หากใครเป็นกลุ่มรักร่วมเพศ ไม่ว่าจะเพิ่งแรกเข้า หรือรุ่นแง้มฝา (โลง) คงจำเป็นต้องรู้ถึงความเป็นมาเป็นไปของธงประจำชาติเกย์ & เลสเบี้ยน ชาน่าเตรียมเขียนมานานแสนนานแต่กั๊กไว้ แต่ก็อดใจไม่ไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยว Pride Festival ที่ รัฐฟลอริด้า หยิบหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของกลุ่มรักร่วมเพศ หน้าหนึ่งได้อธิบายความเป็นมาของสีรุ้ง จึงตัดสินใจนำสาระมาฝาก กว่าจะได้ฤกษ์งามยามดีจึงบอกเล่าเก้าสิบหยิบมาเม้าท์กันในฮ่ะ
ธงสีรุ้งได้เริ่มใช้กันอย่างกว้างขวางและกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวกลุ่มรักร่วมเพศมานานแสนนาน เค้าเริ่มใช้กันเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้ก่อตั้ง สัปดาห์นี้พาไปรู้จักกันฮ่ะ
ธงสีรุ้งเคยใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณในทุกวัฒนธรรมของกรีก อาฟริกัน อเมริกัน และกลุ่มอินโดยูโรเปียน น๊านนานมาแล้วเจ้าค่ะ
โดยธงสีรุ้งที่เราได้รู้จักกันทุกวันนี้ถูกพัฒนาโดย ศิลปินชาวซานฟรานซิสโก คือ กิลเบิร์ติ เบคเคอร์ ในปี คศ.1978 โดยในเวลานั้นกลุ่มชาวรักร่วมเพศจำเป็นต้องมีสัญลักษณ์เพื่อใช้สืบต่อกันไปหลังจากงาน San Francisco Gay and Lesbian Pride Parade ในซานฟรานซิสโก นายเบคเคอร์ได้แรงบันดาลใจจากหลายๆ อย่างมารวมกันจากกลุ่มบุปผาชนหรือเรียกง่าย ๆ ว่า ฮิปปี้ที่มีความเคลื่อนไหวสู่สิทธิมนุษยชน และเค้าก็ได้สีรุ้งแปดเส้น โดยแต่ละสีนั้นได้แสดงถึงอำนาจสิทธิของกลุ่มความเคลื่อนไหวของเกย์ จากชัยชนะของสัญลักษณ์กลุ่มรักร่วมเพศในอังกฤษด้วยสีเขียวและม่วงอ่อน กลายเป็นที่นิยมในปี คศ.1960 และสีชมพูสามเหลี่ยมได้ถูกยึดมั่นเช่นเดียวกัน ซึ่งก็เหมือนกับธงเกย์สีรุ้ง ซึ่งนายเบคเคอร์ได้อธิบายถึงความหมายของแต่ละสีของกลุ่มเกย์และเลสเบี้ยน
Hot pink (ชมพู) for sexuality, คือ ลักษณะทางเพศ ความสนใจ หรือ ความสามารถในเรื่องเพศ
Red(แดง) for life คือ ที่มีชีวิต
Orange (ส้ม) for healing คือ การรักษา
Yellow (เหลือง) for the sun คือ ดวงอาทิตย์ จุดเด่น ความรุ่งโรจน์
Green (เขียว) for nature คือ ธรรมชาติ
Blue (น้ำเงิน)for art คือ ศิลปะ
Indigo (สีคราม) for harmony คือ ความกลมกลืนกัน ความลงรอยกัน
Violet (ม่วง) for spirit คือ จิตใจ หรือ น้ำใจ
นายเบคเคอร์และกลุ่มอาสาสมัครกว่าสามสิบคนได้ร่วมกันบรรจงย้อมสีด้วยมือโดยเริ่มอันเป็นต้นแบบธงเพื่อพาเหรดในปี คศ.1978 และก็เป็นที่เริ่มฮิตกันอย่างแพร่หลายทันที แต่อย่างไรก็ตามนายเบคเคอร์ก็ได้นำการดีไซน์ของเค้าเพื่อร่วมงานพาเหรดปีถัดมาและได้เอาสีชมพูออก ต่อมาในปีเดียวกัน เมื่อนาย Harvey Milk (นักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อชาวเกย์ที่เค้าทำเป็นหนังดังแห่งปีล่าสุดนี้ )ได้ถูกฆ่าตาย คณะกรรมการขบวนพาเหรดในปีคศ.1979 ได้ตกลงเห็นด้วยว่าธงของนายเบคเคอร์นั้นเป็นสัญลักษณ์ที่สมบูรณ์ของเกย์ทั้งหมด และเพื่อต่อต้านโศกนาฎกรรม ทางคณะกรรมการจึงตกลงกันเพื่อกำจัดสีครามออกไป เพราะแสดงถึงความหมายที่ไร้เหตุผลที่ไม่ลงรอยกันของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
ในวันนี้ หกสีได้กำเนิดขึ้นและแสดงระหว่างขบวนพาเหรดในปี คศ.1979 ธงได้เริ่มแพร่หลายไปอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่าข้ามไปสู่ทั่วโลก มันได้เริ่มใช้อย่างเป็นทางการโดย International Congress of Flag Makers ในปี คศ.1989 เป็นต้นมา
ขบวนพาเหรดในปี คศ.1994 ที่นิวยอร์ค ธงชาติสีรุ้งขนาดกว้าง ๓๐ ฟุต ความยาว ๑ ไมล์ ได้ถูกถือในกลุ่มรักร่วมเพศกว่าหมื่นคนอย่างสมศักดิ์ศรี
หลายคนอาจจะเคยสงสัยว่า ความหลากสีของสีรุ้งนั้นหมายถึงอะไร แม้ทุกคนจะรู้กันว่าหากเห็นสีรุ้งเมื่อไหร่นั่นย่อมบ่งบอกถึงสีประจำชนชาติของกลุ่มชาวเรา ไม่ว่าจะเป็นทุกกิจกรรมความเคลื่อนไหว โลโก้ แม้กระทั่งบางร้านค้า หรือสถานที่บางแห่งเค้าจะปักธงสีรุ้ง หรือติดสัญลักษณ์สีรุ้งเพื่อบ่งบอกถึงการต้อนรับประชาชนชาวเกย์ ...เป็นสัญลักษณ์สากลของเรา สีรุ้งของเราท่องเอาไว้เด้อค่า...