Skip to main content

หัวมะพร้าวถูกมีดสับเป็นฝาเล็กๆ
เราใช้มือง้างออก เสียบหลอดดูดจากแม่ค้าลงไป กลิ่นหอมมะพร้าวเผาเข้าจมูกขณะเราก้มลงดูดน้ำมะพร้าวแสนหอมและหวาน เราแบ่งกันดูด พอน้ำหมด เราจะใช้นิ้วมือหยักเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมาชิมก่อน จับมะพร้าวทั้งลูกทุบลงกับพื้นหินผ่าเสียงดังโป๊ะๆ จนกะลาแตก เราใช้มือทั้งสองดึงง้างให้กะลาแยกเป็นสองส่วน เนื้อมะพร้าวที่ล่อนไม่ติดกับผิวข้างใน จะปรากฏเป็นผลกลมให้เราได้ลองลิ้ม เนื้อมันมันนุ่มหอมเหมือนน้ำมะพร้าว ถ้าเป็นมะพร้าวแก่เนื้อจะหนา เนื้อจะบางถ้ามะพร้าวหนุ่ม กะลาที่กินหมดแล้วเราโยนเข้าป่าเพราะไม่มีถังขยะ ในน้ำใสยังมีกะลาถูกทิ้งลงไปหลายแห่ง รับรองได้ว่าไม่ใช่พวกเรา ใครที่มาเที่ยวห้วยแก้วต้องซื้อมะพร้าวเผากิน ไม่มีขายทั่วไป พอนานเข้า พวกพ่อค้าแม่ค้าไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ได้ใช้วิธีต้มมะพร้าวแทนการเผา พอได้ที่ดีแล้วนำมะพร้าวที่ต้มมาทำการเผาเปลือก พอให้ดำเล็กน้อยแล้วนำมาขาย ลูกค้าถามก็โกหกว่าเป็นมะพร้าวเผาไม่ใช่ต้ม ลูกค้าลองกินดูจึงรู้ว่าเป็นมะพร้าวต้ม เพราะรสชาติผิดไปจากเดิม มะพร้าวต้มขนานแท้รสชาติจะหอมและเนื้อหนุ่มกว่า เวลาต่อมา การซื้อกินมะพร้าวเผาลดความนิยมและหายไป คงเป็นเช่นเดียวกับข้าวหลามเผาแล้วบอกเป็นข้าวหลามต้มอย่างนั้น

 

 

โรงเรียนปิดเทอมใหญ่มาถึง
เป็นปลายเดือนมีนาคม กลุ่มพวกเรานัดกันไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนรุกขชาติ สวนสัตว์เชียงใหม่อยู่ตีนดอยสุเทพ บริเวณสวนสัตว์จึงมีต้นไม้ร่มรื่น กรงสัตว์แทรกตัวตามร่มไม้ กระจายเป็นรูปวงกลม มีถนนทอดตัววนเวียนไปหากรงสัตว์ทุกชนิด บางตอนมีทางลัดข้างทาง พวกเราต่างเคยมาเที่ยวกันคนละหลายครั้ง มากับผู้ปกครองบ้าง ในวาระต่างๆกัน วันนี้เราพากันมาเที่ยวตามประสาเด็กวันรุ่น พอเดินเข้าประตูสวนสัตว์ ย่างเท้าเข้าเขตกรงสัตว์ เสียงชะนีร้องระงมต้อนรับเรา สอดสลับเสียงนกมากมายหลายชนิด ผมไม่เคยได้ยินเสียงสิงโตร้อง มีครั้งหนึ่งได้ยินมันร้อง เสียงมันดังมากและมีอำนาจ ถ้าได้ยินในป่าจริงๆ ขนเราคงลุกเกลียวด้วยความกลัวสุดขีด ยุคนั้นสัตว์ที่เป็นดาราไม่พ้น สิงโต เสือ งู จระเข้ ลิง ช้าง นกนานาชนิด ยังไม่มียีราฟ ฮิปโปโปเตมัส ไม่มีหมีแพนด้า
(พ่อช่วงช่วง แม่หลินฮุย ลูกหลินปิง)จากเมืองจีน ไม่มีอควาเลี่ยม เดินมาถึงกรงงู มันดูน่ากลัวขยะแขยง ใจผมนั้นกลัวงูที่สุด เห็นในหนังเรื่อง “ทาร์ซาร์”(Tarzan) ที่แสดงนำโดย จอนนี่ ไวสมูลเลอร์ อดีตแชมป์ว่ายน้ำฟรีไสต์ 100 เมตรของโอลิมปิกถึง 2 สมัยซ้อน ( เป็นหนังที่สร้างจากเรื่องที่เขียนขึ้นโดย Edgar Burroughs พิมพ์ครั้งแรก ค..1914) ถูกงูเหลือมทิ้งตัวจากกิ่งไม้ ลงมาทับตัวแล้วรัดคอกับลำตัว กว่าพระเอกจะฆ่ามันได้ ทำเอาผู้ชมหายใจอึดอัดทั้งโรงหนัง ส่วนฮิบโปโปเตมัส ช้าง เพิ่งนำเข้าภายหลัง พวกเราเที่ยวกันทั่วแล้วพากันมาเดินชมสวนรุกขชาติ มันร่มรื่นด้วยต้นไม้ หญ้าถูกตัดเตียนเรียบเขียวชวนนั่ง เห็นหนุ่มสาวนั่งคุยกันตามม้าหินอ่อน ตามโคนต้นไม้ พวกเรานอนเล่นตามสนามหญ้าเขียวใต้ต้นไม้ เพื่อนบางคนแกล้งหลับ สวนนี้เคยมีวงดนตรี เดอะ อิมโพสซิเบิ้ล(Tmpossible) แชมป์วงสตริง 3 ปีซ้อนมาแสดง ยังจำท่าทางเป่าทรัมเป็ตของคุณเต๋อ(เรวัติ พุทธินันท์)ได้ เป็นนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด...จนเย็นเราจึงพากันกลับ โดยรถเมล์สีเหลืองสาย 3 พาหนะประจำของพวกเรา

 

ที่ดอยสะเก็ด
มีที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่ง เรียกว่าหนองบัว มีนกกินปลาเดินไปมา น้ำแห้งลงทุกปี สถานที่ทรุดโทรมขาดการดูแล ไม่ค่อยมีคนไปเที่ยว ดูบรรยากาศเงียบเหงา นานวันไปจึงหายไปจากการกล่าวถึง ปัจจุบันไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน ที่เที่ยวของพวกเราก็มีงานวัด งานปอยหลวง ต้องเป็นวัดใกล้บ้าน และเป็นช่วงปิดเทอม พวกเราจึงไปเที่ยวกันได้ บางงานเราไปเที่ยวกันครบทีม บางงานไปเพียง
2 คน ที่เที่ยวอีกแห่งเป็นจุดที่รถขายยาฉายหนัง โดยตอนเย็นรถขายยา จะตระเวนเชิญชวนคนไปหนัง รถจะวิ่งช้าๆไปตามถนนสายต่างๆในตัวเมือง เด็กๆวิ่งตามรถ ส่งเสียงยินดีปรีดา รถขายยาจะไปกางจอหนังตามจุดที่มีผู้คนอยู่กันหนาแน่น เช่นที่ว่างๆแถวประตูช้างเผือก โรงเรียนวัดเชียงยืน วัดต่างๆ เวลาหนึ่งทุ่มเศษฉายหนังทันที สลับการขายยาดมยาหม่อง ยาแก้ปวด ยาเสริมพลังเพศชาย ฯลฯ จำได้ว่า ผมเดินจากบ้านซอย 3 ถนนราชวงค์ ไปกับเพื่อนสองคน เดินเลียบคูเมืองไปเรื่อยแบบสบายอารมณ์ หนังฉายเรื่อง “ไอ้แก่น” นำแสดงโดยพระเอกลักยิ้ม คุณลือชัย นฤนาท (ได้ตุ๊กตาทองแสดงนำชายจากเรื่อง ‘เล็บครุฑ’) คุณรัตนาภรณ์ อินทรกำแหง เป็นนางเอก

 

ผมไปเที่ยวน้ำตกห้วยแก้ว
ครั้งสุดท้าย พ
.. 2511 และว่างเว้นไม่ได้กลับไปเที่ยวอีกเลย นับเวลาได้ 41 ปี จนกระทั่งเมื่อวันพุธที่ 11 .. 2552 ผมชวนลูกชายคนเล็ก พาพ่อปีนป่ายไปดูน้ำตกห้วยแก้วอีกสักครา ให้ลูกเดินเคียงอยู่ใกล้ หากเราลื่นหกล้มจะได้ช่วยเหลือทัน ที่กลับไปดูน้ำตกห้วยแก้วเพราะ ช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวน่าตกใจว่า น้ำตกห้วยแก้วเริ่มแห้ง ไม่มีน้ำไหลใสเย็น น้ำแห้งแล้งนั้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ น้ำในห้วยแก้วถูกดูดไปใช้ในสวนสัตว์ และสถานที่สำคัญๆรอบห้วยแก้ว ผมจึงเดินทางไปพิสูจน์ดูกับลูกชาย ขับรถยนต์ไปจอดลานใกล้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เดินไปตามถนนที่ชันเล็กน้อย ไปทางทิศตะวันตก ผ่านร้านอาหารนานาชนิดทางซ้ายมือ ร้านเหล่านี้ปลูกริมขอบของสายน้ำที่ไหลมาจากน้ำตกห้วยแก้ว ทางเดินเป็นถนนคอนกรีต เดินมาจนถึงตู้ยาม ยิ้มให้ยามชายหญิงคู่หนึ่ง ทางเดินราบเรียบไปตามขอบสายน้ำคดเคี้ยว ถนนปูด้วยหินผาที่เชื่อมกันด้วยซีเมนต์ ถนนทอดตัวเข้าไปหาแอ่งน้ำ โดยไม่ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติ แต่เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติกับฝีมือเสริมสร้างของมนุษย์ มีป้ายบอกทางไปผาเงิบ ผมกับลูกเดินข้ามสะพานไป มีป้ายชี้ไปยังตำแหน่งน้ำตกห้วยแก้ว สังเกตดูน้ำยังไหลเล็กน้อยตามปรกติ แหงนมองสูงไปตามหน้าผาและแมกไม้ น้ำตกห้วยแก้วที่เห็นอยู่เบื้องหน้า ไหลลงสู่หินผาข้างล่าง มี 3 ชั้น มองดูเหมือนผ้าบางสีขาวสะอาดตา หูได้ยินน้ำตกไหลดังซู่ซ่า อดไม่ได้ให้ลูกชายไต่ขึ้นไปดู พยายามให้อยู่ใกล้น้ำตกมากที่สุด แต่ไม่วายห่วงลูกชายกลัวลื่นหกล้ม ลูกได้ถ่ายไว้หลายภาพ พอลงมาผมก็ถ่ายสายน้ำโขดหินอีกหลายภาพ กลับลงมา ถามยามที่นั่งในตู้ยาม เขาบอกว่า ฤดูแล้งยังมีน้ำไหล แต่อาจน้อยกว่าฤดูฝน ขณะนี้กำลังปรับปรุงน้ำตกห้วยแก้วให้สมบูรณ์ดังเดิม

 

นอกจากนั้นเป็นงานใหญ่ประจำปี
เช่น งานสงกรานต์ในเดือนเมษายน มีผู้คนมาเล่นน้ำที่ “สะพานนวรัฐ” กันมากมาย และยาวตลอดถนนท่าแพ ไม่มีเล่นน้ำรอบคูเมืองที่หนาแน่นดังปัจจุบัน วนมาอีกรอบ เป็นงานเดินขึ้นดอยสุเทพในวันวิสาขบูชา งานลอยกระทงในแม่น้ำปิง งานฤดูหนาวเชียงใหม่ งานวันเด็ก งานเหล่านี้เป็นงานที่ผมได้เที่ยวในวัยเด็ก ไม่มีห้างสรรพสินค้า
(แมคโคร โลตัส คาร์ฟูร์ เทสโก้ กาดสวนแก้ว) ไม่มีร้านเกม ไม่มีร้านอินเตอร์เน็ต ดังปัจจุบัน.

 


 

 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วันนี้ เป็นวันแรกของการเป็นครู ผมเตรียมตัวสอนมาเต็มที่ สอนหลายวิชา บอกก่อนว่าเป็นโรงเรียนเอกชนอยู่ใกล้สถานีรถไฟเชียงใหม่ เปิดสอนเด็กเล็กจนถึงมัธยมปีที่สาม ครูที่สอนส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว มีคนแก่คนหนึ่งเป็นฝ่ายการเงิน ครูใหญ่เป็นผู้หญิง เป็นเจ้าของโรงเรียน ไม่สอนแต่อยู่ฝ่ายขายอาหารของโรงเรียน ผมสอน 29 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ว่างเพียง 1 ชั่วโมง ปรกติครูท่านอื่นสอน 24-25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นั่นคือผมสอนมากกว่าท่านอื่น 5 ชั่วโมง ก็ช่วยสอนวิชาเบาๆ ให้พี่ๆ ที่สอนประจำชั้น เช่น พลศึกษาวาดเขียน ร้องเพลง...เป็นมุมหนึ่งในหลายมุมของชีวิตครูเอกชน วันแรก ผมสอน 6 ชั่วโมงเต็ม เป็นหนุ่มร่างกายแข็งแรง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
คืนนี้ ขึ้น 15 ค่ำ ยังหัวค่ำ พระจันทร์เต็มดวงสาดแสงนวลอ่อนโยนกระจ่างทั่วทุ่ง แสงเย็นตายังครอบคลุมวิหารวัดทุ่งลมเย็นบรรยากาศในวัดช่างสงบ สงัด ลมทุ่งพัดกระทบต้นไม้ในวัด ใบของมันสะบัดตัวรับดังซู่ซ่าเป็นพักๆ  ความวุ่นวายสับสนเร่าร้อนทั้งมวลของคนเหมือนหมดสิ้นยามย่างเท้าเข้าวัดสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์  พระสงฆ์องค์เจ้าคงจำวัดกันหมดทั้งสามรูป แต่ยังมีอีกคนหนึ่ง จิตใจยังเร่าร้อนเคร่งเครียดแม้จะเหนื่อยจากงานสลากภัตของวัด ก็ไม่อาจข่มตาให้หลับได้  ใครๆเรียกเขาว่า "ลุงคำ" แกเฝ้านึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้านี้วัดทุ่งลมเย็นมีพระ 2 รูป เณร 1 รูปเวลาพระรับนิมนต์ไม่มีใครดูแลวัดเกรงขโมยจะมาลักทรัพย์สิน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
คนเหนือ หรือชาวเหนือเรียกตนเองว่า “คนเมือง” เรียกคนกรุงเทพฯซึ่งพูดภาษากลางว่า “คนไทย” ในกลุ่ม “คนเมือง” มักมีวจีที่เกี่ยวโยงการเป็นคนท้องถิ่นเดียวกันว่า “หมู่เฮาคนเมือง” ย้อนหลังไปราว50ปี แม้หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งยังแสดงความเป็นตัวตนโดยใช้ชื่อว่าหนังสือพิมพ์ “คนเมือง” สอดคล้องกับข้อความในหนังสือ “ฅนเมืองอู้คำเมือง” ในหน้าที่ 1โดยคุณบุญคิดวัชรศาสตร์ได้เขียนเอาไว้ว่า ...ในอดีตอาณาจักรล้านนามีการปกครองตนเองมีภาษาพูด และภาษาหนังสือใช้เป็นของตนเองมาก่อนและนิยมชมชอบเรียกตนเองว่า “คนเมือง” เรียกภาษาพูดว่า “คำเมือง” และเรียกภาษาหนังสือว่า “ตัวหนังสือเมือง” และล้านนาประกอบด้วย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
แม่เกิดลูก ออกมาหลายตัว ขนสีต่างๆ กัน ส่วนใหญ่ตัวอ้วนขนฟู แม่นอนตะแคงในกรง ลูกตัวอื่นคลานต้วมเตี้ยมเข้าไปกินนมแม่เร็วกว่า เจ้าตัวผอมเล็ก ลำตัวมันยังไม่นิ่งนัก เพราะขายังไหวขณะเดิน ด้วยยังไม่แข็งแรงพอ เจ้าตัวผอมเล็กต้องรอให้บางตัวอิ่ม แล้วคลานออกมา มันจึงคลานเข้าไปกินได้ นมแม่อุ่นหวาน เต้านมนุ่มตึงเต็มปากของมัน มันถูกแม่อุ้มด้วยปากมากินนมบ่อยๆ ลูกตัวใดคลานไปไกล แม่หมาจะใช้ปากคาบเบาๆ ตรงหนังบริเวณคอ นำมาไว้ในกรงเสมอ ทุกวันเมื่อบรรดาลูกๆกินนมอิ่ม มันก็นอนกอดก่ายกันหลับไปมองดูเหมือนเด็กเล็กๆ น่าเอ็นดู เจ้าของกรง และบ้านเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่ง ตอนเช้า เวลานายผู้ชายเดินลงบันได…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เด็กชายสันทัด นั่งยองๆ บนกำแพงวัด ตาจ้องเขม็งที่ร่างชายคนหนึ่ง ซึ่งนอนคว่ำ ไม่สวมเสื้อบนพื้นศาลาวัด บนเสื่อผืนหนึ่ง คางวางบนหมอนเก่าคร่ำมือประสานรองรับคาง วันนี้เป็นวันที่ 15 เมษายน เป็นวันพญาวันคนทางเหนือนิยมสักยันต์กันในวันนี้ เพราะเชื่อกันว่า ทำพิธีทางไสยศาสตร์ในวันนี้จะเข้มขลังนัก ภิกษุรูปหนึ่ง นั่งคุกเข่าข้างชายผู้นั้น ยกเหล็กแหลมเล็งไปยังกลางหลัง แล้วก็แทงจึกลงไป เหล็กกระทบเนื้อไปเรื่อยๆ ปากท่านก็ขมุบขมิบว่าคาถาประกอบ ชายที่นอนคว่ำ หน้าตาปรกติ ไม่แสดงอาการเจ็บปวด ชายฉกรรจ์อีก 4-5 คน ถอดเสื้อรอคิวสัก เขาจ้องดูชายคนแรกอย่างสนใจ ทุกคนกระตือรือร้นอยากสัก ไม่มีใครแสดงอาการหวาดหวั่น…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรมศิลปากรประกาศผลศิลปิน ผู้ได้รับรางวัล “เพชรในเพลง” ประจำปี 2551 เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2551 (29 ก.ค.) รางวัลเชิดชูเกียรติ ผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีต ประเภทเพลงไทยสากล ได้แก่ “เพลงเรือนแพ” ผู้ประพันธ์นายชาลี อินทรวิจิตร เพลง “เรือนแพ” เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “เรือนแพ” สร้างเมื่อ พ.ศ.2504 เข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ สุริวงศ์ เชียงใหม่ โรงภาพยนตร์นี้ เดิมอยู่ตรงข้ามกับประตูท่าแพ ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว ผมได้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ขณะเรียนชั้นมัธยมต้น เป็นภาพยนตร์ที่แสดงถึง ความรักของเพื่อนสามคน ประกอบด้วย ไชยา สุริยัน แสดงเป็น นักมวย ส.อาสนะจินดา แสดงเป็น ตำรวจ จินฟง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ดวงอาทิตย์ ค่อยโผล่พ้นขอบดอยที่อยู่ไกลลิบช้าๆ หมอกเมฆปรากฏจางๆ ช่วยกรองแสง ทำให้มองเห็นดวงอาทิตย์ เป็นทรงกลมสีแดงอ่อน เป็นเช้าที่สวยงาม บ้านไม้หลังเก่าสีโอ๊ก ปลูกบนเนินดิน ที่สูงกว่าถนนหน้าบ้าน และสูงกว่าทุ่งกว้างที่ด้านหน้าบ้านเล็กน้อย มีเก้าอี้โยกเป็นหวาย ที่ระเบียงด้านข้างบ้าน ซึ่งมีบันไดทอดสู่พื้นด้านหน้า มองเห็นทุ่งกว้าง ปรากฏตอข้าวสีเหลืองกระจายทั่วผืนนา ทุ่งกว้างนี้ ปูลาดไปจนถึงถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ข้ามถนนเป็นทุ่งนาอีกเช่นกัน มองไกลออกไปอีกนิด เป็นหย่อมต้นไม้สีน้ำเงินปนดำ สูงขึ้นไปอีก จะเห็นแนวดอยสลับซับซ้อน ลมเย็นจากทุ่งโล่ง ทะยอยพัดมาระเรื่อย สู่บ้านของผม บ้านคนเมือง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
พ่อคงไม่รักผมเพราะพ่อตีผมบ่อยๆ บางครั้งหนักๆ ไม่เคยกอด ไม่เคยเล่นกับผม แวบหนึ่ง...ผมอยากออกบ้านไปให้พ้น...แกเพียงพูดว่า“เมื่อแกมีลูก แกจะรู้เอง” วันนี้ผมมีลูกชายวัย 3 ขวบ 1 คน กำลังซนตอนเย็นวันหนึ่ง แกกินยาป้องกันหนูและแมลง ที่มีรูปแบนเป็นวงกลม แหว่งไปนิดหนึ่ง ผมบอกแกให้อ้าปาก คายออกมาให้หมด แกอ้าปาก ถ่มน้ำลาย ผมยังไม่หมดกังวล บอกให้แม่บ้านเอาเงินมาให้ผมเร็ว จะพาลูกไปโรงพยาบาล ผมคว้าเสื้อมาสวม กลัดกระดุม 2 เม็ด ไม่ตรงรูของมัน ชายเสื้อข้างหนึ่งสั้น ข้างหนึ่งยาว อุ้มลูกวิ่งลงบันได เกือบลื่นล้ม วิ่งออกประตูบ้าน สู่ถนนใหญ่โรงพยาบาลใหญ่ที่สุด เป็นโรงพยาบาลที่ผมมุ่งไปหา โบกรถสี่ล้อรับจ้าง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ระยะนี้ กลางคืนนอนกรนตื่นง่ายตื่นนอนตอนเช้า มีอาการไม่ดี คล้ายหลับไม่อิ่ม เหมือนจะเป็นไข้เล็กน้อย ผมอยากนอนต่ออีกสักงีบ ขอสัก 20-30 นาทีน่าจะดีคิดถึงระยะทางจากบ้านถึงที่ทำงานแล้วท้อใจ จากบ้านอำเภอแม่แตงถึงอำเภอฝาง ที่ทำงานราว 111 กิโลเมตร พาหนะเป็นรถกระบะ พวงมาลัยธรรมดาปวดบ่าเอวไม่น้อยเลย สังขารผ่านวัยหนุ่มมาแล้ว อาการดังกล่าวเป็นบ่อยๆบางครั้งต้องโทรลาปรึกษาภรรยาแล้วไปหาหมอตรวจรักษาดีกว่า ไปคลินิกที่โรงพยาบาลมหาราชเร็วดี ยาดี แม้จะแพงก็ยอมเล่าอาการให้หมอฟังหมอให้ยามากินและนัดดูอาการราวเดือนครึ่ง ได้ไปหาหมอ หมอสอบถามผลการรักษา แล้วให้ยามารับกิน ทำอย่างนี้หลายครั้งแต่ละครั้งให้ไปเจาะเลือด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ในวัยเด็ก ราวชั้นประถมศึกษา ผมยังจำได้ เมื่อมืดค่ำ ที่บ้านจะจุดตะเกียงน้ำมันก๊าดทุกหลังคาเรือนก็เช่นกัน แม่บอกให้เอาการบ้านมาทำ ถ้าวิชาเดียวก็เสร็จเร็วหน่อย ถ้าสองวิชาก็ดึกหน่อย ดึกนั้นคงราวสองทุ่มเศษ ผมวางสมุดลงบนโต๊ะเล็กๆ นั่งขัดสมาธิบนเสื่อ แม่นั่งข้างหน้า แม่สอนจริงจัง มีตึงมีผ่อน มีเทคนิคในการสอน ขู่บ้างปลอบบ้าง คำพูดที่พูดประจำก็คือ “คัดไทย ช่องไฟต้องพอดี หัวทอทหารต้องกลมอย่าให้บอด” “ห้าคูณเจ็ดเป็นเท่าไร สามสิบห้าหรือสามสิบหก” ตอนจบแม่ให้ท่องสูตรคูณ ถ้าท่องได้ให้ไปนอน ท่องไม่ได้เอาให้ได้ ตาผมชักลืมไม่ขึ้น แม่ใช้ไม้ตีปับตรงแขน “ท่องไม่ได้ไม่ต้องนอน” แม่สำทับเสียงเข้ม
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
โลกหมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วเท่าเดิม เข็มนาฬิกากระดิกตัวด้วยความเร็วปกติ ผู้มีความทุกข์ ความผิดหวัง พิเคราะห์เวลาเหมือนเชื่องช้า เนิ่นนาน ผู้มีสุขสมหวัง มีเสียงหัวเราะกลับพูดว่า เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน เวลาเป็นของมีค่า ในเวลาเพียง 1 นาที มีคนเกิดคนตายเท่าไร มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดทุกมุมโลกมากมาย เมื่อเวลามีค่า เราก็สมควรทำอะไร ให้ตัวเอง ให้สังคม ให้ผู้คนรอบข้าง และควรดำเนินชีวิตอย่างไร ให้ชีวิตมีค่าเหมือนเวลา น่าจะเป็นเช่นนั้น ผมอ่านหนังสือหลายเล่ม ฟังผู้รู้หลายท่าน ใช้เวลาใคร่ครวญ เพื่อให้ความคิดตกผลึกว่า คนดีคือคนอย่างไร คนดีที่สุดต้องทำอะไร ได้ข้อสรุปว่า คนดีที่สุด คือคนที่คิด…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ทุกคนคงเคยไปหาหมอ อาจเป็นหมอคลินิกหรือหมอโรงพยาบาล เมื่อยื่นบัตรคนไข้ผ่านฝ่ายคัดกรองแล้ว ท่านก็ต้องไปยังห้องที่รักษาพยาบาลเฉพาะโรค นั่งรอคิวพยาบาลเรียก ถ้าเป็นคลินิกหรือโรงพยาบาลเอกชนจะเร็วมาก แต่ก็ต้องจ่ายเงินมากเช่นกัน ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐต้องทำใจ จ่ายเงินน้อยแต่คนมาก คงต้องเสียสละเวลาให้ 1 วัน บางทีอาจครึ่งวัน คนไข้มากมาย ห้องตรวจทุกห้องคนไข้เต็มหมด คนไข้มากมายกว่าห้างสรรพสินค้า