Skip to main content

ห้างตันตราภัณฑ์
เป็นร้านขายของที่ดังที่สุดของเชียงใหม่ขณะนั้น ใครซื้อสินค้าจากร้านนี้ถือว่าคุณภาพเยี่ยมแต่ราคาค่อนข้างแพง สินค้าขายมีนานาชนิด เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อ กางเกง รองเท้า น้ำหอม เครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา แว่นตา ของเล่นเด็ก ฯลฯ

พวกเราเดินกันไปจนสุดถนนท่าแพ มองข้ามถนนไปตรงหน้า จะเห็นประตูท่าแพ พวกเรานักเที่ยววัยรุ่นผู้ชอบเที่ยวแบบประหยัด เลี้ยวซ้ายตามกันไปเป็นพรวน เดินไปไม่กี่ก้าวจะถึงโรงหนังสุริวงค์ พาเหรดเข้าไปในโรงหนัง กระจายกันดูหนังแผ่นตามแผงที่ติดรูป โดยมีกระจกปิดอีกชั้น เป็นภาพโปรแกรมหนังที่ฉายในวันนี้ และโปรแกรมต่อไป เป็นทั้งภาษาไทยและอังกฤษ เป็นรูปสีขนาดใหญ่ดูเพลินตาเพลินอารมณ์ โรงหนังนี้จะฉายหนังฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ ในยุคต่อมากระแสหนังไทยเริ่มแรง จึงมีหนังไทยมาฉายบ้าง เท่าที่จำได้เช่น เล็บครุฑ
(ลือชัย นฤนาท แสดงนำ ได้ตุ๊กตาทองจากเรื่องนี้) เรือนแพ (ไชยา สุริยัน แสดงนำ ได้ตุ๊กตาทองจากเรื่องนี้) จ้าวนักเลง (มิตร ชัยบัญชา แสดงนำ) หนังฝรั่งที่ดัง เช่น คลีโอพัตรา เบนเฮอร์ บัญญัติสิบประการ ฯลฯ

 

 

จากนั้นเราสะกิดกันเดินลึกเข้าไป ชมหนังสือร้าน “สุริวงค์บุ๊กเซนเตอร์” ที่ทันสมัยที่สุดของเชียงใหม่ มีหนังสือนานาชนิด วางในตู้โชว์ วางบนตู้กระจกอย่างสวยงาม ดูกันจนอิ่มแต่ไม่มีเงินซื้อ เดินออกร้านเลียบซ้ายไปทางเดินที่กว้าง 1 เมตร ผ่านประตูเข้าโรงหนังสุริวงค์ส่วนที่เป็นชั้นล่าง เดินไปราว 30 เมตรจะทะลุไปหน้าโรงหนังสุริยาที่อยู่ซ้ายมือ ที่นั่งในโรงหนังเบาะเป็นฟองน้ำ นั่งนุ่ม ศีรษะพิงพนักสบาย ผ้าม่านจอสีสวย แอร์เย็น ระบบเสียงทุ้ม เสียงเครื่องบินเสียงรถถังกระหึ่มก้อง โรงหนังนี้จะฉายเฉพาะหนังฝรั่ง ที่พอจำได้ เช่น วันเผด็จศึก ขุมทองเมคเคนน่า (แสดงนำโดย เกรกอรี่ เป็ก โอมา ชารีพ) เพลงเอกประกอบภาพยนตร์เพราะมาก เป็นนักร้องผิวดำตาบอด จำชื่อไม่ได้ ผมดูเรื่องนี้สองรอบ อีกเรื่องที่ดังสุดเหมือนกัน ผู้มีความรักต้องดูคือ LOVE STORY (อารีย์ แมกกรอร์ แสดงนำ) จำได้ไหมที่นางเอกเป็นโรคทันสมัยในยุคนั้นคือโรค “ลูคลีเมีย” เป็นโรคที่เม็ดเลือดขาวกินเม็ดเลือดแดง นางเอกไม่มีทางรอดต้องตายสถานเดียว ฯลฯ

กลับออกมา เดินย้อนมาทางเดิม เกาะกลุ่มกันข้ามถนนตรงหน้าโรงหนังสุริวงค์ ไปนั่งเล่นม้าหินอ่อนในสวนหน้าโรงหนัง ม้านั่งหินอ่อนวางไว้เป็นจุดๆ กระจายไปตามมุมต่างๆ สวนนี้อยู่ข้างกำแพงที่ทอดไปสู่ประตูท่าแพ จะมีเทพธิดาจำแลงแต่งตัวสวย นั่งซุ่มเงียบๆ เราต้องสังเกตให้ดี ถ้าเรานึกว่าเป็นผู้หญิงตัวจริงเสียงจริง เข้าไปทักทายอาจจะได้ยินเสียงแหลมปนห้าว ที่พยายามบีบให้เล็กตอบกลับมา พวกเรายังเด็กเกินที่จะไปยุ่งกับพวกเธอ อย่างมากได้แต่กระซิบกระซาบปนเสียงหัวเราะเบาๆ กับพวกเดียวกันว่า เธอเป็นเพศเดียวกับเรา พวกเราไม่มีใครดูถูกหรือล้อเลียนพวกเธอเลย

ตรงมุมสวนด้านทิศเหนือ มีหอนาฬิกาตั้งอยู่ ถ้า
2 ทุ่มหรือ 6 โมงเย็น จะได้ยินเสียงบอกเวลา แล้วเพลงชาติจึงดังขึ้น พวกเรายืนตรงกันทุกคน ในสวนนั้นส่วนใหญ่ยืนตรง จะมีบ้างบางคนยังเดินไปมา บางทีก็เป็นเด็กๆบ้าง พอนั่งหายเหนื่อยและสมควรแก่เวลา พวกเราพากันเดินออกจากสวนเพื่อกลับบ้าน ถ้าดึกมากจะราว 3 ทุ่มเศษ รถราบนถนนท่าแพเริ่มเบาบางลงแทบจะว่าง เราพากันเดินข้ามถนนหน้าโรงหนังสุริวงค์ เลี้ยวซ้ายเดินลัดเลาะมาถึงมุมถนน มองข้ามถนนท่าแพไปฝั่งตรงกันข้าม จะเห็นถนนอีกสายที่ได้แสงสว่างจากหลอดไฟเสาไฟฟ้าเล็กน้อย ทอดยาวไกลออกไปราว 100 เมตร ถนนนี้ยาวไปตัดกับถนนช้างม่อยตรงสี่แยก หากข้ามสี่แยก เดินตรงไปตามถนนข้างหน้า จะเข้าสู่หมู่บ้านช้างม่อย หมู่บ้านนี้มีหลายหลังมีอาชีพตีมีด ทำขนมจีน เดินลุยไปจนสุดถนน จะมีซอยลาดลงไป

เดินต่อไปอีกราว
15 เมตรจะพบน้ำแม่ข่า หน้าแล้งน้ำจะไหลเป็นร่องเล็กๆ สามารถกระโดดข้ามไปได้สบาย เดินไปร้องเพลงไปก็จะถึงบ้านผม เป็นทางกลับบ้านที่เป็นเส้นตรงและระยะที่สั้นที่สุด แต่เราไม่มาทางนี้ เพราะเมื่อมองออกไป นานๆจะมีคนเดินเพียง 1-2 คนมันเปลี่ยวและน่ากลัว เรามากันหลายคนยังไม่กล้าเดิน บอกไม่ถูกว่ากลัวอะไรบนถนนสายนี้ ผู้ร้ายจะจี้ชิงทรัพย์เราก็คงไม่มีอะไรจะให้ เราจึงย้อนกลับบ้านมาตามถนนท่าแพ ผ่านโรงหนังศรีวิศาล ข้ามสะพานแม่ข่า มุมสะพานฝั่งตรงข้ามด้านทิศเหนือ จะเป็นร้านผัดไทย คนขายเป็นแม่ลูก แม่รูปร่างท้วมแต่งตัวเรียบร้อย ลูกสาวคงเพิ่งเรียนจบมัธยม ช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทย แม่ใช้ตะหลิวสอดใต้เส้นก๋วยเตี๋ยวที่กองพูนในกระทะ พลิกกลับไปมา แสงไฟจากหลอดกลม ช่วยให้มองเห็นไอร้อนลอยคลุ้งขึ้นจากกระทะ มีลูกค้าผู้หญิงยืนกอดอกรอคอยหน้าร้านหลายคน สองแม่ลูกไม่เห็นพูดอะไรกันมาก แม่ผัดปรุงลูกห่อขาย นี่เป็นหน้าที่ประจำตัว ผมผ่านมาครั้งใด ต้องมองดูอย่างสนใจทุกที นานๆจึงจะไปซื้อสักครั้ง เพราะไม่ชอบกินผัดไทยเท่าใดนัก

พวกเรานักเที่ยวผู้สมถะเดินมาจนถึงสี่แยกอุปคุต เลี้ยวซ้ายมาตามถนนวิชยานนท์ มีรถเข็นขายน้ำเต้าหู้จอดขายเป็นระยะ เห็นมียามนั่งเฝ้าอยู่หน้าร้านขายของหลายร้าน พวกเราเดินไปคุยกันไปมันเพลินดี จนมาถึงสี่แยกศรีนครพิงค์ พวกเราพากันข้ามถนนอย่างสบายมาอีกฝั่งหนึ่ง รถราหายไปจากถนนราชวงค์เกือบหมด เดินข้ามมาปั๊บก็เห็นร้านข้าวต้มกุ๊ยและก๋วยเตี๋ยวราดหน้าเจ้าประจำของผมอยู่ตรงหน้า

วันหนึ่งผมเคยปั่นรถจักรยานมาซื้อก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ร้านนี้ ขณะจอดรถยืนรอ เห็นป้ายหนังเจมส์บอน
007 ติดเหนือประตูโรงหนังศรีนครพิงค์ เป็นตอนแรกชื่อ ดร.โน ฌอน คอนเนอรี่ แสดงนำ (..2505) น่าแปลกหวย 3 ตัวออก 007 ร้านนี้เป็นอาคารไม้ 2 ชั้น อยู่ตรงมุมถนนช้างม่อยกับถนนราชวงค์พอดิบพอดี ชั้นบนเป็นโรงแรมราชวงค์ มองเข้าไปที่เคาน์เตอร์ จะเห็นเถ้าแก่ตัวใหญ่ตัดผมสั้น สวมเสื้อคอกลมสีขาว ส่งภาษาจีนปนไทยเป็นระยะ บอกลูกจ้างทำงานให้รวดเร็วและคอยบริการลูกค้าที่มานั่งกินเข้าต้ม ลูกจ้างที่รับผิดชอบฝ่ายเสิร์ฟอาหาร ยกถาดอาหารที่สั่งไปให้ลูกค้าถึงที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว ตาของแกจะกวาดไปมาตามโต๊ะกลมภายในร้าน ฝ่ายเมียรูปร่างเพรียวยืนหน้าเคาน์เตอร์ บางทีก็เดินไปบริการลูกค้า บ้างก็ยืนกำกับเด็กเสิร์ฟอยู่ห่างๆ เธอขยับปากครั้งใดจะเห็นฟันทองวะวับเสมอ ยุคนั้นใครใส่ฟันทอง จะมีการพูดกันว่า รวย เท่ เด็กๆยังเลียนแบบ โดยใช้กระดาษห่อบุหรี่ในซองด้านในสีขาววาว ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆนำมาติดฟัน เป็นฟันเงิน แล้วทำเป็นยิ้มอวดฟันเล่นกับเด็กด้วยกัน.

 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ขออภัย ผมปัสสาวะบ่อย หลายครั้งต่อวัน บางครั้งกลั้นไม่อยู่ อยากฉี่เต็มที ต้องรีบปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน บางครั้งอยากฉี่โดยไม่เลือกที่เลือกเวลา   ร่างกายเราควบคุมมันไม่ได้เสียแล้ว กำลังคุยกันหลายคนเสียด้วย ต้องรีบขอตัวเข้าห้องน้ำ   บางทีก่อนออกบ้านได้ไปทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ขับรถยนต์เข้าเชียงใหม่   เวลาผ่านไปไม่เท่าไร อยากไปห้องน้ำอีกแล้ว โธ่ๆ...เป็นไปได้    เป็นบ่อยเข้า ผิดปรกติแน่นอน จึงเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาลสวนดอก(โรงพยาบาลมหาราช)    
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      13 ตุลาคม 2553
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมวิ่งขึ้นบันไดบ้าน มือขวาถือรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล ถึงบนบ้านวางกระเป๋าหนังสือเรียนชั้น ป.3 ข้างเสา วางรองเท้าที่ว่างข้างบันได นั่งถอดถุงเท้าที่ชุ่มเหงื่อวางผึ่งบนรองเท้า กวาดตามองหาย่า ได้ยินเสียงในห้องครัว ส่งเสียงเรียกย่า ย่าเดินถือถ้วยใส่ขนมมาให้เหมือนทุกวัน ผมเดินสูดขี้มูกไปหา ยกชายเสื้อกล้ามเช็ดเหงื่อแถวหน้าผากและหัว แมวสีดำขาขาวเหมือนสวมถุงเท้าวิ่งมาพันแข้งขา ผมหยุดก้มดูส่งเสียงไล่ตะเพิด 1 ครั้งมันยังคลอเคลีย 2 ครั้ง มันยังคงร้องเหมียวๆ ระหว่างขา ผมรับถ้วยขนมเดินกลับมาหามุมเหมาะๆ จะกินขนมให้อร่อยลิ้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    วัดประทานพรนั้น จะอยู่แถวย่านโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ซู่จิ้งบอกตำแหน่งวัดที่คาดว่าผมจะตามไปหาของสำคัญมักติดตามกันยากจริงๆ เหมือนตามหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในภาพยนตร์ฝรั่ง ผมเดินหน้าเยิ้มเหงื่อ หลังชุ่มเปียกกลับมาหาภรรยา ที่กำลังคีบก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยใหญ่เข้าปากสบายอารมณ์ ดูเธอไม่สนใจคำตอบผมเท่าไร ผมชักไม่มั่นใจการตามหาอิฐสำคัญจะสมหวัง...ใครก็ได้ช่วยตามหาให้หน่อยเถอะ อยากเห็นนักรูปร่างลักษณะจะเป็นอย่างไร  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  26 สิงหาคม 2553 ได้ไปหาคุณวิจิตร ไชยวัณณ์ อดีตนักหนังสือพิมพ์คนเมือง โดยผมขับรถไปหาคุณลุงวิจิตรที่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านนี้อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวร์ไปอีกราว 5 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสนามกีฬาพอดี คุณลุงอายุ 86 ปีแล้ว ท่านบอกผมด้วยสีหน้าปรกติว่า ลุงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อีก 3 ปีจะตาย  พอจบคำพู  ผมค่อยผ่อนลมหายใจยาว ไม่น่าเชื่อคนที่รู้ว่าตนเองกำลังใกล้ตายจะมีทีท่าปรกติ  บอกเรื่องร้ายแรงเหมือนเรื่องปรกติธรรมดา…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ร้านหนังสือที่แปลกตา  ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน   เป็นห้องสี่เหลี่ยม   บนโต๊ะกลางห้องมีหนังสือวางเรียงราย  ด้านข้างที่ติดหน้าร้านนั้น มีหนังสือวางบ้างตั้งบ้าง   ด้านนี้เห็นมีหนังสือของคุณ รงค์ วงษ์สวรรค์   วางทักทายแฟนหนังสือหลายเล่ม   หนังสืออื่นๆเช่น ราหูอมจันทร์   สวนนักเขียน   รวมทั้งกลุ่มหนังสือใต้ดิน   ในตู้หลายใบ   ที่วางห่างเป็นระยะ   เป็นหนังสือชั้นดีทั้งระดับต่างประเทศ ที่แปลแล้ว และหนังสือในประเทศ เขียนโดยนักเขียนมีชื่อเสียง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
   
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    เดินทางจากบ้าน อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่   ขับรถกระบะสีเขียวเข้าเมืองเชียงใหม่   อายุใช้งานย่างเข้าปีที่ 16 แล้ว ถ้าเป็นคนก็เริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว   อยากเปลี่ยนใหม่เหมือนกัน   แต่ไม่มีเงินพอซื้อ   ภรรยานั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ   บอกก่อนว่า   เธอไม่ได้มาคุมประพฤติอะไรทั้งสิ้น ผมขับรถมักง่วงเป็นประจำ   ต้องมีคนคอยกระตุ้น   ให้ประสาทต่างๆตื่นตัวเสมอ   กินกาแฟพอช่วยได้บ้าง  ถ้ากินประเภทเครื่องดื่มชูกำลัง   กลับทำให้ใจเต้นแรง กระสับกระส่าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผู้ซื้อขายลำไยบางราย มีทีมงานเก็บลำไย  เป็นต้นว่า  ครูกำพลนำชาวเขาเผ่ามูเซอร์จากอำเภอไชยปราการมาเก็บลำไย โดยเช่าบ้านที่หัวบ้านทุ่งแป้งให้พักอาศัย มูเซอร์มาด้วยกัน 5 ครอบครัว สองคู่มีลูกเล็กตามมาด้วย  ยังไม่พอลูกในท้องอีกคน  อีกสามคู่อยู่ในวัยหนุ่มสาว  ยังไม่มีลูก  การแต่งตัว ทรงผม เหมือนวัยรุ่นเชียงใหม่  ขับขี่จักรยานยนต์โฉบไปมารวดเร็ว ถ้าครูกำพลเหมาซื้อลำไยแห่งใด กลุ่มนี้จะไปรับจ้างเก็บลำไย  หากครูกำพลยังไม่มีงาน อนุญาตให้ไปรับจ้างเก็บลำไยรายอื่นได้   ผู้ซื้อเหมาสวนลำไย  จะจ่ายค่าขึ้นเก็บลำไย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กาแฟห้องเช่า ร้านประจำของผมปิดร้านได้ 4 วันแล้ว ไม่เคยปิดนานเท่านี้ หรือจะพาไปภรรยาไปเกิดลูก เพราะเห็นเธอท้องใหญ่เบ้อเริ่ม สวมชุดคลุมท้องด้วย ผัดหน้าตาผุดผ่อง หรือปิดร้านไปงานศพในหมู่บ้าน หรือจะมาเปิดร้านสายเป็นบางวัน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ผมคาดคะเนไปหลายทิศทาง  เหมือนตำรวจตั้งประเด็นกรณีเกิดอาชญากรรม  ผมขับรถยนต์เก่าอายุใช้งาน 16 ปีช้าๆ  แล่นมาตามถนนข้างตลาดต้นแหน  ตลาดนี้จะขายของตอนเย็น ลูกค้าอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น  บ้านต้นแหนน้อย บ้านต้นแหนหลวง  บ้านสันป่าสัก บ้านทุ่งแป้ง  ตาผมมองเฉียงไปยังห้องแถวเช่าชั้นเดียวขวามือ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ข้อความที่ได้รับ คล้ายที่ลงในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 ดังนี้ ข้าวไม่ต้องหุงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวพัฒนา   โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่   จากข้าว 4 พันธุ์คือ   ข้าวดอกมะลิ 105   กข 39   ข้าวหลวงสันป่าตอง   และขาหนี่   เพื่อความสะดวกในการเตรียม   ให้เป็นอาหารพร้อมสำหรับบริโภค   โดยใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและประหยัดพลังงานในการทำให้สุก   ภายใต้กระบวนการแปรรูป   ให้เป็นข้าวที่นึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ   ลดความชื้น   และนำไปสีเป็นข้าวสาร …