Skip to main content

เมื่อวันก่อนได้เปิดอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ชาติต่าง ๆ ผ่านสัญญาณดาวเทียมส่งตรงมายังเรือสำราญที่กำลังล่องแถบทวีปยุโรป


สะดุดข่าวหนึ่งที่รายงานสองสามวันติดกัน ในหนังสือพิมพ์ "India Today" วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 หัวข้อข่าวพาด "Gays set for first nationwide pride marches" และ "Gay Pride out on street Kolkata"


สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียถึงข่าวคราวนี้ ทราบว่า สมัยก่อนเมื่อราวเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมา ก่อนที่อินเดียจะได้รับอิสระในปี 1947 ประเทศอินเดียนั้นถือว่า การเป็นเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎ ผิดจารีต ประเพณี หรือเรียกบ้าน ๆ ว่าผิดผีหนะฮ่ะ ในสมัยก่อนๆ ถึงกับมีการฆ่า (มัน...ข้ามันลูกเกย์) กำจัดไม่ให้เหลือคราบ (ว๊ายยยยยย สยองจังฮ่ะ)


กลับเข้าสู่โลกปัจจุบันนี้อะไร ๆ ก็เปลี๋ยนไป๋ ก็แหม คุณขาทุกวันนี้ขนาดเมืองไทยเรายังไม่นั่งเกวียนเข้าสยามเลยนะฮะ กล่าวได้ว่า มีการยอมรับกันมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นกฎต้องห้าม "a law forbidding homosexuality"


Kolkata เมืองทางตะวันออกติดกับอ่าวเบงกอล กลุ่มรักร่วมเพศจำนวนสี่ร้อยกว่าคนพลเมืองเกย์ รักร่วมเพศออกมาเดินขบวน ท่ามกลางสายตาคนจับตามองเกือบหลายพันคน โดยถูกล้อมรอบด้วยตำรวจ อย่างสงบ ซึ่งการเดินขบวนพาเหรดครั้งนี้ เดินกันเกือบ 4 กิโลเมตร ในบริเวณกลางตัวเมือง

 

13_7_03

 

 


"
กลุ่มรักร่วมเพศวัยรุ่นได้มาร่วมงานครั้งนี้มากขึ้น"
Pawan Dhall
หนึ่งในทีมงานพาเหรดกล่าว แม้การตั้งขบวนกลุ่มรักร่วมเพศที่ได้เดินพาเหรด เพื่อเรียกร้องสิทธิและพิธีการสังสรรค์สนุกสนานจะมีวัยรุ่นวัยทีนเข้าร่วมมากขึ้น แต่หลายคนก็ยังเกรงทางบ้านจะรับไม่ได้ จึงต้องใส่หน้ากาก ประมาณว่าอยาก (ร่วมขบวน) แต่ขอแอบ แอ๊บจังเหอะ

น่า... ไม่ว่ากัน หากชาน่าได้เดินขบวนเกย์ พาเหรดที่กรุงเทพฯ ก็คงต้องพรางชมพู แปลงร่างไอ้มนุษย์แดงเกย์ หรือไม่ก็แต่งสาวจนทางบ้านจำไม่ได้ เหมือนกับคอนเซ็ปต์ในการแต่งสาวเขียนหนังสือเพราะไม่อยากให้ทางบ้านทราบนั่นล่ะฮ่า


 

13_7_02

 


ส่วนกรุงนิวเดลี กลุ่มรักร่วมเพศถือว่าเป็นของต้องห้ามอย่างเป็นทางการในอินเดีย แต่ก็ไม่สามารถหยุดรั้ง พลพรรคคนรัก (เป็น) เกย์ได้ ซึ่งได้จัดตั้งขบวนพาเหรดในวันสุดสัปดาห์นี้


"
ขบวนพาเหรดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น ทำให้รู้ถึงผู้คนที่เป็นกลุ่มรักร่วมเพศมีความกล้าพอที่จะแสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา" Lesley Esteves ฝ่ายกิจกรรมสิทธิมนุษยชนคนเป็นเกย์ กล่าว


ถึงกระนั้นตามกฎหมายของอินเดียที่บัญญัติไว้ มาตรา 377 กฎหมายการกระทำผิดทางเพศมีโทษปรับ และจำคุก 10 ปี ซึ่งเคยมีคนรักร่วมเพศเคยโดนจับมาแล้วจำนวนหนึ่ง จนทำให้ เกย์ เลสเบี้ยนหลายๆ คนเลือกที่จะเป็นแต่เลือกอีกว่าจะไม่แสดงออก เกรงและกลัวโทษ ขอแอ๊บ เก็กชง ลุ่มหลงแค่นั้นก็พอ


น่าสงสารนะฮะ อยู่ภายใต้กฎหมายที่ไม่ยอมปรับตามโลกปัจจุบัน อิชั้นว่าเหมือนอยู่ในนรกหมกไหม้ ตายทั้งเป็น โถ โถ นะโม คุณขา ชีวิตก็ของเรา จะรักจะชอบใครมันผิดด้วยหรือ ก็แค่ความต้องการทางเพศที่เป็นปัจเจกบุคคลยังมาห้ามกันอีก อีพวกชายจริง หญิงแท้ (ห่วยๆ) แย่งลูกแย่งเมียชาวบ้านเค้าน่ะสมควรทัณฐ์บน ต้องโทษอย่างหนักมากๆ กว่า คนเป็นเกย์ด้วยซ้ำ


จึงไม่แปลกถ้าหากบางคนรับกฎหมาย ข้อบังคับของสถานที่นั้นๆ ไม่ได้ ขอหนีไปอยู่อีกโลกที่ไกลแสนไกล ไปให้ถึงโลกของเรา แล้วเราก็จักเป็นสุขมากกว่าอยู่โลกของเขา

 

 

13_7_01

 



แล้วเมืองไทยหละค๊า การเมืองเรื่องราวเป็นยังไง สนใจ ใส่ใจกันบ้าง อย่าเอาแต่ "เห็นแก่ตัว หาผลประโยชน์ แย่งชิงดี ชิงเด่น ลุ่มหลงในลาภ ยศ สรรเสริญ บ้าคลั่งอำนาจ" ตายไปก็หาได้เอาไปด้วยไม่


เอาใจช่วยเพื่อนบ้าน "อินเดีย" ให้ก้าวต่อไป เพื่อโลกของเรา ชาวเราจักเป็นสุขให้ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม และกฎหมายซักที แม้ไม่รู้ว่าจะมีหวังหรือไม่ นานกี่ไปเท่าไหร่ ... รอต่อไปนะคนดี


ชาน่า เขียนบนเรือสำราญหรู ขณะลอยล่องท่องอยู่ยุโรป เรือจอดเมือง อิสตันบูล ประเทศตุรกี คราวหน้าจะเขียนเกี่ยวกับประเทศ ตุรกี ใครเป็นเกย์ กะเทย มาเมืองนี้ต้อง “ซี่” ทุกราย

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…