยก็ดูแลพาไปหาสัตวแพทย์ เป็นเห็บเป็นหมัดก็ซื้อยาจากหมอขวดละประมาณ 80 บาท มาหยอดตรงกลางระหว่างขาหน้าทั้งคู่ด้านบน บริเวณที่ต่ำกว่าหัวมันลงไปเล็กน้อย ยาจะซึมเข้าผิวหนัง ถึงเวลาก็พาไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้า ถ้าเป็นหมาพันธุ์ต่างประเทศ ผู้เลี้ยงมีฐานะดี จะพามันไปอาบน้ำ ตัดเล็บแต่งขน หมาเหงาหมาตาย เจ้าของเหงาหงอย ร้องไห้ นี่คือคนรักสัตว์ ตัวจริงคนจริง ไม่เสแสร้งรักอวดใคร หรือตามแฟชั่น
เรื่องหมีๆ
ที่พบด้วยตนเองมี 2 เรื่อง ขอเริ่มเรื่องแรก ในเช้าวันหนึ่ง ราวปี พ.ศ. 2527 ผมออกจากบ้านพักครูโรงเรียนประจำอำเภอแม่แตง ออกไปหาอาหารกลางวันกิน ไปกินร้านประจำข้างปั้มน้ำมัน
ปั้มนี้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอแม่แตง ผมสั่งข้าวผัด 1 จาน กำลังนั่งเคี้ยวอย่างอร่อยได้ 2-3 คำ ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ต้นฉำฉา (จามจุรี) ดูร่มรื่นดี ใกล้โคนต้นฉำฉา มีหลักปักอยู่ โซ่จากหลักทอดยาวไปผูกกับคอหมีตัวหนึ่ง ขนาดโตปานกลาง มันคลานไปมาท่าทางงุ่นง่าน
ผมถามเจ้าของร้านด้วยความฉงน
“หมีใครเนี่ย ! เอามาจากไหนเหรอ ?”
“หมีของเถ้าแก่ร้านขาย...” เจ้าของร้านบุ้ยปากข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม
“แกซื้อมา”
“เอามาเลี้ยงเหรอ”
“ไม่ใช่ครับอาจารย์ แกจะเอามาฆ่า เอาดีมัน ดีหมีเป็นยารักษาโรค แกจะให้ลูกสาวที่ป่วยเป็นอะไรไม่รู้กิน”
“โอ้โห.!..รักลูกมากจนต้องฆ่าหมีเอาดีมันเชียวหรือ ?” ผมกลืนข้าวผัดที่แสนอร่อยไม่ผ่านลำคอ หยุดกิน ยกน้ำในแก้วขึ้นดื่มแก้ฝืดคอ
“เขาฆ่ามันอย่างไรละ ชิด ?” ผมถามเจ้าของร้านชื่อชิดชัยต่อ หลังจากพยายามทำใจ ตาชำเลืองมองหน้าหมี มันคงไม่รู้ว่าลมหายใจจะสิ้นสุดอีกไม่กี่ชั่วโมง
“ก็ใช้ค้อนทุบหัวมันซิครับอาจารย์ เปรี้ยงๆ แล้วแหวะท้องเอาดีมัน”