Skip to main content
ความหนาวเย็นแห่งฤดูหนาว
จากไปโดยไม่ล่ำลา ลมร้อนพัดเข้ามาแทน แม้ไม่เชื้อเชิญ ระหว่างรอยต่อปลายกุมภาพันธ์ ได้ยินเสียงนก “ปิ้ดจะลิว”(นกกรงหัวจุก) ส่งเสียง “ปิ้ดจะลิวๆ” ตอนเช้าตรู่ ยังไม่เห็นตัวเสียงมาก่อน นกจี๋เจี๊ยบ(นกกางเขน)ส่งเสียงแหลมสูงเจื้อยแจ้วประชัน จักจั่นเป็นฝูงส่งเสียงแซ่สนั่นที่ต้นสักข้างบ้าน ไม่เห็นตัวอีกเช่นกัน เหมือนนักร้องลูกทุ่งดัง ระดับหัวหน้าวง ต้องร้องอยู่หลังม่านเวทีสักท่อนหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยเดินตัวตรงมาดเท่ในชุดสากล ปรากฏตัวต่อมิตรรักแฟนเพลง น้ำแม่ขานที่คั่นระหว่างบ้านทุ่งแป้ง(อำเภอสันป่าตอง) กับบ้านสบอาว(อำเภอดอยหล่อ) เริ่มแห้ง ผิวน้ำเหมือนหยุดนิ่ง คล้ายคนป่วยหนัก หายใจรวยรินใกล้สิ้นลม 
 
ดวงอาทิตย์เปลี่ยนตำแหน่งขึ้น 
ตอนเช้าจะเห็นวงกลมสีแดงใหญ่ขึ้นตรงประตูวัด ไม่ขึ้นเฉียงมาทิศเหนือเหมือนฤดูหนาว เริ่มได้ยินเสียงระฆังใบเล็กๆ ที่ห้อยชายคาโบสถ์วิหารดัง “กุ๊งกิ๊งๆ” กังวาลทุ้มปนแหลมแว่วมา ชวนให้จิตใจเย็นนิ่งและปรือตาหลับยิ่งนัก ที่ปลายทุ่งไกลออกไป ดอกทองกวาวสีแสดร่วงหล่นจนหมดต้น แม้ยังไม่ถึงเดือนมีนาคม คงจำกันได้ ยามเรียนชั้นประถมศึกษา ดอกทองกวาวบานครั้งใด จะเป็นสัญญาณธรรมชาติ บอกถึงเวลาสอบไล่ใกล้เข้ามาแล้ว
 
ทั่วบ้านทุ่งแป้ง
จะเห็นช่อลำไยเหลืองดังทอง ชูช่ออวดเจ้าของและผู้ผ่านไปมา เจ้าของสวนสวมรองเท้ายาวสูงถึงหน้าแข้ง เดินถือท่อน้ำสีน้ำเงินบ้าง สีดำเก่าๆบ้าง นำมาต่อๆกันยาวทั่วสวนลำไย ดูดน้ำจากน้ำแม่ขานบำรุงต้นลำไยหน่อย ถ้ามันได้กินน้ำอิ่ม ลูกคงดกเต็มต้น คราวนี้ละก็ คงได้นับเงินเป็นกอบเป็นกำเสียที ถัดบ้านผมไปทางซ้ายมือ 2-3 หลัง มีบ้าน 2 หลังมีต้นลำไยหน้าบ้าน ผลดกเต็มต้นทุกปี ลูกมันใหญ่ด้วย ออกลูกเป็นพวงสวยงาม ผมเคยไปยืนถ่ายรูป ยืนใกล้ได้กลิ่นคล้ายน้ำผึ้ง กำลังคิดว่า กลิ่นน้ำผึ้งแน่หรือ ? กลิ่นมาจากไหนกันนะ ? หูได้ยินเสียงหึ่งๆคล้ายเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน เงยหน้าดูช่อลำไยเหลืองพราว ผึ้งตัวหนึ่งกำลังยกตัวเหนือช่อดอกลำไย นี่ไง ! นักแสวงหาน้ำหวานเพื่อสร้างรัง บ้านของมัน
 
ปีที่แล้ว
ลำไย 2 ต้นหลังบ้านผม ไม่มีช่อเหลืองเลย ปีนี้เริ่มชูช่อเหลืองพราวอวดเจ้าของ แม่บ้านปล่อยน้ำบำรุงครั้งหนึ่งแล้ว เธออาจกระหยิ่มในใจ ปีนี้คงได้รับเงินราว 1,000 บาทเศษอีกครั้ง ผมไม่ได้สักบาท ไม่ได้แม้ค่าน้ำมันรถขนลำไยไปขาย ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ ขอเพียงเห็นเธอยิ้มแย้มก็พอใจแล้ว.
 
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง