Skip to main content

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับนักแสดงฝีมือระดับโลกที่ได้รับรางวัลหมาด ๆ สาขา “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ฌอน เพนน์ ที่คว้ารางวัล Academy Awards ครั้งที่ 81 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชีวิตจริงของเค้าจะไม่ใช่เกย์ก็ตาม

มิลค์ เป็นหนังที่กล่าวถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 ใน 5 ของหนังดังระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง คืนวันอาทิตย์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาน่าได้มีโอกาสดูการถ่ายทอดสดตรงจาก ทีเอ็นที ณ โรงละครโกดัก แอลเอ โดยหนังเรื่องนี้เข้าชิงหลายรางวัล เช่น หนังดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น แม้จะไม่ได้รางวัลแต่อย่างน้อย ดารานำฝ่ายชายของหนังเรื่องนี้ก็ขึ้นไปรับรางวัลอย่างสมเกียรติ พร้อมประกาศก้องว่า “คนเราทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม” กล้องได้จับภาพผู้มาร่วมงานพร้อมกับเสียงปรบมือกระหึ่มทั่วโรงละคร

โดยส่วนตัวแล้วอิฉันยังไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปพรีวิว จากแหล่งข้อมูล พร้อมนำเรื่องย่อมาฝากเป็นไกด์นำทางเพื่ออรรถรสในการชม และรายละเอียดของหนังเรื่องนี้กันค่ะ



Milk / ฮาร์วี่ย์ มิลค์ ผู้ชายฉาวโลก
กำกับการแสดงโดย : Gus Van Sant
นำแสดงโดย : Sean Penn, Allison Pill, Josh Brolin, Emile Hirsch, James Franco
ประเภท : Drama, Biopic
เรท : R
ความยาว : 2.8 ชม.
วันที่เข้าฉาย : 26 กุมภาพันธ์ 2552
ค่ายภาพยนตร์ : M Pictures

เนื้อเรื่องโดยย่อ มิลค์เป็นการตั้งชื่อหนังตามชื่อของนักต่อสู้ โดยแสดงถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศซึ่งมิล์คได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอเมริกา เป็นต้นกล้าสำคัญในการต่อสู้จนนำมาสู่การยอมรับ และการกล้าเปิดเผยตัวเองมากขึ้นในปัจจุบัน ที่กระจายไปทั่วโลก จนนิตยสารไทม์ได้ยกย่องให้ให้เขาเป็นหนึ่งในร้อยบุคคลสำคัญของโลกแห่งศตวรรษ แต่หลังจากดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาระยะหนึ่ง มิล์ดได้มีเรื่องบาดหมางกับ แดน ไวท์ คู่แข่งทางการเมืองที่เกลียดเกย์ ทำให้มิล์คถูกไวท์ยิงในระยะเผาขน พร้อมกับนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก ในปี 1978


มิลค์
เขาคือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ คือเพื่อน คือคนรัก คือศูนย์รวมจิตใจ เขาเป็นนักการเมือง เป็นนักสู้ เป็นบุคคลผู้ควรค่าแก่การยกย่อง เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นวีรบุรุษ เรื่องราวของเขาพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ ความหาญกล้าของเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากที่น่าสรรเสริญและยกย่องเป็นอย่างยิ่ง


ในปี
1977 ฮาร์วีย์ มิลค์ ได้รับเลือกให้เข้าไปนั่งในสภาที่ปรึกษาแห่งซานฟรานซิสโก เขาคือเกย์เปิดเผยคนแรกที่มีสิทธิ์มีเสียงในองค์กรทางเมืองของสหรัฐอเมริกา ชัยชนะของมิลค์ไม่ใช่เพียงเพื่อสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการกำจัดความเหลื่อมล้ำทางการเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ ฮาร์วีย์ มิลค์ ยังเปลี่ยนความหมายของการเป็นนักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกันทุกชนชั้นตั้งแต่ราษฎรอาวุโสไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กระทั่งเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในปี 1978


ภาพยนตร์เรื่อง
Milk ถ่ายทอดช่วงชีวิต 8 ปีสุดท้ายของ ฮาร์วีย์ มิลค์ เริ่มตั้งแต่ตอนที่มิลค์ในวัย 40 ปีอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก จนกระทั่งตัดสินใจออกตามหาจุดมุ่งหมายอื่นๆ ในชีวิต โดยย้ายมาลงหลักปักฐานกับคนรักคือ สกอตต์ สมิธ (รับบทโดย เจมส์ ฟรังโก้) ในซานฟราซิสโก และเปิดธุรกิจเล็กๆ ชื่อ Castro Camera ณ ใจกลางชุมชนของชนชั้นกรรมาชีพ ซึ่งต่อมากลายเป็นสถานที่พักพิงทางใจของกลุ่มรักร่วมเพศจากทั่วประเทศ ชุมชนคาสโตรอันเป็นที่รักบวกกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเพิ่มพลังชีวิตให้กับมิลค์เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นสร้างความประหลาดใจให้กับสกอตต์และตัวของเขาเองด้วยการเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง เขาเรียกร้องความเท่าเทียมทางสิทธิและโอกาสให้กับทุกๆ คน ความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเมืองและผู้คนในเมืองนี้ทำให้เขาต้องสลับบทบาทไปมาเป็นเด็กบ้าง เป็นคนแก่บ้าง เป็นชายแท้บ้าง และเป็นชายรักร่วมเพศบ้าง ท่ามกลางอคติและกระแสต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศซึ่งเปรียบประหนึ่งบรรทัดฐานของสังคมในเวลานั้น

ด้วยแรงหนุนเต็มกำลังจากสกอตต์ บรรดาเพื่อนใหม่ และเหล่าอาสาสมัคร มิลค์จึงกระโจนเข้าสู่กระแสการเมืองอันเชี่ยวกราก รวมทั้งคอยดูแลช่วยเหลือหนุ่มนักเคลื่อนไหวไฟแรงอย่าง คลีฟ โจนส์ (เอมิล เฮิร์สช์) ไปพร้อมๆ กัน เขาใช้อารมณ์ขันมัดใจสาธารณชน และลงมือทำจริงจังมากกว่าดีแต่พูด ไม่นานนักก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่กระนั้น มิลค์ก็ยังยืนกรานจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองส่วนท้องถิ่นให้ได้ อันเป็นเหตุให้เขาและสกอตต์ต้องแยกทางกันไป ผ่านมาถึงช่วงที่เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 4 จึงได้พบรักใหม่กับ แจ็ค ลิร่า (ดิเอโก ลูนา)


มิลค์ได้ชัยชนะในการลงสมัครครั้งสุดท้ายนี้เอง โดยได้รับเลือกให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาประจำเขตการปกครองที่
5 เขาดูแลซานฟรานซิสโกเป็นอย่างดี พร้อมกันนั้นก็วิ่งเต้นคัดค้านข้อบังคับประจำเมืองเพื่อปกป้องผู้คนจากการถูกไล่ออกหลังจากที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองรวมไปถึงนำขบวนประท้วงการทำประชามติทั่วทั้งรัฐเพื่อไล่ครูที่เป็นเกย์รวมทั้งผู้สนับสนุนให้ออกจากโรงเรียน ซึ่งเขาตระหนักดีว่าการต่อสู้กับ Proposition 6 นี้จะเปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ในเวลาเดียวกันจุดมุ่งหมายทางการเมืองของมิลค์ก็เริ่มสวนทางกับจุดมุ่งหมายของกรรมการที่ปรึกษาหน้าใหม่อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ แดน ไวท์ (จอช โบรลิน) จนกระทั่งโชคชะตาของทั้งสองมาบรรจบกันและจบลงที่ความเศร้า แนวคิดของมิลค์เคยเป็นและยังคงเป็นแนวคิดที่ว่าด้วยเรื่องความหวัง อันเปรียบได้ดั่งมรดกที่วีรบุรุษท่านนี้ส่งต่อให้คนรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบัน

 


ฮาร์วี่ มิลค์ รับบทโดยฌอน เพนน์ นักแสดงผู้ชนะรางวัลออสการ์ โดยในบทบาทของเรื่องเค้าเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวรักร่วมเพศและเป็นชายที่ประกาศตัวว่าเป็นรักร่วมเพศคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นเทศมนตรีของซานฟรานซิสโก ภายใต้การกำกับโดยผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ กัส แวน แซงต์ จากบทภาพยนตร์โดย ดัสติน แลนซ์ แบล็ก ควบคุมงานสร้างโดยผู้ชนะรางวัลออสการ์ แดน จิงก์ส และ บรูซ โคเฮน หนังเรื่องนี้ถ่ายทำจากสถานที่จริงในมหานครซานฟรานซิสโก ชาน่าเคยไปเที่ยวสองครั้งที่นี่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองหลวงของเกย์ทางแถบแปซิฟิก บริเวณแคสโทร ยิ่งกว่าอาณาจักรของเกย์ และกลุ่มรักร่วมเพศที่คุณมีอิสระเสรีมากที่สุด

หนังดีมีระดับดีกรีเข้าชิงหนึ่งในห้า และที่สำคัญ “มิลค์” เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศอย่างเราท่าน พลาดไม่ได้ ว่างเมื่อไหร่หาโอกาสดูนะคะ



อีกหนึ่งความภาคภูมิใจเหลือเกินว่า อย่างน้อยโลกของการต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่มชาวรักร่วมเพศก็เป็นเรื่องเป็นราวที่เกิดขึ้นมาได้ ก็เพราะอาศัยคนจริง ทำจริง สู้จริง ที่ช่วยกันแม้โลกจะมองต่างมุม ผิดองศาขนาดไหน แต่ถ้าหากเราสู้ด้วยเหตุและผล ผลของการต่อสู้นั้นมีค่ามหาศาล เพื่ออนุชนชาวเกย์คนรุ่นหลังจักได้เป็นอยู่อย่างสุขสบาย และไม่อายใครแม้เราจะมีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างนี้ แต่เราก็เลือกที่จะประกาศก้องให้โลกได้รับรู้ว่า “เราทำได้” เหมือนเพศชายจริงหญิงแท้ทำได้เช่นกัน ดังนั้นสิทธิและเสรีภาพจึงควรอยู่คู่กับเราให้ได้รับผลอย่างเท่าเทียมกัน มิลค์
...สู้ ตายฮ่ะ


special thanks to www.milkthemovie.com & www.bangkokrainbow.org

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
กลับมาเมืองไทยแล้ว มีโอกาสได้อยู่กับครอบครัวมากขึ้นค่ะ เป็นแฟมิลี่เกย์ซะส่วนมาก เพราะครั้นจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ต้องดูแลตัวเอง กินร้อน ช้อนกลาง ปิดหน้าบังตา มันทำให้อึดอัด มาปีนี้ไม่มีโครงการทำอะไรนอกจากเขียนหนังสืออีกเล่มที่เกี่ยวกับคนหลายเพศ เป็นประสบการณ์ต่างแดนที่ไม่มีในเมืองไทย ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรต้องติดตามตอนต่อไปนะคะ เล่มนี้จะส่งมอบให้สำนักพิมพ์ค่ะ ไม่ต้องทำเองให้เหนื่อย
ชาน่า
เมื่อคืนได้มีโอกาสดูรายการทีวีวาไรตี้โชว์ของสองช่องทีวีดังเมืองไทย "ตีสิบ" และ "ชิงร้อยชิงล้าน" ซึ่งเป็นรายการที่ชื่นชอบของหลาย ๆ คน บ่อยครั้งที่เราจะเห็นถึงความสำคัญและความสามารถในหลากหลายด้านของกลุ่มรักร่วมเพศ โดยรายการตีสิบ ช่วง "ดันดารา" ได้เสนอความสามารถของ หนุ่มหล่อสาวสวยประเภท 2 ซึ่งสร้างความสนุกสนานในรายการเป็นอย่างมาก นั่นคือโอกาสที่คนทั่วไปจักได้เห็นถึงความสามารถพิเศษและการโชว์ของพี่น้องชาวสีรุ้ง เพราะโดยปกติคนทั่วไปชาวบ้าน ๆ ก็ไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยวตามผับ บาร์ของเกย์อยู่แล้ว หลายคนชื่นชอบนางโชว์ และใจจดใจจ่อ เวลาไปเที่ยวตามผับเธคซึ่งจะมีทอลค์โชว์ ลิปซิงค์โชว์ หรือ เต้นโชว์…
ชาน่า
เข้าสู่กลางปีของ พ.ศ . 2552 เหตุบ้านการเมืองก็ยังคงทรง ๆ ทรุด ๆ ส่วนภาวะเศรษฐกิจนั้นเห็นได้ชัดว่าย่ำแย่ ส่งผลกระทบต่อทุกคน ทั้งลูกเล็กเด็กแดง รวมทั้งพลเกย์อย่างเรา ๆ เช่นกัน ธุรกิจของเกย์บางอย่างก็ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก แต่บางอย่างก็ไปรุ่งอยู่รอดได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงอย่างไรก็คงต้องสู้กันต่อไปเพื่อความอยู่รอด และประคับประคองบ้านเมืองให้ไปถึงจุดหมาย พร้อมด้วยสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมให้เป็นสุข
ชาน่า
พาเม้าท์ชาวเกย์ (บันเทิง) สัปดาห์นี้ขอนำเสนอหนังเกย์สุดอลังการที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งชื่อ “Frozen Flower”     “Frozen Flower” เป็นภาพยนตร์แนวมหากาพย์ฟอร์มยักษ์โดยสร้างจากเรื่องจริงในยุคของโครยอ (ค.ศ. 918-1392) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและการทรยศของกษัตริย์ เรียกได้ว่าเป็นหนังแนวสงครามย้อนยุค โดยมีนักรบจำนวน 36 ชีวิตที่มีชื่อเรียกว่า กอนรยงวี (건룡위) และมเหสีผู้เลอโฉมจากอาณาจักรหยวน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้โจอินซอง รับบทเป็น ฮงริม ผู้บัญชาการของ กอนรยงวี ซึ่งเขาได้รับ "ความรักแบบลึกซึ้ง" จากกษัตริย์เป็นอย่างมาก ทางด้านคู่ขาของ โจอินซอง(Jo In Sung) อย่าง จูจินโม (Joo Jin Mo…
ชาน่า
วันนี้เรือจอดที่เมือง Civitavecchia ซึ่งเป็นเมืองท่าปากทางเข้าสู่มหานครกรุงโรม การเดินทางไปถึงกรุงโรมจากเมืองนี้ต้องนั่งรถไฟ รถทัวร์ หรือแท็กซี่เข้ากรุงโรม ประมาณหนึ่งชั่วโมง ดิฉันไปกรุงโรมหลายครั้งจนนับไม่ได้ ได้มีโอกาสไปกับทัวร์นักท่องเที่ยว ไปส่วนตัว ไปกับคนรัก ไปกับเพื่อน หรือแม้แต่ไปตามหัวใจเรียกร้อง
ชาน่า
ได้รับอีเมล์จากคนอ่านหนังสือท่านหนึ่งที่ชื่อ "นนท์" ส่งจดหมายมาระบายความในใจและเตือนภัยสำหรับชาวเรา อิฉันอ่านแล้วแทบอึ้ง และรู้สึกถึงความแย่ที่ถูกผู้ชายสมัยนี้อาศัยความเป็นเกย์ ไม่เป็นเกย์ แต่เป็นโจร หากินแบบทุจริต ผิดศีลธรรมกับกลุ่มชาวเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่มุมใด ส่วนไหนของโลก เหตุการณ์นี้ล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะเมืองใหญ่ผู้คนมากมายแทบจะเหยียบกันตายแค่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ
ชาน่า
ได้รับข่าวจากทางสมาคมฟ้าสีรุ้งส่งมาให้เกี่ยวกับเรื่องที่หลายคนทราบกันดีถึงพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านและรังเกียจ กลุ่มหลากหลายทางเพศ โดยเหตุเกิด ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยเรื่องนี้ได้รับรายงานมาว่าจากการที่เครือข่ายคนทำงานด้านเอดส์ เพศศึกษา เยาวชน สตรี และกลุ่มเครือข่ายความหลากหลายทางเพศได้ร่วมกันจัดงาน "เชียงใหม่เกย์ไพร์ด ครั้งที่ 2" เพื่อรณรงค์ให้ความรู้เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ (เอชไอวี) , ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก, ลดอคติ และสร้างความเข้าใจต่อสิทธิของคนกลุ่มน้อยทางเพศ เมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2552 ในวันดังกล่าว "กลุ่มเสื้อแดง" ใช้ชื่อว่า "กลุ่มรักเชียงใหม่ 51" ได้เปิดเวทีประณามการจัดงาน…
ชาน่า
คุณคะ การเที่ยวถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจอีกแบบไม่ว่าจะเป็นเที่ยวกลางวัน เที่ยวกลางคืน เพราะความหมายบอกเป็นนัยอยู่แล้ว ช่วงนี้ชาน่ายุ่งกับการท่องเที่ยวกลางวัน เพราะเรือได้มาถึงยุโรปแล้วค่ะ แต่ละประเทศที่เรือเข้าจอดนั้นสวยงาม มากด้วยประวัติศาสตร์ และศิลปะ ซึ่งรอบการท่องเที่ยวของผู้โดยสาร 12 วัน เรือจอดสิบวันที่เหลือสองวันอยู่กลางทะเล วันนี้อยู่สเปน พรุ่งนี้เข้าโมนาโคมะรืนอยู่อิตาลี วันต่อ ๆ ไปเข้าประเทศกรีซ สนุกสนานกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ กลางวันปั่นรถจักรยานลุยป่าเขา กลางคืนแต่งสาวออกเที่ยว ด้วยเหตุผลนี้วันก่อนได้มีโอกาสเที่ยวกลางคืนที่บาร์เกย์แห่งหนึ่งของอิตาลี ซึ่งเรือจอดค้างคืนที่นั่น…
ชาน่า
เมื่อปลายปีที่แล้ว (2 ธันวาคม 2551)ได้ฤกษ์เปิดตัวหนังสือ GENDER ออกเผยแพร่เพื่อประชาชน เพื่อการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ทั้งชายจริง หญิงแท้และโดยเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเพราะเนื้อหาสาระคับเล่มเต็มไปด้วยความรู้ และบันเทิงเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา และมานุษยวิทยา ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ผลงานของ นางกัลยา ลักษณเกียรติ, นางวินิดา ชวนางกูร, น.ส.เพลินพิศ พรหมมะลิ, นางนภาพร วิบูลยานนท์, นายภักดี ศรีสุวรรณ, นายสุเชษฐ นาคเอี่ยม และนายบุญยะฤทธิ์ มาบกลาง
ชาน่า
วันที่ภาคภูมิใจของกลุ่มรักร่วมเพศ เกย์ เลสเบี้ยน สาวประเภทสอง หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ ของรัฐฟลอริด้าทางตอนใต้ คือช่วงที่เมือง Ft.Lauderdale จะถูกแต่งแต้มทาสีรุ้งให้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และชาวท้องถิ่นอย่างคึกคักอีกครั้ง นี่คือการเฉลิมฉลองวันของ เลสเบี้ยน เกย์ ไบ และทรานส์เจนเดอร์ (สาวแปลงเพศ) ซึ่งได้ถูกจัดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สองวันซ้อน เสาร์และอาทิตย์ที่ 22-23 มีนาคม ณ Holidays Park /War Memorial Auditorium โดยมีกิจกรรมทั้งภายในและกิจกรรมนอกอาคารมากมาย จากห้างร้าน บริษัทที่เกี่ยวข้อง มากกว่าสามร้อยบูธ ยกขบวนมาประชันกันเพื่อผลประโยชน์และสิ่งตอบแทนให้ชาวเราโด๊ยตรงฮ่ะ
ชาน่า
วันนี้อิฉันได้มีโอกาสอ่านข่าวแฉของเกย์ และโพสขึ้นกระทู้ที่ค่อนข้างแรง หัวข้อ "ช็อค ม.บูรพาเป็นแหล่งขายบริการทางเพศชายรักชาย องค์กรนิสิตจี้มหา′ลัยแก้ไขด่วน ตร.วางแผนป้องกัน" อันเนื่องจากเนื้อหาข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายรักชาย และพวกท่าน หลานเธอ(ที่เป็นวัยรุ่น) จึงอดไม่ได้ที่จะหยิบมาเม้าท์เล่ากระจายกัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจะไม่เหมาะสมแล้วยังสร้างความเสียหายแก่สถาบันการศึกษาอีกด้วย อันเป็นเรื่องจริงผ่านจอ ผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ (จริงเหรอ)
ชาน่า
หากใครเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ ไม่ว่าจะเพิ่งแรกเข้า หรือรุ่นแง้มฝา (โลง) คงจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นมาเป็นไปของธงประจำชาติเกย์ & เลสเบี้ยน ชาน่าเตรียมเขียนมานานแสนนานแต่กั๊กไว้ แต่ก็อดใจไม่ไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยว Pride Festival ที่ รัฐฟลอริด้า หยิบหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของกลุ่มรักร่วมเพศ หน้าหนึ่งได้อธิบายความเป็นมาของสีรุ้ง จึงตัดสินใจนำสาระมาฝาก กว่าจะได้ฤกษ์งามยามดีจึงบอกเล่าเก้าสิบหยิบมาเม้าท์กันในฮ่ะ