วัดประทานพรนั้น
จะอยู่แถวย่านโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ซู่จิ้งบอกตำแหน่งวัดที่คาดว่าผมจะตามไปหาของสำคัญมักติดตามกันยากจริงๆ เหมือนตามหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในภาพยนตร์ฝรั่ง ผมเดินหน้าเยิ้มเหงื่อ หลังชุ่มเปียกกลับมาหาภรรยา ที่กำลังคีบก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยใหญ่เข้าปากสบายอารมณ์ ดูเธอไม่สนใจคำตอบผมเท่าไร ผมชักไม่มั่นใจการตามหาอิฐสำคัญจะสมหวัง...ใครก็ได้ช่วยตามหาให้หน่อยเถอะ อยากเห็นนักรูปร่างลักษณะจะเป็นอย่างไร
มีข้อความบันทึก
ด้านล่างซ้ายของเอกสารสำคัญ 2 แผ่นอีกดังนี้
-เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2524 เวลา 16.40 น. ได้ใช้เลื่อยตัดครึ่งแบ่งปันให้แก่ครอบครัวคุณอัศว์ พรหมศรีมาศ
เพื่อเป็นที่ระลึก 9/62 สังสิทธิ์นิเวศน์ ซอย 1 โชคชัย 4 โทร. 5140150
-สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้มีชัยชนะในการชนช้างยุทธหัตถีกับพระเจ้าแผ่นดินพะม่าที่ดอนเจดีย์ กาญจนบุรี เมื่อ 25 มกราคม 2135 เวลา 12.00 น. เศษ
-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิมแผ่นอิฐที่นำมาจากพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พระราชวังไกลกังวล หัวหิน เมื่อ 24 พฤษภาคม 2511 แล้วพระราชทานมอบให้ พ.ต.อ.นิรันดร ชัยนาม ผวก.ชม. นำไปบันจุไว้ในพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชมหาราชานุสรณ์ ที่ตำบลเมืองงาย อ.เชียงดาว . เมื่อ 19 พฤศจิกายน 2513 เวล.. 10:45 น. ขณะใช้เลื่อยตัดนั้น คุณอัศว์บอกว่าได้ยินเสียงบอกหมายเลข 225
ผมได้พิมพ์คัดลอก
ตามต้นฉบับทุกประการ แม้คำว่า “บันจุ” ที่ถูกต้องตามพจนานุกรมต้องเขียนว่า “บรรจุ” ตอนท้ายเขียน “เวล” ตกหล่นสระอาก็ตาม
เรื่องราวประวัติศาสตร์นั้น
ยังหาข้อยุติ สรุปเด็ดขาดไม่ได้ มีการถกเถียงถึงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ต่างๆ ประเด็นที่กังขา ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งบอกว่า เรื่องราวถิ่นฐานดั้งเดิมของไทยอยู่แถวภูเขาอันไตในจีน พอเวลาผ่านไปได้ค้นพบหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ผู้รู้ที่นับว่าเป็นกูรูทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีและอื่นๆ บอกว่าถิ่นเดิมของไทยอยู่ที่สุวรรณภูมินี้เอง ประวัติศาสตร์บันทึกโดยใคร ? ได้บันทึกตามข้อเท็จจริงไหมหนอ ? จะมีการบิดเบือนไหม ? เราก็เกิดไม่ทันยุคนั้นเสียด้วย...ขอยกตัวอย่างประเด็นถกเถียงหรือกังขา..ประเด็นที่ 1....สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสวรรคตที่ “เมืองหาง”ในพม่า หรือที่ “เมืองแหง”(อำเภอเวียงแหง)...ประเด็นที่ 2...วันที่พระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีตรงกับวันที่ 25 มกราคม หรือ 18 มกราคม...ประเด็นที่ 3 ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ใด มีผู้เสนอหลักฐานอ้างอิงถึง 3 จังหวัดคือ อยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี.
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขออภัย ผมปัสสาวะบ่อย
หลายครั้งต่อวัน บางครั้งกลั้นไม่อยู่ อยากฉี่เต็มที ต้องรีบปลดปล่อยอย่างเร่งด่วน บางครั้งอยากฉี่โดยไม่เลือกที่เลือกเวลา ร่างกายเราควบคุมมันไม่ได้เสียแล้ว กำลังคุยกันหลายคนเสียด้วย ต้องรีบขอตัวเข้าห้องน้ำ บางทีก่อนออกบ้านได้ไปทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยแล้ว ขับรถยนต์เข้าเชียงใหม่ เวลาผ่านไปไม่เท่าไร อยากไปห้องน้ำอีกแล้ว โธ่ๆ...เป็นไปได้ เป็นบ่อยเข้า ผิดปรกติแน่นอน จึงเดินทางไปพบหมอที่โรงพยาบาลสวนดอก(โรงพยาบาลมหาราช)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมวิ่งขึ้นบันไดบ้าน
มือขวาถือรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล ถึงบนบ้านวางกระเป๋าหนังสือเรียนชั้น ป.3 ข้างเสา วางรองเท้าที่ว่างข้างบันได นั่งถอดถุงเท้าที่ชุ่มเหงื่อวางผึ่งบนรองเท้า กวาดตามองหาย่า ได้ยินเสียงในห้องครัว ส่งเสียงเรียกย่า ย่าเดินถือถ้วยใส่ขนมมาให้เหมือนทุกวัน ผมเดินสูดขี้มูกไปหา ยกชายเสื้อกล้ามเช็ดเหงื่อแถวหน้าผากและหัว แมวสีดำขาขาวเหมือนสวมถุงเท้าวิ่งมาพันแข้งขา ผมหยุดก้มดูส่งเสียงไล่ตะเพิด 1 ครั้งมันยังคลอเคลีย 2 ครั้ง มันยังคงร้องเหมียวๆ ระหว่างขา ผมรับถ้วยขนมเดินกลับมาหามุมเหมาะๆ จะกินขนมให้อร่อยลิ้น …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
วัดประทานพรนั้น
จะอยู่แถวย่านโรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ซู่จิ้งบอกตำแหน่งวัดที่คาดว่าผมจะตามไปหาของสำคัญมักติดตามกันยากจริงๆ เหมือนตามหาขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าในภาพยนตร์ฝรั่ง ผมเดินหน้าเยิ้มเหงื่อ หลังชุ่มเปียกกลับมาหาภรรยา ที่กำลังคีบก๋วยเตี๋ยวสูตรไทยใหญ่เข้าปากสบายอารมณ์ ดูเธอไม่สนใจคำตอบผมเท่าไร ผมชักไม่มั่นใจการตามหาอิฐสำคัญจะสมหวัง...ใครก็ได้ช่วยตามหาให้หน่อยเถอะ อยากเห็นนักรูปร่างลักษณะจะเป็นอย่างไร
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
26 สิงหาคม 2553
ได้ไปหาคุณวิจิตร ไชยวัณณ์ อดีตนักหนังสือพิมพ์คนเมือง โดยผมขับรถไปหาคุณลุงวิจิตรที่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านนี้อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวร์ไปอีกราว 5 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสนามกีฬาพอดี คุณลุงอายุ 86 ปีแล้ว ท่านบอกผมด้วยสีหน้าปรกติว่า ลุงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อีก 3 ปีจะตาย พอจบคำพู ผมค่อยผ่อนลมหายใจยาว ไม่น่าเชื่อคนที่รู้ว่าตนเองกำลังใกล้ตายจะมีทีท่าปรกติ บอกเรื่องร้ายแรงเหมือนเรื่องปรกติธรรมดา…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ร้านหนังสือที่แปลกตา
ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน เป็นห้องสี่เหลี่ยม บนโต๊ะกลางห้องมีหนังสือวางเรียงราย ด้านข้างที่ติดหน้าร้านนั้น มีหนังสือวางบ้างตั้งบ้าง ด้านนี้เห็นมีหนังสือของคุณ รงค์ วงษ์สวรรค์ วางทักทายแฟนหนังสือหลายเล่ม หนังสืออื่นๆเช่น ราหูอมจันทร์ สวนนักเขียน รวมทั้งกลุ่มหนังสือใต้ดิน ในตู้หลายใบ ที่วางห่างเป็นระยะ เป็นหนังสือชั้นดีทั้งระดับต่างประเทศ ที่แปลแล้ว และหนังสือในประเทศ เขียนโดยนักเขียนมีชื่อเสียง…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
เดินทางจากบ้าน
อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ขับรถกระบะสีเขียวเข้าเมืองเชียงใหม่ อายุใช้งานย่างเข้าปีที่ 16 แล้ว ถ้าเป็นคนก็เริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว อยากเปลี่ยนใหม่เหมือนกัน แต่ไม่มีเงินพอซื้อ ภรรยานั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ บอกก่อนว่า เธอไม่ได้มาคุมประพฤติอะไรทั้งสิ้น ผมขับรถมักง่วงเป็นประจำ ต้องมีคนคอยกระตุ้น ให้ประสาทต่างๆตื่นตัวเสมอ กินกาแฟพอช่วยได้บ้าง ถ้ากินประเภทเครื่องดื่มชูกำลัง กลับทำให้ใจเต้นแรง กระสับกระส่าย…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผู้ซื้อขายลำไยบางราย
มีทีมงานเก็บลำไย เป็นต้นว่า ครูกำพลนำชาวเขาเผ่ามูเซอร์จากอำเภอไชยปราการมาเก็บลำไย โดยเช่าบ้านที่หัวบ้านทุ่งแป้งให้พักอาศัย มูเซอร์มาด้วยกัน 5 ครอบครัว สองคู่มีลูกเล็กตามมาด้วย ยังไม่พอลูกในท้องอีกคน อีกสามคู่อยู่ในวัยหนุ่มสาว ยังไม่มีลูก การแต่งตัว ทรงผม เหมือนวัยรุ่นเชียงใหม่ ขับขี่จักรยานยนต์โฉบไปมารวดเร็ว ถ้าครูกำพลเหมาซื้อลำไยแห่งใด กลุ่มนี้จะไปรับจ้างเก็บลำไย หากครูกำพลยังไม่มีงาน อนุญาตให้ไปรับจ้างเก็บลำไยรายอื่นได้ ผู้ซื้อเหมาสวนลำไย จะจ่ายค่าขึ้นเก็บลำไย …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กาแฟห้องเช่า
ร้านประจำของผมปิดร้านได้ 4 วันแล้ว ไม่เคยปิดนานเท่านี้ หรือจะพาไปภรรยาไปเกิดลูก เพราะเห็นเธอท้องใหญ่เบ้อเริ่ม สวมชุดคลุมท้องด้วย ผัดหน้าตาผุดผ่อง หรือปิดร้านไปงานศพในหมู่บ้าน หรือจะมาเปิดร้านสายเป็นบางวัน เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ผมคาดคะเนไปหลายทิศทาง เหมือนตำรวจตั้งประเด็นกรณีเกิดอาชญากรรม ผมขับรถยนต์เก่าอายุใช้งาน 16 ปีช้าๆ แล่นมาตามถนนข้างตลาดต้นแหน ตลาดนี้จะขายของตอนเย็น ลูกค้าอยู่ในหมู่บ้านใกล้เคียง เช่น บ้านต้นแหนน้อย บ้านต้นแหนหลวง บ้านสันป่าสัก บ้านทุ่งแป้ง ตาผมมองเฉียงไปยังห้องแถวเช่าชั้นเดียวขวามือ…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ข้อความที่ได้รับ
คล้ายที่ลงในหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ ฉบับวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2553 ดังนี้
ข้าวไม่ต้องหุงพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวพัฒนา โดยศูนย์วิจัยข้าวเชียงใหม่ จากข้าว 4 พันธุ์คือ ข้าวดอกมะลิ 105 กข 39 ข้าวหลวงสันป่าตอง และขาหนี่ เพื่อความสะดวกในการเตรียม ให้เป็นอาหารพร้อมสำหรับบริโภค โดยใช้อุปกรณ์การหุงน้อยชิ้นและประหยัดพลังงานในการทำให้สุก ภายใต้กระบวนการแปรรูป ให้เป็นข้าวที่นึ่งที่ทำให้สุกด้วยไอน้ำ ลดความชื้น และนำไปสีเป็นข้าวสาร …