มีภาพคลื่นผู้คนแย่งกันขึ้นสะพานเรือ
แต่สะพานหย่อนลงไม่ถึงพื้น จึงไม่มีใครเข้าไปได้ มีอะไรบางอย่างขัดสะพานที่ทำหน้าที่คล้ายประตูเข้าเรือ เรือถูกคลื่นสึนามิกระแทกเคลื่อนเข้าใกล้ภูเขาเอเวอเรสต์ “ โอ้โฮ ! น้ำมันท่วมสูงถึงเพียงนี้หรือ ?.” ผมพูดในใจ คลื่นพาเรือใกล้ภูเขาเอเวอเรสต์เข้าไปอีก ใกล้เข้าไปๆ เรือติดเครื่องไม่ได้ เพราะประตูปิดค้างอยู่ ทำให้ไม่สามารถถอยเรือออกห่างภูเขาเอเวอเรสต์ได้ ถ้าเรือกระแทกเขาเอเวอเรสต์ที่ยังมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ เรือย่อมแตกเป็นหลายเสี่ยง พระเอกดำน้ำลงไปแก้ไข ตื่นเต้นเหลือเกิน แทบหัวใจจะวายกว่าพระเอกจะช่วยได้ เรือติดเครื่องได้แล้ว กัปตันสั่งถอยเรือห่างเอเวอเรสต์ได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความยินดีโห่ร้องของเหล่าผู้โดยสาร เรือเดินทางมุ่งสู่ Good Hope .
ขอพูดถึงหนังอีกเรื่องหนึ่งชื่อ
“ พลังจักรวาลล้างโลก” (Supernova) สาระสำคัญของเรื่องกล่าวถึง ผู้คนทั่วโลกทราบข่าวแน่ชัดว่า โลกกำลังจะแตกดับ ทุกคนจะต้องตาย ไม่มีใครจะหนีความตายไปได้พ้น ทำให้เกิดพฤติกรรมคนได้หลายแบบ
แบบที่ 1 คนกลุ่มหนึ่งบุกเข้าแย่งชิงสิ่งของในร้านสรรพสินค้า นำเครื่องดื่ม อาหาร มากินกันชุลมุนวุ่นวาย ไม่มีใครสนใจใคร
แบบที่ 2 กลุ่มใหญ่กลุ่มนี้จัดงานสังสรรค์อย่างสนุกสนาน ดังจะเป็นการอำลาโลกนี้
แบบที่ 3 กลุ่มนี้บุกเข้าบ้านคนอื่นดังบ้านของตน เข้าห้องครัว เปิดตู้เย็น หยิบเหล้าเบียร์ มากินอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของบ้านหรือผู้ใด
แบบที่ 4 ชายสูงอายุคุยถูกคอหญิงขายเหล้าเบียร์ในร้าน เกิดถูกใจ เข้าใจกัน นำไปสู่ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง พากันมานั่งกินอาหารที่ซุ้มหน้ากระท่อม กินเสร็จกลับนั่งชมความสวยงามของท้องฟ้าหน้ากระท่อม เหมือนจะจดจำไว้ก่อนดับพร้อมโลก ดวงไฟลูกใหญ่เริ่มพุ่งลงมาจากท้องฟ้า มากมายขึ้นเรื่อยๆ ตกเฉียดร่างทั้งสองคน แต่ไม่มีใครสะดุ้งหวาดกลัว ยิ่งโอบกอดกันแน่นมากขึ้น แล้วดวงไฟลูกหนึ่งหล่นวูบที่ร่างทั้งสอง พลันร่างทั้งคู่หายไป เหลือเพียงกระท่อม อีกครู่กระท่อมนั้นก็ถูกดวงไปลุกไหม้
เรื่องราวของหนัง
ดำเนินต่อไปอย่างน่าติดตามยิ่ง ตอนท้ายของเรื่อง พระเอกสามารถค้นพบคำตอบว่า ข่าวว่าโลกจะแตกดับนั้น คิดจากสูตรการคำนวณของนักวิทยาศาสตร์รุ่นก่อน แท้จริงเป็นการคิดคำนวณผิด โลกไม่แตกหรอก มีการแถงข่าวจากฝ่ายความมั่นคงของประเทศแจ้งประชาชนว่า ดวงไฟตกจากท้องฟ้าพักหนึ่งแล้วจะลดลง และหมดสิ้นภายใน 2-3 วัน ประชาชนดีใจกันทั่ว หนังจบลงอย่างมีความสุข.
ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า
ถ้าเราๆท่านๆเกิดรู้ชัดแน่แท้แน่นอนว่า วันนี้โลกจะแตกดับแล้ว เราจะทำตัวอย่างไร แบบใด แบบ 2 ดีไหม ยังไงๆก็ต้องตาย มาสนุกให้สุดเหวี่ยงไปเลย หรือจะเอาแบบที่ 4 โรแมนติคดีนะ นั่งรอรับความตายด้วยความเยือกเย็น หรือแบบที่ 5 ผมคิดเองนะ นั่งหลับตาสวดมนต์...โอม.
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)