Skip to main content

นายยืนยง


สวัสดีปี 2552

ขอสรรพสิ่งแห่งสุนทรียะจงจรรโลงหัวใจท่านผู้อ่านประดุจลมเช้าอันอ่อนหวานที่เชยผ่านเข้ามา


คำพรคงไม่ล่าเกินไปใช่ไหม


ตลอดเวลาที่เขียนบทความใน สวนหนังสือ แห่ง ประชาไท นี้ ความตื่นรู้ ตื่นต่อผัสสะทางวรรณกรรม

ปลุกเร้าให้ฉันออกเสาะหาหนังสือที่มีแรงดึงดูดมาอ่าน และเขียนถึง ขณะเดียวกันหนังสืออันท้าทายเหล่านั้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้วาวโรจน์ขึ้นกับหัวใจอันมักจะห่อเหี่ยวของฉัน


คุณเคยไหม...ที่บางครั้ง

ก็หมดแรง หมดจิตหมดใจกับชีวิตเอาดื้อ ๆ ขอให้ไอ้ความรู้สึกทดถ้อเช่นนี้ อย่าได้เกิดขึ้นกับคุณหรือ

ใครเลย เนื่องจากมันจะเกาะติด ซ่อนตัวอย่างเงียบงันอยู่เพื่อรอคอย สบโอกาสมันจะแผลงฤทธิ์เข้าใส่ทันที เป็นเรื่องทรมานทรกรรมอันแสนว้าเหว่อย่างหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว


เช่นนั้นแล้ว การอ่านหนังสือ เป็นอิริยาบถอันทรงพลัง สำหรับฉันเป็นเครื่องเยียวยาตัวเองอย่างหนึ่ง

สำหรับบางคน เคยเฝ้าสังเกตว่าเขาใช้ผืนดินและกล้าพันธุ์ไม้เพื่อรักษาชีวิตอันอ่อนปวกเปียกของเขา

เขาปลูกกอกุหลาบที่เลื้อยพันกิ่งข่อยผลัดใบเขียวสล้าง วันหนึ่งกุหลาบออกดอกแดงเข้มลึกลับ ระบายกลิ่นหอมเย้ายวนผัสสะ บรรดาไม้ออกดอกของเขาอาจเป็นเครื่องชูเสน่ห์ในชีวิตก็เป็นได้

ไม่รู้ซี ตอนนี้ฉันกำลังคิดถึงอนาคตของวรรณกรรมไทย

วงการหนังสือบ้านเราที่ยังคลานต้วมเตี้ยมเป็นสุกรแห่งโบราณกาล


..2552 คืบหน้าเข้ามาอย่างเฉยชา ไม่ยี่หระต่อวิกฤตใด ๆ ในพันธะทั้งภายนอกและภายใน

หนังสือของนักเขียนไทยประเภทวรรณกรรมมียี่ห้อรางวัลสัพเพเหระจารึกบนปกอย่างโอ่อ่า ขณะเดียวกันมันก็เย้ายวนชวนให้ซื้อไปเก็บไว้ในชั้นหนังสือของหอสมุดประจำเมือง ฉันเคยใช้บริการหอสมุดประชาชนที่มีหนังสือปกรางวัลเรียงเต็มชั้นแน่นเอี้ยดราวกับเป็นหน้ากากแห่งวีรบุรุษที่เพิ่งผ่านสมรภูมิแห่งสงครามการแข่งขัน ใครเล่าจะเป็นผู้ทรยศเพื่อจะกระชากหน้ากากนั้นออกมา


เอาล่ะ เชิญกรอกใบสมัครผู้ทรยศ

ถ้าคุณเต็มใจจะเจ็บปวดกับลูกศรอาบยาพิษที่บรรดาองครักษ์พิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของรางวัลจะโจมตีคุณอย่างไม่ยั้ง ฉันคนหนึ่งล่ะ ที่ทำได้แค่กรอกข้อมูลในใบสมัครบ้าบิ่นอันนั้น แล้วก็แสร้งทำเป็นนิ่งเสียแม้ไม่ได้ตำลึงทอง แกล้งทำเป็นไม่อินังขังขอบเสีย ทำตัวราวกับทารกน้อยในอุทรผู้ไม่รู้ร้อนหนาวกับโลกเพื่อปกป้องตัวเองจากภยันตรายของบาดแผล ลืม ๆ มันไปซะ แกล้งลืมก็ได้ และไม่ต้องพูดถึงมันอีก


และมันก็เกิดขึ้นในขอบข่ายแห่งการเสแสร้งแกล้งไม่เห็นของฉัน

ด้วยการจุดคบเพลิงในดวงตาผู้ทรยศขึ้นท่ามกลางเมฆหมองหม่นมัวในกรงล้อมวรรณกรรมไทย

เมฆหมอกคงค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น ยากที่จะกลั่นตัวเป็นหยาดฝนรดรินลงมา


ดังเช่นการออกแถลงการณ์ของประชาคมวรรณกรรมที่ออกมาเรียกร้องให้สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย และสมาคมอื่นที่เกี่ยวพันกับกรณีการตัดสินรางวัลซีไรต์ประจำปี 2550 ออกมาแสดงจิตวิญญาณอันอาจหาญทระนง ซึ่งปีนั้น เราได้กวีซีไรต์ชื่อมนตรี ศรียงค์ จากผลงานกวีนิพนธ์ โลกในดวงตาข้าพเจ้า สำนักพิมพ์สามัญชนเป็นผู้จัดพิมพ์ โดยบรรณาธิการ เวียง – วชิระ บัวสนธ์


เรื่องมันก็นานมาแล้ว มีใครอยากฟื้นฝอยหาตะเข็บมั่งไหม


ฉันคนหนึ่งล่ะ

อาจเป็นเพราะฉันตกเป็นทาสความบันเทิงที่เกิดจากเจตนาจะถลกหนังซึ่งกันและกันระหว่างตัวแปรค่าความเบี่ยงเบนในวงการวรรณกรรม เป็นไปได้ไหมว่า งานนี้มีขั้วพันธะที่จ้องจะจองล้างจองผลาญกันระหว่าง กลุ่มเพื่อชีวิตกับกลุ่มใหม่ ซึ่งไม่อาจเรียกได้ว่าโมเดริ์นเต็มปากเต็มคำ มีความพยายามจะลดทอนคุณค่าของวรรณกรรมแนวเพื่อชีวิตอันน่าเบื่อหน่ายอิ่มเอียนสุดทนในรสนิยมของบางคน ที่ถ้าลองมีใครเผลอพูดว่า นักเขียนต้องมีบทบาทรับผิดชอบต่อสังคม คงมีการอ้วกอยู่ภายในจิตสำนึกรู้สึกอย่างลับ ๆ บางคนอาจเผลอเหยียดริมฝีปากอย่างหยามหยัน ก่อนกระดกเบียร์ไฮเนเก้นด้วยเจตนาจะค่อนขอดประโยคเร่อร่าและเจ้าของของมัน


แหม ให้ตายเถอะ ท่านนักเขียนวรรณกรรมผู้ทรงเกียรติ ท่านทั้งหลายล้วนเคยประสบพบพานกับประสบการณ์เฉลิมฉลองความระยำตำบอน ความฉ้อฉลของนักการเมืองถ่อย ความโลภโมโทสันต์ของนายทุนหน้าเปี่ยมโลหิต ความร้ายกาจอย่างลึกซึ้งของบรรดาชนชั้นศักดินาผู้กุมกำ.. เพื่อเป็นสันทนาการ เพื่อเป็นต้นทุนในงานเขียนอันพิเลิศพิไลของท่าน แต่เมื่อถึงคราวที่สวะในใจของท่านนักเขียนวรรณกรรมผู้ทรงไว้ซึ่งอุดมคติปลิ้นออกมาซึ่ง ๆ หน้าผู้อ่านที่รักของท่าน ท่านกลับเกิดอาการง่อยรับประทานไปเสียอย่างที่จะตีหน้าซื่อคงไม่ทันการณ์ ใครล่ะจะกล้าควักไส้เน่าของตัวเองเพื่อเป็นทานแก่หนอนคลั่งอาหารเปี่ยมจุลินทรีย์


เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว และวรรณกรรมไทยยังคงยืนหยัดอย่างสง่าผึ่งเผยเป็นภาพของหมู่เมฆหมอกอันหม่นหมองร้าวรานใจ แต่อา... เขาว่า มันเป็นศิลปะ! ศิลปะจงเจริญ

เป็นเพียวอาร์ต

โย่ ๆ เย่ ๆ

กริ๊กกริ๊วน่าดูชม


จะมีใครอยากลองกรอกใบสมัครผู้ทรยศบ้างไหม?


.. 2552 ช่างเป็นปีแห่งความหวั่นกลัวที่กะทันหัน คนงานกลัวถูกตัดหางปล่อยวัดจนประสาทรับประทานสามเวลา ธุรกิจเอสเอ็มอี ขวัญหนีดีฝ่อเมื่อนักประกอบการรายใหม่วาดโครงการจะเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด คอลัมนิสต์ในหนังสือพิมพ์เศรษฐศาสตร์ประจำวันข่มขู่ว่า เราจะจนลงถ้วนหน้า


นี่เราต้องทนความเจ็บปวดอย่างเฉียบพลันเหล่านี้ไปจนกว่าความสดชื่นแห่งชีวิตจะฟื้นคืนชีพเช่นนั้นหรือ แล้วสำนักพิมพ์ผู้ผลิตหนังสือวรรณกรรมเล่า อะไรจะเกิดขึ้นกับธุรกิจในกลิ่นหมึกเจือคาร์บอนเหล่านั้น

งานเขียนที่เกร็งกำไรได้เท่านั้นกระมังที่จะมีโอกาสเฉิดฉายเนื่องจากมันมีราคาค่างวดเขียนตัวเล็กจิ๋วอยู่แถว ๆ บาร์โคด ต่างอย่างสิ้นเชิงจากต้นฉบับที่ถูกปฏิเสธอย่างทรงภูมิและเจือเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาของบรรณาธิการ


แล้วคนอ่านจะคาดหวังอะไรได้ ทางที่ดีอย่างง่ายดายคือ อย่าไปคาดหวังมันเลย


แต่อะไร ๆ ก็พลิกผันได้ไม่ใช่หรือ แม้นในงานศพของคนที่เรารักจะแสนเศร้ารันทดเพียงใด หยาดน้ำตาที่สะท้อนแสงไฟในเพลงสวดศพก็ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างได้


เพราะคุณค่าของหนังสืออยู่ที่มีคนอ่าน ไม่ใช่อยู่ที่ราคาขายบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม

ใครบ้างจะมีโอกาสอ่านหนังสือได้ทุกเล่มที่โหยหา แน่นอน หนังสือในสต๊อกตัณหาของเรา บางเล่มอาจมีอายุยืนยาวเป็นสิบปี บางเล่มเกือบถูกโละไปเสียแล้ว ถ้าไม่บังเอิญไปเจอมันเสียก่อน

ฉันเองก็เพิ่งกำโชคลาภแห่งปีไว้แน่น เนื่องจากได้ประสบพบเจอกับ หนังสือแปลเก่าแก่ สำนวนแปลของ

แคน สังคีต เป็นผลงานของนักเขียนโนเบล ปี ค.. 1988 นาม นากิบ มาห์ฟูซ


นากิบ มาห์ฟูซ เป็นนักประพันธ์ชั้นนำของอาหรับและของโลก เขาเป็นนักเขียนอียิปต์ที่ผลงานได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศมากที่สุดคนหนึ่ง เทียบได้กับทอฟิก เอล ฮากิม การแปลงานของเขาถือเป็นการเสี่ยงอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะภาษาอาหรับโดยทั่วไปจะยากเท่านั้น แต่วิธีการเขียนของมาห์ฟูซยังมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่ท้าทายนักแปล นั่นคือ นักแปลอาจประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้


นี่คือ ส่วนหนึ่งของบทนำ จากนวนิยายเรื่อง เพลงกล่อมผี ที่เขียนโดย เมอซี ซาอัด เอล ดิน

แต่เชื่อไหมว่า แคน สังคีต ผู้แปลเป็นภาษาไทย ได้ทลายปราการแห่งความล้มเหลวลงอย่างไม่แยแส เขาแปลเป็นภาษาไทยเพื่อสื่อสารโลกในห้วงอันเดือดคลั่งเป็นคลื่นมนุษย์ของนากิบ มาห์ฟูซ ออกมาให้สั่นสะเทือนในกล่องดวงใจของจินตนาการแห่งเราให้สว่างไสวขึ้นอีกครั้ง


นั่นล่ะทางออกของความหวัง ฉันอ่าน เพลงกล่อมผี ของ มาห์ฟูซ จนดึกดื่น ขณะลมฤดูหนาวได้รัดรึงความหวังจนสั่นเทิ้มไปด้วย คุณคิดว่าฉันเป็นผู้ทรยศประเภทไหน.

 

 

บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
 ‘ นายยืนยง ’ ชื่อหนังสือประเภทจัดพิมพ์โดยพิมพ์ครั้งที่ ๑ผู้เขียน ผู้แปล  : ::::::เดวิด หนีสุดชีวิต   ( I am David )วรรณกรรมแปล   /  นวนิยายเดนมาร์ก สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์ทีนกันยายน   พ.ศ.๒๕๔๙Anne Holmอัจฉรัตน์  ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของโลกในสภาวะต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจและธรรมชาติ มนุษยชาติต่างผ่านพ้นมาแล้วซึ่งวิกฤตนานัปการ แม้แต่ในนามของสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ผงฝุ่นแห่งความทรงจำเลวร้ายทั้งมวล เหมือนได้ล่องลอยไปตกตะกอนอยู่ภายในใจผู้คน ครอบคลุมแทบทุกแนวเส้นละติจูด แม้นเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเพียงไร แต่ตะกอนนั้นกลับยังคงอยู่ โดยเฉพาะในงานวรรณกรรม เดวิด…
สวนหนังสือ
โดย ‘นายยืนยง’ ชื่อหนังสือ      :    ภาพเหมือน  ( The Portrait ) ประเภท    :        วรรณกรรมแปล จัดพิมพ์โดย    :    สำนักพิมพ์ คมบาง พิมพ์ครั้งที่ ๑    :    ตุลาคม ๒๕๔๔ ผู้เขียน        :    นิโคไล  โกโกล ผู้แปล        :    ดลสิทธิ์  บางคมบาง    จากต้นฉบับภาษาอังกฤษของ  CHRISTOPHER  ENGLISH …
สวนหนังสือ
โดย ‘นายยืนยง’ชื่อหนังสือ :    ไตร่ตรองมองหลักประเภท :                บทความพุทธปรัชญา     จัดพิมพ์โดย :    สำนักพิมพ์ศยามพิมพ์ครั้งที่ ๒ :    กันยายน  พ.ศ. ๒๕๔๓  :  แก้ไขปรับปรุงผู้เขียน :    เขมานันทะบรรณาธิการ :    นิพัทธ์พร  เพ็งแก้ว ในกระแสนิยมปัจจุบัน  แม้พุทธศาสนาจะอยู่ในรูปสภาพที่เป็นกิจการค้าความเชื่อมากมายเพียงไร  และคงไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะมีตรายี่ห้อใดบ้าง …
สวนหนังสือ
โดย นายยืนยงเรื่อง สายรุ้ง รุ่งเยือน    สำนักพิมพ์  เคล็ดไทยผู้แต่ง ณรงค์ยุทธ  โคตรคำ ประเภท กวีนิพนธ์ฟ้าครึ้มอยู่อย่างนี้สักสองสามวันได้ เมฆขมุกขมัวเกาะกันเคว้งคว้าง พากันลอยล่องไปตามแรงลม   …ลมเย็นต้องผิวเนื้อสัมผัส รู้สึกได้ถึงลมหนาวอันสะท้านใจ  โอหนอ... ลมหนาวแรกของปลายมิถุนายน  โอหนอ... กวีนิพนธ์ถ้าเอ่ยชื่อ ณรงค์ยุทธ โคตรคำ กับลมหนาวแสนประหลาดของเดือนมิถุนายน  ชื่อนี้คงไม่คุ้นหู ไม่ว่าในกลุ่มแขนงใด ๆ แต่การที่หนังสือกวีนิพนธ์ ชื่อ สายรุ้ง รุ่งเยือน มีประโยคเปิดหน้าปกว่า  รวมบทกวีคัดสรรเล่มแรกของ ณรงค์ยุทธ โคตรคำ นั้น …