Skip to main content

นายยืนยง


ชื่อหนังสือ : เด็กบินได้

ผู้เขียน : ศรีดาวเรือง

ประเภท : นวนิยายขนาดสั้น พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2532

จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์กำแพง


มาอีกแล้ว วรรณกรรมเพื่อชีวิต เขียนถึงบ่อยเหลือเกิน ชื่นชม ตำหนิติเตียนกันไม่เว้นวาย นี่ฉันจะจมอยู่กับปลักเพื่อชีวิตไปอีกกี่ทศวรรษ


อันที่จริง เพื่อชีวิต ไม่ใช่ “ปลัก” ในความหมายที่เราชอบกล่าวถึงในแง่ของการย่ำวนอยู่ที่เดิมแบบไร้วัฒนาการไม่ใช่หรือ เพื่อชีวิตเองก็เติบโตมาพร้อมพัฒนาการทางสังคม ปลิดขั้วมาจากวรรณกรรมศักดินาชน เรื่องรักฉันท์หนุ่มสาว เรื่องบันเทิงเริงรมย์ เราต้องขอบคุณวรรณกรรมเพื่อชีวิตด้วยซ้ำไปที่สอนให้สังคมตระหนักว่าประเทศไทยไม่ใช่กรุงเทพมหานคร และมหานครกรุงเทพก็ไม่ใช่วิมานลอยฟ้า ติดแอร์เย็นฉ่ำตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง


เมื่อผู้คน สังคม บริบทต่าง ๆ มีวิวัฒนาการ วรรณกรรมก็เช่นกัน แต่การวิวัฒน์ของวรรณกรรมก็ไม่ควรมองข้ามรากเหง้าของตัวเอง ไม่ใช่สักแต่จะรับออเดอร์มาจากวรรณกรรมแปลเพื่อยักย้ายถ่ายเทแนวคิดมาประกอบขึ้นเป็นวรรณกรรมร่วมสมัยแบบไทย ๆ ถ้าไม่มีคำพูน บุญทวี, ลาว คำหอม, นิคม รายยวา, ศรีดาวเรือง, ชาติ กอบจิตติ จำลอง ฝั่งชลจิตร, ไพฑูรย์ ธัญญา, ประมวล มณีโรจน์, ขจรฤทธิ์ รักษา, ภิญโญ ศรีจำลอง, พนม นันทพฤกษ์, อัตถากร บำรุง , กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ หัวขบวนเพื่อชีวิตจากสองทศวรรษที่แล้วและอีกหลายชื่อนามที่ขนานอยู่บนเส้นทางวรรณกรรมเพื่อชีวิต ไฉนเลยจะมีนักเขียนสามัญชนเฉกเช่นทุกวันนี้ ไม่แน่ว่าถ้าไร้ซึ่งเพื่อชีวิตในยุคก่อนหน้า เราอาจรู้จักนักเขียนเพียงในนามของ หม่อมหลวง หม่อมราชวงศ์ ท่านนั้นท่านนี้ก็เป็นได้


ในขอบข่ายของวรรณกรรมเพื่อชีวิตนั้น มุ่งเน้นสะท้อนภาพชีวิตคนด้อยโอกาส เสนอหรือฟ้องร้องปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคม ชี้นำ บอกกล่าว ตำหนิติเตียน และเสนอทางออกให้ ภายใต้เงื่อนไขของความเสมอภาคระหว่างชนชั้นในสังคม แต่ทุกวันนี้เจตนารมณ์แบบเพื่อชีวิตถูกแทนที่ด้วยรายการโทรทัศน์ซึ่งมีทั้งภาพเสียงและใบหน้าที่แท้จริงของชาวบ้านไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้วรรณกรรมเพื่อชีวิตจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร แต่เชื่อเถอะว่า ทีวีไม่ใช่โลก และแม้วรรณกรรมก็ไม่ใช่โลกเหมือนกัน แต่โลกของวรรณกรรมมีมากกว่าภาพและเสียงแน่นอน


วรรณกรรมเพื่อชีวิตก็มีจุดอ่อนตรงที่นักเขียนพยายามจะ “เทศนาโวหาร” เพื่อชี้ทางสว่างให้ ขณะที่ตัวนักเขียนใช้โวหารแบบสั่งสอนตักเตือนในงานเขียนแล้ว หากผู้เทศน์ไม่บำเพ็ญชีวิตตามตรรกะที่เทศน์ไฉนเลยผู้ฟังจะดำเนินตาม เหมือนครูเป็นแอลกอฮอลิสซึ่มสอนนักเรียนให้งดเว้นสุรายาเมา คล้ายกับที่บรรณาธิการสุชาติ สวัสดิ์ศรี เคยท้วงติงนักเขียนเรื่องอย่าเทศนาในสิ่งที่ตนเองไม่เชื่อ อีกอย่างหนึ่ง หากนักเขียนวรรณกรรมเพื่อชีวิตเอาได้เอาดีแต่เขียนถึงปัญหา โดยไม่ลงแรงเข้าร่วมคลุกอยู่กับปัญหา หนำซ้ำยังสวมบทนายทุนหน้าเลือด งานเขียนย่อมมีอันต้องเสื่อมไป นักเขียนที่ตระหนักว่าไม่อาจทรยศกับหลักการของตัวเองได้จึงต้องหันหน้าเข้าสู่กระบวนการสร้างสรรค์ ต่อยอดให้งานเขียนแตกผลิ ต่อยอด โดยอาศัยเครื่องมือซึ่งนักเขียนพึงมีบรรเลงลงไปในระนาบของเพื่อชีวิตหรือก้าวออกไปสู่การทดลองหากลวิธีการเขียนอื่น ในแนวทางอื่น ดังผลงานของวินทร์ เลียววารินทร์ ซึ่งย่อมหลีกเลี่ยงทักษะที่ได้เค้าลางมาจากวรรณกรรมแปล


แน่นอนนี่ไม่ใช่ความผิดของนักเขียน ในอีกแง่หนึ่ง ยังมีนักเขียนที่พยายามคิดสร้างผลิตผลทางวรรณกรรมให้งอกงามขึ้นภายในขอบข่ายของเพื่อชีวิตอีกมากมาย และหากใครใคร่จะศึกษา ฉันขอเสนอผลงานของนักเขียนหญิงนาม ศรีดาวเรือง ที่ทำงานเขียนอย่างต่อเนื่องร่วมห้าสิบปีแล้ว และศรีดาวเรืองคนนี้เองที่มีผลงานเรื่องสั้น คนดายหญ้า ซึ่งได้รับคัดเลือกให้ตีพิมพ์ในหนังสือการอ่านงานประพันธ์เฉพาะเรื่องของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.. 2526 และฉันในขณะเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้เลือกวิชาการอ่านงานประพันธ์เฉพาะเรื่องเป็นวิชาเลือกเสรี ทั้งที่ไม่เคยพิสมัยวิชาภาษาไทยซักกะติ้ด แต่เมื่อได้อ่านเรื่องสั้น คนดายหญ้า โดยเฉพาะประโยคที่สำแดงให้เห็นถึงความด้อยโอกาส ความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ ตอนที่คนดายหญ้ากำลังถางป่าในฤดูหนาว ผู้คนเดินผ่านไปมาและสนทนาปราศรัยต่อกันในบรรยากาศของการทำงาน เขารู้สึกหนาวเยือกและแสบคันตามเนื้อตัว โดยเฉพาะเมื่อถูกเรียวหญ้าบาดเนื้อ มันยิ่งแสบ ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างเขาบ้างไหม

 

 ฉันจำได้ไม่ละเอียดนักว่าศรีดาวเรืองเขียนไว้อย่างไร แต่ความรู้สึกของตัวละครทำเอาฉันในวัยนั้นขนลุก และตระหนักได้ในตอนนั้นว่า ฉันจะเป็นนักเขียนอย่างศรีดาวเรืองให้ได้ แล้วก็ซักซ้อมตั้งนามปากกาให้ตัวเองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่แล้วความฝันในวัยเยาว์นั้นก็ค่อยเลือนรางไปเรื่อย ๆ โดยแนวคิดแบบเพื่อชีวิตยังคงเกาะกุมอยู่ในหัวใจไม่เสื่อมคลาย


คราวนี้ฉันเลือกนวนิยายขนาดสั้นชื่อ เด็กบินได้ มาอ่าน และจะเล่าให้ฟังว่าศรีดาวเรืองเป็นนักเขียนหญิงแนวเพื่อชีวิตที่ไม่เคยหยุดบำรุงอุดมคติของตัวเองอย่างไร เธอทำให้เพื่อชีวิตเดินดิน เช่าบ้าน กินข้าวแกง ถูกเอารัดเอาเปรียบกลายเป็นเพื่อชีวิตบินได้อย่างไร จากนวนิยายเล่มเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึงนักเล่มนี้


ขั้นแรก เด็กบินได้ เขียนขึ้นด้วยภาษาตามแบบฉบับของเรื่องสั้นที่ใช้คำกระชับ เป็นประโยคสั้น ๆ

ไม่เยิ่นเย้อเฟ้อเฝือแต่อย่างใดเลย ขณะเดียวกันสำนวนภาษาอย่างนี้อาจทำให้รู้สึกถึงความแห้งแล้งไปบ้าง บางทีก็ทำให้นึกถึงงานเขียนเชิงสารคดี แต่ภาพชีวิตที่ผุดขึ้นจากภาษาก่อให้เกิดภาพพจน์ที่ชัดเจน อันเป็นหัวใจของวรรณกรรมทีเดียว สิ่งหนึ่งที่โดดขึ้นมาจากระนาบของภาษา คือ น้ำเสียงของนักเขียน


กล่าวได้ว่าศรีดาวเรืองเป็นนักเขียนที่มีน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำที่สุดคนหนึ่ง นอกจากเสียงแบบจริงจัง จริงใจและซื่อสัตย์แล้ว เธอยังไม่ดัดจริต โดยเฉพาะกับเรื่องเด็กบินได้เล่มนี้ที่เขียนด้วยน้ำเสียงของคำฟ้องร้องจากผู้ถูกกระทำในชุมนุมริมคลองเปรมประชา ที่มีทั้งเด็ก ๆ กับผู้ปกครองหาเช้ากินค่ำ เพราะเหตุที่ผู้ถูกกระทำบรรดามีสังคมโลกล้วนเป็นเผ่าพันธุ์ที่บ่มเพาะนิสัยฝืนอดฝืนทนมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เล็กน้อยก็กัดฟันทนกันไป ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ก้มหน้าเก็บกินชะตากรรมขมขื่นกันไป ความใฝ่ฝันของพวกเขา ทุกข์ร้อนของพวกเขาจึงไม่เปราะบางเหมือนกับชนชั้นกลาง แต่เมื่อศรีดาวเรืองนำ “ความ” นี้มาเขียนในรูปแบบของนวนิยาย ตำแหน่งการจัดวางองค์ประกอบทางอารมณ์ของตัวละคร จึงสามารถสร้างความสะเทือนใจต่อผู้อ่าน และโน้มน้าวใจให้ตระหนักถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคมในภาคส่วนต่าง ๆ

ยกตัวอย่างในตอนที่บรรยายว่า


บางคนพอมีฐานะซื้อหาสิ่งของต่าง ๆ เพื่อการศึกษาให้ลูกหลานได้ แต่บางฐานะก็จนใจเพราะปัญหาตำราเรียนไม่เคยแน่นอน หนังสือพิมพ์เคยโวยวายตำหนิรัฐบาล รัฐบาลก็เลยโวยวายผู้พิมพ์ ผู้พิมพ์ก็ไปโวยวายตำหนินโยบายกระทรวง

ตาสียายสาคอยฟัง...


ย่อหน้าที่จงใจเขียนเพื่อแสดงออกถึงภาพสะท้อนกลับไปกลับมาของแต่ละฝ่ายโดยที่ปัญหาต่าง ๆ ไม่เคยถูกแก้ไขอย่างจริงจังเช่นนี้ปรากฏอยู่เป็นระยะตลอดทั้งเรื่อง ราวกับเป็นถ้อยแถลงของศรีดาวเรืองที่ต้องการสำแดงให้ผู้อ่านร่วมตระหนักในปัญหาที่แท้จริงว่า ปัญหาของไอ้เรื่องเจ้าปัญหาทั้งมวลนั้นมันอยู่ที่ไม่มีใครคิดหาทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังต่างหาก ฉะนั้นปัญหาจึงตกหนักอยู่ที่ “ตาสีตาสา” ซึ่งมีหน้าที่อย่างเดียวคือสดับตรับฟัง


ศรีดาวเรืองหยิบยกเอาเรื่องที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นต้นตอของปัญหาสังคมมากล่าวถึงในเรื่องนี้ โดยเน้นย้ำเรื่องของการศึกษา เธอเปิดประเด็นนี้ไว้เป็นหัวใจหลักของเรื่อง ปัญหาใหญ่คือ โรงเรียนใกล้เปิดเทอม


เด็ก ๆ ลูกชาวบ้านหาเช้ากินค่ำ ซึ่งล้วนต้องเช่าที่ดินปลูกบ้าน และล้วนมีลูกเล็กเด็กแดงในวัยถึงเกณฑ์เข้าโรงเรียนประถมศึกษา


ตอน 2 เพื่อนบ้าน เริ่มต้นด้วย

พฤษภา..พฤษภาหน้าฝน..เด็ก ๆ ทุกคนต้องไปโรงเรียน


พฤษภา..เดือนแห่งการเตรียมประชากรให้มีคุณภาพ เหล่าดรุณีดรุณาล้วนเริงร่าราวดอกผลผลิสะพรั่งบนกิ่งก้านแห่งความสำเร็จและล้มเหลวที่จะบังเกิดขึ้นต่อไปเมื่อชีวิตของพวกเขาเติบใหญ่


...เรื่องอาหารกลางวันของเด็กยากจนนะคะ ครูประจำชั้นจะเป็นผู้สังเกตดูก่อน นักเรียนคนไหนหน้าตาซีดเซียว ค้นในตัวดูแล้วว่าไม่มีเงินจริง ทางเราจึงจะทำเรื่องไปให้กินมื้อกลางวันฟรี..” ครูพูดในที่ประชุมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันกับผู้ปกครอง


ตอนท้าย “ใครไม่เข้าใจอะไร ถามได้นะคะ”

ผู้ปกครองคนหนึ่งใจกล้า “แล้วข่าวที่ว่าจะแจกหนังสือกับเครื่องแต่งตัวเด็กไม่มีเหรอครับ”

ครูใหญ่สาวใหญ่สีหน้าเปลี่ยน “คุณไปเอาข่าวนี้มาจากไหนคะ”

หนังสือพิมพ์เขาบอกครับ”

อ้าว..งั้นก็ไปเอากับหนังสือพิมพ์ซีคะ ที่นี่ไม่มีหรอกค่ะ คนยากจนตั้งมากมาย รัฐบาลจะคอยช่วยอยู่ได้ยังไงคะ ก่อนอื่นเราต้องพยายามช่วยตัวเราเองก่อนซีคะ”

ปิดการประชุม

นี่เป็นบางส่วนที่ปรากฏขึ้นในนวนิยายเรื่องนี้ ก่อนที่สะเก็ดของปัญหาจะเลือนหายไปกับวันเวลาแห่งการหาเช้ากินค่ำของตัวละคร ศรีดาวเรืองได้สร้างตัวละครอย่าง “สุจริต” สาววัยสามสิบต้น ๆ เติมเข้ามาเพื่อร่วมตั้งข้อสังเกตในปมปัญหานี้ พร้อมกันนั้นสุจริตยังได้ยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ทางการศึกษาของเด็ก ๆ ที่นี่โดยเปิดโรงเรียน “เถื่อน” สอนเด็ก ๆ ไปพร้อมโรงเรียนของรัฐบาล มีศิษย์เอกก้นกุฎิชื่อว่าเด็กชายแก้น ผู้ตอบคำถามยอดฮิตของพวกผู้ใหญ่ว่าโตขึ้นอยากเป็นลูกศิษย์วัด ด้วยเหตุผล “ได้กินขนมซำบายเลย” หรือเด็กผู้หญิงอย่างมด ที่ตอบว่า “ยังไม่รู้เลยน้า..บางทีคงไปเป็นกรรมกร” แต่เมื่ออาชญากรตัวจริงเสียงจริงประจำวรรณกรรมเพื่อชีวิตเดินทางมาถึงชุมนุมริมคลองเปรมประชาแห่งนี้ แก้นก็เฉลยความในใจกับสุจริตว่า “น้า..โตขึ้นหนูว่าหนูเป็นคนขับรถแทร็คเต้อร์ดีกว่า” ใช่แล้ว อาชญากรตัวจริงมีชื่อจริงว่า

ไอ้แทร็คเต้อร์นั่นเอง


เป็นที่รู้จักมักคุ้นกันดีในวรรณกรรมเพื่อชีวิตว่าแทร็คเต้อร์รับบทเป็นอะไร และมันมาพร้อมกับหายนะเท่านั้น

มันทำให้บรรดาแม่ผู้หาเช้ากินค่ำย่ำตรอกทั้งหลายของเด็ก ๆ ต้องลางานเพื่อหาบ้านเช่าหลังใหม่


หน้า 86

รถแทร็คเต้อร์ที่เข้ามาก่อความสั่นสะเทือนนั้น สุจริตรุ้ว่ามันมิได้สั่นสะเทือนแต่เพียงแค่ตัวบ้าน หากมันยังเขย่าไปถึงความคุ้นชินและรากเหง้าของผู้คนที่หยั่งลงลึกให้หักโค่นลงมาด้วย


ศรีดาวเรืองไม่ได้สร้างเรื่องให้เป็นเพียงโศกนาฏกรรมที่เราต่างคุ้นเคยจนชินชาในแบบของวรรณกรรมเพื่อชีวิตเท่านั้น แต่เธอได้สร้างบรรยากาศให้เลือนลางเหมือนกับทุกปัญหาที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจทั้งหลายและพร้อมจะจางหายไปจากสังคมการรับรู้ โดยอาศัยเครื่องมือแสนสามัญเข้ามาปรุงแต่งนั่นคือ เพลงและการละเล่นเด็ก ๆ ซึ่งสอดคล้องกลมกลืนไปกับตัวละครในเรื่อง


เด็กก็คือเด็ก.. พวกเขายังไม่รู้จักความเป็นไปในทางร้ายของชีวิต เอาละ..เติมสระให้ครบก่อนทุกตัวก็แล้วกัน แล้วต่อไปพวกเขาคงสะกดคำว่า “ชีวิต” กันได้เอง

น้าเล่นงูกินหางนะ” เด็ก ๆ เตือนเพราะเห็นสุจริตซึมเซา

ตกลง” เธอตอบเรื่อย ๆ


เกมก็คือเกม.. ถ้ารู้จักวิธี “เล่น” คนเราคงยึดกุมเกมชีวิตได้

แน่ละ.. ตอนนี้เด็ก ๆ ต่างรู้กติกาของ “งูกินหาง” ได้ดีโดยไม่ต้องบอก พวกเขาแบ่งจำนวนออกเป็นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายเกาะเอวกันเป็นหาง มีหัวมีหาง มองดูแล้วเหมือนหัวและหางแห่งชะตากรรมที่ยังไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าใครจะตกเป็นเหยื่อ

แน่นอน.. จะต้องมีคนเป็นเหยื่อ


ขณะพวกผู้ใหญ่ต่างปริวิตกอยู่กับเรื่องการไล่ที่ ปัญหาใหญ่ที่รุกล้ำเสรีภาพแห่งชีวิต พวกเด็ก ๆ กลับเริงร่าสนุกสนานตามประสา หยอกล้อกันตามประสา ศรีดาวเรืองจบนวนิยายเรื่องนี้ไว้ที่บทกวีสั้น ๆ บทหนึ่ง


ไทยอะไร

ไทยเด็ก

เด็กอะไร

เด็กบิน

บินอะไร

บินได้

ได้อะไร

ได้..


และเป็นที่น่าสังเกตว่าศรีดาวเรืองเลือกใช้ประโยคสั้น ๆ หรือวลี เหมือนเป็นบทกวีเติมเข้ามาในเรื่องอยู่เนือง ๆ แทนบทบรรยายตามขนบของเรื่องแนวเพื่อชีวิต เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและอาจเพื่อชุบสีสันใหม่ให้เนื้อหา เป็นสีของอิสรภาพที่ฉันขอเรียกว่า บินของเพื่อชีวิต ยกตัวอย่าง

หน้า 25

-ของกูรองเท้าใหม่โว้ย แม่กูซื้อให้

-ของกูก็มี สวยกว่ามึงด้วย

-ไม่มีทาง แม่มึงเป็นลูกจ้างเขา ไม่มีทางซื้อได้หรอก

-แล้วเป็นลูกจ้างหนักหัวมึงเหรอ...

 

หรือตอนที่ 2 หน้า 27

บนเส้นทางที่สีสันแห่งวัยถูกกำหนด...กฎเกณฑ์

กากี

ขาว

ดำ

แดง

น้ำเงิน

สีอื่น ๆ มีแทรกแซม..แล้วแต่สัญลักษณ์และกำลังเงิน

สีสันทั้งมวลเดินเป็นแถวยืดยาว เป็นกลุ่มเป็นก้อน..กระจัดกระจาย

ตามถนน

บนคันนา

ตามฝั่งคลอง

สีสันแห่งวัยกำลังเริ่มต้น


กระบวนการเขียนเช่นนี้ถือว่าเป็นวิวัฒนาการของวรรณกรรมเพื่อชีวิตที่เติบโตขึ้นพร้อมกับสังคม

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเชยในแบบเดิม ๆ นักเขียนย่อมต้องพลิกแพลงด้วยกลวิธีอย่างใดอย่างหนึ่ง ถือเป็นความงอกงามขึ้นของวรรณกรรมไทย.

 

 

บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
 ชื่อหนังสือ : เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการ ผู้เขียน : ประไพ วิเศษธานี จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ทะเลหญ้า พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2536 ไปเจอหนังสือเก่าสภาพดีเล่มหนึ่งเข้าที่ตลาดนัดหนังสือใกล้บ้าน เป็นความถูกใจที่วิเศษสุด เนื่องจากเป็นหนังสือที่คิดว่าหายากแล้ว ไม่เท่านั้นเนื้อหายังเป็นตำราทางการประพันธ์ เหมาะทั้งคนที่เป็นนักเขียนและนักอ่าน นำมาตัดทอนให้อ่านสนุก ๆ เผื่อว่าจะได้ใช้ในคราวบังเอิญ เคล็ดกลอน เคล็ดแห่งอหังการเล่มนี้ ผู้เขียนใช้นามปากกา ประไพ วิเศษธานี ซึ่งไม่เป็นที่คุ้นสักเท่าไร แต่หากบอกว่านามปากกานี้เป็นอีกสมัญญาหนึ่งของนายผี อัศนี พลจันทร ล่ะก็…
สวนหนังสือ
นายยืนยง    ชื่อหนังสือ : อาถรรพ์แห่งพงไพร ผู้เขียน : ดอกเกด ผู้แปล : ศรีสุดา ชมพันธุ์ ประเภท : นวนิยายรางวัลซีไรต์ พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2549 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์เสมสิกขาลัย กลับบ้านสวนคราวที่แล้ว ตู้หนังสือยังคงสภาพเดิม ละอองฝุ่นเหมือนได้ห่อหุ้มมันให้พ้นจากสายตาผู้คน ไม่ก็ผู้คนเองต่างหากเล่าที่ห่อหุ้มตัวเองให้พ้นจากหนังสือ นอกจากตู้หนังสือที่เงียบเหงาแล้ว รู้สึกมีสมาชิกใหม่มาเข้าร่วมขบวนความเหงาอีกสามสิบกว่าเล่ม น่าจะเป็นของน้องสาวที่ขนเอามาฝากไว้ ฉันจึงจัดเรียงมันใหม่ในตู้ใบเล็กที่วางอยู่ข้างกัน ดูเป็นบ้านที่หนังสือเข้าครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : เจ้าหญิงน้อย (A Little Princess) ผู้เขียน : ฟรานเซส ฮอดจ์สัน เบอร์เน็ตต์ (Frances Hodgson Burnett) ผู้แปล : เนื่องน้อย ศรัทธา ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งที่ 3 กรกฎาคม 2545 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน ปีกลายที่ผ่านมา มีหนังสือขายดีติดอันดับเล่มหนึ่งที่สร้างกระแสให้เกิดการเขียนหนังสืออธิบาย เพื่อตอบสนองความสนใจผู้อ่านต่อเนื่องอีกหลายเล่ม ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิเคราะห์เอย ด้านมายาจิตเอย ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องความคิดเป็นจริงเป็นจัง หนังสือเล่มดังกล่าวนั่นคงไม่เกินเลยความคาดหมาย มันคือ เดอะซีเคร็ต ใครเคยอ่านบ้าง?…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ผู้เขียน : เรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์ ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 สิงหาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ในดวงใจ ชวนอ่านเรื่องสั้นมหัศจรรย์ ปลายกันยายนจนถึงต้นเดือนตุลาคมปีนี้ ข่าวสารที่ได้รับค่อนไปทางรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วโลก ทั้งตลาดเงิน ตลาดทุน หุ้นร่วงรูดเป็นประวัติการณ์ ชวนให้บรรดานักเก็งกำไรอกสั่นขวัญแขวน ไม่กี่วันจากนั้น รัฐบาลที่นำโดย นายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงค์สวัสดิ์ ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งได้ไม่กี่วัน ก็ได้ใช้อำนาจทำร้ายประชาชนอย่างไร้ยางอาย ตลอดวันที่ 7 ตุลาคม 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง นวนิยายเรื่อง : บ้านก้านมะยม สำนักพิมพ์ : นิลุบล ผู้แต่ง : ประภัสสร เสวิกุล อาขยาน เป็นบทท่องจำที่เด็กวัยประถมล้วนมีประสบการณ์ในการท่องจนเสียงแหบแห้งมาบ้างแล้ว ทุกครั้งที่แว่วเสียง ... แมวเอ๋ยแมวเหมียว รูปร่างประเปรียวเป็นนักหนา หรือ มานี มานะ จะปะกระทะ มะระ อะไร จะไป จะดู หรือ บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วนจำจงดี ฯลฯ เมื่อนั้น..ความรู้สึกจากอดีตเหมือนได้ลอยอ้อยอิ่งออกมาจากความทรงจำ ช่างเป็นภาพแสนอบอุ่น ทั้งรอยยิ้มและไม้เรียวของคุณครู ทั้งเสียงหัวเราะและเสียงกระซิบกระซาบจากเพื่อน ๆ ตัวน้อยในวัยเยาว์ของเรา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ทั้งโลกเป็นเช่นนี้ ผู้เขียน : ชมัยภร แสงกระจ่าง ประเภท : รวมเรื่องสั้น พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2551 จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ คมบาง เมื่อคืนพายุฝนสาดซัดเข้ามาทั่วทิศทาง กระหน่ำเม็ดราวเป็นคืนแห่งวาตะภัย มันเริ่มตั้งแต่หกทุ่มเศษ และโหมเข้า สาดเข้า ถ้าเป็นหลังคาสังกะสี ฉันคงเจ็บปางตายเพราะฝนเม็ดหนานัก มันพุ่งแรงเหลือเกิน ต่อเนื่องและเยือกฉ่ำ ฉันลุกขึ้นมาเปิดไฟ เผชิญกับความกลัวที่ว่าบ้านจะพังไหม? ตัดเรือน เสา ที่เป็นไม้ (เก่า) ฐานรากที่แช่อยู่ในดินชุ่มฉ่ำ โถ..บ้านชราภาพจะทนทานไปได้กี่น้ำ นั่งอยู่ข้างบนก็รู้หรอกว่า ที่ใต้ถุนนั่น น้ำคงเนืองนอง…
สวนหนังสือ
 นายยืนยง  ชื่อหนังสือ : มาลัยสามชาย ผู้เขียน : ว.วินิจฉัยกุล ประเภท : นวนิยาย พิมพ์ครั้งที่ 1 กรกฎาคม 2550 จัดพิมพ์โดย : บริษัท ศรีสารา จำกัด หนังสือที่ได้รับรางวัลดีเด่นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จะส่งผลกระทบหรือสะท้อนนัยยะใดบ้าง เป็นเรื่องที่น่าจับตาอีกเรื่องหนึ่ง แม้รางวัลจะประกาศนานแล้ว แต่เนื้อหาในนวนิยายจะยังคงอยู่กับผู้อ่าน เพราะหนังสือรางวัลทั้งหลายมีผลพวงต่อยอดขายที่กระตือรือร้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเภทวรรณกรรม เรื่องสั้น นวนิยาย กวีนิพนธ์ โดยในปีนี้ นวนิยายเรื่อง มาลัยสามชาย ผลงานของ ว.วินิจฉัยกุล ได้รับรางวัลดีเด่น ประจำปี 2551…
สวนหนังสือ
นายยืนยง        ชื่อหนังสือ : อาหารรสวิเศษของคนโบราณ      ผู้เขียน : ประยูร อุลุชาฎะ      ฉบับปรับปรุง : กันยายน 2542      จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์แสงแดดใครที่เคยแก่อายุเข้าแล้ว พออากาศไม่เหมาะก็กินอะไรไม่ถูกปาก ลิ้นไม่ทำหน้าที่ซึมซับรสอันโอชาเสียแล้ว อาหารจึงกลายเป็นเรื่องยากประจำวันทีเดียว ไม่เหมือนเด็ก ๆ หรือคนวัยกำลังกินกำลังนอน ที่กินอะไรก็เอร็ดอร่อยไปหมด จนน่าอิจฉา คราวนี้จะพึ่งแม่ครัวประจำตัวก็ไม่เป็นผลแล้ว ต้องหาของแปลกลิ้นมาชุบชูชีวิตชีวาให้กลับคืนมา…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : แม่ใหม่ที่รัก ( Sarah, Plain and Tall ) ผู้เขียน : แพทริเซีย แมคลาแคลน ผู้แปล : เพชรรัตน์ ประเภท : วรรณกรรมเยาวชน พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม 2544 จัดพิมพ์โดย : แพรวเยาวชน หากใครเคยพยายามบ่มเพาะให้เด็กมีนิสัยรักหนังสือ รักการอ่าน ย่อมเคยประสบคำถามจากเด็ก ๆ ของท่านทำนองว่า หนังสือจำเป็นกับชีวิตมากปานนั้นหรือ? เราจะตายไหมถ้าไม่อ่านหนังสือ? หรือเราจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยที่ไม่อ่านหนังสือจะได้ไหม? กระทั่งบ่อยครั้งผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ ก็อาจหาคำตอบที่สมเหตุสมผลมาตอบอย่างซื่อสัตย์ได้ไม่ง่ายนัก เป็นที่แน่นอนอยู่ว่า ผู้ใหญ่บางคนมีคำตอบในใจอยู่แล้ว ต่างแต่ว่า…
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : ก่อนเริ่มโรงเรียนวิชาหนังสือ (สูจิบัตรในงาน ‘หนังสือ ก่อนและหลังเป็นหนังสือ’ ) จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์ผีเสื้อ สัปดาห์ก่อนไปมีปัญหาเรื่องซื้อหนังสือกับพนักงานขายของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ด้วยเพราะหนังสือที่จะซื้อมีราคาไม่เป็นจำนวนถ้วน คือ ราคาขายมีเศษสตางค์ เป็นเงิน 19.50 บาท เครื่องคิดราคาไม่ยอมขายให้เรา ทำเอาพนักงานวิ่งถามหัวหน้ากันจ้าละหวั่น ต้องรอหัวหน้าใหญ่เขามาแก้ไขราคาให้เป็น 20.00 บาทถ้วน เครื่องคิดราคาจึงยอมขายให้เรา เออ..อย่างนี้ก็มีด้วย เดี๋ยวนี้เศษสตางค์มันไร้ค่าจนเป็นแค่สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์เท่านั้นเอง หนังสือเล่มดังกล่าวนั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง     ชื่อหนังสือ : ช่อการะเกด 45 (กรกฎาคม – กันยายน 2551) ประเภท : นิตยสารเรื่องสั้นและวรรณกรรมรายสามเดือน บรรณาธิการ : สุชาติ สวัสดิ์ศรี จัดพิมพ์โดย : พิมพ์บูรพา ใครที่เคยติดตามอ่านช่อการะเกด นิตยสารเรื่องสั้นรายไตรมาส เล่มเดียวในประเทศไทยในขณะนี้ ย่อมมีใจรักในงานเขียนเรื่องสั้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าผลงานเรื่องสั้นที่ปรากฏ “ผ่านเกิด” ภายใต้รสนิยมบรรณาธิการนาม สุชาติ สวัสดิ์ศรี นั้นจะต้องรสนิยมคนชื่นชอบเรื่องสั้นมากน้อยเพียงใด ก็ไม่ค่อยปรากฏกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์แต่อย่างใดเลย ทั้งที่ตอนประชาสัมพันธ์เปิดรับต้นฉบับเรื่องสั้น…
สวนหนังสือ
นายยืนยง วันที่ 8 กรกฎาคม 2551 คณะกรรมการคัดเลือกรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ได้พิจารณาคัดเลือกหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ส่งประกวด ประจำปี 2551 จำนวน 76 เล่ม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เสนอหนังสือรวมเรื่องสั้น 9 เล่ม ดังนี้   1.ข่าวการหายไปของอาริญาและเรื่องราวอื่น ๆ ของ ศิริวร แก้วกาญจน์ 2.เคหวัตถุ ของ อนุสรณ์ ติปยานนท์ 3.ตามหาชั่วชีวิต ของ ‘เสาวรี’ 4.บริษัทไทยไม่จำกัด ของ สนั่น ชูสกุล 5.ปรารถนาแห่งแสงจันทร์ ของ เงาจันทร์ 6.เราหลงลืมอะไรบางอย่าง ของ วัชระ สัจจะสารสิน 7.เรื่องบางเรื่องเหมาะที่จะเป็นเรื่องจริงมากกว่า ของ…