Skip to main content

ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม

สุริยะใส กตะศิลา, 5 ธ.ค. 2551

 

ทีมข่าวการเมือง

 

ภาพในตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลหลังการชุมนุมยุติ
ที่มาของภาพ
: คุณ Me.....O กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7288033/P7288033.html

 

ประกาศชัยชนะหรือคำปลอบใจมวลชน

2 ธ.ค. หลังจากมีคำตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน กับอีก 2 พรรคร่วมรัฐบาลอย่างชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ใครจะไปนึกว่าพันธมิตรฯ ที่ตลอดบ่ายของวันนั้นมีข่าวว่า แกนนำอย่างสมศักดิ์ โกศัยสุขยังยืนยันจะชุมนุมต่อไป แต่ไม่รู้ว่าได้ สัญญาณ อะไร พอถึงเวลา 18.30 น. หลังแกนนำรุ่น 1 และรุ่น 2 หารือกันที่บ้านพระอาทิตย์ ก็ออกมาประกาศชัยชนะ [1] และประกาศให้ยุติการชุมนุมอันยาวนาน อ่อนล้า และถูกสาปแช่ง ก่นด่ากว่า 193 วัน ในวันที่ 3 ธ.ค.

ไม่รู้ว่าแกนนำพันธมิตรฯ และบรรดาผู้ให้ท้ายจะคิดว่าพวกเขาชนะจริงหรือไม่ เพราะเครือข่ายของสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ระบอบทักษิณนั้น ลำพังอำนาจตุลาการไม่อาจฆ่าไม่ได้ทำลายไม่หมดไปเสียแล้ว การยุบพรรคพลังประชาชน ได้เกิดความไม่พอใจในหมู่ฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน แถมบรรดา ส.ส.พลังประชาชน ที่รอดตายจากการล้างโคตรทางการเมืองก็เดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งที่ยุบไปแล้วและไม่ยุบก็ประกาศแล้วว่าจะสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เชื่อว่าถ้าอำนาจอื่นหรือกำลังภายในไม่สำแดงฤทธิ์เดชอีก หรือกลุ่มเพื่อนเนวินและกลุ่มต่างๆ ไม่หันไปซบประชาธิปัตย์หนุน 'พี่มาร์ก' เสียก่อน พวกเขาในนามพรรค เพื่อไทยก็เตรียมจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ได้เลย

 

เลิกชุมนุม ถอยตั้งหลัก

การยุบพรรคพลังประชาชนก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวและเป็นชิ้นเป็นอันเพียงพอที่จะนำมาเป็น ข้ออ้างที่ฟังขึ้นสำหรับมวลชนที่เหนื่อยล้าจากศึก ม้วนเดียวจบที่ดำเนินมาตั้งแต่ 23 พ.ย. ประกอบกับแรงกดดันจากสังคมจากการยึดครองสนามบินดอนเมืองอันเป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว และสนามบินสุวรรณภูมิจนทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจไปทั่วประเทศ ประกอบกับมวลชนบาดเจ็บล้มตายจากการจองกฐินจาก กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ใช้ระเบิดโจมตีพันธมิตรฯ เกือบทุกคืนที่ทำเนียบรัฐบาล และต่อมาการโจมตีขยายวงไปที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ

จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องประกาศชัยชนะเลิกชุมนุม ไม่ได้แปลว่าพันธมิตรชนะหรือแพ้ แต่เป็นการถอยไปตั้งหลักมากกว่า และดูเป็นการถอยที่รีบร้อน ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อการถอยด้วย ดูได้จากเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ พล.ต.จำลอง ประกาศให้ผู้ชุมุมรีบถอนออกจากทำเนียบให้ไปสมทบกันที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิเมื่อ 1 ธ.ค. เนื่องจากเกรงว่าผู้ชุมนุมจะไม่ปลอดภัย โดยในทำเนียบมีการปิดเวทีปราศรัยในเวลา 20.00 น. และเหลือเพียงนักรบศรีวิชัยเฝ้าอยู่ โดยผู้สื่อข่าวไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้ ต้องรอจนถึงเช้าวันที่ 2 ธ.ค. [2]

 

ข้าวของ หลักฐานที่เก็บไม่ทัน

สมมติฐานเรื่องการถอยที่รีบร้อนนั้น ยิ่งปรากฏชัดหลังจากประกาศชัยชนะและต้องคืนทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 4 ธ.ค. ก็มีข่าวพันธมิตรฯ เคลียร์ หลักฐานในทำเนียบไม่หมด

ทั้งเรื่องที่ ตำรวจนครบาลภาค 1 พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และพนักงานทำความสะอาด กทม. เข้าเคลียร์พื้นที่รอบนอกทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้าวันที่ 3 ธ.ค. มีการพบน้ำกรดบรรจุขวดเครื่องดื่มชูกำลังจำนวนมาก โดยน้ำกรดนั้นมีอานุภาพทำลายเยื่อบุโพรงจมูก ใกล้ๆ กันนั้นพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่มีการนำผ้ามาเป็นฉนวนคล้ายระเบิดเพลิง และยังยึดได้กระป๋อง ท่อพีวีซี หรือวัตถุดัดแปลงอาวุธต่างๆ [3]

ทั้งเรื่องที่ นายลอยเลื่อน บุนนาค รองเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีและบรรดาผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล เข้าตรวจสอบความเสียหายของทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 4 ธ.ค. และพบอาวุธสารพัด เช่น ระเบิดปิงปองหลายสิบลูก ไม้ติดปลายมีด ไม้คมแฝก ไม้กอล์ฟ ท่อนเหล็ก เสื้อเกราะ โล่ ระเบิดเพลิง กระสุนปืน สนับแขนที่ทำจากท่อพีวีซี หลายร้อยชิ้น รวมทั้งพลุที่มีอำนาจระเบิดที่รุนแรงรัศมีกว้าง 10 เมตร สามารถทำให้ อวัยวะฉีกขาดได้ถ้าโดนในระยะใกล้ๆ และลูกปืนขนาด .38 อีก 110 นัด

มิพักต้องพูดถึงสภาพเสียหาย การทุบประตู หน้าต่างของตึกบัญชาการ 1-2 เพื่องัดแงะทรัพย์สินราชการและทรัพย์สินส่วนตัวของข้าราชการ มิพักต้องพูดถึง ระเบิดคนอุจจาระบนโต๊ะทำงานรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี [4]

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่าง สุริยะใส กตะศิลา เคยบอกเมื่อ 1 ธ.ค. ว่า สำหรับการดูแลทรัพย์สินภายในทำเนียบฯ พันธมิตรได้จัดเวรยามและป้องกันรักษาสมบัติทุกชิ้นไว้อย่างดี ไม่มีการสูญหายหรือไปทำลายทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น [5]

สุริยะใสยังบอกว่า หากสำนักนายกฯ ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ก็สามารถทำได้ตามสิทธิ์ แกนนำพันธมิตรทั้งหมดพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะพวกเราไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายอยู่แล้ว[6]

 

ปัดไม่เกี่ยว ถ้าจะทำต้อง ไทยคู่ฟ้า-สันติไมตรี

แต่พอเกิดเรื่องเคลียร์ หลักฐาน ไม่หมด สุริยะใสจึงออกมาแก้เกี้ยวเมื่อ 5 ธ.ค. ว่าว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากสายข่าว พวกมิจฉาชีพ เข้ามาฉวยโอกาสสร้างความเสียหายและโยนความผิดให้กับพันธมิตรฯ และอ้างว่าเพราะในคืนวันที่ 1-3 ธ.ค.51 ที่ผ่านมาทำเนียบรัฐบาลไม่มีการ์ดพันธมิตรฯ อยู่เลย [7]

ข้อมูลของสุริยะใส จึงสวนทางกับข้อเท็จจริงที่ พล.ต.จำลอง สั่งให้การ์ดตรึงกำลังเฝ้าทำเนียบไว้ตั้งแต่คืนวันที่ 1 ธ.ค. หลังให้ผู้ชุมนุมถอนออกจากทำเนียบ ในคืนนั้นแม้แต่นักข่าวจะเข้าไปในทำเนียบก็ยังไม่ได้ ต้องรอกระทั่งเช้า การ์ดถึงจะยอมให้เข้าไปทำข่าวในทำเนียบได้

สุริยะใสยังกล่าวว่า

ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม[8]

คงต้องช่วยกันเชื่อผู้ประสานงานพันธมิตรฯ รายนี้ ว่าระดับพันธมิตรฯ ออฟฟิศข้าราชการทำเนียบกระจอกๆ คงไม่ทำแน่นอน ต้องเป็นระดับไทยคู่ฟ้า สันติไมตรี

เหมือนกับที่เอ็นบีที ที่พวกเขาเคยส่งคนไปยึดเพื่อหวังเชื่อมต่อสัญญาณ ASTV มาแล้ว

เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า

เหมือนกับที่สุวรรณภูมิ ที่พวกเขาก็ไม่เคยเอาไว้มาแล้ว ด้วยการเข้าไปชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จนเสมือนถูกปิดประเทศโดยปริยายในวันที่ 25 พ.ย. – 3 ธ.ค. รวมเวลากว่า 9 วัน จนส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจปากท้องของเพื่อนร่วมชาติโดยรวม

เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า

บทสรุปของพันธมิตรฯ เฟส 2 ตลอด 193 วัน สังคมไทยสูญเสียถ้วนหน้า ขณะที่พวกเขาและผู้ให้ท้ายสามารถประกาศชัยชนะกันได้อย่างชื่นบาน!

 

หมายเหตุ

[1] คุณ hectic101 ในกระดานข่าวประชาไทตั้งข้อสังเกตเรื่องการรีบประกาศชัยชนะและยุติการชุมนุมของพันธมิตรเอาไว้ ใน http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic.php?id=755680

[2] จำลอง ประกาศถอนคนออกจากทำเนียบฯ ยืนยันยังไม่คืน, ประชาไท, 1 ธ.ค. 2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14705 และ พันธมิตรฯ ย้ายไม่จริง ให้การ์ดตรึงทำเนียบ, ประชาไท, 2 ธ.ค. 2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14720

[3] ตร.ค้นทำเนียบเจอพลุแท่ง-น้ำกรดอื้อ, เดลินิวส์, 3 ธ.ค. 2551 http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184303&Newstype=1

[4] ทำเนียบเยิน-เสียหาย25ล., มติชนรายวัน, 5 ธ.ค. 2551

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0104051251&sectionid=0101&day=2008-12-05

[5] ยอมทิ้งทำเนียบแล้ว พธม.อพยพ ปักหลัก2สนามบิน, ข่าวสด, 2 ธ.ค. 2551

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEF5TVRJMU1RPT0=

[6] แหล่งเดียวกัน

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เป็นคำคมที่สุริยะใสนำมาจากคำพูดของ สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง อดีตประธานกรรมการ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน) ที่เพิ่งถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเป็นบุคคลล้มละลาย ลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 1 ก.ค. 2551 ในคดีหมายเลขแดงที่ 4423/2549

สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ยังเป็นนายทุนพรรคชาติไทย เป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยที่เพิ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลังพรรคถูกยุบ

[7] สุริยะใสแจงหากพันธมิตรฯจะทำลายข้าวของจริง ตึกไทยคู่ฟ้าไม่พ้นแน่ เพราะสะใจกว่า, แนวหน้า, 5 ธ.ค. 2551, http://www.naewna.com/news.asp?ID=137001

[8] แหล่งเดียวกัน

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
ชื่อบทความเดิม : เยือนสวนทูนอิน อ่านชีวิต ความคิด 75 กะรัต 'รงค์ วงษ์สวรรค์  ภู เชียงดาว : เรียบเรียง/รายงาน   หมายเหตุ : นี่เป็นมุมมองชีวิต ความคิด ว่าด้วยการเมือง ทหาร การปฏิวัติ สุขภาพ และการเขียนหนังสือ ของ ' รงค์ วงษ์สวรรค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2538 ที่ได้ถ่ายทอดออกมา เมื่อ 20 พ.ค.2550 ณ สวนทูนอิน โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  รายงานชิ้นนี้เคยตีพิมพ์ ใน ‘นิตยสารขวัญเรือน' ปักษ์แรก กรกฎาคม 2550 ผู้เขียนขออนุญาตนำมาเรียบเรียง/รายงาน ใน ‘ประชาไท' อีกครั้ง เพื่อเป็นการไว้อาลัยและรำลึกถึงการจากไปอย่างสงบของพญาอินทรีแห่งวรรณกรรม เมื่อค่ำของวันที่ 15 มี.ค.…
หัวไม้ story
“การคุมประชากรด้วยข้อมูลและแนวคิดที่โกหกอาจจะไม่นำไปสู่ประเทศไทยที่สำเร็จได้ แต่กลับเป็นการทำลายการพัฒนาและอนาคตของสังคมไทยเอง”ธงชัย วินิจจะกูล3 มี.ค. 2552
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง หลังจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เคลื่อนขบวนจากสนามหลวงมาชุมนุมล้อมทำเนียบรัฐบาลและปักหลักพักค้างชุมนุมอยู่หลายคืน โดยมีข้อเรียกร้องคือ 1.ดำเนินคดีกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 2.ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 3.นำรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ และ 4.ให้ยุบสภา การชุมนุมเป็นไปอย่างต่อเนื่องหลายคืนโดยสงบเรียบร้อย ผู้ชุมนุมยอมให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและคณะรัฐมนตรีเข้าไปทำงานในทำเนียบ โดยไม่มีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น จนแม้แต่นายอภิสิทธิ์ และรองนายกรัฐมนตรีอย่างนายสุเทพ…
หัวไม้ story
  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือภูมิภาคที่ไม่เคยเป็นตัวแสดงหลักในเกมอำนาจโลกเลยนับจากยุคอาณานิคมมาจนถึงยุคโลกาภิวัตน์ การร่วมตัวกันของชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในนามอาเซียนเป็นความพยายามอย่างหนึ่งของชาติในภูมิภาคนี้ที่จะเสริมสร้างอำนาจในการต่อรองทางเศรษฐกิจในระดับโลก ในยุคสงครามเย็น ภูมิภาคนี้ถูกแบ่งให้เป็น 2 ค่าย ตามบรรยากาศการเมืองโลก แต่หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ผู้นำค่ายสังคมนิยม ในช่วงทศวรรษที่ 90 ประเทศในภูมิภาคอาเซียนก็หันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน บทหนทางเสรีนิยมเดียวกัน ซึ่งประเทศเหล่านี้ถูกปฏิบัติในฐานที่เป็นชายขอบแดนของอำนาจต่อรองเช่นเดิม…
หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมือง   "พฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ ไม่อยู่ในขอบข่ายของสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการใช้กฎหมู่ละเมิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง คือ เป็นราชาธิปไตยยิ่งกว่าองค์พระราชาธิบดี อันเป็นอันตรายต่อราชบัลลังก์ยิ่งนัก ดังที่พวก Ultra Royalist ในฝรั่งเศสสมัยหนึ่งทำให้พระราชวงศ์บูร์บองล่มสลายมาแล้ว" สุพจน์ ด่านตระกูลสถาบันวิทยาศาสตร์สังคม (ประเทศไทย)มีนาคม 2549 1."ลุงสุพจน์" หรือ สุพจน์ ด่านตระกูล นักคิด นักเขียนวัย 86 ปี เสียชีวิตอย่างสงบ หลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ. ที่ผ่านมาชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์…
หัวไม้ story
[บันทึกคำปราศรัย 'กษิต ภิรมย์' ถึง 'ฮุน เซน' ในการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อ 15 ต.ค. และ 27 ต.ค. 2551 โปรดอ่านเพื่อให้เห็น ‘วิสัยทัศน์' และ ‘ท่าที' ต่อประเทศเพื่อนบ้านของรัฐมนตรีผู้ซึ่ง ‘อภิสิทธิ์'  ลงทุน 'อุ้ม'] โดย ทีมข่าวการเมือง ประชาไท  กษิต ภิรมย์ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 22 ธันวาคม 2551 (ที่มา: Daylife.com/Reuters) เส้นไหน โควตาใครกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กลายเป็นสายล่อฟ้า รัฐบาล ‘มาร์ค 1' เพราะข้อครหาว่าเป็นรัฐมนตรีโควตา ‘พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' จากบทบาทปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาธิปไตยอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่ ‘เฟส 1 - 2549'…
หัวไม้ story
  "เขาไม่ให้ผมประกันตัว เขาบอกกลัวผมหลบหนี ผมจะหนีไปไหน ผมเป็นคนไทยนะ จะให้ผมไปไหน ผมจ่ายภาษีปีละหลายหมื่นบาท แต่วันนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นแค่คนที่มาอาศัยแผ่นดินอยู่ เขาไม่ให้ผมประกันตัว เขาบอกว่าผมจะทำความผิดซ้ำ จะทำลายหลักฐาน ผมจะทำทำไม ในเมื่อถ้าทำแล้วมีแต่น้ำตา และมันไม่ใช่น้ำตาของผมคนเดียว แต่เป็นน้ำตาของคน 5 คน คือครอบครัวผม ลูกเมียผม ชีวิตผมตอนนี้มีแต่น้ำตา" สุวิชา ท่าค้อ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพรายล่าสุด เอ่ยปากผ่านม่านน้ำตาที่ไหลพร่างพรูต่อหน้าแผ่นกระจกบางๆ ที่กั้นระหว่างเขาและผู้สื่อข่าวสุวิชามีการเครียดมาก ร้องไห้เกือบตลอดเวลา…
หัวไม้ story
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ‘นิวส์ออฟเดอะเวิลด์' ของอังกฤษ มีผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่เคยมีคนแค่ ‘หลักพัน' คลิกเข้ามาอ่านข่าวประเภทสีสันบันเทิงซุบซิบดารา แต่ทันทีที่สื่อกระแสหลักอย่างสำนักข่าวบีบีซี เอพี รอยเตอร์ หรือไทม์ของอังกฤษ รายงานว่าเว็บนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ มีการเผยแพร่ ‘คลิปหลุด' ของ ‘เจ้าชายแฮรี่' รัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ยอดผู้เข้าชมก็พุ่งแตะหลัก 50,000 คนภายในเวลาไม่กี่วัน สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการถกเถียงอย่างจริงจังในชุมชนพลเมืองอินเตอร์เน็ต ว่าด้วยเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ, สิทธิส่วนบุคคล, เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น…
หัวไม้ story
 Photos by : Berd Whitlock , from : http://www.flickr.com/photos/rwhitlock/3167211359/     - ทีมข่าวความมั่นคง -  หลังบรรยากาศเฉลิมฉลองคริสมาสต์เพียง 2 วัน และอีกเพียงไม่กี่วันก็จะเป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่สำหรับชาวปาเลสไตน์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2551 มันไม่ใช่วันแห่งความสุขรื่นรมย์เหมือนที่อื่นๆ แต่กลับเป็นวันที่แสนเจ็บปวด เลือดไหลรินและน้ำตาไหลนอง ในวันนั้นอิสราเอลลงมือส่งหน่วยปฏิบัติการทางอากาศเข้าโจมตีที่ทำการรัฐบาลฮามาส รวมไปถึงบ้านเรือนของผลเรือน ปฏิบัติดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 800 ราย
หัวไม้ story
  ทีมข่าวการเมือง"สิ่งที่เขาเขียนนั้นเป็นเพียงการกล่าวถึงเรื่องความสัมพันธ์ลับๆ ของพระราชวงศ์ในลำดับที่ใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์โดยไม่แม้แต่จะเอ่ยนามว่าเป็นพระราชวงศ์พระองค์ใด ข้อความที่เขียนนั้นยาวเพียง 2 ประโยค จากหนังสือที่พิมพ์เผยแพร่แค่ 50 เล่ม แต่เขาอยู่ในคุกไทยมาแล้ว 4 เดือนเต็มๆ โดยคำร้องขอประกันตัวถูกปฏิเสธไปแล้ว 4 ครั้ง"ย่อหน้าข้างบนเป็นการให้ข้อมูลจากองค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ซึ่งแสดงความวิตกกังวลในระดับที่หนักขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิเสรีภาพในประเทศไทย โดยจดหมายอิเล็กโทรนิกส์ที่ส่งไปยังเครือข่ายนักกิจกรรมด้านเสรีภาพในการแสดงความเห็นทั่วโลก…
หัวไม้ story
 ทีมข่าวการเมืองภายในประเทศ สื่อไทยและรัฐบาลใหม่ดูจะยังดำเนินไปตามขนบที่เป็นมายาวนานคือยังอยู่ในช่วงเวลาน้ำผึ้งพระจันทร์ แต่นอกพรมแดนรัฐไทยออกไป กลับเป็นบรรยากาศที่แตกต่าง ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรายงานออกไปดูจะไม่เป็นมิตรต่อรัฐบาลใหม่ของประเทศจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้สักเท่าใด น้ำผึ้งไม่หวาน พลันที่ประเทศไทยได้รัฐบาลใหม่ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ สิ่งที่รอยเตอร์แนะนำเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยก็คือ....
หัวไม้ story
โดย ทีมข่าวการเมือง   000 “ติดใจทฤษฎีแมลงสาบ กลัวว่าพรรคคู่แข่งจะว่า แต่ดูแล้วตอนนี้รัฐบาลชุดนี้ทำตัวเหมือนแมลงสาบเหมือนกัน ในแง่ชอบความสกปรก ความมืด ที่สำคัญคือขยายตัวได้เร็วมาก ปีกว่าๆ ก็แพร่พันธุ์ได้มากมาย ตนคิดว่าหลักการปฏิรูปที่แท้จริงคือทุกคนต้องเข้าใจในสิทธิเสรีภาพ หากนักการเมืองคิดถึงแต่อำนาจก็ไม่มีทางปฏิรูปได้สำเร็จ เพราะการปฏิรูปต้องผ่องถ่ายอำนาจ ไม่ใช่ใช้อำนาจได้ตามใจและกลัวว่าจะมีการตรวจสอบได้ตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์7 เมษายน 2545 000 “เราได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน…