ลองพิจารณาคำพูดของน้องธัญญ์
คุณสรยุทธจากรายการ “ เจาะข่าวเด่นช่อง 3 .”(14 มิ.ย. 2554)ถามว่า
“ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา เคยมีเวลาใดที่รู้สึกทุกข์ใจบ้างหรือไม่ ?.”
เธอตอบว่า
“ ไม่มีเลย ก็ทำตัวไม่ให้ทุกข์ซิคะ มันขึ้นอยู่กับตัวเองด้วย บางคนก็คิดว่าคนเราจะได้กำลังใจจากคนอื่น จะทำให้เราดีขึ้น แต่บางครั้งกำลังใจจากคนอื่นก็ไม่ได้ช่วยเสมอไป ถ้าเราไม่มีกำลังใจให้ตัวเองแล้วคนอื่นเขาจะมาช่วยเราได้อย่างไร เราต้องมีกำลังใจให้ตัวเองก่อน ก่อนที่คนอื่นเขาจะมาช่วยเรา.”
นายกิตติ์เธนศ คุณพ่อของน้องธัญญ์ อายุ 55 ปี พูดถึงลูกสาววัย 14 ปีคนนี้ว่า
“ น้องเป็นเด็กเข้มแข็ง คิดดี และคิดบวกตลอด ผมสอนเขาว่า แม้เราจะสูญเสียขาไปแล้ว แต่เรายังมีหัวใจที่เข้มแข็ง อย่าไปมองข้างล่าง แต่ให้มองข้างบน ที่เราก็มีไม่แพ้คนอื่น น้องเรียนดีมาตลอด.”
ผมไม่เข้าใจข้อความ “...อย่าไปมองข้างล่าง แต่ให้มองข้างบน...” พอดีมีหนังสือชื่อ “ คิดบวก”
(The Power Of Positive Thinking) ผู้เขียนชื่อ นอร์แมน วินเซนต์ พีล เขียนในหน้า 217 ว่า
“ อย่ามัวแต่นึกภาพว่ามีปัญหาและอุปสรรคอะไรบ้าง แต่มองข้ามมันไปเพื่อนึกถึงสิ่งที่ดีกว่า เวลาที่คุณมองจากมุมที่สูงกว่าลงมา นั่นก็คือมองจากความสำเร็จลงมา แทนที่จะมองจากปัญหาและอุปสรรคขึ้นไปยังความสำเร็จที่อยู่สูงกว่า คุณย่อมมีแรงและกำลังใจที่จะก้าวต่อไป มองจากข้างบนลงมา อย่ามองจากข้างล่างขึ้นไป.”
หนังสืออีกเล่มหนึ่งชื่อ “ อยู่อย่างสง่า”
เขียนโดยนายแพทย์วิทยา นาควัชระ ในหน้า 27 หัวข้อ “ มีความคิดที่เหมาะสมทั้งในยามแพ้และชนะ ” กล่าวว่า จงมีแนวคิดดังนี้เอาไว้เสมอ คือ ไม่โลภ ไม่เสียดาย อยู่กับปัจจุบัน เชื่อว่าพรุ่งนี้จะดีกว่าวันนี้ มองโลกในแง่ดี ถ่อมตน ไม่ยกตน ความทุกข์จะลดลง ทำความดีให้มากขึ้น เช่น ช่วยตัวเองให้มากขึ้น และช่วยคนอื่นให้มากขึ้น เพราะเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม มีอารมณ์ขัน ปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่เป็นอยู่ได้
กรณีที่เป็นข่าว
หญิงสาวเลิกงานตีสอง โบกรถแท็กซี่กลับบ้าน แท็กซี่พาออกนอกเส้นทางแล้วปล้นทรัพย์ทำร้าย ประตูถูกล็อกทั้ง 3 ด้าน เปิดได้เฉพาะข้างคนขับ เธอมีสติดี ดิ้นรนหนีเอาตัวรอดได้ ตำรวจจับคนร้ายได้ กรณีอย่างนี้เราจะเลือกใช้หลักคิดบวกหรือคิดลบอย่างไรดี.
บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวง
มันไม่พูด รุกคืบคลานไปข้างหน้าไม่มีหยุด เหมือนเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ในหนังฝรั่งประเภท
ไซไฟ (Sci-Fi) สภาพคล้ายเมือกฟองปุด ไหลกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นมฤตยูเงียบ เลือดเย็น มันคือกระแสน้ำ มิใช่หยดน้ำ...กระแสน้ำครั้งนี้เหมือนข้าศึกบ้านเมืองยุคปัจจุบัน ไม่มีการเจรจาพักรบ พักเหนื่อยพักหายใจ ไพร่พลมหาศาลหนุนเนื่อง หัวเมืองใหญ่น้อยจากเหนือลงใต้ถูกโจมตีแตกพ่าย มันกรีฑาทัพมุ่งโจมตีเมืองหลวง ที่มั่นสุดท้ายของเรา ปริมาณมหาศาล มาแรงและเร็ว มันคือกระแสน้ำ...…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมย้อนกลับมาดูน้ำท่วม
ที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ ผมมีเวลามากพอเนื่องจากเกษียณอายุราชการ อ่านหนังสือบ้าง เขียนบ้าง ลองค้นหาข้อมูลน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ โดยค้นจากอินเทอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้พบข้อมูลน่าสนใจ ปีนี้ (29 กันยายน พ.ศ.2554) ระดับน้ำที่ P 1 ณ สะพานนวรัฐอยู่ที่ 4.94 เมตร เป็นสถิติสูงสุด สูงกว่าปี พ.ศ. 2548 ที่สูง 4.93 เมตร ในปี 2548 นั้น น้ำท่วมเชียงใหม่ครั้งแรกเมื่อ 13 สิงหาคม 2548 และท่วมอีก 3 ครั้ง ในเดือนกันยายน กลางเดือนกันยายน และต้นตุลาคม …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ลองพิจารณาคำพูดของน้องธัญญ์
คุณสรยุทธจากรายการ “ เจาะข่าวเด่นช่อง 3 .”(14 มิ.ย. 2554)ถามว่า
“ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์มา เคยมีเวลาใดที่รู้สึกทุกข์ใจบ้างหรือไม่ ?.”
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
3 เมษายน 2554
ได้ทราบข่าว นักเรียนไทยในสิงคโปร์ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถไฟ MRT ของสิงคโปร์ทับขาขาดทั้งสองข้าง ในเวลาต่อมาได้มีการเสนอข่าวเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ได้ทราบเรื่องราวต่อมา คนไทยที่ได้รับอุบัติเหตุครั้งนี้ ชื่อ เด็กหญิงณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ อายุ 14 ปี เดินทางไปเรียนซัมเมอร์คอร์สภาษาอังกฤษ เคมบริดจ์ ที่สิงคโปร์ เธอเป็นนักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดตรัง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
หากวิเคราะห์เรื่องน้ำท่วม
ปีหนึ่งหากท่วม 1 ครั้งต่อปี ประชาชนเดือนร้อนก็ช่วยเหลือกันไป มอบถุงยังชีพมอบอาหาร ให้ค่าชดเชยหลัง 5, 000 บาท พอพ้นฤดูน้ำท่วมปัญหาหมดไปลืมกันไป ปีหน้าว่ากันอีกที ไม่ทราบว่ามีแผนป้องกันระดับประเทศไหมหนอ มีหน่วยงานใดเป็นเจ้าของเรื่องป้องกันน้ำท่วมระดับประเทศ แม้จะมีพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ 2550 และคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แต่ยังขาดการทำงานที่เป็นระบบ คือสอดคล้องสัมพันธ์กันทุกขั้นตอนการทำงาน ยังขาดเอกภาพ ขาดความร่วมมือ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ที่บ้านทุ่งแป้ง
อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ฝนตกตลอดคืนวันที่ 6 , 9 , 13 กันยายน พ.ศ. 2554 พอเช้าวันที่ 14 กันยายน แม่น้ำขานเริ่มมีระดับสูงขึ้นรวดเร็ว และล้น บ่าข้ามถนนข้างแม่น้ำเข้าท่วมบ้านทุ่งแป้งจำนวน 90 กว่าหลังคา ระดับน้ำสูงขึ้นช้าๆ ต่อมาเริ่มท่วมถนนข้างบ้าน ที่คั่นระหว่าง บ้านผมกับวัดทุ่งแป้ง ได้ยินเสียงน้ำไหลซ่าเข้าประตูวัด บริเวณบ้านผมได้ถมดินให้สูงก่อนปลูก น้ำ จึงยังไม่ท่วม บ้านอื่นรอบๆถูกน้ำท่วมหมดแล้ว มีเพื่อนบ้านนำรถยนต์มาฝาก 2 คัน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีกลุ่มชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียว
จังหวัดนครราชสีมา อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเตรียมยื่นรัฐบาลชุดใหม่แก้กฎหมายจำนวน 3 ฉบับ รวมทั้งมีการต่อต้านและกล่าวโจมตีเจ้าหน้าที่นั้น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชี้แจงว่า ไม่น่ามีปัญหาเพราะได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่า จุดมุ่งหมายของทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้ดำเนินคดีกับชาวบ้าน แต่ดำเนินคดีกับกลุ่มทุนคนรวยคนมีเงิน ที่ไปบุกรุกเพื่อตัดวงจรการบุกรุกป่า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวอย่างน่าสนใจ
คดีบุกรุกป่าไม้ ใช้เวลาในการสอบคดีนาน 1-10 ปี กรณีบุกรุกอุทยานทับลาน ใช้เวลานานมาก กว่าคดีจะสิ้นสุดและมีผลบังคับใช้ให้รื้อถอนออกไป แต่ยังไม่ยอมรื้อ กรมป่าไม้จะใช้วังน้ำเขียวเป็นโมเดล ในการจัดการปัญหาการรุกป่า ให้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นอย่างถึงที่สุด
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
หน่วยงานต่างๆ
เช่น กรมป่าไม้ สำนักงานการปฏิรูปที่เดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้ามาร่วมกันดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มข้าราชการ รวมทั้งหน่วยงานราชการที่ทำผิดกฎหมาย เช่น เอกสารที่ไม่ชอบให้กับเอกชนบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่อุทยานแห่งชาติ และ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร(ส.ป.ก.)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
คนบางคนเสียชีวิตแล้ว
ยังมีคนคิดถึง นึกถึงผลงานความดีที่ได้ทำ ยิ่งเสียชีวิตเพื่อปกป้องสิ่งอันเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและผู้อื่น คนยิ่งไม่ลืมเลือน น่าเสียดาย คนทั่วไปมักยกย่องชื่นชม สืบสานเจตนารมณ์ เมื่อเขาหมดสิ้นลมหายใจ ยามมีลมหายใจเข้าออก มีกำลังทำงาน กลับไม่มีใครตระหนัก ให้การสนับสนุน ให้พลังใจ ไม่มีเลยจริงๆ คนหนึ่งนั้นคือ คุณสืบ นาคะเสถียร
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
มีภาพคลื่นผู้คนแย่งกันขึ้นสะพานเรือ
แต่สะพานหย่อนลงไม่ถึงพื้น จึงไม่มีใครเข้าไปได้ มีอะไรบางอย่างขัดสะพานที่ทำหน้าที่คล้ายประตูเข้าเรือ เรือถูกคลื่นสึนามิกระแทกเคลื่อนเข้าใกล้ภูเขาเอเวอเรสต์ “ โอ้โฮ ! น้ำมันท่วมสูงถึงเพียงนี้หรือ ?.” ผมพูดในใจ คลื่นพาเรือใกล้ภูเขาเอเวอเรสต์เข้าไปอีก ใกล้เข้าไปๆ เรือติดเครื่องไม่ได้ เพราะประตูปิดค้างอยู่ ทำให้ไม่สามารถถอยเรือออกห่างภูเขาเอเวอเรสต์ได้ ถ้าเรือกระแทกเขาเอเวอเรสต์ที่ยังมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ เรือย่อมแตกเป็นหลายเสี่ยง พระเอกดำน้ำลงไปแก้ไข ตื่นเต้นเหลือเกิน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
นักตีความ
ให้ความสนใจโคลงบทนี้มาก ต้องมาตีความกันอย่างหนัก เหตุการณ์จริงคือ สลัดอากาศจี้เครื่องบินโบอิ้ง จำนวน 2 ลำ พุ่งชนอาคารเวิร์ลเทรดเซ็นเตอร์ของอเมริกา ซึ่งเป็นตึกแฝดพังทลายลง(11 กันยนยน 2001) เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ตรงตามคำพยากรณ์ แต่ปี เดือน ไม่ตรงกัน