Skip to main content

 

 

อำเภอเวียงแหง

เป็นอำเภอชายแดน ติดกับพม่าในเขตตำบลเปียงหลวง ประชาชนเป็นชาวจีนและไทยใหญ่(เงี้ยว) อำเภอนี้เล่าลือกันว่า เป็นที่พักยาเสพติด บ้างว่าเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ได้ถูกกวาดล้างครั้งใหญ่ก่อนปี พ.. 2528 อาจารย์ “ศักดิ์รพี” และอาจารย์ “เพชร” เป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งสองเป็นข้าราชการบรรจุใหม่ในปี พ.. 2529 ที่โรงเรียนบ้านเวียงแหง และสอนได้ 3 ปีแล้ว ในการประชุมใหญ่ ที่ห้องประชุมโรงเรียนบ้านเวียงแหง เพื่อชี้แจงข้อราชการและนโยบายในการทำงาน คณะครูทั้งหมดในอำเภอจำนวน 80 คน ได้เดินทางมาประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่เพิ่งบรรจุ หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอได้กล่าวตอนหนึ่งว่า


“...
ข้าราชการครูนั้น ให้วางตัวให้พอเหมาะพอดี อย่าคลุกคลีสนิทสนมฝ่ายใดมากเกินไป ไม่ว่าทหาร หรือตำรวจ หรือชาวบ้าน มันจะเป็นอันตรายกับตนเอง การประสานงานกับหัวหน้าหน่วยงานอื่นในอำเภอ ผมจะประสานงานเอง ขอให้พวกเราระมัดระวังนะครับ อันตรายอย่างไรผมขอยกตัวอย่าง เช่น อาจารย์กมล ศึกษานิเทศก์อำเภอ นั่งสังสรรค์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในตอนเย็น ชาวบ้านเห็นใครก็เห็น พวกขนยาเสพติดก็เห็น รุ่งขึ้นเกิดพวกนั้นถูกจับ มันก็ต้องคิดว่า อาจารย์กมลเป็นสาย เพียงสงสัย มันก็มาเก็บอาจารย์กมลแล้ว มันไม่เสียเวลามาถามหรอกว่า อาจารย์กมลเป็นสายให้ตำรวจจริงหรือเปล่า ?”


หัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอเวียงแหงกล่าวหนักแน่นต่ออีกว่า

...ครูมีหน้าที่สอนนักเรียน ก็ให้ตั้งใจสอนให้เต็มที่ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น เราอยู่ในพื้นที่ยาเสพติด ต้องระวังให้มาก... ดังนั้นข้าราชการครู ฝ่ายบริหารทางการศึกษาระดับอำเภอ พึงวางตัว ทำตนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่นเดียวกัน หากเราคลุกคลีสนิทสนมกับชาวบ้านมากๆ โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนดีคนร้าย ใครเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทหารตำรวจจะเพ่งเล็งได้ ไม่ว่าเราจะคบจะเลือกฝ่ายใด ผลเสียตกกับเราสถานเดียว...”

 

ข้าราชการครู

ในอำเภอเวียงแหง จะทำการสอนอยู่ในพื้นที่คนละหลายปี ทางราชการอนุญาตให้ครูทุกคนเขียนใบขอย้ายได้ ถ้าสอนในพื้นที่ได้ครบหนึ่งปี การย้ายเหมือนลมหายใจเข้าออกของครูทุกคน พื้นที่เวียงแหงไม่สามารถเดินทางไปกลับในวันเดียวได้สะดวก เดินทางจากบ้านตอนเช้าแล้วทำการสอนตอนกลางวัน เย็นเดินทางกลับ หนทางแสนลำบากทั้งสามฤดู เดินทางกลับบางทีอาจต้องค้างกลางป่า บางทีเดินทางโดยราบรื่น แต่ถึงบ้านก็ดึกดื่น เหน็ดเหนื่อยแบบล้มตัวลงนอนก็หลับปุ๋ย ครูทุกคนจึงต้องหาบ้านเช่าหรือบ้านพักครู ในพื้นที่อำเภอเวียงแหง ต้องนอนค้างเป็นอาทิตย์เป็นเดือนหรือเทอม จึงเดินทางกลับบ้านครั้งหนึ่ง หากได้ย้าย การย้ายจะเป็นสูตรค่อนข้างตายตัว อยู่แม่ฮ่องสอน มักย้ายมาเวียงแหง จากเวียงแหงไปแม่อาย ไปฝาง หรือเชียงดาว จะย้ายโดดข้ามจากเวียงแหงไปสันกำแพงบ้านเกิดนั้นยากมาก เพราะอำเภอสันกำแพง แม่ริม อำเภอเมือง สารภี หางดง ดอยสะเก็ด มักมีคนขอย้ายเข้ามาก ทางราชการบอกว่าเป็นอำเภอปิด หมายถึงไม่มีอัตราว่าง พูดง่ายๆคือคนเต็มพื้นที่ คนที่อายุราชการมากๆจะได้รับการย้ายก่อน บางทีอำเภอเหล่านี้ก็ไม่มีตำแหน่งว่างมากนัก ดังนั้นครูที่อยู่เวียงแหงต้องอยู่หลายๆปี บางทีก็อยู่จนแก่กว่าจะได้ย้าย บางคนว้าเหว่มากทนไม่ไหว ก็แต่งงานมีครอบครัวที่เวียงแหง ให้มันรู้แล้วรู้รอดเสียเลย บ้างก็แต่งงานกับครูด้วยกัน บางรายก็แต่งงานกับคนในพื้นที่ เห็นมีตัวอย่างหลายคู่ทีเดียว เช่น อาจารย์ใหญ่ประพันธ์ อาจารย์ศิลปะชัย...อาจารย์เพชรกับอาจารย์ศักดิ์รพีเขียนขอย้ายทุกปี ปีแรกมีความหวังมาก พอปีต่อมาความหวังลดลงเรื่อยๆตามลำดับปี ขณะนี้แทบปลงตก ใครชวนเขียนใบขอย้าย ทั้งคู่มักเบือนหน้าหนี้พร้อมหายใจยาวหน้าหมองลงทุกที

 

 

ในพื้นที่เวียงแหง

ประชาชนเป็นไทยใหญ่และคนไทย อาชีพทำนาทำสวน มีทหารหลายหน่วย ประจำตามจุดต่างๆทั่วอำเภอ ในตำบลเวียงแหงมีหน่วยทหารตั้งด่านตรวจ 1 จุด ตรงถนนที่เริ่มต้นเข้าหมู่บ้าน อาจารย์ศักดิ์รพีกับอาจารย์เพชรสอนที่โรงเรียนบ้านเวียงแหง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ในตำบลเวียงแหง ในวันเสาร์วันหนึ่ง ทั้งคู่พากันไปเที่ยวหมู่บ้านในตำบลเปียงหลวงโดยพาหนะรถจักรยานยนต์ ที่ห่างออกไป 18 กิโลเมตร ระหว่างทางเมื่อถึงบ้านม่วงป็อก จะมีด่านตรวจของ ตชด.อีก 1 จุด เปียงหลวงเป็นตำบลที่มีเขตแดนติดกับพม่า เมื่อรถพาทั้งสองวิ่งถึงเปียงหลวงแล้ว ได้จอดรถพักเหนื่อย เห็นทหารพรานกำลังจะเดินแถวผ่านหน้าไป ก็ได้ทักทาย

สวัสดีครับ”


อาจารย์ศักดิ์รพีทักทายด้วยรอยยิ้ม ทหารพรานคนท้ายแถวตอนลึก ชำเลืองหางตาดูนิดหนึ่งแล้วมองตรง มือทั้งสองยังคงถือปืนเอ็ม 16 พาดลำตัว เหมือนไร้ชีวิตไร้ความรู้สึก ดวงตาแข็งกระด้างยากต่อการคาดเดาอารมณ์ รวมทั้งความนึกคิด


ผมสองคนเป็นคนไทย มาเที่ยววันหยุด เป็นครูครับ”

อาจารย์เพชรแข็งใจพูดต่อเหมือนรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง หลังจากเห็นเพื่อนมีอาการแหยงเพื่อความปลอดภัย


น่ากลัวจัง”

อาจารย์ศักดิ์รพีเพื่อนสนิทพูดเบาๆกับอาจารย์เพชร ทหารพรานเป็นทหารรับจ้าง เดินตรวจในหมู่บ้านตำบลเปียง หลวงตลอดเวลา เดินกันเป็นแถวตอนลึก เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลราว 4-5 ก้าว.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ขออภัย ผมปัสสาวะบ่อย หลายครั้งต่อวัน บางครั้งกลั้นไม่อยู่ อยากฉี่เต็มที ต้องรีบปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน บางครั้งอยากฉี่โดยไม่เลือกที่เลือกเวลา   ร่างกายเราควบคุมมันไม่ได้เสียแล้ว กำลังคุยกันหลายคนเสียด้วย ต้องรีบขอตัวเข้าห้องน้ำ   บางทีก่อนออกบ้านได้ไปทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ขับรถยนต์เข้าเชียงใหม่   เวลาผ่านไปไม่เท่าไร อยากไปห้องน้ำอีกแล้ว โธ่ๆ...เป็นไปได้    เป็นบ่อยเข้า ผิดปรกติแน่นอน จึงเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาลสวนดอก(โรงพยาบาลมหาราช)    
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      13 ตุลาคม 2553
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมวิ่งขึ้นบันไดบ้าน มือขวาถือรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล ถึงบนบ้านวางกระเป๋าหนังสือเรียนชั้น ป.3 ข้างเสา วางรองเท้าที่ว่างข้างบันได นั่งถอดถุงเท้าที่ชุ่มเหงื่อวางผึ่งบนรองเท้า กวาดตามองหาย่า ได้ยินเสียงในห้องครัว ส่งเสียงเรียกย่า ย่าเดินถือถ้วยใส่ขนมมาให้เหมือนทุกวัน ผมเดินสูดขี้มูกไปหา ยกชายเสื้อกล้ามเช็ดเหงื่อแถวหน้าผากและหัว แมวสีดำขาขาวเหมือนสวมถุงเท้าวิ่งมาพันแข้งขา ผมหยุดก้มดูส่งเสียงไล่ตะเพิด 1 ครั้งมันยังคลอเคลีย 2 ครั้ง มันยังคงร้องเหมียวๆ ระหว่างขา ผมรับถ้วยขนมเดินกลับมาหามุมเหมาะๆ จะกินขนมให้อร่อยลิ้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    วัดประทานพรนั้น จะอยู่แถวย่านโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ซู่จิ้งบอกตำแหน่งวัดที่คาดว่าผมจะตามไปหาของสำคัญมักติดตามกันยากจริงๆ เหมือนตามหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในภาพยนตร์ฝรั่ง ผมเดินหน้าเยิ้มเหงื่อ หลังชุ่มเปียกกลับมาหาภรรยา ที่กำลังคีบก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยใหญ่เข้าปากสบายอารมณ์ ดูเธอไม่สนใจคำตอบผมเท่าไร ผมชักไม่มั่นใจการตามหาอิฐสำคัญจะสมหวัง...ใครก็ได้ช่วยตามหาให้หน่อยเถอะ อยากเห็นนักรูปร่างลักษณะจะเป็นอย่างไร  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  26 สิงหาคม 2553 ได้ไปหาคุณวิจิตร ไชยวัณณ์ อดีตนักหนังสือพิมพ์คนเมือง โดยผมขับรถไปหาคุณลุงวิจิตรที่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านนี้อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวร์ไปอีกราว 5 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสนามกีฬาพอดี คุณลุงอายุ 86 ปีแล้ว ท่านบอกผมด้วยสีหน้าปรกติว่า ลุงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อีก 3 ปีจะตาย  พอจบคำพู  ผมค่อยผ่อนลมหายใจยาว ไม่น่าเชื่อคนที่รู้ว่าตนเองกำลังใกล้ตายจะมีทีท่าปรกติ  บอกเรื่องร้ายแรงเหมือนเรื่องปรกติธรรมดา…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ร้านหนังสือที่แปลกตา  ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน   เป็นห้องสี่เหลี่ยม   บนโต๊ะกลางห้องมีหนังสือวางเรียงราย  ด้านข้างที่ติดหน้าร้านนั้น มีหนังสือวางบ้างตั้งบ้าง   ด้านนี้เห็นมีหนังสือของคุณ รงค์ วงษ์สวรรค์   วางทักทายแฟนหนังสือหลายเล่ม   หนังสืออื่นๆเช่น ราหูอมจันทร์   สวนนักเขียน   รวมทั้งกลุ่มหนังสือใต้ดิน   ในตู้หลายใบ   ที่วางห่างเป็นระยะ   เป็นหนังสือชั้นดีทั้งระดับต่างประเทศ ที่แปลแล้ว และหนังสือในประเทศ เขียนโดยนักเขียนมีชื่อเสียง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เดินทางจากบ้าน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่   ขับรถกระบะสีเขียวเข้าเมืองเชียงใหม่   อายุใช้งานย่างเข้าปีที่ 16 แล้ว ถ้าเป็นคนก็เริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว   อยากเปลี่ยนใหม่เหมือนกัน   แต่ไม่มีเงินพอซื้อ   ภรรยานั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ   บอกก่อนว่า   เธอไม่ได้มาคุมประพฤติอะไรทั้งสิ้น ผมขับรถมักง่วงเป็นประจำ   ต้องมีคนคอยกระตุ้น   ให้ประสาทต่างๆตื่นตัวเสมอ   กินกาแฟพอช่วยได้บ้าง  ถ้ากินประเภทเครื่องดื่มชูกำลัง   กลับทำให้ใจเต้นแรง กระสับกระส่าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผู้ซื้อขายลำไยบางราย มีทีมงานเก็บลำไย  เป็นต้นว่า  ครูกำพลนำชาวเขาเผ่ามูเซอร์จากอำเภอไชยปราการมาเก็บลำไย โดยเช่าบ้านที่หัวบ้านทุ่งแป้งให้พักอาศัย มูเซอร์มาด้วยกัน 5 ครอบครัว สองคู่มีลูกเล็กตามมาด้วย  ยังไม่พอลูกในท้องอีกคน  อีกสามคู่อยู่ในวัยหนุ่มสาว  ยังไม่มีลูก  การแต่งตัว ทรงผม เหมือนวัยรุ่นเชียงใหม่  ขับขี่จักรยานยนต์โฉบไปมารวดเร็ว ถ้าครูกำพลเหมาซื้อลำไยแห่งใด กลุ่มนี้จะไปรับจ้างเก็บลำไย  หากครูกำพลยังไม่มีงาน อนุญาตให้ไปรับจ้างเก็บลำไยรายอื่นได้   ผู้ซื้อเหมาสวนลำไย  จะจ่ายค่าขึ้นเก็บลำไย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กาแฟห้องเช่า ร้านประจำของผมปิดร้านได้ 4 วันแล้ว ไม่เคยปิดนานเท่านี้ หรือจะพาไปภรรยาไปเกิดลูก เพราะเห็นเธอท้องใหญ่เบ้อเริ่ม สวมชุดคลุมท้องด้วย ผัดหน้าตาผุดผ่อง หรือปิดร้านไปงานศพในหมู่บ้าน หรือจะมาเปิดร้านสายเป็นบางวัน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ผมคาดคะเนไปหลายทิศทาง  เหมือนตำรวจตั้งประเด็นกรณีเกิดอาชญากรรม  ผมขับรถยนต์เก่าอายุใช้งาน 16 ปีช้าๆ  แล่นมาตามถนนข้างตลาดต้นแหน  ตลาดนี้จะขายของตอนเย็น ลูกค้าอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น  บ้านต้นแหนน้อย บ้านต้นแหนหลวง  บ้านสันป่าสัก บ้านทุ่งแป้ง  ตาผมมองเฉียงไปยังห้องแถวเช่าชั้นเดียวขวามือ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ข้อความที่ได้รับ คล้ายที่ลงในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 ดังนี้ ข้าวไม่ต้องหุงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวพัฒนา   โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   จากข้าว 4 พันธุ์คือ   ข้าวดอกมะลิ 105   กข 39   ข้าวหลวงสันป่าตอง   และขาหนี่   เพื่อความสะดวกในการเตรียม   ให้เป็นอาหารพร้อมสำหรับบริโภค   โดยใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและประหยัดพลังงานในการทำให้สุก   ภายใต้กระบวนการแปรรูป   ให้เป็นข้าวที่นึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ   ลดความชื้น   และนำไปสีเป็นข้าวสาร …