Skip to main content

ก่อนอื่นต้องขอแสดงความดีใจกับนักแสดงฝีมือระดับโลกที่ได้รับรางวัลหมาด ๆ สาขา “นักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม” ฌอน เพนน์ ที่คว้ารางวัล Academy Awards ครั้งที่ 81 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรี แม้ชีวิตจริงของเค้าจะไม่ใช่เกย์ก็ตาม

มิลค์ เป็นหนังที่กล่าวถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล 1 ใน 5 ของหนังดังระดับโลกอีกเรื่องหนึ่ง คืนวันอาทิตย์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชาน่าได้มีโอกาสดูการถ่ายทอดสดตรงจาก ทีเอ็นที ณ โรงละครโกดัก แอลเอ โดยหนังเรื่องนี้เข้าชิงหลายรางวัล เช่น หนังดีเด่น ผู้กำกับดีเด่น แม้จะไม่ได้รางวัลแต่อย่างน้อย ดารานำฝ่ายชายของหนังเรื่องนี้ก็ขึ้นไปรับรางวัลอย่างสมเกียรติ พร้อมประกาศก้องว่า “คนเราทุกคนควรมีสิทธิเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม” กล้องได้จับภาพผู้มาร่วมงานพร้อมกับเสียงปรบมือกระหึ่มทั่วโรงละคร

โดยส่วนตัวแล้วอิฉันยังไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปพรีวิว จากแหล่งข้อมูล พร้อมนำเรื่องย่อมาฝากเป็นไกด์นำทางเพื่ออรรถรสในการชม และรายละเอียดของหนังเรื่องนี้กันค่ะ



Milk / ฮาร์วี่ย์ มิลค์ ผู้ชายฉาวโลก
กำกับการแสดงโดย : Gus Van Sant
นำแสดงโดย : Sean Penn, Allison Pill, Josh Brolin, Emile Hirsch, James Franco
ประเภท : Drama, Biopic
เรท : R
ความยาว : 2.8 ชม.
วันที่เข้าฉาย : 26 กุมภาพันธ์ 2552
ค่ายภาพยนตร์ : M Pictures

เนื้อเรื่องโดยย่อ มิลค์เป็นการตั้งชื่อหนังตามชื่อของนักต่อสู้ โดยแสดงถึงการต่อสู้เพื่อสิทธิของชาวรักร่วมเพศซึ่งมิล์คได้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอเมริกา เป็นต้นกล้าสำคัญในการต่อสู้จนนำมาสู่การยอมรับ และการกล้าเปิดเผยตัวเองมากขึ้นในปัจจุบัน ที่กระจายไปทั่วโลก จนนิตยสารไทม์ได้ยกย่องให้ให้เขาเป็นหนึ่งในร้อยบุคคลสำคัญของโลกแห่งศตวรรษ แต่หลังจากดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาระยะหนึ่ง มิล์ดได้มีเรื่องบาดหมางกับ แดน ไวท์ คู่แข่งทางการเมืองที่เกลียดเกย์ ทำให้มิล์คถูกไวท์ยิงในระยะเผาขน พร้อมกับนายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก ในปี 1978


มิลค์
เขาคือนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ คือเพื่อน คือคนรัก คือศูนย์รวมจิตใจ เขาเป็นนักการเมือง เป็นนักสู้ เป็นบุคคลผู้ควรค่าแก่การยกย่อง เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นวีรบุรุษ เรื่องราวของเขาพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ ความหาญกล้าของเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากที่น่าสรรเสริญและยกย่องเป็นอย่างยิ่ง


ในปี
1977 ฮาร์วีย์ มิลค์ ได้รับเลือกให้เข้าไปนั่งในสภาที่ปรึกษาแห่งซานฟรานซิสโก เขาคือเกย์เปิดเผยคนแรกที่มีสิทธิ์มีเสียงในองค์กรทางเมืองของสหรัฐอเมริกา ชัยชนะของมิลค์ไม่ใช่เพียงเพื่อสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการกำจัดความเหลื่อมล้ำทางการเมืองอีกด้วย นอกจากนี้ ฮาร์วีย์ มิลค์ ยังเปลี่ยนความหมายของการเป็นนักสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และกลายเป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกันทุกชนชั้นตั้งแต่ราษฎรอาวุโสไปจนถึงกลุ่มผู้ใช้แรงงาน กระทั่งเขาเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในปี 1978


ภาพยนตร์เรื่อง
Milk ถ่ายทอดช่วงชีวิต 8 ปีสุดท้ายของ ฮาร์วีย์ มิลค์ เริ่มตั้งแต่ตอนที่มิลค์ในวัย 40 ปีอาศัยอยู่ในนิวยอร์ก จนกระทั่งตัดสินใจออกตามหาจุดมุ่งหมายอื่นๆ ในชีวิต โดยย้ายมาลงหลักปักฐานกับคนรักคือ สกอตต์ สมิธ (รับบทโดย เจมส์ ฟรังโก้) ในซานฟราซิสโก และเปิดธุรกิจเล็กๆ ชื่อ Castro Camera ณ ใจกลางชุมชนของชนชั้นกรรมาชีพ ซึ่งต่อมากลายเป็นสถานที่พักพิงทางใจของกลุ่มรักร่วมเพศจากทั่วประเทศ ชุมชนคาสโตรอันเป็นที่รักบวกกับทัศนียภาพอันงดงามของเมืองเพิ่มพลังชีวิตให้กับมิลค์เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นสร้างความประหลาดใจให้กับสกอตต์และตัวของเขาเองด้วยการเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง เขาเรียกร้องความเท่าเทียมทางสิทธิและโอกาสให้กับทุกๆ คน ความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเมืองและผู้คนในเมืองนี้ทำให้เขาต้องสลับบทบาทไปมาเป็นเด็กบ้าง เป็นคนแก่บ้าง เป็นชายแท้บ้าง และเป็นชายรักร่วมเพศบ้าง ท่ามกลางอคติและกระแสต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศซึ่งเปรียบประหนึ่งบรรทัดฐานของสังคมในเวลานั้น

ด้วยแรงหนุนเต็มกำลังจากสกอตต์ บรรดาเพื่อนใหม่ และเหล่าอาสาสมัคร มิลค์จึงกระโจนเข้าสู่กระแสการเมืองอันเชี่ยวกราก รวมทั้งคอยดูแลช่วยเหลือหนุ่มนักเคลื่อนไหวไฟแรงอย่าง คลีฟ โจนส์ (เอมิล เฮิร์สช์) ไปพร้อมๆ กัน เขาใช้อารมณ์ขันมัดใจสาธารณชน และลงมือทำจริงจังมากกว่าดีแต่พูด ไม่นานนักก็กลายเป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่กระนั้น มิลค์ก็ยังยืนกรานจะเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองส่วนท้องถิ่นให้ได้ อันเป็นเหตุให้เขาและสกอตต์ต้องแยกทางกันไป ผ่านมาถึงช่วงที่เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งที่ 4 จึงได้พบรักใหม่กับ แจ็ค ลิร่า (ดิเอโก ลูนา)


มิลค์ได้ชัยชนะในการลงสมัครครั้งสุดท้ายนี้เอง โดยได้รับเลือกให้เป็นกรรมการที่ปรึกษาประจำเขตการปกครองที่
5 เขาดูแลซานฟรานซิสโกเป็นอย่างดี พร้อมกันนั้นก็วิ่งเต้นคัดค้านข้อบังคับประจำเมืองเพื่อปกป้องผู้คนจากการถูกไล่ออกหลังจากที่เปิดเผยรสนิยมทางเพศของตัวเองรวมไปถึงนำขบวนประท้วงการทำประชามติทั่วทั้งรัฐเพื่อไล่ครูที่เป็นเกย์รวมทั้งผู้สนับสนุนให้ออกจากโรงเรียน ซึ่งเขาตระหนักดีว่าการต่อสู้กับ Proposition 6 นี้จะเปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำหรับการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิเกย์ในเวลาเดียวกันจุดมุ่งหมายทางการเมืองของมิลค์ก็เริ่มสวนทางกับจุดมุ่งหมายของกรรมการที่ปรึกษาหน้าใหม่อีกท่านหนึ่ง นั่นคือ แดน ไวท์ (จอช โบรลิน) จนกระทั่งโชคชะตาของทั้งสองมาบรรจบกันและจบลงที่ความเศร้า แนวคิดของมิลค์เคยเป็นและยังคงเป็นแนวคิดที่ว่าด้วยเรื่องความหวัง อันเปรียบได้ดั่งมรดกที่วีรบุรุษท่านนี้ส่งต่อให้คนรุ่นหลังมาจนถึงปัจจุบัน

 


ฮาร์วี่ มิลค์ รับบทโดยฌอน เพนน์ นักแสดงผู้ชนะรางวัลออสการ์ โดยในบทบาทของเรื่องเค้าเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิชาวรักร่วมเพศและเป็นชายที่ประกาศตัวว่าเป็นรักร่วมเพศคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็นเทศมนตรีของซานฟรานซิสโก ภายใต้การกำกับโดยผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ กัส แวน แซงต์ จากบทภาพยนตร์โดย ดัสติน แลนซ์ แบล็ก ควบคุมงานสร้างโดยผู้ชนะรางวัลออสการ์ แดน จิงก์ส และ บรูซ โคเฮน หนังเรื่องนี้ถ่ายทำจากสถานที่จริงในมหานครซานฟรานซิสโก ชาน่าเคยไปเที่ยวสองครั้งที่นี่ เปรียบเสมือนเป็นเมืองหลวงของเกย์ทางแถบแปซิฟิก บริเวณแคสโทร ยิ่งกว่าอาณาจักรของเกย์ และกลุ่มรักร่วมเพศที่คุณมีอิสระเสรีมากที่สุด

หนังดีมีระดับดีกรีเข้าชิงหนึ่งในห้า และที่สำคัญ “มิลค์” เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศอย่างเราท่าน พลาดไม่ได้ ว่างเมื่อไหร่หาโอกาสดูนะคะ



อีกหนึ่งความภาคภูมิใจเหลือเกินว่า อย่างน้อยโลกของการต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่มชาวรักร่วมเพศก็เป็นเรื่องเป็นราวที่เกิดขึ้นมาได้ ก็เพราะอาศัยคนจริง ทำจริง สู้จริง ที่ช่วยกันแม้โลกจะมองต่างมุม ผิดองศาขนาดไหน แต่ถ้าหากเราสู้ด้วยเหตุและผล ผลของการต่อสู้นั้นมีค่ามหาศาล เพื่ออนุชนชาวเกย์คนรุ่นหลังจักได้เป็นอยู่อย่างสุขสบาย และไม่อายใครแม้เราจะมีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างนี้ แต่เราก็เลือกที่จะประกาศก้องให้โลกได้รับรู้ว่า “เราทำได้” เหมือนเพศชายจริงหญิงแท้ทำได้เช่นกัน ดังนั้นสิทธิและเสรีภาพจึงควรอยู่คู่กับเราให้ได้รับผลอย่างเท่าเทียมกัน มิลค์
...สู้ ตายฮ่ะ


special thanks to www.milkthemovie.com & www.bangkokrainbow.org

 

 

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
วันก่อนดูข่าวซีเอ็นเอ็น หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าสำนักข่าวเห็นสองเอ็น รายงานเรื่องราวของชาวอเมริกัน กลุ่มรักร่วมเพศที่กลายสภาพจากหญิงจริงเป็นชายด้วยหน้าตา รูปร่างแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือผู้หญิงมาก่อน ทั้งหนวดเครา กล้ามหน่อยๆ หน้าแมนๆ ได้เห็นแล้วยังทึ่งนิดส์ นิด เพราะปกติตัวเองจะเคยชินเห็นแต่ภาพชายแปลงร่างเป็นหญิง ไม่ค่อยได้เห็นหญิงทอมแปลงร่างเป็นชายมากมายนัก หากอ่านหัวข้อ คงไม่ว่ากันว่าทำไมถึงเขียนคำว่า แปลง หลังคำว่าผู้ชาย ไม่งั้นอ่านแล้วอาจจะดูเหมือนชาน่าตอหะแล ผู้ชายในโลกนี้ใครจะท้องได้ (มันก็จริงแฮะ) ตอนแรกก็ตกใจเป็นไปได้ไง ผู้ชายเหรอที่ท้อง แต่พอทรายรายละเอียดจริง ๆ ถึงได้บางอ้อว่า…
ชาน่า
เมื่อวันก่อนได้เปิดอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ชาติต่าง ๆ ผ่านสัญญาณดาวเทียมส่งตรงมายังเรือสำราญที่กำลังล่องแถบทวีปยุโรป สะดุดข่าวหนึ่งที่รายงานสองสามวันติดกัน ในหนังสือพิมพ์ "India Today" วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 หัวข้อข่าวพาด "Gays set for first nationwide pride marches" และ "Gay Pride out on street Kolkata" สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียถึงข่าวคราวนี้ ทราบว่า สมัยก่อนเมื่อราวเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมา ก่อนที่อินเดียจะได้รับอิสระในปี 1947 ประเทศอินเดียนั้นถือว่า การเป็นเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎ ผิดจารีต ประเพณี หรือเรียกบ้าน ๆ ว่าผิดผีหนะฮ่ะ ในสมัยก่อนๆ…
ชาน่า
"อันชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนพิกลนัก" คำกล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ที่พวกเรารู้จักกันดีและเห็นด้วยในความหมายของประโยคนี้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่าบอกนะว่าคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าไม่ชอบเพลง ถ้าชอบก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแนวไหน โดยส่วนตัวของชาน่าฟังได้ทุกแนวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแนวตะเข็บชายแดน หรือเด็กแนว เด็กหยาม (วัยรุ่นสยาม) เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล ฟังได้ไม่เลือกแต่ก็ขึ้นอยู่กับกาละและเทศะ กะอารมณ์อีกทีหนะฮ่ะ เพลงหลายเพลงแต่งจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่งจากแรงบันดาลใจ หลายเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ทุกเหตุการณ์ ทุกอารมณ์ ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ปรุงแต่งทำนอง…
ชาน่า
พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า
ชาน่า
นานแล้วที่ไม่ได้เม้าท์เรื่องราวภัยรายวัน หลังจากที่คอลัมน์เตือนภัยที่มีคนเข้าอ่านเกือบหมื่น เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเกือบปีเชียวฮ่ะ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกย์หลายคนร้องเรียก เม้าท์แตกกัน วันนี้จึงขอหยิบหลากหลายเรื่องราวมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะฮะ บางเรื่องราวฟังไว้ไม่เสียหลาย บางราย “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” คุณขา ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจทรุด การเมืองแทรก ความมั่นคงถดถอย น่าเห็นใจชาวไทยกันถ้วนหน้าที่ต้องรับสภาพปัญหาเยี่ยงนี้ชาน่าขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อที่เพื่อน ๆ เม้าท์ให้ทราบละกันฮ่า 
ชาน่า
เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อยส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน
ชาน่า
ลูกคือดวงใจและ (แทบจะ) เป็นทุกอย่างของพ่อและแม่ หัวอกของพ่อและแม่ทุกคนอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ มีความสุข เป็นที่พึ่งและเป็นไปดังใจหวัง "สมหวัง และผิดหวัง" จึงเหมือนสัจธรรมที่อยู่คู่กันเสมอ กล่าวโดยรวมๆ ทุกเรื่องเพื่อจะโยงเข้าสู่แม้แต่ "ความหวัง"ของพ่อและแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นเพศปกติ เพศที่สอดคล้อง ถูกต้อง กับร่างกายและจิตใจ
ชาน่า
เทศกาลของไทยเรามีมากมายหลายช่วงแทบจะเกิดขึ้นทุกเดือนเลยก็ว่าได้ แต่มีเทศกาลหนึ่งที่ชาน่าร่วมเติบโตมากับสังคมไทยนานแสนนาน (กำลังจะได้โล่ห์ ตำแหน่งชาน่าโบราณ รุ่นลายครามไม่ช้าก็ไว)  ทุกครั้ง ทุกที ทุกปีที่ได้สัมผัส บอกได้คำเดียวว่า... “แซ่บ เริ่ด ม่วนแต๊ๆ เกิดมันส์”  เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้วเรายังได้สาระมากมายในเทศกาลที่ชาน่ากำลังจะกล่าวถึงนี้ 
ชาน่า
“กลัวติดโรคจัง กังวลอย่างบอกไม่ถูกจะทำยังไงดี”  “อยากไปตรวจเลือด แต่ไม่กล้ากลัวคนรู้จัก กลัวคนอื่นรู้”“จะไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลไหน ค่าใช้จ่ายไม่แพง เพราะเผลอเสี่ยงร่วมรักกับชายแปลกหน้า”อาจจะเป็นคำถามของใครบางคนที่ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจ วัดน้ำหนักช่างกล้าไปตรวจเลือดเพื่อไขปัญหาข้องใจว่าตัวเองบริสุทธิ์หรือรับเชื้อร้ายเข้าไปในร่างกายประชากรชาวเกย์หลายคนรู้จักกันดี  “คลินิกนิรนาม” ที่เปิดให้บริการสำหรับกลุ่มชายรักชาย ชายร่วมเพศกับชายเท่านั้น (งานนี้ไม่มีชะนีปะปนแม้แต่นิด)   แต่สมาชิกเกย์น้องใหม่ใครหลายคนที่ยังไม่รู้จัก…
ชาน่า
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศมีให้ติดตามโดยตลอด ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จริงหรือไม่  ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดว่า "กลุ่มรักร่วมเพศปนอยู่ในสังคมเราอย่างแยกเสียไม่ได้"  เคยคิดจะเขียนคอลัมน์เรื่อง  "การไม่ยอมรับผู้บริจาคเลือดที่อยู่ในกลุ่มอัตราเสี่ยงหรือรักร่วมเพศ"  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเว็บเกย์สากลในสหรัฐอเมริกา แต่งานประจำรัดตัวยังไม่ทันจะเขียนก็มีข่าวคราวจากเมืองไทยเข้ามาในเรื่องนี้ คราวนี้ชาน่านิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ประสานงานไปทางเพื่อน ๆ หลายฝ่าย รวมทั้งเพื่อนๆ ชาวสยามสแควร์  ของเว็บสังคมชาวไทย "พันทิป" ตั้งกระทู้ถามไถ่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น…
ชาน่า
โลกของละครและโลกของความเป็นจริงนั้นบางทีช่างเหมือนกันจนแยกไม่ออก  "ละครสร้างจากเรื่องชีวิตจริง"  หรือ "ชีวิตจริงเลียนแบบละคร"  โลกใบใหญ่ของเราแต่ละคนล้วนเป็นโลกแห่งละครทั้งสิ้นอย่างแยกเสียไม่ได้ผู้ใหญ่หลายฝ่ายเคยต่อต้านและห้ามปรามกลุ่มรักร่วมเพศ  เกย์ กะเทย แพร่ภาพทางอากาศ ทีวี วิทยุ ภาพยนตร์ ด้วยหลากหลายเหตุผลของผู้ใหญ่ที่มองสังคมอย่างเป็นห่วง  แต่บางครั้งผู้ใหญ่อาจจะลืมดูโลกของความเป็นจริงที่ไม่ได้เพ้อฝัน จินตนาการ บังคับและกำหนดอยากให้ผู้อื่นเป็น  ชีวิตของคนกลุ่มรักร่วมเพศนั้นปะปน อยู่ในทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกชนชั้น ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติและศาสนาอย่างเห็นได้ชัด…
ชาน่า
การท่องเที่ยวไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติมานานแสนนาน แม้บางช่วงเศรษฐกิจจะทรุด การเมืองจะแทรก ปัญหาหลากหลายจะเสริมทำให้ไม่ราบเรียบมากนักในบางช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น “ประเทศไทย” ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังคุด ละมุดลำใย แห่กระหน่ำมาเที่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด หากจะมองถึงกลุ่มเป้าหมายชาวรักร่วมเพศ เกย์ กะเทย เลสเบี้ยน ถือว่ามาเที่ยวบ้านเมืองนี้ ดีนักแล เพราะทางเจ้าของประเทศ สยามเมืองยิ้ม กระหยิ่มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเปิดกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมกัน…