Skip to main content

เมื่อปลายปีที่แล้ว (2 ธันวาคม 2551)ได้ฤกษ์เปิดตัวหนังสือ GENDER ออกเผยแพร่เพื่อประชาชน เพื่อการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์ ทั้งชายจริง หญิงแท้และโดยเฉพาะกลุ่มหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดพิมพ์โดย สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดเพราะเนื้อหาสาระคับเล่มเต็มไปด้วยความรู้ และบันเทิงเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา และมานุษยวิทยา ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ผลงานของ นางกัลยา ลักษณเกียรติ, นางวินิดา ชวนางกูร, น.ส.เพลินพิศ พรหมมะลิ, นางนภาพร วิบูลยานนท์, นายภักดี ศรีสุวรรณ, นายสุเชษฐ นาคเอี่ยม และนายบุญยะฤทธิ์ มาบกลาง

งานนี้เค้าเปิดตัวอย่างอลังการ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยวันนั้นนายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ Gender: ความหลากหลายทางเพศซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของการรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก (1 ธันวาคม 2551) ว่า กรมควบคุมโรคได้จัดทำแผนยุทธ์ศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ.2550-2554 โดยเน้นการบูรณาการป้องกัน ดูแล รักษา และลดผลกระทบในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย เพื่อลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากที่เคยคาดประมาณ ไว้ ซึ่งจำเป็นจะต้องสร้างกระบวนการที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทางเพศที่ ปลอดภัยในการป้องกันเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่ยั่งยืน โดยบูรณาการรูปแบบวิธีการดำเนินการต่างๆ ทั้งการให้องค์ความรู้เชิงวิชาการ การทำงานเชิงสังคมทุกรูปแบบ การให้คำปรึกษาแนะนำทางโทรศัพท์ การช่วยเหลือด้านกฎหมาย สิทธิทางสังคม การพัฒนาศักยภาพของตนเองและผู้ทำงานเกี่ยวกับชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย โดยการสร้างสื่อที่มีสาระเนื้อหาที่ตรงใจภายใต้ฐานคิดและช่องทางการสื่อสาร ความรู้ด้านสุขภาพ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายซึ่งมีวิถีเฉพาะ อีกทั้งยังถูกตีตราและซ่อนเร้น

นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการศึกษาต่างๆทั่วโลก พบว่าประมาณร้อยละ 2-10 ของผู้ชาย เป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ที่สำคัญมีหลายเหตุผลที่อธิบายได้ว่า ทำไมชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย อาจมีความต้องการทางเพศสูงชายรักหญิงหรือมากกว่าหญิง โดยที่บางคนอาจเลือกมีความสัมพันธ์แบบเปิด คือการที่ต่างคนต่างสามารถมีเซ็กส์กับคนอื่น โดยคู่ที่มีความสัมพันธ์แบบเปิดนี้มักใช้ถุงยางอนามัยเวลามีเพศสัมพันธ์ด้วยกัน ขณะที่คู่ที่รักเดียวใจเดียวมักจะหยุดใช้ถุงยางอนามัยเมื่อคบกันไประยะหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายแอบไปมีความสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ป้องกันกับคนอื่น
 

 


ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมี แนวโน้มสูงขึ้นในปีพ.ศ.2546 ในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครพบอัตราการติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 17.3 และเพิ่มสูงขึ้นเป็นร้อยละ 28.3 และ 30.7 ในปีพ.ศ. 2548 และ 2550 นอกจากนี้การสำรวจในจังหวัดใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่และภูเก็ต พบว่าการติดเชื้อเอชไอวีก็มีอัตราสูงขึ้นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัย กับคู่ฉาบฉวย หรือคนรักต่ำกว่าร้อยละ 50 และกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่ทำการเฝ้าระวังนี้ ยังมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันเอดส์ค่อนข้างต่ำอีกด้วย สะท้อนให้เห็นได้ว่ากลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายนอกจากจะมีความสำคัญใน เชิงสังคมแล้ว ยังมีความสำคัญในมิติเชิงสุขภาพด้วยโดยเฉพาะในด้านโรคเอดส์


ทางด้านแพทย์หญิงพัชรา ศิริวงศ์รังสรร ผู้อำนวยการโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวเพิ่มเติม ว่า การทำโครงการเสริมสร้างความเข้าใจในสุขภาวะทางเพศสำหรับชายที่มีเพศสัมพันธ์ กับชาย ภายใต้บริบทของการสื่อสารผ่านตัวหนังสือในลักษณะของการเล่าเรื่อง และพูดคุยด้วยภาษา และวิถีเฉพาะของกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายเพื่อสร้างความเข้าใจ และสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ปลอดภัยจากเอดส์และโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตหนังสือกึ่งนิตยสารเชิงวิชาการที่ผสมผสานความรู้ ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพสังคมวิทยารวมถึงมานุษวิทยาที่ตั้งใจนำเกร็ดความรู้ สู่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศให้รู้เท่าทันเอดส์ เนื้อหาสาระประกอบด้วยการพูดคุยในลักษณะการเล่าเรื่องและโน้มนำสู่การ ปฏิบัติเพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยผ่านประสบการณ์ตรงอย่างเข้าใจของผู้ มีวิถีการดำเนินชีวิตเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย พร้อมสอดแทรกความรู้เพื่อ การเพื่อการป้องกันโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำนวน 15,000 เล่ม ซึ่งหนังสือ Gender จะเป็นคู่มือ เป็นเกราะป้องกันที่ดี เป็นแหล่งความรู้ ความเข้าใจ และเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญที่เราทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง เพศที่สาม จะได้ร่วมมือ ร่วมใจกัน ร่วมสร้างพลังเพื่อป้องกันโรคเอดส์ให้หมดไปจากประเทศไทยและโลกของในอนาคต

 

 

 

ในวันเปิดตัวหนังสือ Gender ได้มีการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากวง Ten Eleven การแสดงคาบาเร่ย์โชว์จากทีมคุณนก ยลลดา เกริก-ก้อง สวนยศ การแสดงละครสะท้อนเกย์ โดยกลุ่มดอกไม้แห่งความบันเทิง และการเดินสายประชา- สัมพันธ์ในรูปแบบ Road Show และแจกหนังสือตามสถานที่ที่เป็นศูนย์รวมของกลุ่มชายที่มีเพศ- สัมพันธ์กับชาย เช่น สถานบริการ สถานบันเทิง สถานออกกำลังกาย รวม 5 วัน โดยมีบุคคลในวงการมากันอย่างคับคั่ง


Gender เป็นหนังสือที่น่าอ่าน และเข้าใจได้ง่าย เข้าถึงทุกเพศ
ไม่ว่าจะเป็นเพศชาย เพศหญิง หรือเพศที่สาม แต่ละเรื่องน่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับคุณด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ขอยกตัวอย่างบางตอนเด็ด ๆ ที่กล่าวถึง อาทิ


ประวัติศาสตร์ ‘เกย์' ในไทย


คุณจะได้ทราบว่าประวัติศาตร์เกย์ในเมืองไทยเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ บอกใบ้นิดนึงเค้าเล่าว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ รัชกาลที่ 3 กล่าวไว้ว่า พฤติกรรมรักร่วมเพศของกรมหลวงรักษ์รณเรศ เสนาบดีผู้ใหญ่ว่าเป็นผู้รักสองเพศ แต่นิยมชายมากกว่า เพราะไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาอีกเลยตั้งแต่คลุกคลีกับนายละครที่เป็นผู้ชาย ส่วนที่วัดคงคาราม จ.ราชบุรี มีจิตรกรรมฝาหนังแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับรักร่วมเพศเช่นกัน การเริ่มต้นใช้คำว่า ‘เกย์' ในสังคมไทนมีขึ้นครั้งแรกในหน้าหนังสือพิมพ์ไทยเมื่อเดือน ต.ค. พ.ศ.2508 แต่ในด้านของความหมายนั้น หมายถึง กลุ่มชายรักชาย


ทำไมเราถึงเป็นเกย์


ซีโมน เดอ โบวัวร์ กล่าวไว้ในหนังสือ The Secound Sex ว่า "ผู้หญิงไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่ถูกทำให้กลายเป็นผู้หญิง" เช่นถ้าเราให้ความหมายของ ‘สี' ว่าผู้หญิงต้องคู่กับสีชมพู ส่วนผู้ชายต้องคู่กับสีฟ้า แล้วเราปล่อยเด็กผู้หญิงสักคนไว้ที่เกาะแห่งหนึ่งซึ่งไม่เคยรับรู้การให้ความหมายของสีเหล่านี้เลย แน่นอนว่าเธอจะไม่เข้าใจเลยว่าสีชมพูเกี่ยวอะไรกับ ‘ความเป็นหญิง' ตัวของเราจึงเป็นผลผลิตทางชีววิทยาและสังคมที่หลอมรวมให้เป็นตัวเป็นตนเป็นคนแบบนี้ขึ้นมา

โลกของเกย์กับไซเบอร์สเปซ


ในโลกของเกย์ อินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิต สังคม และวัฒนธรรมอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน แต่ไหนแต่ไร ชีวิตของเกย์ เป็นชีวิตที่ต้องเดินไปในทางแตกต่างจากจารีตประเพณี ซึ่งเป็นขวากหนามปิดกั้นความคิดอารมณ์และความปรารถนา อินเตอร์เน็ตทำให้เกย์รู้ว่าจะข้ามพ้นขวากหนามไปได้อย่างไร ทำให้รู้ว่าสังคมของพวกเขากว้างมากแค่ใหน และมีเกย์อีกจำนวนมากมายในโลกนี้ที่กำลังค้นหากันและกัน

นักบริโภคนิยมในเว็บไซต์เกย์


นักการตลาดยุคใหม่ค้นพบว่ากลุ่มเกย์เป็นลูกค้าสำคัญ และการโฆษณาสินค้าในเว็บไซต์เกย์ก็เป็นช่องทางใหม่ในการหารายได้ของนายทุน จากสมมุติฐานที่ว่าเกย์เป็นผู้บริโภคที่มีศักยภาพ เพราะเป็นผู้มีการศึกษามีรายได้สูง ชอบเทคโนโลยี ใช้อินเตอร์เน็ต มีรสนิยมการบริโภคสินค้าที่ทันสมัย และแน่นอนพวกเขาใช้ชีวิตโสด ไม่มีลูกเป็นภาระผูกพันระยะยาวปัจจัยเหล่านี้ทำให้เกิดการแข่งขันทางการตลาดในเว็บไซต์เกย์อย่างแพร่หลาย


ไซเบอร์สเปซกับการเปิดเผยตัว


หากอินเตอร์เน็ตเป็นมากกว่าชองทางสื่อสารของเกย์ เราอาจคิดว่ามันจะเป็นอะไรได้อีก การมีชีวิตแบบเกย์ไม่ว่ายุคสมัยใด คือการแสวงหาตัวตน อินเตอร์เน็ตกลายเป็นพื้นที่เพื่อการแสวงหาตัวตนของเกย์ในยุคดิจิตอล ผู้ชายบางคนเข้าเว็บไซต์เกย์เพื่อที่จะหาเพื่อนที่มีจิตใจคล้ายๆกัน เพราะรู้สึกปลอดภัย ส่วนใหญ่คนประเภทนี้เชื่อว่าสังคมภายนอกยังไม่ยอมรับเกย์ โดยเฉพาะครอบครัวและคนรอบข้าง คนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตเหมือนผู้ชายทั่วไป บางคนมีแฟนเป็นผู้หญิง

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ชองชายกับชาย


ไม่จำเป็นเสมอไปว่าคนที่ดูแมนต้องเป็นฝ่ายรุกและคนที่ดูตุ้งติ้งต้องเป็นฝ่ายรับ การทำออรัลเซ็กซ์มีความเสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์ เริม ซิฟิลิส และหนองในได้พอๆกับการสอดไส่เช่นกันหากเจ้าของปากมีแผลที่ปากและคอ และมีการหลั่งในปาก ฉะนั้น เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่คุณต้องระวังและคิดให้มาก หากคุณยังไม่พร้อม


หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วคุณจะรู้ซึ้งและเข้าใจเพศพิเศษมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจอยากได้หนังสือเล่มนี้ สามารถติดต่อรับฟรี (ย้ำอีกครั้งเผื่ออ่านข้ามว่า เล่มนี้ฟรีฮ่ะ) ได้ที่สำนักงานเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท์ 0-296-59567 หรือติดต่อขอรับด้วยตนเองที่ องค์กรบางกอกเรนโบว์ ซอยประดิพัทธ์ 21 เบอร์โทรศัพท์ 0-261-85635 หากใครที่อยู่ต่างจังหวัด คุณสามารถรับฟรีได้เช่นกันโดยส่งค่าEMS จำนวนเงิน 20 มาด้วยรับรองถึงแน่เจ้าค่ะ โอกาสดี ๆ หนังสือเด่น ๆ เช่นนี้พลาดไม่ได้ อย่างน้อยอ่านเสร็จแล้วก็นำไปบริจาคห้องสมุดเป็นวิทยาทานสำหรับบุคคลทั่วไปได้กุศลอีกด้วย


(ปล ของ ปล ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและความร่วมมือจากองค์กรบางกอกเรนโบว์ และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

 

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
วันก่อนดูข่าวซีเอ็นเอ็น หรือเข้าใจง่ายๆ ว่าสำนักข่าวเห็นสองเอ็น รายงานเรื่องราวของชาวอเมริกัน กลุ่มรักร่วมเพศที่กลายสภาพจากหญิงจริงเป็นชายด้วยหน้าตา รูปร่างแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือผู้หญิงมาก่อน ทั้งหนวดเครา กล้ามหน่อยๆ หน้าแมนๆ ได้เห็นแล้วยังทึ่งนิดส์ นิด เพราะปกติตัวเองจะเคยชินเห็นแต่ภาพชายแปลงร่างเป็นหญิง ไม่ค่อยได้เห็นหญิงทอมแปลงร่างเป็นชายมากมายนัก หากอ่านหัวข้อ คงไม่ว่ากันว่าทำไมถึงเขียนคำว่า แปลง หลังคำว่าผู้ชาย ไม่งั้นอ่านแล้วอาจจะดูเหมือนชาน่าตอหะแล ผู้ชายในโลกนี้ใครจะท้องได้ (มันก็จริงแฮะ) ตอนแรกก็ตกใจเป็นไปได้ไง ผู้ชายเหรอที่ท้อง แต่พอทรายรายละเอียดจริง ๆ ถึงได้บางอ้อว่า…
ชาน่า
เมื่อวันก่อนได้เปิดอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ชาติต่าง ๆ ผ่านสัญญาณดาวเทียมส่งตรงมายังเรือสำราญที่กำลังล่องแถบทวีปยุโรป สะดุดข่าวหนึ่งที่รายงานสองสามวันติดกัน ในหนังสือพิมพ์ "India Today" วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 หัวข้อข่าวพาด "Gays set for first nationwide pride marches" และ "Gay Pride out on street Kolkata" สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียถึงข่าวคราวนี้ ทราบว่า สมัยก่อนเมื่อราวเกือบสองร้อยปีที่ผ่านมา ก่อนที่อินเดียจะได้รับอิสระในปี 1947 ประเทศอินเดียนั้นถือว่า การเป็นเกย์ หรือ กลุ่มรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม ผิดกฎ ผิดจารีต ประเพณี หรือเรียกบ้าน ๆ ว่าผิดผีหนะฮ่ะ ในสมัยก่อนๆ…
ชาน่า
"อันชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนพิกลนัก" คำกล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 ที่พวกเรารู้จักกันดีและเห็นด้วยในความหมายของประโยคนี้กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อย่าบอกนะว่าคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าไม่ชอบเพลง ถ้าชอบก็แล้วแต่ว่าใครจะถนัดแนวไหน โดยส่วนตัวของชาน่าฟังได้ทุกแนวค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแนวตะเข็บชายแดน หรือเด็กแนว เด็กหยาม (วัยรุ่นสยาม) เพื่อชีวิต ลูกทุ่ง ลูกกรุง สากล ฟังได้ไม่เลือกแต่ก็ขึ้นอยู่กับกาละและเทศะ กะอารมณ์อีกทีหนะฮ่ะ เพลงหลายเพลงแต่งจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่งจากแรงบันดาลใจ หลายเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ทุกเหตุการณ์ ทุกอารมณ์ ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ปรุงแต่งทำนอง…
ชาน่า
พักนี้เก่าไปใหม่มา ลูกเรือไทยและต่างชาติที่หมดสัญญาทำให้หลายคนได้พักร้อน ลูกเรือคนใหม่หลายคนก็เข้ารับหน้าที่แทน ชาน่าจึงมีโอกาสได้ดูหนัง ฟังเพลง ใหม่ ๆ อัพทูเดทจากเมืองไทย ส่งตรงไปต่างแดน หยิบวีซีดีแผ่นหนึ่งว่าด้วยเรื่องกฎหมาย “คู่ซ่าส์ ทนายแสบ บันทึกการแสดงสด” ของทนายแฝด จากรายการแจ้งความทางไอทีวี ,คนหัวหมอ ช่องสาม ,และซุปเปอร์แก๊กทางช่องเจ็ด โดย ทนายวันชัย สอนศิริ และทนายประมาณ เรืองวัฒนะวนิช ทนายคู่แฝดขำ ขำ เน้นย้ำสาระจึงพลาดไม่ได้ที่จะเปิดดู ซึ่งได้ทั้งความฮาไม่มีขีดจำกัดและความรู้เต็มจอ จึงขออนุญาตนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชาวเรา ๆ มาฝากกันในสัปดาห์นี้ฮ่า
ชาน่า
นานแล้วที่ไม่ได้เม้าท์เรื่องราวภัยรายวัน หลังจากที่คอลัมน์เตือนภัยที่มีคนเข้าอ่านเกือบหมื่น เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกเกือบปีเชียวฮ่ะ เพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกย์หลายคนร้องเรียก เม้าท์แตกกัน วันนี้จึงขอหยิบหลากหลายเรื่องราวมาเม้าท์เล่าสู่กันฟังนะฮะ บางเรื่องราวฟังไว้ไม่เสียหลาย บางราย “มีอย่างนี้ด้วยหรือ” คุณขา ยุคข้าวยาก หมากแพง เศรษฐกิจทรุด การเมืองแทรก ความมั่นคงถดถอย น่าเห็นใจชาวไทยกันถ้วนหน้าที่ต้องรับสภาพปัญหาเยี่ยงนี้ชาน่าขอแยกเป็นเรื่อง ๆ ตามหัวข้อที่เพื่อน ๆ เม้าท์ให้ทราบละกันฮ่า 
ชาน่า
เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อยส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน
ชาน่า
ลูกคือดวงใจและ (แทบจะ) เป็นทุกอย่างของพ่อและแม่ หัวอกของพ่อและแม่ทุกคนอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จ มีความสุข เป็นที่พึ่งและเป็นไปดังใจหวัง "สมหวัง และผิดหวัง" จึงเหมือนสัจธรรมที่อยู่คู่กันเสมอ กล่าวโดยรวมๆ ทุกเรื่องเพื่อจะโยงเข้าสู่แม้แต่ "ความหวัง"ของพ่อและแม่ทุกคนอยากให้ลูกเป็นเพศปกติ เพศที่สอดคล้อง ถูกต้อง กับร่างกายและจิตใจ
ชาน่า
เทศกาลของไทยเรามีมากมายหลายช่วงแทบจะเกิดขึ้นทุกเดือนเลยก็ว่าได้ แต่มีเทศกาลหนึ่งที่ชาน่าร่วมเติบโตมากับสังคมไทยนานแสนนาน (กำลังจะได้โล่ห์ ตำแหน่งชาน่าโบราณ รุ่นลายครามไม่ช้าก็ไว)  ทุกครั้ง ทุกที ทุกปีที่ได้สัมผัส บอกได้คำเดียวว่า... “แซ่บ เริ่ด ม่วนแต๊ๆ เกิดมันส์”  เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้วเรายังได้สาระมากมายในเทศกาลที่ชาน่ากำลังจะกล่าวถึงนี้ 
ชาน่า
“กลัวติดโรคจัง กังวลอย่างบอกไม่ถูกจะทำยังไงดี”  “อยากไปตรวจเลือด แต่ไม่กล้ากลัวคนรู้จัก กลัวคนอื่นรู้”“จะไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลไหน ค่าใช้จ่ายไม่แพง เพราะเผลอเสี่ยงร่วมรักกับชายแปลกหน้า”อาจจะเป็นคำถามของใครบางคนที่ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะตัดสินใจ วัดน้ำหนักช่างกล้าไปตรวจเลือดเพื่อไขปัญหาข้องใจว่าตัวเองบริสุทธิ์หรือรับเชื้อร้ายเข้าไปในร่างกายประชากรชาวเกย์หลายคนรู้จักกันดี  “คลินิกนิรนาม” ที่เปิดให้บริการสำหรับกลุ่มชายรักชาย ชายร่วมเพศกับชายเท่านั้น (งานนี้ไม่มีชะนีปะปนแม้แต่นิด)   แต่สมาชิกเกย์น้องใหม่ใครหลายคนที่ยังไม่รู้จัก…
ชาน่า
ข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มรักร่วมเพศมีให้ติดตามโดยตลอด ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง จริงหรือไม่  ดังนั้นเราจึงเห็นได้ชัดว่า "กลุ่มรักร่วมเพศปนอยู่ในสังคมเราอย่างแยกเสียไม่ได้"  เคยคิดจะเขียนคอลัมน์เรื่อง  "การไม่ยอมรับผู้บริจาคเลือดที่อยู่ในกลุ่มอัตราเสี่ยงหรือรักร่วมเพศ"  ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเว็บเกย์สากลในสหรัฐอเมริกา แต่งานประจำรัดตัวยังไม่ทันจะเขียนก็มีข่าวคราวจากเมืองไทยเข้ามาในเรื่องนี้ คราวนี้ชาน่านิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ประสานงานไปทางเพื่อน ๆ หลายฝ่าย รวมทั้งเพื่อนๆ ชาวสยามสแควร์  ของเว็บสังคมชาวไทย "พันทิป" ตั้งกระทู้ถามไถ่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น…
ชาน่า
โลกของละครและโลกของความเป็นจริงนั้นบางทีช่างเหมือนกันจนแยกไม่ออก  "ละครสร้างจากเรื่องชีวิตจริง"  หรือ "ชีวิตจริงเลียนแบบละคร"  โลกใบใหญ่ของเราแต่ละคนล้วนเป็นโลกแห่งละครทั้งสิ้นอย่างแยกเสียไม่ได้ผู้ใหญ่หลายฝ่ายเคยต่อต้านและห้ามปรามกลุ่มรักร่วมเพศ  เกย์ กะเทย แพร่ภาพทางอากาศ ทีวี วิทยุ ภาพยนตร์ ด้วยหลากหลายเหตุผลของผู้ใหญ่ที่มองสังคมอย่างเป็นห่วง  แต่บางครั้งผู้ใหญ่อาจจะลืมดูโลกของความเป็นจริงที่ไม่ได้เพ้อฝัน จินตนาการ บังคับและกำหนดอยากให้ผู้อื่นเป็น  ชีวิตของคนกลุ่มรักร่วมเพศนั้นปะปน อยู่ในทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกชนชั้น ทุกภาษา ทุกเชื้อชาติและศาสนาอย่างเห็นได้ชัด…
ชาน่า
การท่องเที่ยวไทยถือเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศชาติมานานแสนนาน แม้บางช่วงเศรษฐกิจจะทรุด การเมืองจะแทรก ปัญหาหลากหลายจะเสริมทำให้ไม่ราบเรียบมากนักในบางช่วงปีที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้น “ประเทศไทย” ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งมังคุด ละมุดลำใย แห่กระหน่ำมาเที่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด หากจะมองถึงกลุ่มเป้าหมายชาวรักร่วมเพศ เกย์ กะเทย เลสเบี้ยน ถือว่ามาเที่ยวบ้านเมืองนี้ ดีนักแล เพราะทางเจ้าของประเทศ สยามเมืองยิ้ม กระหยิ่มต้อนรับผู้มาเยือนอย่างเปิดกว้าง โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนร่วมกัน…