Skip to main content

สัปดาห์นี้ มีแขกพิเศษมาร่วมบันทึกเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของผู้ชาย(ป้ายเหลือง) ที่ถ่ายทอดออกอย่างเป็นธรรมชาติผ่านตัวหนังสือ ชาน่ารู้จักน้อง Once in a blue moon เพราะเค้าเป็นแฟนหนังสือเล่มเก่า “เม้าท์แตก...ชาวเรา” จนเราสนิทสนมแชทคุยกันตลอด จึงอยากให้น้องถ่ายทอดเรื่องราว Untold story เพื่อเป็นอุทาหรณ์ สอนใจ กลั่นลึกจากห้วง ก้นบึ้ง เปิดให้รู้ลึก รู้สึกของชายกลุ่มหนึ่งที่ทำงาน อาชีพ... “ขายบริการ” บางประโยคอาจจะถ่ายทอดอย่างตรงเกินกว่าจะรับได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับเค้า และเค้าเหล่านั้น ลองอ่านดูฮ่ะ...



ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณพี่ชาน่าที่ให้เกียรติเชิญผมมาร่วมแจมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชายป้ายเหลือง และก็ขอออกตัวก่อนว่าผมเป็นผู้ชายป้ายเหลืองที่ไม่ใช่เกย์ และก็ไม่ใช่ไบเซ็กส์ชวล ถึงแม้ว่างานที่ทำมันจะขัดกับสิงที่ผมเป็น สิ่งที่ผมชอบอยู่ แต่ผมก็ต้องทำ เพราะรายได้ที่ผมได้รับ และอิสรภาพที่ผมต้องการ ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสองปีกว่าแล้วล่ะครับ ผมก็คิดว่าจะหยุดงานอย่างนี้ แล้วเริ่มตั้งต้นตั้งตัว ทำงานดี ๆ ที่ปกติเหมือนคนทั่วไป ถึงแม้ว่ารายได้มันจะน้อยกว่า งานก็ทั้งหนักทั้งเหนื่อย อิสรภาพก็ไม่มี แต่มันก็มีศักดิ์ศรี ใช่ ผมจะเริ่มด้วยสองมือของผมนี่ล่ะ งานที่สุจริต ไม่ใช่งานที่เป็นสีเทาอย่างนี้


คนทั่วไปอาจมองว่างานประเภทนี้นั้นมันง่าย แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ง่ายนักหรอกนะครับ จะมีสักกี่คนกันที่ออกมาจากวังวนนี้ได้ บางคนทำไปจนแก่ขายไม่ออกแล้วก็ยังทำอยู่เลย เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร ไม่มีความรู้ความสามารถที่จะไปทำอะไรได้


ตัวผมนั้นเริ่มจากเมื่อสองปีที่แล้วก็ได้จับพลัดจับผลูมาทำงานอย่างนี้ที่ต่างประเทศนะ นึกๆ ดูแล้วก็ช่างโชคดีเหลือเกิน ที่ได้ประสบพบเจอประสบการณ์อะไรต่างๆ ที่มากกว่าคนอื่น แต่ก็ได้แต่คิดเสียใจอยู่เหมือนกันที่เลือกทางเดินผิด ผมนั้นเคยผ่านการขายมาหมดนะ ไม่ว่าจะขายผู้หญิงหรือขายผู้ชาย ก็มีตั้งแต่ ร้านนวดเกย์ งานเอเจนซี่ งานเอสคอร์ท งานวอล์คริมถนน รวมถึง บาร์โฮส ทุกอย่างได้ผ่านมาหมด
อยากบอกว่าเมื่อมาคิดย้อนดูแล้ว ก็สงสารตัวเอง และเห็นใจตัวเองเหมือนกัน แต่ให้ทำยังไงได้ เราเป็นคนเลือกเส้นทางนี้เองนี่นา ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดยังไงเราก็ต้องยอมรับมันให้ได้ แต่มันก็คงอีกไม่นานหรอก สักวันความทรงจำเรื่องราวต่างๆ มันก็คงจะค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา ถึงแม้ว่าจะยังคงมีบางสิ่งที่หลงเหลือฝังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจอยู่ก็ตาม เคยมีนะ ที่เหนื่อยเหลือเกิน แต่ก็ตื่นเต้นท้าทายจริง ๆ เป็นตอนที่เรามาอยู่ที่ต่างประเทศใหม่ๆ เราก็ป๊อปปูล่า เร็ตติ้งสูง ลูกค้าเห็นเราก็อยากลองกับเรา เอเจนซี่ก็ยังไม่เคยเห็นเรา เลยโทรเรียกกันใหญ่

จำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยมาก และก็สนุกกับการได้ผลตอบแทนเป็นเงินในกระเป๋าด้วย มันก็น่าดีใจจริงๆ ที่เราสามารถหาเงินได้ขนาดนั้น เรียกได้ว่า โทรศัพท์ดังตลอด เมสเสจเข้าตลอด พอเสร็จจากลูกค้า คว้าเงินใส่กระเป๋า แล้วผมก็ต้องรีบออกมาทันทีเพื่อไปหาลูกค้าอีกคนนึงต่อ คือมันเคยเป็นอย่างเงี้ย เคยได้สูงสุดวันละเจ็ดคนนะ ซึ่งงานผู้ชายขายตัว แค่นี้ก็เทพแล้ว มันลุ้นดีนะว่าเดี๋ยวงานต่อไปเราจะได้ไปเจอแขกแบบไหน ซึ่งแขกที่เมสเซจมาหรือโทรมาเราก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อไปถึงแล้วเค้าจะเป็นแบบไหน รูปร่างหน้าตาจะเป็นยังไง จะเป็น เอเซีย ฝรั่ง ผิวสี ฯลฯ บางคนตอนที่ส่งเมสเสจกัน ต้องการอย่างนู้นอย่างนี้มากมาย แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ยังไม่ทันทำอะไรเลย ก็เสร็จงานแล้ว ลูกค้าบางคนยิ่งกว่านกเขาขันแต่หัววัน  แต่บางคนก็เอาใจยากเหลือเกิน ทำยังไงก็ยังไม่ถูกใจ กว่าจะเสร็จงานก็ต้องใช้เวลานานเหลือเกิน มันนานาจิตตังน่ะ ก็ทำให้เข้าใจโลกเข้าใจชีวิตมากขึ้น

ลูกค้าบางคนก็น่ารักนะ พอเปิดประตูมาปุ้บก็ยิ้มแฉ่งเลย อัธยาศัยดีเหลือเกิน เป็นอย่างนั้นจนเสร็จงาน มีมารยาท น่ารักจริงๆ แต่บางคนที่ทุเรศ ก็ทุเรศจนจบงานเหมือนกัน มีงานคู่งานนึงนะตลกดี ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นงานคู่ ก็นั่งแท๊กซี่ไปตามที่อยู่ที่ส่งมา พอไปถึงก็เป็นคอนโด เมื่อลงจากแท๊กซี่ก็เจอเพื่อนคนนึงที่นั่น พอไปถึงก็ได้รู้ว่าลูกค้าโทรเรียกให้มาสองคน พอไปถึงก็บอกให้กินไวอากร้าที่วางอยู่บนโต๊ะเลย สักพักก็ชวนไปที่เตียง เพื่อนผมก็ปฏิบัติเค้าก่อน ดูท่าทาง เค้าว้อนท์มากเลย อะไรมันจะมากมายขนาดนั้น เรียกได้ว่าแซนด์วิช


เรื่องแสบ เรื่องมัน เรื่องฮา เรื่องขำ เรื่องเศร้า มันก็มีครบล่ะนะงานอย่างนี้น่ะ มันแล้วแต่ว่าเราจะไปเจอลูกค้าแบบไหนกัน ลูกค้าจะเป็นยังไง มีเพื่อนผมคนนึงนะ ได้ลูกค้าเป็นเจ้าของเรือน้ำมันน่ะ แม่เค้าเป็นเพื่อนของราชินีอลิซาเบธแห่งอังกฤษน่ะ ตัวเค้าเองจริงๆ แล้วก็ตำแหน่งเป็นท่านเซอร์ รวยไม่รู้เรื่องจริงๆ มีบ้านสามร้อยห้าสิบล้านเหรียญยูเอส อยู่ที่ประเทศเบอร์มิวด้า เค้าก็สบายไปเลย ทุกวันนี้ก็ขอแค่เบาๆ แค่ไปสอนฟิตเนสให้อาทิตย์ละครั้ง ลูกค้าก็ให้แล้วคิดเป็นเงินไทยประมาณแสนสอง ผมไม่เคยเจอลูกค้ารวยขนาดนี้นะ แต่ผมจะเจอและถูกชะตากับลูกค้าที่เป็นด๊อกเตอร์มากกว่า แบบจบปริญญาเอกมาจากเมืองนอก อะไรอย่างนี้ผมจะโอเค คุยรู้เรื่อง ถูกชะตาด้วย

บางครั้งก็มีลูกค้ามารักมากรักมาย มาร้องให้เสียน้ำตาให้ แต่ผมก็ไม่สนใจเท่าไหร่หรอก รู้ว่ารัก รู้ว่าเป็นคนดี แต่มันก็ไม่มีความรู้สึกให้น่ะ ทุกวันนี้ก็อยู่ด้วยน้ำตา อยู่กับความเศร้าเสมอล่ะ ยิ่งคิดก็อยากจะร้องไห้ ผู้ชายป้ายเหลืองแบบผมส่วนใหญ่ก็เอาแต่สนุกไปวันๆ ล่ะนะ โดยที่ไม่คิดถึงชีวิต หรืออนาคตในวันข้างหน้า เงินที่หามาได้ทั้งหมดส่วนใหญ่ก็หมดไปกับเหล้า ยา การพนัน หรือผู้หญิงนี่ล่ะ จะมีซักกี่เปอร์เซนต์กันที่ดีจริงๆ หาได้น้อยมาก มีแต่คนเลวที่หลงทางเข้ามาเดินทางกับเส้นทางสายวิบัตินี้ล่ะ

ผมทำงานขายตัวทั้งในเมืองไทยและในต่างประเทศนะก็ทำมาทั้งหมด 5 ประเทศนะ ทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเซ้าท์แอฟริกา ยังอยากจะไปต่อนะ แต่ตอนนี้ก็อยากจะหยุดก่อน แต่อาจจะมีโอกาสไปต่อก็ได้ใครจะไปรู้ แต่ก็อยากหยุดให้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้น่ะ  เพราะว่า เบื่อเหลือเกิน และเมื่ออยู่นานๆ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก ทางที่จะสามารถทำให้หลุดออกไปได้ก็คือ ต้องหาป๋าดีๆ หรือหาเจ๊ดีๆ สักคน ใครสักคนที่เค้าจะมาส่งเสียเลี้ยงดูเราจริงๆ หรือไม่ก็รีบเก็บเงินตั้งตัวให้โดยเร็วที่สุดเริ่มต้นจากกิจการเล็กๆ ไปก่อนก็ได้



เรื่องแสบก็มีนะ เรื่องด่าลูกค้าอะไรประมาณนี้ ผมชอบทำแสบกับลูกค้าบ้างนะ ถ้าหากเจอลูกค้าแสบๆ ที่เอาใจยาก สารพัดโน่นสารพัดนี่ ไอ้พวกแบบนี้ก็โดนฤทธิ์ผมมาเยอะเหมือนกัน พวกที่ชอบส่งเมสเสจมาให้งานราคาต่ำๆ ก็โดนผมเมสเสจด่ากลับไปเยอะเหมือนกัน บางทีมันต่ำจนเรารับไม่ได้น่ะ เรื่องด่าลูกค้านี่ก็มีบ้างนะ คือบางทีผมไปแล้วผมก็ไม่อยากทำน่ะ ก็แค่นวดๆ และก็บอกว่าเสร็จแล้ว แต่เค้าต้องการมากกว่านั้น เค้าบอกว่าตอนโทรศัพท์ที่เราคุยกันมันมากกว่านี้นี่ เราก็บอกว่าใช่เราคุยกันว่ามันมีมากกว่านั้นก็จริง แต่หากคุณต้องการมากกว่านั้น คุณก็ต้องจ่ายเพิ่ม แค่ภายนอกไม่เท่าไหร่ แต่ข้างในนี่สิสารพัด อย่างนี้ใครเขาจะอยากอยู่ใกล้ ก็สาสมแล้วที่โดนผมหลอก โดนฤทธิ์ผมเข้าไป แต่ผมก็บาปนะ แต่ก็ไม่กลัวไม่แคร์หรอก


มีบ้างนะลูกค้าโรคจิตชอบโทรมาแกล้งโทรมากวน โทรมาพอเรารับสายก็เรียกชื่อเรา พอเราเซย์เฮลโลก็วางสายไป เป็นอย่างงี้ทุกวัน จนไม่รู้อะไรกันนักกันหนา น่าเบื่อมาก ไม่รู้ว่าต้องการอะไร จะโทรเพื่อเรียกให้ไปหาก็ไม่ใช่ ทำเพื่อความสนุกหรือเปล่า ลูกค้าผู้หญิงที่ฮ่องกง หรือญี่ปุ่นก็มีทั้งสาวๆ ของทั้งญี่ปุ่นเองและสาวไทยที่ไปทำงานที่นั่นไม่ว่าขายตัว หรือไปทำงานเป็นแม่บ้าน ก็เพราะความเหงาน่ะ พวกคุณหญิงคุณนาย ถึงแม้จะอายุมากแล้วก็ยังรักที่จะสนุกอยู่เลย ยังคงแฮปปี้กับเหล้า ยา ปาร์ตี้ พวกผู้ชายที่ไปจับพวกนี้ก็เป็นพวกแมงดาสูบเลือดดี ๆ น่ะล่ะ


เล่าเรื่องขำๆ ของลูกค้าดีกว่า ผมจะดูคนที่บุคลิกนะ ลูกค้าบางคนก็น่าขำเหลือเกิน น่ารักตลกไปหมด ดูเหมือนไร้เดียงสาน่ะ แต่จริงๆ ก็คงโชกโชน เราก็ทำงานไปขำไป มันตลกไปหมดน่ะ คนเราในโลกมันหลากหลายจริงๆ นะ ไม่ว่าคนรวยที่สุดจนถึงจนที่สุด คนเนี้ยบที่สุดจนถึงคนซอมซ่อที่สุด คนดีเพอร์เฟคที่สุดไปจนถึงคนบ้า แต่ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไง คุณก็คือคนๆ นึงในสังคม และคุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในลูกค้าของผมด้วย


ผมอยากถ่ายทอดเรื่องราวรสแซ่บจัดจ้านที่ผมเคยพบ และเคยสัมผัสเพื่อนำมาตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้ให้ได้รู้กัน


สุดท้ายก็ขอขอบคุณพี่ชาน่าที่ให้โอกาสผมได้เขียนตีแผ่เรื่องราวประสบการณ์บางส่วนที่ได้สัมผัสมาในชีวิตจริงของผู้ชายป้ายเหลืองคนนึง หวังว่าคงได้รับความบันเทิงและข้อคิดบางอย่างสำหรับท่านผู้อ่าน ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ


จากผม .. Once in a blue moon


บางเรื่องที่เราอาจจะไม่ได้สัมผัสโดยตรง แต่สามารถรับรู้ได้ด้วยคำบอกเล่าบนเรื่องราวของความจริงอาจจะทำให้เราเปิดโลกทัศน์ รู้ซึ้ง เข้าใจ “ชาย” กลุ่มหนึ่งที่ทำอาชีพ “ขายบริการทางเพศ” ได้มากขึ้นกว่าที่เราเข้าใจแค่ผิวเผินนะคะ พบกันคราวหน้า ในรูปแบบนวนิยายเรื่องสั้นของเกย์บนพื้นฐานเรื่องจริง พลาดไม่ได้ค่ะ


ชาน่า .. จากเกาะขึ้นชื่อ ของประเทศเม็กซิโก, cozumel


บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
"The  show must go on" ไม่ว่าช่วงเศรษกิจจะแย่ การเมืองจะทรงหรือทรุด ภาวะบันเทิงจะไม่โชติช่วงชัชวาลย์ งานไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญ แต่ด้วยใจรักและโอกาสที่คุณพอทำได้ วันนี้ป้าเดย์ นางโชว์รุ่นเก๋า กลับมาผงาดบนเวทีของวงการบันเทิงอีกครั้งอย่างอลังการด้วยงานโชว์เริ่ดหรูครั้งสุดยอดยิ่งใหญ่ใน "The Last Day Show: Will I Survive?" การแสดงผสมผสานของรูปแบบและการดำเนินเรื่องแบบ Musical
ชาน่า
ใต้ฟ้าเมืองไทยภายใต้ความรัก การดูแลและห่วงใยของกลุ่มหลากหลายทางเพศ เรายังมีอีกสมาคมหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันมากว่าสิบปี วันนี้ชาน่าอยากแนะนำให้ทุกท่าน ชายจริง หญิงแท้ กะเทย เกย์ เก้ง กวาง เสือใบ อีแอบทั้งหลายได้รู้จักกับอีกสมาคมหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อบริการกลุ่มหลากหลายทางเพศค่ะ นั่นคือ “สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย”
ชาน่า
เรื่องใดที่ไม่มีในเมืองไทย ชาน่าสรรค์หามาเม้าท์ เพราะถือว่าหากโอกาสพาไป ไม่เสียหาย ทำไมจะไม่ล่ะ... ? หลายคนอยากรู้เรื่องราวความเป็นไป เป็นมา หรือแอบคิดในใจว่า "คิดได้ไง ไปหาดเปลือย ?..." บางคนอาจจะมองในแง่ลบทันใดว่า "นังนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่เลย ...." ต่างคนนานาจิตตังนะคะ เอาล่ะค่ะให้เวลาตั้งคำถาม ก่อนที่คุณจะได้ทุกคำตอบที่ต้องการ คนที่เข้ามาอ่านย่อมมีจุดประสงค์คืออยากจะรู้บางสิ่งที่ยังไม่รู้ แต่รับรองว่า หากอ่านเรื่องนี้แล้ว คุณได้มากกว่าที่คุณคิดซะอีกค่ะ ถือว่าเป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ต่างแดนที่ไปสัมผัสมาละกันนะคะ
ชาน่า
อีกเดือนกว่าเรือก็จะนำพาอิฉันไปสู่ยุโรปอีกแล้วค่ะ คราวนี้ไปเส้นทางเดิมที่เคยไปเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว "เมดิเตอร์เรเนี่ยน" อาทิ ประเทศอิตาลี กรีซ โมนาโค ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส โครเอเซีย ตุรกี เป็นต้น หลังจากนั้นจะกลับมาพักร้อนที่เมืองไทยสองเดือนก่อนจะไปเยือนแถบสแกนดิเนเวีย รัสเซีย โปแลนด์ อังกฤษ ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก เยอรมัน ในซัมเมอร์ปีนี้ โดยส่วนตัวของชาน่า เวลาไปแต่ละเมือง สิ่งที่ต้องค้นหาคือการใช้ชีวิตตามประสาเกย์เกย์ จะได้นำมาเล่าเม้าท์ต่อกัน จนเพื่อนมอบตำแหน่งให้สาขา "ราชินีเม้าท์แตกได้โล่ห์" สัปดาห์นี้ขอจับเข่า เม้าท์เล่าเรื่องของประเทศตุรกี เมืองอิสตันบูล…
ชาน่า
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับนักแสดงฝีมือระดับโลกที่ได้รับรางวัลหมาด ๆ สาขา “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ฌอน เพนน์ ที่คว้ารางวัล Academy Awards ครั้งที่ 81 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชีวิตจริงของเค้าจะไม่ใช่เกย์ก็ตาม มิลค์ เป็นหนังที่กล่าวถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 ใน 5 ของหนังดังระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง คืนวันอาทิตย์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาน่าได้มีโอกาสดูการถ่ายทอดสดตรงจาก ทีเอ็นที ณ โรงละครโกดัก แอลเอ โดยหนังเรื่องนี้เข้าชิงหลายรางวัล เช่น หนังดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น แม้จะไม่ได้รางวัลแต่อย่างน้อย…
ชาน่า
“วันนี้ดีใจที่ได้ผัว หลังจากเสียตัวมาหลายหน วันนี้มีผัวเป็นตัวตน จะได้ไม่มีคนหมิ่นประนาม หยามดูแคลน” คำกลอนที่ได้ยินจากเพื่อนแล้วจี้เหลือเกิน บทกลอนของหล่อนบทนี้ เหมือนคำประกาศชัยชนะว่า “ฉันมีสามีแล้วย่ะ” ประมาณนั้น มันทำให้จุดประกายเป็นเรื่องราวที่อยากนำเสนอค่ะ แหม...แหม ...แหม คุณคะ ชีวิตของเกย์ กะเทย กว่าจะได้ใครเป็นตัวตน มีคนรักที่เค้ารักเราจริง ๆ นั้นมันสุดแสนจะหายาก บางคนบอกว่า “ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร” ซะอีก ประเภทที่ได้ ๆ ส่วนมาก หลังจากพ้นช่วงน้ำต้มขมก็ยังเรียกว่าหวาน ผ่านไปไม่นาน สุดท้ายจะลงเอยแบบ “ทางใครก็ทางมัน” หรือว่า “เป็นสามีและภรรยาในนามเท่านั้น”…
ชาน่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลายคนคงจะได้ดูรายการทีวี รายการ "จับเข่าคุย" ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณสรยุทธ์ มีผู้ร่วมรายการคือ คุณเกย์นที และคุณวัลลภ นามวงศ์พรหม ซึ่งเป็นกรรมการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม สภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ คุณคงจะได้ชมและใช้พิจารณญาณในการชมรายการโทรทัศน์ที่กล่าวถึงประเด็นข่าวเด่นของบ้านเมือง ในรายการมีผู้ร่วมรายการที่ออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่เสื่อมทำลายศาสนา คือคุณนที และผู้ให้เหตุผลและตอบรับ ขัดแย้ง โดยคุณวัลลภ โดยสรุปรวมๆ ของเนื้อเรื่อง พูดประเด็นการใช้ย่ามสีชมพู การห่มดอง จีวร พฤติกรรมที่แสดงออกถึงอาการแต๋วแตก แต๋วแหว๋ว แต๋วไม่เหมาะสม เป็นต้น
ชาน่า
การสื่อสารในโลกปัจจุบันนั้นล้ำสมัย มีหลายสื่อให้ประชาชนได้เลือกบริโภค หากจะย้อนไปในสมัยก่อน การสื่อสารถึงกัน หรือแม้แต่เฉพาะกลุ่มเป็นเรื่องที่ลำบากมากนัก หากจะเข้าประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศ สื่อทางหนังสือ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้สื่อสารถึงกลุ่มกันได้ในสมัยโบราน แต่ก็มีความลำบากไม่ใช่น้อยสำหรับใครที่ต้องแอบใช้ชีวิตปกปิดตัวเอง การเก็บสื่อต่าง ๆ เหล่านั้นคงจะลำบากในการซุกซ่อน จนทำให้วิตกจริตเกรงว่าจะมีใครมาจับได้ว่าเป็นเกย์ มีหนังสือ สื่อเหล่านี้ครอบครอง ทางเลือกใหม่ในปัจจุบันบางคนเลือกที่จะเสพสื่อเพื่อชาวเราผ่านทางอินเตอร์เน็ต…
ชาน่า
สัพเพเหระ หลากหลายสไตล์ในแต่ละสัปดาห์ที่ชาน่านำเรื่องราวของชาวรักร่วมเพศ หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศมานำเสนอ โดยหวังว่าจากเพียงแค่ไม่กี่ประโยคที่คุณได้อ่านหรือสัมผัส จะเป็นประโยชน์ต่อคุณหรือใครสักคนไม่มากก็น้อย สัปดาห์นี้พลาดไม่ได้อีกหนึ่งโครงการดี ๆที่อยากแนะนำสำหรับชายรักชาย ช่วงปลายเดือนนี้ เรามีโครงการดีๆ มาเสนอให้คุณฮ่ะ ชื่อโครงการที่ว่านี้คือเข้าค่าย "ทักษะชีวิตพิชิตเอดส์ ครั้งที่ 29" ซึ่งทางสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทยร่วมกับ สถาบันวิจัยสาธารณะสุข(สวรส.) ได้จัดขึ้นในระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 24-25 มกราคม 2552 ณ ค่ายริมขอบฟ้า เมืองโบราณ…
ชาน่า
สวัสดีปีใหม่ค่ะ วันเวลาผ่านไปอย่างไวจากวันเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนเป็นปี ก้าวเข้าสู่ปี คศ. 2009 ขออวยพรให้ทุกคนก้าวหน้า อย่าก้าวถอยหลัง ก้าวไปอย่างมีสติ ไม่ประมาท และทุกย่างก้าวถ้าหากเราทำดี ชีวีก็มีสุขเป็นกุศลที่มองไม่เห็นแต่คุณจะสัมผัสได้ วันหยุดยาวติดต่อกันตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีใหม่นี้ หลายคนมีโอกาสกลับไปสู่มาตภูมิ ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างเป็นสุข ทำงานเหนื่อยมามากแล้ว บางครั้ง บางวันอย่าลืมให้รางวัลกับบางวันของชีวิตด้วยนะฮะ สัปดาห์นี้ชาน่าขอพาคุณ ๆ ไปเที่ยวประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานสี่ห้าพันปี นั่นคือ กรีซ แต่สถานที่ๆ ชาน่าจะพาไปท่องเที่ยวครั้งนี้ หลายคนอาจจะไม่คุ้นหู…
ชาน่า
เรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ หรือความผิดโทษฐานที่เกิดมาเป็นรักร่วมเพศในโลกนี้ยังมีให้เห็นอีกหลายมุมของโลก อันเนื่องมาจากวัฒนธรรมประเพณี ธรรมเนียมที่แตกต่างกัน ชาน่าเคยได้รับเมล์ส่งต่อจากเพื่อนที่ส่งภาพของสองหนุ่มน้อยวัยเบญจเพส ชาวตะวันออกกลางที่ถูกประหารด้วยการแขวนคอประจาร โทษฐานที่เป็นรักร่วมเพศของประเทศในตะวันออกกลางเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นดูด้วยความสลดและเกิดความสงสารจนพูดไม่ออก
ชาน่า
ท่ามกลางความหนาแน่นของผู้คน นักเดินทางโดยเครื่องบิน ขาเข้าและขาออกนอกประเทศ ณ สนามบินสุวรรณภูมิในค่ำวันหนึ่ง “หวัดดีครับชิน ยินดีที่ได้รู้จัก ได้ยินแต่ชื่อเสียงเลียงนามมานานแล้วครับ” เสียงของพี่หนึ่งทักทายเมื่อครั้นที่เราพบกันครั้งแรกที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ผมกำลังจะบินไปทำงานต่อที่ต่างประเทศ