Skip to main content


ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ผมบอกพ่อ
จะไม่ไปตัดผมร้านลุงหน้อยอีกแล้ว ปัตตาเลี่ยนไม่คม ตัดผมไม่ขาดดึงเส้นผมติดไปทำให้ผมเจ็บ เวลาผมม่อยหลับขณะตัดผม ลุงหน้อยไม่สุภาพ ใช้ปัตตาเลี่ยนกระแทกหัวหลายครั้ง แทนที่จะบอกด้วยวาจาสุภาพ คำพูดคำจาไม่รื่นหูเลย เราเสียค่าตัดผม ง้อตัดกับมันทำไม พ่อหัวเราะแหะๆ ยิ้มแห้งๆ เกาหัวที่ผมสั่นเต่อยิกๆ คราวต่อไปผมจะไปตัดผมร้านบรรจงเกศา
ข้างโรงหนังศรีนครพิงค์ คนละฝั่งร้านลุงหน้อย เยื้องไปทางใต้หน่อยหนึ่ง เป็นร้านที่ใช้ปัตตาเลี่ยนไฟฟ้า

ผมนั่งบนเก้าอี้ตัดผม
ช่างยืนด้านข้างวางหวีบนศีรษะในแนวขนานพื้น เคลื่อนปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าจากด้านหลัง บริเวณใกล้ขวัญหัวไปด้านหน้า แล้วขยับมาตัดด้านข้าง แล้วแต่งรอบศีรษะ จะเห็นศีรษะเป็นลานเรียบ แล้วย้ายมาด้านหลัง ตัดผมให้พองทุยหน่อยหนึ่ง ช่างเอียงหน้าซ้ายขวา พินิจผลงาน จัดการแต่งตามขอบศีรษะอีกรอบ เมื่อเสร็จจะได้ทรงผมที่นิยมยุคนั้นว่า “ทรงลานบิน” มีความหมายเชิงเปรียบเทียบว่าหมายถึงลานสนามบินที่ราบเสมอกัน ไม่เอียงด้านใดด้านหนึ่ง ใช้เวลาตัดครู่เดียวก็เสร็จเรียบร้อย  ทิ้งท้ายด้วยการใช้นิ้วมือบีบบ่าแรงพอประมาณ คลายเส้นทำนองนั้น ยังไม่พอช่างใช้มือทั้งสองประสานการแล้วสับลงบ่นบ่าเสียงกร็อบๆ  แล้วเลื่อนมาบีบหัวไหล่อีกครั้งเป็นการตบท้าย ผมเคลิ้มหลับตา คงเพื่อให้ลูกค้ารุ่นเยาว์ประทับใจ ชอบๆครับ ขอสัก 5 นาทีจะดีมากเลย ผมนึกในใจทำนองได้คืบจะเอาศอก ปัจจุบัน พ.ศ.2556 ร้านบรรจงเกศายังเปิดบริการ แต่ย้ายมาใกล้สี่แยก จุดนัดพบระหว่างถนนท้ายวังกับถนนราชวงค์ อยู่ฝั่งตะวันตก

ดอกกว๋าว(ทองกวาว)
ชูดอกสีส้มกลางป่าโปร่งใกล้บ้าน เป็นสัญญาณย่างเข้าสู่เดือนมีนาคม ต้นกว๋าว(ต้นทองกวาว)เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่  แต่ถ้าเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดนั้น ดอกกว๋าว(ดอกทองกวาว)ได้เป็นดอกไม้ประจำจังหวัดถึง 4 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ลำพูน อำนาจเจริญ และอุดรธานี  ต้นกว๋าวจะขึ้นตามตามหัวไร่ปลายนา ริมถนนบ้าง ปี พ.ศ.2556 ผมมองดูตามทุ่งนาข้างถนนสายเชียงใหม่-ฮอด ทางหลวงหมายเลข 108  กิโลเมตรที่ 33-34 เห็นต้นกว๋าวเพียง 2 ต้น ปี พ.ศ.2554 ดอกกว๋าวเลื่อนไปบานราวเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม พอปี พ.ศ.2555 ไม่เห็นดอกกว๋าวบานเลย
ผมซื้อกล้าทองกวาวมา 1 ต้น

จากกาดนัดวันเสาร์ อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ ราคากล้าละ 80 บาท ตั้งใจจะนำมาปลูกที่ว่างหลังบ้าน แต่มีหลายคนทักท้วง เขาไม่นิยมปลูกในบ้าน จึงได้ย้ายมาปลูกข้างรั้วริมถนนข้างบ้าน ฉีกถุงพลาสติกดำที่หุ้มโคนกล้าออก ขุดหลุมแล้วกลบ โกยดินโคนต้นให้พูนรอบๆ ระยะแรกกล้าทองกวาวทำท่าจะตาย ใบเล็กที่ติดมาร่วงหมด ผมกัดฟันรดน้ำไปเรื่อยๆ วันนี้ต้นสูง 2 วา 1 ศอก ใบเขียวเต็มต้น ปลูกเพื่อเป็นตัวแทนความทรงจำวัยเด็ก ทั้งแสดงสัญลักษณ์ให้คนในหมู่บ้านได้รับรู้ถึงต้นไม้ที่เติบโตคู่กับทุ่งนา ต้นข้าว ชาวนา กลิ่นโคลนสาบควาย แดดกล้า สายลม นกร้อง ยืนต้นลำพังและรอคอย

ดอกกว๋าวนี้
เป็นสัญลักษณ์ใกล้ถึงการสอบปลายปีแล้ว ป่าโปร่งที่ผมเรียกนี้  เป็นที่ว่างริมถนนดินที่ทอดจากหมู่บ้านเกิดทะลุถึงถนนราชวงค์ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ป่านี้เนื้อที่ราว 11 ไร่เศษ เป็นที่ว่างมีหญ้าและหนองน้ำคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ป่าริมใกล้บ้านผมมีต้นตองขึ้น 2 ต้น ถัดเข้าไปถึงกึ่งกลางป่ามีต้นงิ้วขึ้นสูงลิ่ว ต้องแหงนคอดูยอด นกปิ๊ดจะลิว(นกหัวขวานหรือนกกรงหัวจุก) มักจะบินมาจิกกินดอกงิ้ว ส่งเสียง ปิ๊ดๆ ปิ๊ดจะลิว จิกกินไปก็ขยับหัวคล้ายทหารสวมหมวกแก๊ปด้วยระแวงภัยเป็นพักๆ ใกล้ต้นงิ้วจะมีต้นกว๋าวขึ้นเคียงข้าง ประกาศความเด่นสวย คล้ายยามผู้พิทักษ์ซ้ายขวา ถัดจากกึ่งกลางป่าโปร่งแนวต้นงิ้ว จะเป็นหนองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นหนองตื้นไม่ค่อยมีปลา ขอบหนองด้านใต้มีทางเดินกว้างราวศอกเศษทอดแนวตะวันตกสู่ตะวันออก หากสุดทางแล้วเลี้ยวขวาจะเป็นพื้นที่วางหลังโรงแรมแม่ปิง ข้างทางมีกอไผ่ขึ้นเป็นระยะ เศษใบไผ่แห้งกองสุมโคนต้น ขยับไปทางทิศใต้อีกหน่อยเป็นหนองน้ำอีกแล้ว แต่เป็นรูปตัวแอลในภาษาอังกฤษ มุมหนองตัวแอลมีกอไผ่ขึ้นเป็นระยะ เวลาลมพัดลำต้นไผ่จะเสียดสีกันดังอี๊ดอ๊าด ดังลำนำเพลง อากาศบริเวณนี้จะเย็นเยือกกว่ารอบๆ ทั้งมีความเงียบและวังเวง แม่บอกว่านั่งเรือตกปลาจะเคลิ้มง่วงนอน คล้ายมีอะไรมาสะกดครอบงำ ยังมีศาลไม้ขรึมหลังหนึ่ง มุงหลังคาด้วยดินขอ(กระเบื้องดินขอ) ปูด้วยไม้สัก เสาคู่หน้าฝังริมตลิ่ง อีกคู่จมอยู่ในน้ำ พื้นศาลที่เราเรียกว่าหอ สูงเสมอลานดินกว้างราว 5 ไร่เศษ มีต้นชมพู่ผลสีขาว 2 ต้นอยู่ค่อนด้านหน้าซ้ายขวา หน้าหอเป็นป่าโปร่งเช่นเดียวกัน ต้นไม้ยืนต้นเป็นมะพร้าว ยืนต้นประปราย บริเวณนี้อยู่หลังโรงแรมแม่ปิง ปัจจุบันเป็นด้านหลังโรงแรมปริ้นซ์

ด้านตะวันตก
ของป่าโปร่งมีหนองน้ำอีก 1 แห่ง หนองน้ำนี้มีปลาชุกชมกว่าหนองอื่นที่กล่าวมา หนองเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทางทิศใต้หนองมีร่องน้ำทะลุถึงน้ำแม่ข่า ปลาจากน้ำแม่ข่าจึงเข้ามาอาศัยในหนองนี้ หนองจะมีคนในหมู่บ้านเวียนมาวิดน้ำในหนองหาปลาเสมอ บางทีเว้นวันสองวันมาวิดน้ำ บางทีเช้ากับบ่าย ปลาเหมือนจะหมดแต่ก็ไม่หมด ใครมาวิดจะได้ปลาไม่มากก็น้อย ปลาใหญ่เป็นปลาช่อนปลาดุก รองลงมาเป็นปลาหมอ ปลาตะเพียนขนาดต่างๆ ปลากัดจีน ปลากระดี่ หอย กุ้งมีบ้าง

ใต้โคลนเหนียวเลอะยังมีปลาไหลอาศัยอยู่ ข้างหนองตรงกลางจะมีต้นตองขึ้น 1 ต้น ต้นข่อย ต้นเล็บแมวเรียงรายออกไป ต้นมะพร้าวขึ้นใต้หนอง 1 ต้น ถัดออกไปริมน้ำแม่ข่าเป็นต้นฉำฉ่า(จามจุรี)2 ต้น ใหญ่ขนาดสองคนโอบ ให้ร่มเงากว้างใหญ่
บริเวณนี้จะเป็นที่ตกปลาของคนในหมู่บ้าน จะเห็นกระดองปูที่ถูกเกี่ยวเหยื่อเนื้อข้างในเป็นเหยื่อปลา ทิ้งเกลื่อน เห็นมดเดินแถวไต่ตอมเป็นแห่งๆ

ในหนองน้ำที่มีปลาชุกชุม
คนมาวิดหาปลาบ่อยๆนั้น เขาจะโกยดินใต้น้ำในหนองขึ้นมาปั้นเป็นคันแนวยาวกลางหนอง น้ำในหนองลึกราวโคนขาผู้ใหญ่ ผู้วิดหาปลาสำหรับเช้านี้จะไปยืนริมสุดด้านขวาหนอง ใช้คุ(ถังน้ำ)จ้วงน้ำในหนอง จากฟากหนึ่งซัดโครมข้ามคันดินที่ปั้นขวางไปอีกฟากหนึ่งของหนอง ได้ยินเสียงน้ำซัดโครมๆถนัดถนี่.


                                        …………………………………………………………………………..

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    นอสตราดามุส (ค.ศ. 1502-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว เรียนจบปริญญาตรีคะแนนดีเยี่ยม จึงโดดเรียนปริญญาเอกจนจบสาขาแพทย์ ได้ทำนายไว้ว่า  “ ...วันเวลาแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นยุคเก่าและการมาถึงของยุคใหม่...กำลังจะเข้ามาปรากฏแก่สังคมโลกมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งคาดตามตรรกะจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่าง 23 ปีข้างหน้านี้ คือระหว่างปี ค.ศ. 2000 ถึง ค.ศ.2023...” (หนังสือนอสตราดามุส โดย ศ.เจริญ วรรธนะสิน หน้า 363)  
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
    ผมปลดกระเป๋าหนังสะพายบ่า เปิดกระเป๋าหยิบเอกสารปึกใหญ่ออกมา ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ดูท่านยิ้มเหมือนพึงพอใจ ชี้ไปที่เอกสารฉบับหนึ่งแล้วบอกว่า นั่นเป็นชื่อของท่านที่เขียนเรื่องนั้น ผมหัวเราะแก้เขินที่จุดไต้ตำตอ ถือโอกาสย้ำถาม “ ท่านชื่อคุณอดิศร ฟุ้งขจรหรือครับ ? ขอโทษผมไม่ทราบจริงๆครับ.” เราทั้งคู่หัวเราะและยิ้มให้กัน เราเริ่มคุ้นเคยกันในเวลาอันสั้น คงจะจริงนะ ที่ว่าการพบกันครั้งแรกเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง หากอัธยาศัยต้องกัน หรือที่พูดกันว่า ถูกชะตากัน ยิ่งคุยยิ่งสนุก มิตรภาพงอกงามรวดเร็ว…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  24 พฤษภาคม 2554
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  เพลงที่ 11 ลืมไม่ได้เด็ดขาด ชื่อเพลง “ศรัทธา” ขับร้องโดยคุณโป่ง ปฐมพงษ์ สมบัติพิบูลย์ นักร้องนำวง หิน เหล็ก ไฟ ก่อนเปลี่ยนเป็นวง The Son ทราบว่าเพลงของวงนี้ เขาแต่งเนื้อร้องทำนองเองหมด คุณโป่งเป็นนักร้องร็อคระดับต้นแบบ หรือ Idol ของใครอีกมากมายที่เดินตามในถนนสายดนตรี เสียงมีพลัง มีความหนักแน่น เป็นเพลงประเภทให้กำลังใจต่อสู้ ให้มุมมองชีวิต ให้ความคิด เนื้อเพลงบางท่อนกลายเป็นวลีฮิตติดปากไปแล้ว เนื้อเพลงบางตอน              …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
      ผมฟังคุณศิริพรกล่าวเนื่องในวันเกิด ของผู้ชราหลายคนในวันนี้ ฟังแล้วจับใจไม่น้อย “ ...ถึงแม้บ้านวัยทองนิเวศน์ จะมีอาหารการกิน มีเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้สอย แต่ที่ขาดเป็นด้านจิตใจ แม้จะไม่สามารถทดแทนครอบครัวเดิมของท่านได้ก็ตาม จะพยายามเติมเต็มส่วนที่ขาด ตามที่สามารถทำได้...” เมื่อพิธีกรงานวันเกิดกล่าวต่อจนจบแล้ว 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ใกล้เที่ยงในโรงอาหารมีคนพลุกพล่าน พินิจดูเป็นเด็กหนุ่มสาว อาจเป็นระดับอาชีวะ หรือมหาวิทยาลัยราวปี 1 , 2 มีโต๊ะยาววางถ้วยจานแก้วน้ำ หน้าโรงอาหาร มีเจ้าหน้าที่บริการ 2 คน ผมเดินไม่รู้ไม่ชี้มองหาเจ้าหน้าที่บ้านวัยทองนิเวศน์
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ผมเดินออกจากสำนักงาน
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ผมบอกให้ลูกจอดรถ ที่ถนนทอดสู่ตัวอาคารสำนักงาน บอกให้แกพาแม่ไปเยี่ยมยายที่บ้านปง ที่อยู่ห่างจากที่นี่ราว 3 กิโลเมตรเศษ ประมาณ 11 โมงให้กลับมารับพ่อ ผมเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ในตัวอาคาร พบเจ้าหน้าที่หญิง เป็นคนที่เคยรู้จักกันมาก่อน เธอยกมือไหว้เมื่อเห็นหน้าผม เธอมีบ้านพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสันมหาพน หมู่บ้านนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนสันมหาพนวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ฟากถนนทิศตะวันตก โรงเรียนนี้อยู่ห่างที่ว่าอำเภอไปทางทิศใต้ไม่ถึง 100 เมตร ผมเคยสอนโรงเรียนนี้นาน 12 ปี ผมบอกเธอว่า …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  วันนี้ขับรถกระบะสีเขียว รุ่น พ.ศ. 2537 ออกจากบ้านทุ่งแป้ง อำเภอสันป่าตองราว 8.00 น.เศษ มีจุดหมายปลายทางที่บ้านวัยทองนิเวศน์ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ คนนั่งซ้ายมือเป็นขาประจำ มีหน้าที่นั่งคุยเป็นเพื่อนไม่ให้คนขับรถง่วง บางเวลาก็นั่งเฝ้ารถกรณีผมเข้าห้องสมุดที่ต่างๆ คอยซื้ออาหารกลางวัน เครื่องดื่มบำรุงคนขับรถ เป็นฝ่ายสวัสดิการ บางทีทำเกินหน้าที่ กลายเป็นฝ่ายก่อความสงบภายในรถ สร้างความเครียดแก่คนขับแทนการผ่อนคลาย สาเหตุจากให้เฝ้ารถนานๆ เมื่อผมกลับจากค้นคว้าในห้องสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ …
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
  ปีนี้ พ.ศ.2554 จะยังมีกิจกรรมดำหัวผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ ? หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “ไทยนิวส์” ฉบับวันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2554 ได้ลงข่าวหน้า 1 ว่า “ จัดดำหัวผู้ว่าฯสานประเพณี เปลี่ยนชื่องานใหม่ สระเกล้าฯป้อเมือง .” โดยมีเนื้อหาข่าวบางตอนดังนี้ครับ “เมื่อ 30 มีนาคม 2554 นายวรการ ยศยิ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นวัฒนธรรมประเพณีปีใหม่เมืองล้านนาของจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อกิจกรรมเป็นงาน สระเกล้าดำหัวป้อเมืองเจียงใหม่ …