Skip to main content

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับนักแสดงฝีมือระดับโลกที่ได้รับรางวัลหมาด ๆ สาขา “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ฌอน เพนน์ ที่คว้ารางวัล Academy Awards ครั้งที่ 81 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชีวิตจริงของเค้าจะไม่ใช่เกย์ก็ตาม

มิลค์ เป็นหนังที่กล่าวถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 ใน 5 ของหนังดังระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง คืนวันอาทิตย์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาน่าได้มีโอกาสดูการถ่ายทอดสดตรงจาก ทีเอ็นที ณ โรงละครโกดัก แอลเอ โดยหนังเรื่องนี้เข้าชิงหลายรางวัล เช่น หนังดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น แม้จะไม่ได้รางวัลแต่อย่างน้อย ดารานำฝ่ายชายของหนังเรื่องนี้ก็ขึ้นไปรับรางวัลอย่างสมเกียรติ พร้อมประกาศก้องว่า “คนเราทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม” กล้องได้จับภาพผู้มาร่วมงานพร้อมกับเสียงปรบมือกระหึ่มทั่วโรงละคร

โดยส่วนตัวแล้วอิฉันยังไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปพรีวิว จากแหล่งข้อมูล พร้อมนำเรื่องย่อมาฝากเป็นไกด์นำทางเพื่ออรรถรสในการชม และรายละเอียดของหนังเรื่องนี้กันค่ะ



Milk / ฮาร์วี่ย์ มิลค์ ผู้ชายฉาวโลก
กำกับการแสดงโดย : Gus Van Sant
นำแสดงโดย : Sean Penn, Allison Pill, Josh Brolin, Emile Hirsch, James Franco
ประเภท : Drama, Biopic
เรท : R
ความยาว : 2.8 ชม.
วันที่เข้าฉาย : 26 กุมภาพันธ์ 2552
ค่ายภาพยนตร์ : M Pictures

เนื้อเรื่องโดยย่อ มิลค์เป็นการตั้งชื่อหนังตามชื่อของนักต่อสู้ โดยแสดงถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศซึ่งมิล์คได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอเมริกา เป็นต้นกล้าสำคัญในการต่อสู้จนนำมาสู่การยอมรับ และการกล้าเปิดเผยตัวเองมากขึ้นในปัจจุบัน ที่กระจายไปทั่วโลก จนนิตยสารไทม์ได้ยกย่องให้ให้เขาเป็นหนึ่งในร้อยบุคคลสำคัญของโลกแห่งศตวรรษ แต่หลังจากดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาระยะหนึ่ง มิล์ดได้มีเรื่องบาดหมางกับ แดน ไวท์ คู่แข่งทางการเมืองที่เกลียดเกย์ ทำให้มิล์คถูกไวท์ยิงในระยะเผาขน พร้อมกับนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก ในปี 1978


มิลค์
เขาคือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ คือเพื่อน คือคนรัก คือศูนย์รวมจิตใจ เขาเป็นนักการเมือง เป็นนักสู้ เป็นบุคคลผู้ควรค่าแก่การยกย่อง เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นวีรบุรุษ เรื่องราวของเขาพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ ความหาญกล้าของเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากที่น่าสรรเสริญและยกย่องเป็นอย่างยิ่ง


ในปี
1977 ฮาร์วีย์ มิลค์ ได้รับเลือกให้เข้าไปนั่งในสภาที่ปรึกษาแห่งซานฟรานซิสโก เขาคือเกย์เปิดเผยคนแรกที่มีสิทธิ์มีเสียงในองค์กรทางเมืองของสหรัฐอเมริกา ชัยชนะของมิลค์ไม่ใช่เพียงเพื่อสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการกำจัดความเหลื่อมล้ำทางการเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ ฮาร์วีย์ มิลค์ ยังเปลี่ยนความหมายของการเป็นนักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกันทุกชนชั้นตั้งแต่ราษฎรอาวุโสไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กระทั่งเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในปี 1978


ภาพยนตร์เรื่อง
Milk ถ่ายทอดช่วงชีวิต 8 ปีสุดท้ายของ ฮาร์วีย์ มิลค์ เริ่มตั้งแต่ตอนที่มิลค์ในวัย 40 ปีอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก จนกระทั่งตัดสินใจออกตามหาจุดมุ่งหมายอื่นๆ ในชีวิต โดยย้ายมาลงหลักปักฐานกับคนรักคือ สกอตต์ สมิธ (รับบทโดย เจมส์ ฟรังโก้) ในซานฟราซิสโก และเปิดธุรกิจเล็กๆ ชื่อ Castro Camera ณ ใจกลางชุมชนของชนชั้นกรรมาชีพ ซึ่งต่อมากลายเป็นสถานที่พักพิงทางใจของกลุ่มรักร่วมเพศจากทั่วประเทศ ชุมชนคาสโตรอันเป็นที่รักบวกกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเพิ่มพลังชีวิตให้กับมิลค์เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นสร้างความประหลาดใจให้กับสกอตต์และตัวของเขาเองด้วยการเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง เขาเรียกร้องความเท่าเทียมทางสิทธิและโอกาสให้กับทุกๆ คน ความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเมืองและผู้คนในเมืองนี้ทำให้เขาต้องสลับบทบาทไปมาเป็นเด็กบ้าง เป็นคนแก่บ้าง เป็นชายแท้บ้าง และเป็นชายรักร่วมเพศบ้าง ท่ามกลางอคติและกระแสต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศซึ่งเปรียบประหนึ่งบรรทัดฐานของสังคมในเวลานั้น

ด้วยแรงหนุนเต็มกำลังจากสกอตต์ บรรดาเพื่อนใหม่ และเหล่าอาสาสมัคร มิลค์จึงกระโจนเข้าสู่กระแสการเมืองอันเชี่ยวกราก รวมทั้งคอยดูแลช่วยเหลือหนุ่มนักเคลื่อนไหวไฟแรงอย่าง คลีฟ โจนส์ (เอมิล เฮิร์สช์) ไปพร้อมๆ กัน เขาใช้อารมณ์ขันมัดใจสาธารณชน และลงมือทำจริงจังมากกว่าดีแต่พูด ไม่นานนักก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่กระนั้น มิลค์ก็ยังยืนกรานจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองส่วนท้องถิ่นให้ได้ อันเป็นเหตุให้เขาและสกอตต์ต้องแยกทางกันไป ผ่านมาถึงช่วงที่เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 4 จึงได้พบรักใหม่กับ แจ็ค ลิร่า (ดิเอโก ลูนา)


มิลค์ได้ชัยชนะในการลงสมัครครั้งสุดท้ายนี้เอง โดยได้รับเลือกให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาประจำเขตการปกครองที่
5 เขาดูแลซานฟรานซิสโกเป็นอย่างดี พร้อมกันนั้นก็วิ่งเต้นคัดค้านข้อบังคับประจำเมืองเพื่อปกป้องผู้คนจากการถูกไล่ออกหลังจากที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองรวมไปถึงนำขบวนประท้วงการทำประชามติทั่วทั้งรัฐเพื่อไล่ครูที่เป็นเกย์รวมทั้งผู้สนับสนุนให้ออกจากโรงเรียน ซึ่งเขาตระหนักดีว่าการต่อสู้กับ Proposition 6 นี้จะเปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ในเวลาเดียวกันจุดมุ่งหมายทางการเมืองของมิลค์ก็เริ่มสวนทางกับจุดมุ่งหมายของกรรมการที่ปรึกษาหน้าใหม่อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ แดน ไวท์ (จอช โบรลิน) จนกระทั่งโชคชะตาของทั้งสองมาบรรจบกันและจบลงที่ความเศร้า แนวคิดของมิลค์เคยเป็นและยังคงเป็นแนวคิดที่ว่าด้วยเรื่องความหวัง อันเปรียบได้ดั่งมรดกที่วีรบุรุษท่านนี้ส่งต่อให้คนรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบัน

 


ฮาร์วี่ มิลค์ รับบทโดยฌอน เพนน์ นักแสดงผู้ชนะรางวัลออสการ์ โดยในบทบาทของเรื่องเค้าเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวรักร่วมเพศและเป็นชายที่ประกาศตัวว่าเป็นรักร่วมเพศคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นเทศมนตรีของซานฟรานซิสโก ภายใต้การกำกับโดยผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ กัส แวน แซงต์ จากบทภาพยนตร์โดย ดัสติน แลนซ์ แบล็ก ควบคุมงานสร้างโดยผู้ชนะรางวัลออสการ์ แดน จิงก์ส และ บรูซ โคเฮน หนังเรื่องนี้ถ่ายทำจากสถานที่จริงในมหานครซานฟรานซิสโก ชาน่าเคยไปเที่ยวสองครั้งที่นี่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองหลวงของเกย์ทางแถบแปซิฟิก บริเวณแคสโทร ยิ่งกว่าอาณาจักรของเกย์ และกลุ่มรักร่วมเพศที่คุณมีอิสระเสรีมากที่สุด

หนังดีมีระดับดีกรีเข้าชิงหนึ่งในห้า และที่สำคัญ “มิลค์” เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศอย่างเราท่าน พลาดไม่ได้ ว่างเมื่อไหร่หาโอกาสดูนะคะ



อีกหนึ่งความภาคภูมิใจเหลือเกินว่า อย่างน้อยโลกของการต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่มชาวรักร่วมเพศก็เป็นเรื่องเป็นราวที่เกิดขึ้นมาได้ ก็เพราะอาศัยคนจริง ทำจริง สู้จริง ที่ช่วยกันแม้โลกจะมองต่างมุม ผิดองศาขนาดไหน แต่ถ้าหากเราสู้ด้วยเหตุและผล ผลของการต่อสู้นั้นมีค่ามหาศาล เพื่ออนุชนชาวเกย์คนรุ่นหลังจักได้เป็นอยู่อย่างสุขสบาย และไม่อายใครแม้เราจะมีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างนี้ แต่เราก็เลือกที่จะประกาศก้องให้โลกได้รับรู้ว่า “เราทำได้” เหมือนเพศชายจริงหญิงแท้ทำได้เช่นกัน ดังนั้นสิทธิและเสรีภาพจึงควรอยู่คู่กับเราให้ได้รับผลอย่างเท่าเทียมกัน มิลค์
...สู้ ตายฮ่ะ


special thanks to www.milkthemovie.com & www.bangkokrainbow.org

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…