อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอย่างน่าสนใจ
คดีบุกรุกป่าไม้ ใช้เวลาในการสอบคดีนาน 1-10 ปี กรณีบุกรุกอุทยานทับลาน ใช้เวลานานมาก กว่าคดีจะสิ้นสุดและมีผลบังคับใช้ให้รื้อถอนออกไป แต่ยังไม่ยอมรื้อ กรมป่าไม้จะใช้วังน้ำเขียวเป็นโมเดล ในการจัดการปัญหาการรุกป่า ให้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นอย่างถึงที่สุด
นายภูษิต พรหมานพ ผอ.ส่วนจัดการที่ดินป่าไม้
กล่าวว่า ในพื้นที่ 22 ราย มี 1 จุดคือ บริเวณอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ตำบลวังหมี อำเภอวังน้ำเขียว ซึ่งแต่เดิมเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ แต่ได้มอบให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตร ทำเป็นพื้นที่อ่างเก็บน้ำ ต่อมาปรากฏว่ามีรีสอร์ทขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกรมป่าไม้ ที่มอบให้กรมชลประทาน ซึ่งตามเงื่อนไข กรมชลประทานไม่สามารถมอบให้กับหน่วยงานใดหรือบุคคลได้ เพราะต้องมาขออนุญาตกรมป่าไม้ก่อน ดังนั้นรีสอร์ทดังกล่าว น่าจะเข้าข่ายบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติชัดเจน
เมื่อถามว่า
หากรัฐบาลใหม่เข้ามาและมีนโยบายให้เยียวยา หรือทบทวนการดำเนินคดีรีสอร์ทบุกรุกวังน้ำเขียว กรมป่าไม้จะทำอย่างไร นายสุวิทย์ รัตนมณี กล่าวว่า นโยบายต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย แม้ขณะนี้จะมีเสียงจากผู้ประกอบการ และบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของกรมป่าไม้ และพยายามจะให้กรมป่าไม้ประนีประนอม ทั้งการขอเช่าพื้นที่ หรือให้เยียวยา หรือใช้มวลชนกดดันก็ตาม แต่กรมป่าไม้คงละเว้นใครไม่ได้ เหมือนกับการจับโจร ผ่านไป 10 ปีก็ยังเป็นโจร ต้องถามว่ารัฐบาลจะเยียวยาคนรวยที่รุกป่าทำไม หากทำแบบนี้ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ว่ามีเหตุผลอะไร ที่ต้องเยียวยาคนรวยหรือนายทุน ถ้ารัฐบาลทำแบบนี้ผมคงอยู่ไม่ได้ ผมเป็นห่วงว่าคดีจะสิ้นสุดคงรออีกนาน ดังนั้นจะใช้วิธีติดตามทุกคดีเป็นรายเดือน รวมทั้งอาจจะใช้กรณีวังน้ำเขียว ประเดิมในศาลแผนกคดีสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพื่อจะได้ไม่ล่าช้าและคดีหาย อธิบดีกรมป่าไม้ระบุ (เดลินิวส์ 4 ส.ค.2554)
กลุ่มชาวบ้าน
อำเภอวังน้ำเขียวที่อ้างว่า ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานแห่งชาติ ได้กล่าวโจมตีเจ้าหน้าที่ และยังตั้งโต๊ะล่าลายชื่อ 50,000 รายชื่อ เตรียมยื่นรัฐบาลชุดใหม่ พิจารณาแก้กฎหมาย 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 , พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518.