Skip to main content

 

ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง

เมื่อฝนตกกระทบผิวดินพักหนึ่ง ไอดินจะระเหยขึ้นมา ถ้าเราอยู่ ณ ที่นั้น จมูกจะได้กลิ่นไอดินหอม สดชื่น เป็นกลิ่นอันพิสุทธิ์ เป็นธรรมชาติ จริงแท้ ไม่แปรเปลี่ยน ข้ามผ่านกาลเวลา  น้อยคนนักจะได้สัมผัสรับรู้

รากเหง้า เป็นจุดเริ่มต้น บอกที่มา ต้นตอ เค้าเดิม ถิ่นกำเนิดของคน กล่าวถึงบรรพบุรุษ เทือกเถาเหล่ากอ ต้นตระกูล กล่าวสั้นที่สุดหมายถึงบ้านเกิดของของเราทุกคน

พ่อบอกว่า

พรุ่งนี้เปิดเทอมปลาย ลูกผมยาวไปตัดได้แล้ว พ่อถอยรถถีบออกใต้ถุนบ้าน รถพ่อเป็นรถสำหรับผู้ชาย
โดยจะมีโครงโลหะท่อกลมต่อระหว่างใต้เบาะกับส่วนหน้าของรถ เป็นสัญลักษณ์บอก ถ้ารถจักรยานสำหรับผู้หญิงจะไม่มีส่วนนี้ ผมเหยียบโครงโลหะใกล้ดุมล้อหลัง ขึ้นคร่อมที่นั่งตอนท้าย ส่วนนี้เป็นโครงโลหะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มันกว้างสำหรับเด็กๆอย่างผม เวลานั่งมันจะถ่างขาทั้งสองข้างออกมากจนนั่งไม่สะดวก และขอบเหล็กจะทิ่มเนื้อต้นขาให้เจ็บได้ เมื่อผมบ่นเจ็บ พ่อหาเบาะมาผูกติดไว้ ผมค่อยนั่งสบายขึ้น
    
เมื่อคนโดยสารนั่งเรียบร้อย พ่อขยับขึ้นนั่ง ปั่นรถถีบช้าๆออกประตูบ้านไปตามถนนดินระยะทาง 80 เมตร ออกไปปากซอยทะลุถนนราชวงค์เบื้องหน้า ถนนนี้ราดยางมะตอยตลอดสาย มีรถราวิ่งประปราย ไม่มากมายดัง พ.ศ.2556 พ่อบังคับรถเลี้ยวขวาล่องใต้จนถึงสี่แยก จุดที่พบกันระหว่างถนนท้ายวังทางซ้ายมือกับถนนราชวงค์ พ่อปั่นรถผ่านสี่แยกที่ยังไม่มีไฟเขียวแดงเหลือง รถราหลบหลีกกันแค่คนขับมองหน้ากันก็เคลื่อนพาหนะไปได้สะดวกปลอดภัย พ่อพาผมมาได้สัก 30-40 เมตร มีต้นฉำฉ่า(จามจุรี)ต้นใหญ่อยู่ริมถนนทั้งสองฝั่ง อากาศเย็นร่มรื่นกว่าที่พ่อปั่นรถผ่านมา ด้านขวามือเป็นห้องแถวไม้ยาว มีคนมาเช่าอาศัยบ้าง เป็นร้านค้าบ้าง พ่อเหลียวมองหลังแล้วเลี้ยวขวาไปจอดหน้าร้านตัดผมลุงหน้อย พ่อบอกถึงแล้ว ผมลงจากรถรอพ่อก่อนเข้าร้าน ผมมองเข้าไปในร้าน ที่นั่งม้ายาวด้านหลัง มีลูกค้ามานั่งรอ 2-3 คน ลุงหน้อยที่สวมชุดคลุมสีขาว เหลียวมองลูกค้าประจำมาใหม่หน่อยหนึ่ง แล้วขยับปัตตาเลี่ยนในมือขวาดังแกร็กๆๆ เป็นปัตตาเลี่ยนที่ใช้กล้ามเนื้อมือในการตัดผม เรียกว่าปัตตาเลี่ยนมือ มือซ้ายแกปาดหวีไปมา บางครั้งเอียงหน้ามองดูผลงานบนหัวลูกค้า ลูกค้านั่งคลุมผ้าขาวปิดแทบหมด โผล่เพียงขาและหัว ต้นคอยังมีร่องรอยทาแป้งขาวติดอยู่ ผมตามพ่อไปนั่งม้ายาว ผู้คนมาก่อนทักทายพ่อ ลมเย็นจากพัดลมเพดานหมุนเหนือศีรษะลูกค้าที่กำลังตัดผม มันหมุนช้าๆ จนมองเห็นใบพัดเป็นแผ่นได้

ลูกค้าทยอยตัดจนหมด มาถึงคิวผม ผมเดินไปด้านข้างเก้าอี้ตัดผม ลุงหน้อยหันไปคว้ากระดานแผ่นหนึ่งขึ้นมา วางพาดบนที่วางแขนทั้งสองข้าง บอกให้ผมขึ้นไปนั่ง  ทำให้ศีรษะผมอยู่ระดับเดียวกับผู้ใหญ่ สะดวกต่อการตัดผมของลุงหน้อย แกใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวพันรอบคอแล้วสลัดผ้าคลุมสีขาวพึบพับคลุมตั้งแต่คอลงมา ใช้คลิบหนีบผ้าตรงคอ ใช้พับแตะแป้งแล้วทาหัวผมขาวโพลน เพื่อให้ผมนิ่มตัดง่าย ผมเห็นตัวเองในกระจกเหมือนตัวตลกทาแป้งเล่นกัน ปัตตาเลี่ยนลุงหน้อยใช้ตัดมาหลายหัวแล้ว คมมันจึงลดลง พอมาตัดผมรายล่าสุดก็เป็นเรื่อง มีหลายจังหวะคมปัตตาเลี่ยนมันตัดผมให้ขาดไม่ได้ จึงกลืนเส้นผมเข้าไป ลุงหน้อยนึกว่าขาดแล้ว ขยับปัตตาเลี่ยนเพื่อย้ายตำแหน่งตัด เส้นผมจึงถูกปัตตาเลี่ยนดึงไป ทำให้ผมเจ็บหลายครั้ง ลุงหน้อยหยุดตัด ทำการลับปัตตาเลี่ยนใหม่แล้วตัดต่อ พ่อผมเห็นเหตุการณ์ลุกขึ้นยิ้มแห้งๆ ผมเห็นในกระจก แต่ไม่พูดอะไร ต่อมาการตัดเริ่มไปได้ดี ลมเย็นจากพัดลมเพดานมาเรื่อยๆคล้ายลมธรรมชาติ ทำให้ผมรู้สึกสบาย ใจสงบนิ่ง เริ่มง่วงนอน นั่งโงก 2-3 ครั้ง พยายามฝืนไว้ บางครั้งรู้ตัวน้ำลายไหลยืด รีบสูดกลับคืน อาการอย่างนี้เป็นอุปสรรคต่อการตัดผมของลุงหน้อย ลุงหน้อยคงรำคาญ ใช้ข้างปัตตาเลี่ยนกระแทกศีรษะผมแรงพอประมาณ คะเนให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น ผมรับรู้ถึงการกระทำนี้ เมื่อตัดผมเสร็จแล้ว ลุงหน้อยปลดผ้าพันคอโยนลงตะกร้า ส่วนผ้าคลุมแขวนข้างฝา รอลูกค้ารายต่อไป ผมเอามือลูบหัวปัดผงแป้ง ปัดเศษผมตามคอตามหน้าอก เหลือกตามองดูลุงหน้อยอย่างอาฆาต ถ้าตัวสูงเท่ากันละก็จะต่อยสักโป้งสองโป้งที่พุงที่หน้าให้จังหนับ ใช้ปัตตาเลี่ยนกระแทกหัว รังแกเด็กดีนัก ไอ้แก่นี่...พ่อจ่ายค่าตัดผม คุยเล็กน้อยแบบคนกันเองกับลุงหน้อย ผมนั่งซ้อนท้ายรถถีบพ่อกลับ รู้สึกโล่งเบาหัวสบายดี.

   …………………………………………………….

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
                                                            
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง