ก่อนวันเลือกตั้ง
วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้หาเสียงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย โดยชูนโยบายเด่นด้าน ความปรองดอง การแก้ไขและป้องกันยาเสพติด ปราบปรามคอรัปชั่น ยกร่างรัฐธรรมนูญ และอื่นๆอีกยาวเหยียด และท่านมักจะทิ้งท้ายวาทะสำคัญคือ “ ขอโอกาส” จากประชาชน ให้เลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล ประชาชนได้ให้โอกาสตามที่ท่านขอ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเลือกตั้งสูงถึง 14 ล้านเสียงเศษ เป็นพรรคที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากถึง 265 คน มากกว่าทุกพรรคการเมือง ประชาธิปัตย์ไล่กวดตามหลังห่างๆจำนวน 159 คน พรรคไทยรักไทยจึงได้รับโอกาสจัดตั้งรัฐบาล ชูท่านยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนากยกหญิงคนแรกของไทยคนที่ 28 อย่างไม่ยากเย็นอะไร นี่คือการให้โอกาสของประชาชนแก่พรรคไทยรักไทย ตามที่ท่านยิ่งลักษณ์ร้องขอขณะหาเสียง
ยังไม่พอ
ฟ้าดินยังให้โอกาสที่แฝงมากับโจทย์ใหญ่ ปลายสิงหาคม 2554 ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องและมากมาย น้ำในเขื่อนต่างๆถูกสะสมมากขึ้นตามลำดับ ไล่จากเหนือลงมาภาคกลาง ต่างได้รับมวลน้ำมหาศาล เกิดน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด บางพื้นที่น้ำท่วมแล้วระบายไม่ทัน น้ำขังเป็นเดือนๆ บางแห่งนานยาวถึง 3 เดือน ประชาชนถูกน้ำท่วมได้รับความทุกข์สาหัส เดินทางไปไหนไม่ได้ เกิดน้ำเน่า ตามด้วยขยะ เป็นโจทย์ใหญ่ เกิดปัญหาที่ใครคาดไม่ถึง เป็นเหมือนพายุทอร์นาโด พัดปะทะทำเนียบไทยคู่ฟ้า หากเรานั่งพิจารณาด้วยใจเย็นๆ มองหามุมให้สบายตาสบายใจ เหมือนว่าเบื้องบน ยื่นโจทย์ใหญ่ที่ยากและสำคัญสุดระดับประเทศ ระดับโลก มาวางตรงหน้าคณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อให้โอกาสรัฐบาลสำแดงฝีมือเพลงดาบให้ประจักษ์สักครา ให้รัฐบาลแสดงความสามารถบริหารจัดการน้ำ เป็นบททดสอบที่หินมหาโหด...นี่คือการทดสอบจากเบื้องบน ใครเล่า ? อาจเป็นพระเจ้า โอกาสรัฐบาลนี้จะทำสำเร็จมีสูง เพราะมีผู้รู้ขั้นกูรู(ปราชญ์)เกี่ยวกับน้ำทั่วแผ่นดินทุกภาคส่วน งบประมาณพร้อม มีวัสดุอุปกรณ์ แผนระยะสั้น-ยาว เตรียมไว้รับมือน้ำท่วมเต็มที่ น่าเชื่อได้ว่า เมื่อภัยร้ายผ่านไปย่อมได้เห็นสายรุ้งสวยกลางสายฝน.
...................................................................