Skip to main content

 

ผมเคยไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์
พระพิฆเนศหลายครั้ง  ครั้งแรกตื่นเต้น  เจ้าของพิพิธภัณฑ์เปิดให้ชมโดยไม่เก็บเงิน  ผมเดินชมเป็นจุดๆ  ตามลำดับที่พิพิธภัณฑ์กำหนด  ตื่นตาตื่นใจเหมือนกัน  ต่อมาไปเที่ยวอีกหลายครั้ง  พาเด็กๆไปบ้าง คนรู้จักคุ้นเคยบ้างไปชม  สถานที่สงบ  สะอาด  เป็นระเบียบ  มีเทวาลัย สถานที่แสดงรูปพระพิฆเนศที่เรียกว่าพิพิธภัณฑ์  สถานที่นี้ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด  สถานที่อื่นๆถ่ายได้  ห้องน้ำสะอาดเหมือนโรงแรม  แยกชายหญิง  ต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าห้องน้ำ
\\/--break--\>

พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
ห่างจากเชียงใหม่
35 กิโลเมตร  ผู้สนใจต้องขับรถมาตามถนนสายเชียงใหม่-ออด  เมื่อวิ่งมาถึงกิโลเมตรที่ 35  ให้กลับรถที่ปั้มบางจาก  วิ่งช้าๆตรงมา  มองป้ายบอกที่ปากซอย  เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสองข้างถนนจะปรากฏทุ่งนาโล่งกว้าง  มองเห็นสีเขียวของต้นข้าวเย็นตาในช่วงเดือนกันยายน  มองจนสุดสายตา  ดอยสีน้ำเงินทอดตัวซ้อนกันสงบนิ่ง  ลมทุ่งพัดมาเย็นสบาย  เสียงรบกวนจากยวดยานเบาบางลง  รถวิ่งไปอีก 5.5 กิโลเมตรก็ถึงพิพิธภัณฑ์  ให้สังเกตดู  จะเห็นกำแพงเรียบสีน้ำตาลทางซ้ายถนน  บังคับรถเลี้ยวเข้าประตู  ที่มีป้ายบอกชื่อสถานที่  เพียงเท่านี้ท่านก็มาถึง  สถานที่สงบเงียบ  อีกแบบหนึ่ง

ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์
จะเป็นคนต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่  เมื่อจอดรถก้าวเข้าประตู  จะมีสุภาพสตรีมาต้อนรับด้วยอัธยาศัยที่ดี  เรียบร้อยทั้งวาจาและเครื่องแต่งกาย  เธอจะนำท่านนั่งม้ายาวในศาลาที่กว้างใหญ่  ชมวิดิโอเกี่ยวกับพระพิฆเนศสักครู่หนึ่ง  จะทำให้ทราบว่า  พระพิฆเนศมีหลายปาง  เช่น
             -ลักษมีคเณศ  เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการค้าขาย
             -คเณศคีตา  พระคเณศทรงดนตรีเหมาะสำหรับนักดนตรี  นักร้อง
             -นาฎยคเณศ  ในลักษณะการเต้น  หรือร่ายรำ  เหมาะสำหรับ  ผู้อยู่ในวงการบันเทิง  การแสดง
             -คเณศวิทยา  ถือหนังสือ  หรือกำลังอ่านหนังสือ  เหมาะสำหรับนักเรียน  ครู  อาจารย์  นักประพันธ์  นักพยากรณ์  นักวิชาการ ฯลฯ


จากนั้นฝ่ายต้อนรับ
จะพาท่านชมตามจุดต่างๆ  ที่สำคัญมากคือ  อาคารพิพิธภัณฑ์  ร้านให้เช่าพระพิฆเนศ  ถ้าท่านมาชม  อาจทำให้ได้มุมมองหลายมิติ  เกิดความคิดหลากหลาย  อาจพบแก่นแท้ของชีวิต  มาซิครับ  เชียงใหม่ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมาก  เวลาของโลกเหลือน้อยแล้ว  ก่อนที่เรือโนอาห์จะปรากฏ  ไยไม่ท่องไปในโลกกว้าง  บินสู่โค้งฟ้าสีน้ำเงินสดใสอันไพศาล  ท้องทะเลระยิบระยับสวยงาม  ครั้นเนิ่นนาน...แสงแดดอ่อนแสง  โรยลาขอบฟ้าไป  ราตรีเข้าครอบครอง...เราต่างวาดหวังรอแสงอรุณรุ่งในพรุ่งนี้.

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง