Skip to main content

หัวมะพร้าวถูกมีดสับเป็นฝาเล็กๆ
เราใช้มือง้างออก เสียบหลอดดูดจากแม่ค้าลงไป กลิ่นหอมมะพร้าวเผาเข้าจมูกขณะเราก้มลงดูดน้ำมะพร้าวแสนหอมและหวาน เราแบ่งกันดูด พอน้ำหมด เราจะใช้นิ้วมือหยักเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมาชิมก่อน จับมะพร้าวทั้งลูกทุบลงกับพื้นหินผ่าเสียงดังโป๊ะๆ จนกะลาแตก เราใช้มือทั้งสองดึงง้างให้กะลาแยกเป็นสองส่วน เนื้อมะพร้าวที่ล่อนไม่ติดกับผิวข้างใน จะปรากฏเป็นผลกลมให้เราได้ลองลิ้ม เนื้อมันมันนุ่มหอมเหมือนน้ำมะพร้าว ถ้าเป็นมะพร้าวแก่เนื้อจะหนา เนื้อจะบางถ้ามะพร้าวหนุ่ม กะลาที่กินหมดแล้วเราโยนเข้าป่าเพราะไม่มีถังขยะ ในน้ำใสยังมีกะลาถูกทิ้งลงไปหลายแห่ง รับรองได้ว่าไม่ใช่พวกเรา ใครที่มาเที่ยวห้วยแก้วต้องซื้อมะพร้าวเผากิน ไม่มีขายทั่วไป พอนานเข้า พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ได้ใช้วิธีต้มมะพร้าวแทนการเผา พอได้ที่ดีแล้วนำมะพร้าวที่ต้มมาทำการเผาเปลือก พอให้ดำเล็กน้อยแล้วนำมาขาย ลูกค้าถามก็โกหกว่าเป็นมะพร้าวเผาไม่ใช่ต้ม ลูกค้าลองกินดูจึงรู้ว่าเป็นมะพร้าวต้ม เพราะรสชาติผิดไปจากเดิม มะพร้าวต้มขนานแท้รสชาติจะหอมและเนื้อหนุ่มกว่า เวลาต่อมา การซื้อกินมะพร้าวเผาลดความนิยมและหายไป คงเป็นเช่นเดียวกับข้าวหลามเผาแล้วบอกเป็นข้าวหลามต้มอย่างนั้น

 

 

โรงเรียนปิดเทอมใหญ่มาถึง
เป็นปลายเดือนมีนาคม กลุ่มพวกเรานัดกันไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนรุกขชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่อยู่ตีนดอยสุเทพ บริเวณสวนสัตว์จึงมีต้นไม้ร่มรื่น กรงสัตว์แทรกตัวตามร่มไม้ กระจายเป็นรูปวงกลม มีถนนทอดตัววนเวียนไปหากรงสัตว์ทุกชนิด บางตอนมีทางลัดข้างทาง พวกเราต่างเคยมาเที่ยวกันคนละหลายครั้ง มากับผู้ปกครองบ้าง ในวาระต่างๆกัน วันนี้เราพากันมาเที่ยวตามประสาเด็กวันรุ่น พอเดินเข้าประตูสวนสัตว์ ย่างเท้าเข้าเขตกรงสัตว์ เสียงชะนีร้องระงมต้อนรับเรา สอดสลับเสียงนกมากมายหลายชนิด ผมไม่เคยได้ยินเสียงสิงโตร้อง มีครั้งหนึ่งได้ยินมันร้อง เสียงมันดังมากและมีอำนาจ ถ้าได้ยินในป่าจริงๆ ขนเราคงลุกเกลียวด้วยความกลัวสุดขีด ยุคนั้นสัตว์ที่เป็นดาราไม่พ้น สิงโต เสือ งู จระเข้ ลิง ช้าง นกนานาชนิด ยังไม่มียีราฟ ฮิปโปโปเตมัส ไม่มีหมีแพนด้า
(พ่อช่วงช่วง แม่หลินฮุย ลูกหลินปิง)จากเมืองจีน ไม่มีอควาเลี่ยม เดินมาถึงกรงงู มันดูน่ากลัวขยะแขยง ใจผมนั้นกลัวงูที่สุด เห็นในหนังเรื่อง “ทาร์ซาร์”(Tarzan) ที่แสดงนำโดย จอนนี่ ไวสมูลเลอร์ อดีตแชมป์ว่ายน้ำฟรีไสต์ 100 เมตรของโอลิมปิกถึง 2 สมัยซ้อน ( เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดย Edgar Burroughs พิมพ์ครั้งแรก ค..1914) ถูกงูเหลือมทิ้งตัวจากกิ่งไม้ ลงมาทับตัวแล้วรัดคอกับลำตัว กว่าพระเอกจะฆ่ามันได้ ทำเอาผู้ชมหายใจอึดอัดทั้งโรงหนัง ส่วนฮิบโปโปเตมัส ช้าง เพิ่งนำเข้าภายหลัง พวกเราเที่ยวกันทั่วแล้วพากันมาเดินชมสวนรุกขชาติ มันร่มรื่นด้วยต้นไม้ หญ้าถูกตัดเตียนเรียบเขียวชวนนั่ง เห็นหนุ่มสาวนั่งคุยกันตามม้าหินอ่อน ตามโคนต้นไม้ พวกเรานอนเล่นตามสนามหญ้าเขียวใต้ต้นไม้ เพื่อนบางคนแกล้งหลับ สวนนี้เคยมีวงดนตรี เดอะ อิมโพสซิเบิ้ล(Tmpossible) แชมป์วงสตริง 3 ปีซ้อนมาแสดง ยังจำท่าทางเป่าทรัมเป็ตของคุณเต๋อ(เรวัติ พุทธินันท์)ได้ เป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด...จนเย็นเราจึงพากันกลับ โดยรถเมล์สีเหลืองสาย 3 พาหนะประจำของพวกเรา

 

ที่ดอยสะเก็ด
มีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่าหนองบัว มีนกกินปลาเดินไปมา น้ำแห้งลงทุกปี สถานที่ทรุดโทรมขาดการดูแล ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยว ดูบรรยากาศเงียบเหงา นานวันไปจึงหายไปจากการกล่าวถึง ปัจจุบันไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ที่เที่ยวของพวกเราก็มีงานวัด งานปอยหลวง ต้องเป็นวัดใกล้บ้าน และเป็นช่วงปิดเทอม พวกเราจึงไปเที่ยวกันได้ บางงานเราไปเที่ยวกันครบทีม บางงานไปเพียง
2 คน ที่เที่ยวอีกแห่งเป็นจุดที่รถขายยาฉายหนัง โดยตอนเย็นรถขายยา จะตระเวนเชิญชวนคนไปหนัง รถจะวิ่งช้าๆไปตามถนนสายต่างๆในตัวเมือง เด็กๆวิ่งตามรถ ส่งเสียงยินดีปรีดา รถขายยาจะไปกางจอหนังตามจุดที่มีผู้คนอยู่กันหนาแน่น เช่นที่ว่างๆแถวประตูช้างเผือก โรงเรียนวัดเชียงยืน วัดต่างๆ เวลาหนึ่งทุ่มเศษฉายหนังทันที สลับการขายยาดมยาหม่อง ยาแก้ปวด ยาเสริมพลังเพศชาย ฯลฯ จำได้ว่า ผมเดินจากบ้านซอย 3 ถนนราชวงค์ ไปกับเพื่อนสองคน เดินเลียบคูเมืองไปเรื่อยแบบสบายอารมณ์ หนังฉายเรื่อง “ไอ้แก่น” นำแสดงโดยพระเอกลักยิ้ม คุณลือชัย นฤนาท (ได้ตุ๊กตาทองแสดงนำชายจากเรื่อง ‘เล็บครุฑ’) คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง เป็นนางเอก

 

ผมไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว
ครั้งสุดท้าย พ
.. 2511 และว่างเว้นไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย นับเวลาได้ 41 ปี จนกระทั่งเมื่อวันพุธที่ 11 .. 2552 ผมชวนลูกชายคนเล็ก พาพ่อปีนป่ายไปดูน้ำตกห้วยแก้วอีกสักครา ให้ลูกเดินเคียงอยู่ใกล้ หากเราลื่นหกล้มจะได้ช่วยเหลือทัน ที่กลับไปดูน้ำตกห้วยแก้วเพราะ ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวน่าตกใจว่า น้ำตกห้วยแก้วเริ่มแห้ง ไม่มีน้ำไหลใสเย็น น้ำแห้งแล้งนั้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ น้ำในห้วยแก้วถูกดูดไปใช้ในสวนสัตว์ และสถานที่สำคัญๆรอบห้วยแก้ว ผมจึงเดินทางไปพิสูจน์ดูกับลูกชาย ขับรถยนต์ไปจอดลานใกล้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เดินไปตามถนนที่ชันเล็กน้อย ไปทางทิศตะวันตก ผ่านร้านอาหารนานาชนิดทางซ้ายมือ ร้านเหล่านี้ปลูกริมขอบของสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกห้วยแก้ว ทางเดินเป็นถนนคอนกรีต เดินมาจนถึงตู้ยาม ยิ้มให้ยามชายหญิงคู่หนึ่ง ทางเดินราบเรียบไปตามขอบสายน้ำคดเคี้ยว ถนนปูด้วยหินผาที่เชื่อมกันด้วยซีเมนต์ ถนนทอดตัวเข้าไปหาแอ่งน้ำ โดยไม่ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติ แต่เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติกับฝีมือเสริมสร้างของมนุษย์ มีป้ายบอกทางไปผาเงิบ ผมกับลูกเดินข้ามสะพานไป มีป้ายชี้ไปยังตำแหน่งน้ำตกห้วยแก้ว สังเกตดูน้ำยังไหลเล็กน้อยตามปรกติ แหงนมองสูงไปตามหน้าผาและแมกไม้ น้ำตกห้วยแก้วที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไหลลงสู่หินผาข้างล่าง มี 3 ชั้น มองดูเหมือนผ้าบางสีขาวสะอาดตา หูได้ยินน้ำตกไหลดังซู่ซ่า อดไม่ได้ให้ลูกชายไต่ขึ้นไปดู พยายามให้อยู่ใกล้น้ำตกมากที่สุด แต่ไม่วายห่วงลูกชายกลัวลื่นหกล้ม ลูกได้ถ่ายไว้หลายภาพ พอลงมาผมก็ถ่ายสายน้ำโขดหินอีกหลายภาพ กลับลงมา ถามยามที่นั่งในตู้ยาม เขาบอกว่า ฤดูแล้งยังมีน้ำไหล แต่อาจน้อยกว่าฤดูฝน ขณะนี้กำลังปรับปรุงน้ำตกห้วยแก้วให้สมบูรณ์ดังเดิม

 

นอกจากนั้นเป็นงานใหญ่ประจำปี
เช่น งานสงกรานต์ในเดือนเมษายน มีผู้คนมาเล่นน้ำที่ “สะพานนวรัฐ” กันมากมาย และยาวตลอดถนนท่าแพ ไม่มีเล่นน้ำรอบคูเมืองที่หนาแน่นดังปัจจุบัน วนมาอีกรอบ เป็นงานเดินขึ้นดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา งานลอยกระทงในแม่น้ำปิง งานฤดูหนาวเชียงใหม่ งานวันเด็ก งานเหล่านี้เป็นงานที่ผมได้เที่ยวในวัยเด็ก ไม่มีห้างสรรพสินค้า
(แมคโคร โลตัส คาร์ฟูร์ เทสโก้ กาดสวนแก้ว) ไม่มีร้านเกม ไม่มีร้านอินเตอร์เน็ต ดังปัจจุบัน.

 


 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พอได้จังหวะ ผู้ชายที่ห้อยหัว ก็เหวี่ยงผู้แสดงชายที่จับเขาอยู่ กลับคืนมาหาบาร์เดิมของเขา คนดูบางคนทนไม่ไหวส่งเสียงร้อง เขาจับบาร์ได้ เสียงปรบมือให้กำลังใจดังขึ้น ผู้แสดงที่ห้อยหัว หกตัวขึ้นนั่งบนบาร์พักร่างกายครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ห้อยหัวลงมาอีก แข็งแรงและทรหดมาก ผู้หญิงสาวสวยจับบาร์เหวี่ยงตัวเข้าหาบ้าง ผู้ชมคงเอาใจช่วยมากขึ้น เธอปล่อยมือจากบาร์ พุ่งเข้าหาผู้แสดงที่หัวห้อยรออยู่ มือเกือบถึงแต่ไม่ถึง เธอลอยหล่นลงมา คนดูส่งเสียงฮือ บางคนลุกขึ้น เธอตกลงมาตาข่ายปลอดภัย ตัวลอยเด้งขึ้นสองสามครั้ง ตามแรงดีดของตาข่าย เธอรีบลุกขึ้น…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมสอบถามเรื่องราว จากลูกของป้า ซึ่งย้ายมาปลูกบ้านหลังสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2500 เล่าว่า ราวปี พ.ศ. 2503-2504 มีละครสัตว์มาแสดงในงานฤดูหนาวเชียงใหม่ 2 ปีติดต่อกัน ละครสัตว์คณะนี้เป็นชาวภารตะ ละครสัตว์น่าดูและน่าตื่นเต้นมาก หลังคาโรงละครสัตว์เป็นรูปโดมสูง ภายในมีอัฒจันทร์คนดูเรียงรายเป็นวงกลม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ก่อนงานวันแรก มีเครื่องบินโปรยใบปลิว เชิญเที่ยวงานฤดูหนาวเชียงใหม่จากท้องฟ้า ท้องฟ้ายามนั้นเต็มไปด้วยใบปลิวมันค่อยลอยต่ำลงมา พลิกตัวเล่นลมน่าดู ชวนให้ผู้คนคึกคักไม่น้อย ภาพเด็กวิ่งไล่เก็บใบปลิวที่ลอยลงสู่พื้น บางทีเรานั่งอยู่ในบริเวณบ้าน ใบปลิวหล่นกระจายทั่วบ้าน หลังคาบ้านเอย ลานบ้านเอย นั่งมองขึ้นไปดูใบปลิวสีสวย ยังลอยมาสู่มือให้รับอย่างสบายๆ ตอนบ่ายจะได้ยินเสียงคำรามของรถจักรยานยนต์ตามถนน ถนนสายโน้นสายนี้ มุ่งสู่สนามกีฬาที่จัดงานฤดูหนาว
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
สว่างแล้ว ผมค่อยเปิดหน้าต่างห้องนอน ซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้านเช่า ลมเย็นสะอาดพัดเข้ามา ผมรู้สึกสดชื่น ปอดขยายตัวเต็มที่ สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด รู้สึกปลอดโปร่งกระปรี้กระเปร่า เป็นลมพัดจากทุ่งนากว้างข้างบ้าน มองเห็นนาข้าวผืนใหญ่ จากทิศใต้หักมุมฉากทอดไปทิศตะวันตก ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นไทยใหญ่ มีบ้างเป็นคนไทย อาชีพก็ทำนาทำสวน ไม่กี่รายมีอาชีพค้าขาย ทางซ้ายมือผมเป็นถนนดิน พุ่งตรงไปทิศใต้ของหมู่บ้านเวียงแหง มีบ้านปลูกเรียงรายไปตามถนน สูงขึ้นไปเป็นดอยซ้อนๆ กัน ยอดดอยสูงสุดเป็นดอยสามหมื่น แนวดอยนี้อ้อมโค้งไปทางซ้ายและขวาเป็นวงกลม หมู่บ้านเวียงแหง เหมือนถูกล้อมด้วยดอยสลับซับซ้อน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ขอมองย้อนหลัง เกี่ยวกับงานฤดูหนาวเชียงใหม่ แล้วค่อยมายืนกอดอก มองภาพที่เห็นในปัจจุบัน งานฤดูหนาวเชียงใหม่ จะจัดระหว่างปลายเดือนธันวาคม ถึงต้นเดือนมกราคม เป็นงานออกร้าน และงานรื่นเริงประจำปีของจังหวัด ถือว่าเป็นงานใหญ่ประจำปีของเชียงใหม่ทีเดียว กิจกรรมสำคัญของงานคือ การออกร้านของเอกชนและรัฐ และกิจกรรมการกุศลของกาชาด ในยุคแรกงานนี้ จัดที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จนถึงปี พ.ศ. 2491 คงมองออก พื้นที่หลักในการจัดงาน เป็นสนามฟุตบอลของโรงเรียน ผู้เขียนนึกภาพงานไม่ออก ไล่อายุคงราว 8-9 ขวบ มันเลือนราง เหมือนเห็นภาพตนเอง กำลังยืนซื้อโรตีสายไหมกับพ่อ ตรงใกล้ประตูฟุตบอลด้านทิศใต้…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เพื่อนผมเรียนหนังสือรุ่นเดียวกัน อาชีพล่าสุดเป็นข้าราชการครูเหมือนกัน แต่เขาอยู่สายผู้บริหารสถานศึกษา ผมอยู่สายนักวิชาการ อยู่คนละอำเภอ เมื่อแยกย้ายไปเรียนต่อ ไปประกอบอาชีพ เราจึงไม่ได้พบไม่ได้ติดต่อกัน ทราบข่าวอีกครั้ง เสียชีวิตเสียแล้ว จากสาเหตุต้นยางโค่นล้มลงมาทับ ขณะขับรถยนต์มาตามถนนสายเชียงใหม่-สารภี ยังไม่พอ ต่อมาน้องสาวคนสวยแสนดีของเพื่อนเสียชีวิตขณะยืนรอรถโดยสารใต้ต้นยาง ไม่มีวี่แววฝนจะตก ลมพัดมาก่อน ลมอะไรไม่ทราบกระโชกมาอย่างรุนแรงวูบหนึ่ง กิ่งต้นยางหักโครมลงมาบนร่างบอบบาง น้องสาวของเพื่อนเสียชีวิตไปอีกคน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ราวเดือนพฤศจิกายน เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กับแรม 1 ค่ำ วันแรกลอยกระทงเล็ก วันที่สองลอยกระทงใหญ่ มีบริษัท หน่วยงานต่างๆ ส่งเข้าประกวด งานลอยกระทงก็อาศัยแม่น้ำปิงเป็นสถานที่จัดงาน พอหัวค่ำ หน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ พระจันทร์กลมโตกว่าปรกติ ทอแสงสีนวลอ่อนโยน เหนือยอดไม้ด้านทิศตะวันออก แสงสีเหลืองอ่อนอร่ามทั่วฟ้า ยังกระจายไปทั่วลำน้ำและเหนือสะพานนครพิงค์ ในแม่น้ำสว่างไสวด้วยแสงไฟจากเทียนในกระทง ที่ผู้คนมาลอยกระทงพร่างพราวตา ดูละลานตาทั่วแม่ปิง ผิวน้ำสะท้องแสงไฟเหมือนมีไฟใต้น้ำ บอกไฟวี้พุ่งขึ้นท้องฟ้าตลอดเวลา ขีดฟ้าเป็นทางขาว เหมือนสายแพรสีขาวสะอาด บางเบา ของเหล่าบริวารนางฟ้า สะบัดเริงระบำ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมสามคน ธาตรี วิชาญ และผม กินข้าวเดือนที่ร้านอาโกกับเจ๊อิ้ดทุกวัน อาหารมื้อละ 3 อย่าง มีข้าราชการอำเภอเวียงแหง มากินข้าวเดือนเช่นเดียวกันอีกหลายชุด เรากินไปคุยกันไป ฟังโต๊ะอื่นคุยกันแบบไม่ตั้งใจฟังเท่าไร ด้วยเสียงที่คนนั้นพูดดังพอสมควร บางเรื่องทำให้เราตื่นเต้น อยากรู้ ตั้งใจฟังจนเอียงตัวเข้าไปใกล้ แกล้งเคี้ยวอาหารทำไม่สนใจ บางเรื่องก็ธรรมดาทั่วๆไป
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ผมขับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าสีแดง ซึ่งเป็นรถสำหรับผู้หญิงใช้งาน จากบ้านที่อำเภอแม่แตง เดินทางสู่กิ่งอำเภอเวียงแหง สวมรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อ เสื้อกางเกงเนื้อหนาราคาถูก สีทึมทึบ หมวก แว่นตา และถุงมือ เป็นอันว่าครบชุดออกเดินทางเวลาบ่ายโมงเศษ กินข้าวที่เชียงดาว แล้วพารถสู่ปากทางบ้านแม่จา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่เส้นทางไปกิ่งอำเภอเวียงแหง นำรถจักรยานยนต์ไปครั้งนี้ เพื่อไว้ใช้งานในเรื่องต่างๆ เช่น เยี่ยมโรงเรียน ไปเยี่ยมครูตามบ้านพักหลังเวลาราชการ ครูพักค้างกันตามบ้านพัก เราไปเยี่ยมพูดคุยกับเขา บรรยากาศแบบกันเอง มีอะไรก็นำมารับประทานด้วยกัน พูดคุยกันเรื่องผ่อนคลาย โดยหัวหน้าการของผมนำคณะเราไป…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมนั่งรถประจำทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ มุ่งสู่อำเภอแม่ริม รถวิ่งราว 16 กิโลเมตรก็ถึงอำเภอ ผมลงตรงหน้าสถานีตำรวจภูธรแม่ริม เดินเข้าซอยข้างๆ สถานีตำรวจ มือหิ้วกระเป๋าเดินทาง เพื่อเข้าไปในค่ายดารารัศมี ซึ่งเป็นค่ายของตำรวจตระเวนชายแดน โดยมีจุดมุ่งหมาย จะขอโดยสารไปกับเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ ที่มีราชการไปอำเภอเวียงแหง โดยเราเพียงบอกว่า เป็นข้าราชการทำงานในอำเภอ ทางเจ้าหน้าที่รับทราบก็จะอนุเคราะห์ทุกครั้ง เป็นการช่วยเหลือในวงราชการด้วยกัน ผมเดินไปครู่เดียวก็ถึง เห็นเฮลิคอปเตอร์ลายเขียวน้ำตาลจอดอยู่ลำหนึ่ง ผมชำเลืองดูรอบบริเวณ เห็นมีผู้คนจะขึ้นไปด้วย 3-4 คน กระเป๋าและสัมภาระวางบนพื้นระเกะระกะ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เมื่อถึงช่วงสงกรานต์ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะปล่อยน้ำ ทำให้ระดับน้ำแม่ปิงสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้คนตักน้ำแม่ปิงไปรดน้ำได้สะดวก จุดศูนย์กลางเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ที่ขัวเหล็ก (สะพานนวรัฐ) คนจะยืนข้างสะพานทั้งสองข้างเต็มไปหมด กลางขัวเหล็กนั้น คนเดินสวนกันไปมาหนาแน่น ใส่เสื้อม่อฮ่อมเป็นส่วนใหญ่ มือถือขัน กระป๋องน้ำ ปืนฉีดน้ำ บางคนใช้เชือกผูกกระป๋อง หย่อนจากสะพานลงตักน้ำแม่ปิงด้านล่างมารดกัน ด้านล่างของขัวเหล็ก จะเห็นคนนั่งแช่น้ำแม่ปิง สาดน้ำกัน ชายหนุ่มหญิงสาวยืนคุยกันด้วยท่าทีเปี่ยมไมตรีจิต ถ้อยคำพิเศษที่รับรู้เพียงสองคน บางแห่งก็ชกต่อยกันประปราย ที่เล่นน้ำขยายมาถึงถนนหน้าพุทธสถาน ตลอดถนนท่าแพ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมยืนขึ้นก้าวไปข้างหน้า น้ำถึงราวนม เท้าจับทรายไม่อยู่ รู้สึกทรายเคลื่อนตัวลง ตัวผมจมลงไป รู้ทันทีว่าทรายดูดหรือ "ทรายมาน" ใจหายวาบ รีบใช้มือตีน้ำ ผ่อนน้ำหนักที่เท้า บิดตัวถอยหลังอย่างฉับพลัน ใช้เท้ายันพื้นทราย เท้าจับทรายได้แล้ว ถอยเท้าอย่างรวดเร็ว รีบขึ้นหาดทราย ประมาทไม่ได้เลยกับภัยในน้ำ เหลียวดูเพื่อน เขากลับลงเล่นน้ำกันอีก