Skip to main content

ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม

สุริยะใส กตะศิลา, 5 ธ.ค. 2551

 

ทีมข่าวการเมือง

 

ภาพในตึกบัญชาการทำเนียบรัฐบาลหลังการชุมนุมยุติ
ที่มาของภาพ
: คุณ Me.....O กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7288033/P7288033.html

 

ประกาศชัยชนะหรือคำปลอบใจมวลชน

2 ธ.ค. หลังจากมีคำตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน กับอีก 2 พรรคร่วมรัฐบาลอย่างชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ใครจะไปนึกว่าพันธมิตรฯ ที่ตลอดบ่ายของวันนั้นมีข่าวว่า แกนนำอย่างสมศักดิ์ โกศัยสุขยังยืนยันจะชุมนุมต่อไป แต่ไม่รู้ว่าได้ สัญญาณ อะไร พอถึงเวลา 18.30 น. หลังแกนนำรุ่น 1 และรุ่น 2 หารือกันที่บ้านพระอาทิตย์ ก็ออกมาประกาศชัยชนะ [1] และประกาศให้ยุติการชุมนุมอันยาวนาน อ่อนล้า และถูกสาปแช่ง ก่นด่ากว่า 193 วัน ในวันที่ 3 ธ.ค.

ไม่รู้ว่าแกนนำพันธมิตรฯ และบรรดาผู้ให้ท้ายจะคิดว่าพวกเขาชนะจริงหรือไม่ เพราะเครือข่ายของสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า ระบอบทักษิณนั้น ลำพังอำนาจตุลาการไม่อาจฆ่าไม่ได้ทำลายไม่หมดไปเสียแล้ว การยุบพรรคพลังประชาชน ได้เกิดความไม่พอใจในหมู่ฐานเสียงของพรรคพลังประชาชน แถมบรรดา ส.ส.พลังประชาชน ที่รอดตายจากการล้างโคตรทางการเมืองก็เดินทางไปสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทั้งที่ยุบไปแล้วและไม่ยุบก็ประกาศแล้วว่าจะสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

เชื่อว่าถ้าอำนาจอื่นหรือกำลังภายในไม่สำแดงฤทธิ์เดชอีก หรือกลุ่มเพื่อนเนวินและกลุ่มต่างๆ ไม่หันไปซบประชาธิปัตย์หนุน 'พี่มาร์ก' เสียก่อน พวกเขาในนามพรรค เพื่อไทยก็เตรียมจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ได้เลย

 

เลิกชุมนุม ถอยตั้งหลัก

การยุบพรรคพลังประชาชนก็ดูเป็นเรื่องเป็นราวและเป็นชิ้นเป็นอันเพียงพอที่จะนำมาเป็น ข้ออ้างที่ฟังขึ้นสำหรับมวลชนที่เหนื่อยล้าจากศึก ม้วนเดียวจบที่ดำเนินมาตั้งแต่ 23 พ.ย. ประกอบกับแรงกดดันจากสังคมจากการยึดครองสนามบินดอนเมืองอันเป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว และสนามบินสุวรรณภูมิจนทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจไปทั่วประเทศ ประกอบกับมวลชนบาดเจ็บล้มตายจากการจองกฐินจาก กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่ใช้ระเบิดโจมตีพันธมิตรฯ เกือบทุกคืนที่ทำเนียบรัฐบาล และต่อมาการโจมตีขยายวงไปที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิ

จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องประกาศชัยชนะเลิกชุมนุม ไม่ได้แปลว่าพันธมิตรชนะหรือแพ้ แต่เป็นการถอยไปตั้งหลักมากกว่า และดูเป็นการถอยที่รีบร้อน ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อการถอยด้วย ดูได้จากเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ พล.ต.จำลอง ประกาศให้ผู้ชุมุมรีบถอนออกจากทำเนียบให้ไปสมทบกันที่ดอนเมือง และสุวรรณภูมิเมื่อ 1 ธ.ค. เนื่องจากเกรงว่าผู้ชุมนุมจะไม่ปลอดภัย โดยในทำเนียบมีการปิดเวทีปราศรัยในเวลา 20.00 น. และเหลือเพียงนักรบศรีวิชัยเฝ้าอยู่ โดยผู้สื่อข่าวไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในได้ ต้องรอจนถึงเช้าวันที่ 2 ธ.ค. [2]

 

ข้าวของ หลักฐานที่เก็บไม่ทัน

สมมติฐานเรื่องการถอยที่รีบร้อนนั้น ยิ่งปรากฏชัดหลังจากประกาศชัยชนะและต้องคืนทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 4 ธ.ค. ก็มีข่าวพันธมิตรฯ เคลียร์ หลักฐานในทำเนียบไม่หมด

ทั้งเรื่องที่ ตำรวจนครบาลภาค 1 พร้อมเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และพนักงานทำความสะอาด กทม. เข้าเคลียร์พื้นที่รอบนอกทำเนียบรัฐบาลเมื่อเช้าวันที่ 3 ธ.ค. มีการพบน้ำกรดบรรจุขวดเครื่องดื่มชูกำลังจำนวนมาก โดยน้ำกรดนั้นมีอานุภาพทำลายเยื่อบุโพรงจมูก ใกล้ๆ กันนั้นพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังที่มีการนำผ้ามาเป็นฉนวนคล้ายระเบิดเพลิง และยังยึดได้กระป๋อง ท่อพีวีซี หรือวัตถุดัดแปลงอาวุธต่างๆ [3]

ทั้งเรื่องที่ นายลอยเลื่อน บุนนาค รองเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรีและบรรดาผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล เข้าตรวจสอบความเสียหายของทำเนียบรัฐบาลเมื่อ 4 ธ.ค. และพบอาวุธสารพัด เช่น ระเบิดปิงปองหลายสิบลูก ไม้ติดปลายมีด ไม้คมแฝก ไม้กอล์ฟ ท่อนเหล็ก เสื้อเกราะ โล่ ระเบิดเพลิง กระสุนปืน สนับแขนที่ทำจากท่อพีวีซี หลายร้อยชิ้น รวมทั้งพลุที่มีอำนาจระเบิดที่รุนแรงรัศมีกว้าง 10 เมตร สามารถทำให้ อวัยวะฉีกขาดได้ถ้าโดนในระยะใกล้ๆ และลูกปืนขนาด .38 อีก 110 นัด

มิพักต้องพูดถึงสภาพเสียหาย การทุบประตู หน้าต่างของตึกบัญชาการ 1-2 เพื่องัดแงะทรัพย์สินราชการและทรัพย์สินส่วนตัวของข้าราชการ มิพักต้องพูดถึง ระเบิดคนอุจจาระบนโต๊ะทำงานรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี [4]

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่าง สุริยะใส กตะศิลา เคยบอกเมื่อ 1 ธ.ค. ว่า สำหรับการดูแลทรัพย์สินภายในทำเนียบฯ พันธมิตรได้จัดเวรยามและป้องกันรักษาสมบัติทุกชิ้นไว้อย่างดี ไม่มีการสูญหายหรือไปทำลายทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น [5]

สุริยะใสยังบอกว่า หากสำนักนายกฯ ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ก็สามารถทำได้ตามสิทธิ์ แกนนำพันธมิตรทั้งหมดพร้อมที่จะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะพวกเราไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายอยู่แล้ว[6]

 

ปัดไม่เกี่ยว ถ้าจะทำต้อง ไทยคู่ฟ้า-สันติไมตรี

แต่พอเกิดเรื่องเคลียร์ หลักฐาน ไม่หมด สุริยะใสจึงออกมาแก้เกี้ยวเมื่อ 5 ธ.ค. ว่าว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากสายข่าว พวกมิจฉาชีพ เข้ามาฉวยโอกาสสร้างความเสียหายและโยนความผิดให้กับพันธมิตรฯ และอ้างว่าเพราะในคืนวันที่ 1-3 ธ.ค.51 ที่ผ่านมาทำเนียบรัฐบาลไม่มีการ์ดพันธมิตรฯ อยู่เลย [7]

ข้อมูลของสุริยะใส จึงสวนทางกับข้อเท็จจริงที่ พล.ต.จำลอง สั่งให้การ์ดตรึงกำลังเฝ้าทำเนียบไว้ตั้งแต่คืนวันที่ 1 ธ.ค. หลังให้ผู้ชุมนุมถอนออกจากทำเนียบ ในคืนนั้นแม้แต่นักข่าวจะเข้าไปในทำเนียบก็ยังไม่ได้ ต้องรอกระทั่งเช้า การ์ดถึงจะยอมให้เข้าไปทำข่าวในทำเนียบได้

สุริยะใสยังกล่าวว่า

ผมตั้งข้อสังเกตว่าเป็นฝีมือของพวกฉวยโอกาส หากพันธมิตรฯจะทำก็ต้องเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้อย่างดีทำไม[8]

คงต้องช่วยกันเชื่อผู้ประสานงานพันธมิตรฯ รายนี้ ว่าระดับพันธมิตรฯ ออฟฟิศข้าราชการทำเนียบกระจอกๆ คงไม่ทำแน่นอน ต้องเป็นระดับไทยคู่ฟ้า สันติไมตรี

เหมือนกับที่เอ็นบีที ที่พวกเขาเคยส่งคนไปยึดเพื่อหวังเชื่อมต่อสัญญาณ ASTV มาแล้ว

เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า

เหมือนกับที่สุวรรณภูมิ ที่พวกเขาก็ไม่เคยเอาไว้มาแล้ว ด้วยการเข้าไปชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จนเสมือนถูกปิดประเทศโดยปริยายในวันที่ 25 พ.ย. – 3 ธ.ค. รวมเวลากว่า 9 วัน จนส่งผลกระทบต่อการคมนาคมขนส่ง ภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจปากท้องของเพื่อนร่วมชาติโดยรวม

เพราะสามารถสร้างความเสียหายมากกว่า ได้ผลมากกว่า และสะใจมากกว่า

บทสรุปของพันธมิตรฯ เฟส 2 ตลอด 193 วัน สังคมไทยสูญเสียถ้วนหน้า ขณะที่พวกเขาและผู้ให้ท้ายสามารถประกาศชัยชนะกันได้อย่างชื่นบาน!

 

หมายเหตุ

[1] คุณ hectic101 ในกระดานข่าวประชาไทตั้งข้อสังเกตเรื่องการรีบประกาศชัยชนะและยุติการชุมนุมของพันธมิตรเอาไว้ ใน http://www.prachataiwebboard.com/webboard/wbtopic.php?id=755680

[2] จำลอง ประกาศถอนคนออกจากทำเนียบฯ ยืนยันยังไม่คืน, ประชาไท, 1 ธ.ค. 2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14705 และ พันธมิตรฯ ย้ายไม่จริง ให้การ์ดตรึงทำเนียบ, ประชาไท, 2 ธ.ค. 2551 http://www.prachatai.com/05web/th/home/14720

[3] ตร.ค้นทำเนียบเจอพลุแท่ง-น้ำกรดอื้อ, เดลินิวส์, 3 ธ.ค. 2551 http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184303&Newstype=1

[4] ทำเนียบเยิน-เสียหาย25ล., มติชนรายวัน, 5 ธ.ค. 2551

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0104051251&sectionid=0101&day=2008-12-05

[5] ยอมทิ้งทำเนียบแล้ว พธม.อพยพ ปักหลัก2สนามบิน, ข่าวสด, 2 ธ.ค. 2551

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNVEF5TVRJMU1RPT0=

[6] แหล่งเดียวกัน

ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เป็นคำคมที่สุริยะใสนำมาจากคำพูดของ สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง อดีตประธานกรรมการ บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน) ที่เพิ่งถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดเป็นบุคคลล้มละลาย ลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 1 ก.ค. 2551 ในคดีหมายเลขแดงที่ 4423/2549

สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ยังเป็นนายทุนพรรคชาติไทย เป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทยที่เพิ่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองหลังพรรคถูกยุบ

[7] สุริยะใสแจงหากพันธมิตรฯจะทำลายข้าวของจริง ตึกไทยคู่ฟ้าไม่พ้นแน่ เพราะสะใจกว่า, แนวหน้า, 5 ธ.ค. 2551, http://www.naewna.com/news.asp?ID=137001

[8] แหล่งเดียวกัน

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง อาจจะฮือฮามาสักพักแล้วกับเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของนักการเมืองค่ายประชาธิปัตย์ นำโดย หล่อใหญ่ อภิสิทธิ์ ตามมาด้วยสาทิตย์ วงษ์หนองเตย  แต่ก็ยังอาจจะยังไม่เห็นประสิทธิผลมากนักสำหรับการเปิดพื้นที่ใหม่ในสื่อใหม่ในโลกออนไลน์ เพราะยังไม่มีการใช้สำหรับแคมเปญหาเสียง หรือแคมเปญกิจกรรมอะไรพิเศษ แต่แล้ว เมื่อเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ชื่อ thaksinlive เริ่มเป็นที่รับรู้ของชาวไซเบอร์เพียงไม่กี่วัน ก็กลับฮือฮาเป็นกระแสพ้นพรมแดนโลกไซเบอร์ออกมาเหมือนปีศาจที่ตามหลอกหลอนไปทุกพรมแดนความรับรู้ของขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม
หัวไม้ story
ในฐานะที่กระแสรางวัลซีไรต์ปีนี้ช่างแผ่วเบา เราจึงขอกระตุ้น ยั่วยวน ให้หันมองด้วยงานวิจารณ์ของ “นายยืนยง” ซึ่งยืนยันกับการชื่นชม “วิญญาณที่ถูกเนรเทศ” เล่มหนึ่งที่เข้ารอบสุดท้าย ไม่ว่าใครจะครหาอย่างไรก็ตาม         ชื่อหนังสือ         :           วิญญาณที่ถูกเนรเทศ ผู้เขียน              :           วิมล ไทรนิ่มนวล จัดพิมพ์โดย       :   …
หัวไม้ story
โดย ทีมข่าวการเมือง 5 แกนนำพันธมิตร ขึ้นปราศรัย ระหว่างงานรำลึก 1 ปีแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อ 25 พ.ค. 52 ที่สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี (ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 25 พ.ค. 52)
หัวไม้ story
หลังการชุมนุมคนเสื้อแดงจบลงไปในวันที่ 14 เมษายน 2552 โดยการชุมนุมครั้งนั้นเกิดความรุนแรงขึ้นในหลายจุด ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้อาวุธ ทั้งจากฝ่ายตำรวจ ผู้ชุมนุม และกลุ่มไม่ทราบฝ่าย ช่วงเวลา 2-3 วันให้หลัง ประชาไทพยายามติดตามหาพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทว่าพยานบุคคลหลายคนเลือกที่จะเป็นเสียงเงียบ และหลายคนเลือกการเดินทางกลับต่างจังหวัด บรรยากาศภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนั้น ดูเหมือนเป็นบรรยากาศแห่งความเงียบและหวาดระแวงสำหรับผู้เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง นั่นทำให้เราเริ่มคิดถึงคนเสื้อแดงที่ต่างจังหวัด…
หัวไม้ story
สัมภาษณ์ เสรี สาระนันท์ ส.ส. หลายสมัยจากอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ถึงเหตุผลที่ ส.ส. ยังคงต้องอยู่กับเสื้อแดงและทักษิณ และกระบวนการจัดการเสื้อแดงที่เป็นฐานเสียง และเป็นมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุม รวมถึงให้เขาประเมินอนาคตของทั้งตนเองและขั้วอำนาจฝ่ายสีแดง การสัมภาษณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของ "ปีศาจ" อย่างทักษิณ ที่จะยังครอบงำจิตใจชาวบ้านและหลอกหลอนการเมืองขั้วตรงข้ามต่อไปอย่างยากจะเปลี่ยนแปลง
หัวไม้ story
เสียง ภาพ ชาวบ้านเสื้อแดง ตำบลหนองไผ่ จังหวัดอุดรธานี บอกเล่าความรู้สึกและความเห็นทางการเมือง ว่าด้วยประชาธิปไตย และทักษิณ หลังการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ยุติลงในช่วงบ่ายของวันที่ 14 เม.ย. อนึ่ง ชาวบ้านบางส่วน ได้เข้ามาร่วมการชุมนุมคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่อีกบางส่วนไม่ได้เข้าร่วม แต่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่ที่บ้าน ผ่านสถานีดีสเตชั่น และวิทยุชุมชนคนรักอุดร ประชาไทบันทึกคลิปวีดีโอ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง [การโหยหาอดีตของสองทหารแก่ สุรชัย-เปรม อาจไม่ต่างกันมาก ผิดกันตรงที่ ทหารแก่คนหนึ่งอาจสมใจ สังคมไทย Nostalgia ย้อนยุคขุนศึก อำมาตย์ เป็นใหญ่ได้อีกหลัง 19 ก.ย. 49 มีองคมนตรีมาเป็นนายกฯ ที่ป๋าเห็นเป็นวินสตัน เชอร์ชิล มีนายกฯ หนุ่มที่ป๋าบอก “ผมเชียร์” … เช่นนี้กระมัง สหายเก่า-ทหารแก่อีกคนจึงขอแต่งชุดทหารป่าเข้ามอบตัว ขอ Nostalgia อีกรอบ] ]   000 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำ นปช. ขณะเข้ามอบตัวเมื่อ 27 เม.ย. 52 (ที่มาของภาพ: ASTVผู้จัดการออนไลน์)
หัวไม้ story
[ ทีมข่าวการเมือง ]   ทุกๆ เช้าของวันจันทร์-ศุกร์ ถ้าไม่ใช่วันหยุดนักขัตฤกษ์ ภารกิจของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือเตรียมเดินทางมายังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแห่งเอเชีย (Asia Satellite Television) หรือ เอเอสทีวี ถ.พระอาทิตย์ เพื่อดำเนินรายการ “Good Morning Thailand” รายการเล่าข่าวและวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งเขาจัดเป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-7.00 น. แต่วันนี้ 17 เมษายน เขาไม่ได้จัดรายการ “Good Morning Thailand” เหมือนเคย เพราะถูกลอบยิงเมื่อเวลาราว 5.40 น. ก่อนที่รถของเขาจะมาถึงสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี   000   ที่มา:…
หัวไม้ story
(ทีมข่าวการเมือง)ทีมข่าวการเมือง สัมภาษณ์ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา โดยถามพวกเขาว่า “ออกมาชุมนุมทำไม?” ต่อไปนี้คือคำตอบของพวกเขา 
หัวไม้ story
ห้องพิจารณาคดี 904 หลังสิ้นเสียงคำพิพากษาให้จำคุก 10 ปี...
หัวไม้ story
[ทีมข่าวการเมือง]"พี่สนธิก็เคยคุยกับผมเป็นการส่วนตัวว่าคิดถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยซ้ำ มีโปลิตบูโร หรือคณะกรรมการนโยบายของพรรคที่อาจจะไม่ได้มามีตำแหน่งบริหาร ไม่ได้มามีตำแหน่งทางการเมือง แต่ว่าคุมยุทธศาสตร์ คุมทิศทางพรรค ซึ่งอันนี้น่าสนใจ และคงต้องดูว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน เรายังมีเวลาศึกษาพรรคการเมืองจากหลายประเทศ เพื่อเปรียบเทียบกัน และต้องดูบริบทสังคมไทยด้วย แบบไหนมันเข้ากับสังคมไทย"สุริยะใส กตะศิลา, สัมภาษณ์ใน เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 876, 13 มีนาคม 2552  000 แกนนำพันธมิตรฯ บน “เวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 4” ของพันธมิตรฯ ที่เกาะสมุย เมื่อ 4 มีนาคม 2552…
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง การเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. มีหลายประเด็นจากการเยือนดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับการพูดถึง หลายเรื่องถูกบิดเบือน และผลิตซ้ำ จนกลายเป็นชุดความคิดที่ถูกยอมรับโดยไม่มีการตั้งคำถาม “ประชาไท” ขอนำเสนอเรื่องที่ยังไม่มีการรายงาน เรื่องที่ยังไม่ถูกพูดถึง และเรื่องที่บิดเบือนดังกล่าว ในระหว่างการเยือนอังกฤษของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  1.เปิดต้นทางข่าว “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร”   สื่อมวลชนไทยทุกฉบับพร้อมใจรายงานภารกิจของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ…