สมเด็จพระสันตะปาปาย้ำความเป็นเกย์เป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ

10 June, 2009 - 11:35 -- chana

วันนี้เรือจอดที่เมือง Civitavecchia ซึ่งเป็นเมืองท่าปากทางเข้าสู่มหานครกรุงโรม การเดินทางไปถึงกรุงโรมจากเมืองนี้ต้องนั่งรถไฟ รถทัวร์ หรือแท็กซี่เข้ากรุงโรม ประมาณหนึ่งชั่วโมง ดิฉันไปกรุงโรมหลายครั้งจนนับไม่ได้ ได้มีโอกาสไปกับทัวร์นักท่องเที่ยว ไปส่วนตัว ไปกับคนรัก ไปกับเพื่อน หรือแม้แต่ไปตามหัวใจเรียกร้อง

ครั้งหนึ่งที่ฉันยืนอยู่หน้าคริสต์ศาสนสถาน วาติกัน ณ กรุงโรม อิฉันรู้สึกเหมือนเสียงกังวาลก้องหูบอกกับตัวเองว่า แม้เราจะนับถือศาสนาแตกต่างกัน แต่เราก็ไม่เคยลบหลู่ดูหมิ่น แต่ในใจก็อดครุ่นคิดไม่ได้จากประโยคที่ สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ตรัสในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเมื่อปลายปีที่แล้ว (วันที่ 22 ธันวาคม) ณ หอเคลเมนไทน์ ในสำนักวาติกันว่า “การพิทักษ์ปกป้องมนุษยชาติให้พ้นจากพฤติกรรมรักร่วมเพศนั้นมีความสำคัญพอๆ กับการพิทักษ์รักษาผืนป่าให้พ้นจากการถูกทำลาย” และ "ศาสนจักรโรมันคาทอลิกมีหน้าที่ปกป้องสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง นั่นหมายความว่าไม่เพียงจะปกป้องผืนดิน น้ำ และอากาศเท่านั้น แต่ยังจะต้องปกป้องมนุษยชาติให้พ้นจากการทำลายตัวเองด้วย" ถ้อยคำตรัสของพระองค์ยังสะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับต่อทฤษฎีทางเพศโดยสิ้นเชิง โดยชี้ว่าทฤษฎีดังกล่าวทำให้การแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างผู้หญิงและผู้ชายนั้นพร่ามัว ไม่เป็นไปตามกฏธรรมชาติ

ดิฉันไม่เถียงหรือคัดค้านหรอกค่ะ แต่ก็ข้องใจตัวเองว่า แล้วทำไมพระเจ้าถึงได้สร้างให้คนที่เกิดมามีร่างชายแต่มีหัวใจเป็นหญิง พระเจ้าช่วยเปลี่ยนหัวใจให้เป็นชายเหมือนกับร่างกายจะได้หรือไม่ หากพระเจ้าทำได้เช่นนั้นจริง คนที่นับถือศาสนาคริสต์ทั้งหลายคงไม่มีใคร (สักคน) ที่เป็นเกย์หรือพระเจ้าไม่เข้าข้างเกย์

ตอนสมัยเรียนวิชาศีลธรรม และศาสนา เคยจำแต่ว่าทุกศาสนานั้นสอนให้คนเป็นดี แล้วคนที่เป็นเกย์ เป็นคนไม่ดีหรือ แม้ศาสนาส่วนใหญ่เชื่อว่าหากใครที่เป็นเกย์ เลสเบี้ยนนั้นเป็นบาปมหันต์ อิฉันเข้าใจว่าทุกคนมีบาป และมีกรรมของตัวเองถึงได้ต้อง “เกิด” มาชดใช้กรรมเก่า

ไม่ว่าส่วนตัวจะนับถือศาสนาอะไร แต่ส่วนทางใจแล้วบอกกับตัวเองเสมอว่า ไม่เคยคิดทำให้ศาสนาที่นับถือนั้นเสื่อมเสีย แต่ก็ภาคภูมิใจที่ตัวเองเกิดมาเป็นเกย์ สภาวะปัจเจกบุคคลทางเพศที่รักเพศเดียวกัน อย่างน้อยก็ไม่เคยคิดจะทำลายมนุษยชาติ ด้วยการหลอกตัวเองเพื่อที่จะแสร้งแต่งงานกับหญิง ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ และไม่เคยรังเกียจเพศภาวะทางธรรมชาติชายจริงหญิงแท้ หากแต่เคารพ เชิดชูด้วยซ้ำ เพราะชีวิตบอกกับตัวเองเสมอว่า ตัวเองเกิดมาคนเดียว แม้พรากจากไปก็ไปคนเดียว จริงอยู่ที่หากคนทุกคนเกิดมาเป็นเกย์ เลสเบี้ยนกันหมดความสมดุลทางธรรมชาติคงจะหมดไป เพราะไม่มีใครสืบต่อกรรมพันธุ์ แต่ความจริงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นกับคนทุกคน 



หัวข้อสนทนาสองเรื่องที่ไม่ควรนำมาถกเถียงกันนั่นคือ เรื่องการเมือง กับศาสนา วันนี้ชาน่าไม่ได้ยกประเด็นนำมาชวนทะเลาะหรือแสดงความคิดเห็น เพียงแค่อยากนำคำตรัสจากสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ผ่านถึงหลายคนที่อาจจะไม่เคยได้สดับรับฟัง แม้บางท่านจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตามมันเป็นสภาวะปัจเจกบุคคล

แม้ทฤษฎีทางเพศเป็นทฤษฎีที่กำหนดทิศทางด้านเพศ โดยที่สังคมมีบทบาทอย่างมากในการเลือกความเป็นเพศของปัจเจกบุคคล ซึ่งกลุ่มเกย์และกลุ่มรักร่วมเพศจากประเทศต่างๆ ได้ให้การสนับสนุนในทฤษฎีนี้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจและเปิดกว้างมากขึ้น โดยให้โอกาสพวกเค้าและเธอทั้งหลายได้อยู่ในสังคม แต่ถ้อยคำของสมเด็จพระสันตะปาปานั้นทรงไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุและผลประการฉะนี้ นี่เอง ภาวนาขอเกย์เมน เกย์ไทย เกย์เทศทั้งหลายจงเป็นสุข เป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

ชาน่า เขียนตรงจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี อีกครึ่งเดือนเจอกันที่แผ่นดินแม่ -เมืองไทย 

ความเห็น

Submitted by ส้มโอ on

ชอบมาค่ะโรมสวยๆๆ ส้มโอก็มาเที่ยวโรม สวยมากนะค่ะอิตาลีแต่ คนวิ่งลาวเอยะดีนะค่ะ

Submitted by เนยคุง on

เป็นการแสดงความคิดเห็นได้ดีทีเดียว แต่ก็ยังลำบากอยู่ดี
ขอแสดงความเป็นห่วงทุกคนะ ไม่ว่า ชาย หญิง หรือ รักร่วมเพศ เพศใดก็ตาม
ขอให้มีความสุข คำพูดของคนบางคน หรือบางกลุ่ม มุ่งเน้นทำลาย ไม่สร้างสรรค์
จงอดทนต่อไป อนาคตอาจดีเอง

หนีตาม...เกย์ชาน่า (ไม่ใช่กาลิเลโอ)

28 March, 2010 - 00:00 -- chana

 
หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี บ้างแค่ผ่านมาแล้วผ่านไป   เส้นทางของหนังหลายเมืองใหญ่ดัง ๆ ระดับโลก ฉันเคยไปเหยียบมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลอนดอน ปารีส โรม อิตาลี่ ฟลอเรนซ์ แต่การเดินทางของฉัน เคลื่อนไปกับเรือสำราญลำใหญ่ที่จุคนมากกว่าสี่พันชีวิตต่อครั้ง ทั้งผู้โดยสารสามพันกว่า และลูกเรืออีกพันสองร้อยชีวิต จากนานาประเทศ

หลัง พ.ศ. 2499 เราชาวเกย์เป็นไท ไม่ผิดกฎอาญา

22 March, 2010 - 13:42 -- chana

หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้

(ไม่)ชวนเสียวในคืนสยอง...

28 February, 2010 - 00:00 -- chana

 

เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ของ...จิ๋ม ซาร่า

14 February, 2010 - 00:00 -- chana

"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...."
มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"

 


หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”

'เหวี่ยง' กันทำไม ?

7 February, 2010 - 00:00 -- chana

 

การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน

วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ