จากบันทึกในเฟซบุ๊กของ แด่เพื่อน ผู้เดือดร้อน เมื่อ 22 พฤษภาคม 2012
หากเพื่อนๆ ที่รู้จักมักคุ้นกันดี คงทราบว่าปกติแล้ว ปลา “แทบจะ” ไม่เคยเอ่ยก้าวล่วงใครจริงๆ จังๆ ให้ต้องเสียกำลังใจกันเลย
แต่งานรำลึกครบรอบ 2 ปี ในวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา บอกตามตรงว่า “เคือง” จนต้องยอม “ออกตัว พลีชีพ”... และเตรียมใจพร้อมรับความเห็นต่าง เพราะในวันนี้ เราคงจะต้องวิจารณ์อย่างไม่ต้องเกรงใจ และรักษาหน้า รักษายศกันอีกไป เพื่อก่อร่างสร้างชีวิตประชาชนให้ “เป็นไท” อย่างแท้จริง
จริงอยู่การต่อสู้ของคนเสื้อแดง ทุกคนทุกข์ยาก ลำบาก และสู้ร่วมกันมาอย่างอดทน ด้วยความเต็มใจ
พี่น้องประชาชนจำนวนมาก หลายคนหยุดงานสูญเสียรายได้ หลายคนอดหลับอดนอน ใช้จ่ายเงินทองที่หาได้ยากในสมัยนี้ เดินทางไกลหลายร้อยกิโล......เพื่อมาร่วมงาน ตากทั้งแดดร้อน และฝนตก แต่ทุกคน มาด้วยใจ
เขาเหล่านี้มาเพื่ออะไร ???
ความทุ่มเทของเขาเหล่านี้ สมควรแล้วหรือ กับสิ่งที่เขาได้รับ
- มาฟังขวัญชัย ไพรพนา พร่ำเพ้อถึงแต่วีรกรรม “ผมลงจากเวที คนสุดท้าย หลังจากจตุพรเข้ามอบตัว” ..... คุณขวัญชัยคะ ..... พูดเพื่ออะไร?? มวลชนอีกจำนวนมาก ยังคงยืนอยู่ ณ.จุดเดิม ....ในเวลาที่คุณ “หนี” ลงจากเวที และเขาเหล่านั้นละทิ้งลานประหารอีกนานหลายนาทีต่อจากนั้น พวกเขาเสี่ยงชีวิต น้อยกว่าคุณหรืออย่างไร ? คุณรู้จัก “คุณผุสดี งามขำ – หญิงเสื้อแดงคนสุดท้าย” ไหม?? ผู้หญิงคนนี้ ทำให้เราต้องใช้คำใหม่ เวลาคิดจะเรียกใครว่า “หน้าตัวเมีย” อย่างที่คุณเป็น.... ในวันที่พามวลชนไปอนุสรณ์สถาน
- มาเพื่อบริจาคหรือ? …….. ไม่ว่า วันนี้ หรือก่อนหน้านี้ สิ่งหนึ่งที่เวทีนปช.ดูจะกระทำจริงจังเสียเหลือเกิน คือ การตั้งโต๊ะบริจาค .... ราวกับรีดเลือดกับปู จริงอยู่มวลชน อยาก”ให้” ด้วยนิสัยพื้นฐานส่วนใหญ่เป็นคนแบ่งปัน การใช้วาทกรรม “คนเสื้อแดงไม่ทิ้งกัน” ยิ่งบีบรัดลึงให้เขากระเบียดกระเสียรเงินที่มีอยู่น้อยนิด แบ่งปันบริจาคไป ด้วยหวังว่าสุดท้ายจะย้อนกลับมาหามวลชน ผลที่ได้คืออะไร.... ช่วงสลาย - เงินบริจาคมากมาย หายไปพริบตาพร้อมกับข่าวหน้าหนังสือพิมพ์หราว่าเกิดศึกภายใน น้องภรรยาคุณวีระรวบหัวรวบหาง เปิดแน่บ เงินบริจาคของมวลชนที่ควรจะใช้จ่ายฉุกเฉินสำหรับพี่น้องเราที่บาดเจ็บ ล้มตาย อยู่ไหน??? หลังสลาย 1 ปี – เวทีนปช.กลับมาใหม่ พร้อมตั้งโต๊ะรับบริจาคอีกครั้ง ด้วยข้ออ้าง... เพื่อเยียวยามวลชน ...ในฐานะที่เราติดตามเรื่องเยียวยาและเคยติดต่อประสานงานเช่นกัน คำถามคือ เงินนั้น ได้นำมาใช้ประโยชน์จริงๆ หรือ ติดต่อกี่ครั้ง จบลงที่....”นปช.ไม่มีเงินแล้ว” และระดมบริจาคใหม่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หลังสลาย 2 ปี – ในวันที่ได้เป็นรัฐบาล และมีทีท่าว่ามวลชนจะได้รับเงินเยียวยา ... คุณยังคงตั้งโต๊ะบริจาคอยู่ เพื่อ???
ข้อนี้ หากใครจะเถียงแทน ได้โปรดเถียงมา เพราะอย่างน้อย จะได้ช่วยบรรเทาความเอือมระอาและผิดหวัง ในใจปลาให้น้อยลง การตั้งเวที ปลาเชื่อว่า คุณมีเงินสนับสนุนอยู่ก่อนแล้ว และอย่างน้อย หากใครสักคนจะต้องบริจาค ... มันสมควรแล้วหรือ ที่จะต้องเป็นมวลชนเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่หาเช้ากินค่ำ ตรากตรำทำงานหนักและออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิและปากท้องที่ดีขึ้น
- มาเพื่อ....จะโดนการ์ดวีไอพีทั้งหลายผลัก ดัน และตะคอกตะคั้น เพื่อให้หลบทางให้แก่ “แกนนำอำมาตย์” จริงอยู่ ฉันเรียนรู้ และเข้าใจได้ เรื่องการรักษาความปลอดภัยในแหล่งคนพลุกพล่านและจำนวนมากเช่นนี้ แต่หากคุณทำเช่นนี้ ปฏิบัติกับมวลชนราวกับไม่ใช่คน คุณอย่ามาเปลืองลมปาก พาใครไถ่ถามหาความเท่าเทียม และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เลย เพราะแม้แต่คุณเอง ก็ไม่เคยมี ..... ฉันเคืองโกรธ ในนาทีที่เห็นการ์ดของ “แรมโบ้ อีสาน” ดันมวลชนให้หลบพ้นทาง ฉันตะโกนออกไปแบบดังๆ ว่า “เฮ้ย นี่มันม๊อบอำมาตย์นี่หว่า ไม่ใช่ม๊อบไพร่แล้ว” การ์ดหันมามองหน้าฉัน อย่างไม่สบอารมณ์ และฉันเอง...พร้อมมีเรื่อง! ไม่นับรวม “แก๊งค์นักรบองค์ดำ” ที่แหวกฝูงชน เพื่อให้ตัวเองได้เดินอย่างยิ่งใหญ่... อยากถามคุณคำหนึ่ง ในวันสลายการชุมนุมคุณ”สู้” อยู่ที่ไหน.... ในความทรงจำที่ฉันจำได้แม่น คือ พวกคุณหายไป ละทิ้งมวลชนไปจากราชประสงค์ ตั้งแต่ก่อนสลายร่วมอาทิตย์แล้ว ...... หากฉันเข้าใจผิด โปรดมาแก้ไข ... แต่หากฉันเข้าใจถูก .... คุณไม่คู่ควรแม้แต่จะมาเดินลอยหน้าอาจ-องอยู่ท่ามกลางมวลชนเสียด้วยซ้ำ
ไม่นับรวม “การ์ดทั่วไป” ที่นิยมอวดอ้างสรรพคุณความสามารถ ชำนาญการในการใช้อาวุธ ให้แก่ทุกคนที่พบเจอ .... โดยไม่สนใจความเจ็บปวดของมวลชนที่ต้องถูกสังคมตราหน้าว่า “ผู้ก่อการร้าย” และโดนยิงตายทั้งๆ ที่มือเปล่า
- มาเพื่อฟังแกนนำและคุณทักษิณ กู่ร้องลอยลมเรื่องการปรองดอง ในวันที่หัวใจมวลชนอัดอั้นไปด้วยความเจ็บปวด เคียดแค้น และสูญเสีย ใครหลายคนยังมีภาพวันคืนหฤโหดคอยตามหลอกหลอน และครอบครัวอีกหลายครอบครัวสูญเสียคนที่เขารักไปตลอดกาล.... ฉันเติบโตมาท่ามกลางกระแสการเมืองตั้งแต่วัยเยาว์ เรียนรู้และเข้าใจในสัจธรรมของนักการเมืองได้ดี จึงเลือกที่จะเงียบในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา แต่ในวันนี้ ความอดทน อดกลั้น หมดลง ... ฉันเกลียด....นัก “เล่นการเมือง” ที่เห็นชีวิตประชาชนเป็นแค่เรือรั่วเก่าๆ ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะอุดรูรั่วให้เขา แต่เมื่อคุณถึงฝั่ง กลับถีบเรือนั้นให้จมลง .... ฉันภาวนาว่าคุณจะไม่เป็นแบบนั้น.....
ในวันนี้ฉันออกมาสู้ มาเสี่ยง มาตามหาความจริง พิสูจน์ให้ตัวเองและโลกเห็นว่ามวลชนเสื้อแดงไม่ได้เลวร้าย อย่างที่ใครๆ กล่าวหา ในวันนี้ฉันต้องยอมเจ็บตัว เปิดหน้า “เลือกข้าง” ยอมสูญเสียสัมพันธภาพอันดีกับเพื่อนหลายคน เพื่อให้ตัวเองได้มา”ยืนเคียงข้างชาวบ้าน” อย่างแท้จริง....
ในวันที่ 19 พ.ค. 53 ฉันละทิ้งชีวิต เลือกที่จะไม่กลับบ้านทั้งๆ ที่มีโอกาส เลือกที่จะไม่ละทิ้งผู้บริสุทธิ์ในแดนประหารเดียวกัน....
หลังจากวันนั้น ฉันทุ่มเททั้งความสามารถ เงินทอง และเวลา เพื่อที่จะติดตามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ สูญหาย และผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ...... บากหน้าไปขอความช่วยเหลือใครๆ ทั้งๆที่ไม่ใช่ปกติวิสัยอย่างที่ควรจะเป็น
ในวันที่ 12 มี.ค. 54 ….. .ในวันที่มีการรณรงค์มาตรา 112 โดยยังปราศจากการให้ความรู้มวลชนอย่างเป็นรูปธรรม ในกลิ่นอบอวลของวาทกรรมแกนนำ “กระสุนจากฟ้า, กระสุน บลา บลา บลา” อีกนับไม่ถ้วน ฉันเลือกที่จะจัดทำเอกสารจำนวนน้อยชุดตามกำลังเงิน ไปแจกจ่ายให้มวลชนได้แบ่งปันความรู้เรื่องข้อดี – ข้อเสีย ของมาตรานี้ เพื่อไม่ให้มวลชน “ตกเป็นเหยื่อ” แต่ ฉันโดนจับ...ส่งตำรวจ โดยที่ตำรวจเอง หลังจากอ่านเนื้อหา ก็ยอมรับด้วยตัวเองว่าไม่รู้จะยัดข้อหาให้ได้อย่างไร (ไม่รวมตำรวจนายหนึ่งที่พยายามจะสรรหาช่องโหว่มาเล่น) กอปรหลายคนจำนวนหนึ่งที่มาจากหลายกลุ่ม พยายามให้ความช่วยเหลือ .... ในครั้งนั้น ฉันผิดหวัง .... ไม่ได้เสียใจที่โดนจับ แต่เสียใจที่จนแล้วจนรอด เสื้อแดงคงจะเดินในแนวทาง “แนวร่วม” ที่พัฒนาความรู้ต่างๆ ให้มวลชนไม่ได้ .....
ฉันแปลกใจ ว่าเหตุใด .... ในเมื่อมวลชนเสียเวลา เสียเงิน เสียชีวิตแล้ว แต่กลับไม่ได้อะไร แม้แต่ความรู้ติดตัวกลับไปจากการชุมนุมเลย อย่างมากก็ได้แค่ “เหล้า ร้องเพลง สังสรรค์ ถ่ายรูป และโคโยตี้?”
และการได้นั่งฟังบรรดาแกนนำ พูดย้ำๆ ซ้ำๆ ในเนื้อหาที่ไม่ต่างไปจากเดิม และราวกับวิกลจริต ..... วันหนึ่งพูดหมิ่นเหม่เรียกเสียงเฮจากแม่ยก แต่อีกวันปราบปรามคนคิดหมิ่นเหม่
สิ่งเหล่านี้ ไม่อาจจะนำพาสิ่งที่พวกคุณเสี่ยงชีวิตออกมาสู้ให้มันมาถึงมือคุณได้หรอก
*** สิทธิ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากร และ ประชาธิปไตย น่ะหรือ ..... มันแค่ความฝันที่ห่างไกล ***
ฉันไม่ใช่แดงก้าวหน้า ฉันไม่ใช่แดงพรรค ฉันไม่ใช่แดง นปช. ฉันไม่ใช่แดงทักษิณ
สิ่งที่ฉันเป็น คือ ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง ที่เฝ้าดูการเติบโต และความทุกข์ยากที่ชาวบ้านต่อสู้กันมานาน และหวังเพียงว่า มันควรจะถึงเวลาที่ ประชาชน “ไม่ใช่อากาศธาตุ และมดงาน” ให้ผู้มีอำนาจใช้เป็นเครื่องต่อรอง
หากคุณทักษิณ แกนนำ และ นปช. มีแนวทางที่ต่างออกไปจากนั้น เราอาจจะต้องถึงเวลาแยกทาง ต่างคนต่างเดิน และเป็นปรปักษ์ต่อกัน
ขอแสดงความนับถือ...........................ในจิตวิญญานแห่งประชาชน
อุทิศแด่......
พี่สุวัน ศรีรักษา
ลุงบุญมี เริ่มสุข
พี่คิม – ฐานุทัศน์ อํสวสิริมั่นคง