เสียงปี่ผสมเสียงซึงดังขึ้น
รับกับเสียงผู้ขับซอ เสียงปีและซึงผสมกลมกลืนมีทั้งหวานแหลมและนุ่มนวล ก่อเกิดบรรยากาศความเป็นชาวเหนือขึ้นมาทันที ผู้ขับซอชายนั่งขัดสมาธิ มือถือไมโครโฟนไร้สาย ผู้หญิงนั่งพับเพียบเคียงกัน หันหน้าอวดผู้ชม ยามผู้ชายขับซอ ผู้หญิงเอียงตัวไปมา มือไม้ขยับรับเสียงดนตรี ทำนองดนตรีนั้นเนาวรัตน์ฟังไม่ออก เป็นเพลงอะไร สมัยเด็กๆเขาเข้าใจว่า คนเป่าปี่และคนดีดซึง คงเล่นเพลงเดียวตลอดงาน เพราะฟังทีไรก็เหมือนเดิมทุกที วันนี้เนาวรัตน์ได้ชมการขับซอเป็นครั้งแรกด้วยวัยที่สูงขึ้น เนื้อหาการขับซอ คล้ายเป็นคำพูดภาษาเหนือที่ใส่ทำนองเข้าไป มีคำคล้องจองสัมผัสกัน กล่าวถึงความดีของการบวช พูดถึงวัฒนธรรม ประเพณี เรื่องเพศ ที่น่าสังเกตผู้ขับซอหญิง เสียงจะแหลมสูงมาก คำร้องชัดเจน เสียงไม่มีตก
เอ่ยถึงเรื่องนี้ ทำให้เนาวรัตน์อดนึกถึงการเดินทาง ไปพูดคุยกับผู้ขับซออาวุโส ผู้เป็นต้นแบบการขับซอพื้นเมือง ชื่อคุณแม่จันทร์สม สายธารา เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2553 ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การพูดคุยเริ่มขึ้นหลังจากเนาวรัตน์ยกมือไหว้และแนะนำตัว ตอนแรกเขาจะนั่งที่เสื่อ
เอ่ยถึงเรื่องนี้ ทำให้เนาวรัตน์อดนึกถึงการเดินทาง ไปพูดคุยกับผู้ขับซออาวุโส ผู้เป็นต้นแบบการขับซอพื้นเมือง ชื่อคุณแม่จันทร์สม สายธารา เมื่อวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2553 ที่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ การพูดคุยเริ่มขึ้นหลังจากเนาวรัตน์ยกมือไหว้และแนะนำตัว ตอนแรกเขาจะนั่งที่เสื่อ
ส่วนแม่จันทร์สมนั่งบนเก้าอี้นวม มีพัดลมชนิดตั้งวางพื้นเป่าระบายความร้อน ท่านไม่ยอมบอกให้ขึ้นมานั่งด้วยกัน ทั้งสองพูดคุยกันที่หน้าบ้านนั่นเอง ส่วนภรรยาเนาวรัตน์นั่งพับเพียบที่เสื่อตรงพื้นหน้าบ้าน หน้าแม่จันทร์สม ก็เหมาะสมดีสำหรับผู้หญิง
“ แม่ครับ ผมสนใจเรื่องซอพื้นเมือง อยากมาหาความรู้กับแม่ แม่เป็นศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2539 ใช่ไหมครับ ?”
“ ใช่ ! แม่ได้ศิลปินแห่งชาติ ปี 2539 ได้หลังครูคำผาย นุปิง”
“ ผมค้นจากอินเตอร์เน็ต ทราบว่า พ่อครูคำผาย นุปิง ได้ศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2538 ก่อนแม่ครูจันทร์สมปีหนึ่ง ใช่ไหมครับ ?”
“ ใช่ๆ ! พ่อครูคำผายบอกแม่ว่า เปิ้นได้ศิลปินแห่งชาติก่อน ต่อไปแม่ก็จะได้ศิลปินแห่งชาติ ประเภทเพลงพื้นบ้าน-ขับซอ เพราะเปิ้นจะให้เป็นคู่ เรา 2 คนเป็น “คู่ถ้อง”กัน
“ เอ่อ ! แม่ครับ “คู่ถ้อง” เป็นยังไงครับ ?”
“ หมายถึง เราซอคู่กัน โต้ตอบกันไปมา ระหว่างแม่กับพ่อครูคำผาย...ศิลปินแห่งชาติประเภทขับซอ เขาจะให้รางวัลทั้งสองคน ถ้าไม่มีคู่ถ้องที่เล่นด้วยกันนานๆ จะไม่ได้รับรางวัลนี้”
“ ขอโทษครับแม่ ปัจจุบันแม่อายุเท่าไรครับ ?”
“ แม่อายุได้ 78 ปีแล้ว เกิดวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475 แม่เป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด.”
“ เดี๋ยวนี้ แม่รับใครเป็นลูกศิษย์ สอนการขับซอให้บ้างครับ ?”
“ เดี๋ยวนี้ แม่เลิกสอนแล้ว กรรมการที่ตัดสินศิลปินแห่งชาติบอกแม่ว่า พักผ่อนได้แล้ว ใครอยากเรียนซอ ให้ไปเรียนกับลูกศิษย์แม่ก็แล้วกัน.”
“ หมายความว่า แม่มีลูกศิษย์หลายรุ่น หลายคน ทั้งหมดสักกี่คนครับ ?”
“ มีหลายรุ่น มีทั้งหมด 30 กว่าคน มีชื่อเสียงกันหมดแล้ว เช่น ไอ้เก๋า อีต่อม.”
“ สองคนหลังนี้ดังนะครับแม่ ผมได้ยินชื่อเสมอมา…เอ้อ ! แม่ครับ ในความเห็นของแม่ แม่จะให้ลูกหลานรุ่นต่อไป ได้สืบสานอนุรักษ์การขับซอ ให้อยู่คู่คนเหนืออย่างไร?”
“ แม่จัดรายการวิทยุ “มรดกเมืองเมืองเหนือ” ที่สถานีวิทยุ สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทุกวันพุธ เป็นการอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน อย่างซอพื้นเมืองไว้.”
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)